บรรยาย

อ่าน: 3420

เมื่อคืนนี้ ทวิตไปว่าทั้งโลกไม่มีใครรู้เรื่องที่พูดดีเท่าเรา ความสำเร็จของการพูดไม่ใช่ทำให้คนอื่นรู้เท่าเรา แต่ให้เขาคิดพิจารณาในประเด็นที่เราชี้”

ในทวิตเตอร์ จำกัดความยาวของข้อความไว้ที่ 140 ตัวอักษร จึงเขียนได้แค่นั้น ขออธิบายเพิ่มดังนี้ครับ

โดยทั่วไปนั้น การบรรยายเป็นการสื่อสารทางเดียว มักจะถูกเข้าใจว่าเป็นการสื่อความให้ผู้ฟัง มีความรู้เหมือนกับที่ผู้บรรยายพยายามจะถ่ายทอด — ความคิดแบบนี้มีปัญหาพื้นฐานอยู่ที่ว่า หากการถ่ายทอดมีประสิทธิภาพเต็มร้อย โลกนี้ก็ไม่ก้าวหน้า เพราะไม่มีความรู้ความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่หากถ่ายทอดได้ไม่เต็มที่ โลกกลับเดินถอยหลัง เสื่อมลงไปเรื่อยๆ ผู้ฟังรอคอยของตาย พอฟังจบ นึกว่ารู้แต่ที่จริงไม่รู้เพราะไม่เคยทำ จึงยังรอแต่คำสั่งเหมือนเดิม ปลอดภัย/แน่นอน/มีคนอื่นรับผิดชอบแทน ไม่รู้จักคิดเอง จึงไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ [อยากให้ฟัง ดร.วรภัทร์​ ภู่เจริญ พูดถึงคำว่าลูกอีแร้ง ตอนท้ายคลิปที่ 1 กับต้นคลิปที่ 2 แต่ถ้ามีเวลา ก็ดูตั้งแต่ต้นจนจบก็แล้วกันครับ]

ความสำเร็จในการบรรยาย จึงไม่ใช่การทำให้คนอื่นรู้เท่ากับที่เรารู้-เหมือนกับการจับความรู้ในสมองเราไปยัดใส่สมองผู้ฟัง วัดผลไม่ได้ด้วยเสียงปรบมือ จำนวนผู้เข้าฟัง หรือคำยกย่อง

ความสำเร็จในการบรรยาย สำหรับผู้ฟังคือการได้ประเด็นจากการฟังการบรรยายไปคิดพิจารณาต่อ เอาไปใช้ได้ สำหรับผู้บรรยายคือการทำให้ผู้ฟังคิดและพิจารณาในประเด็นที่เราพยายามชี้ให้เห็น อธิบายด้วยเหตุ ด้วยผล ด้วยการเปรียบเทียบ ด้วยตัวอย่าง ถ้าคิดเอาเองก็พูดให้ชัดว่าเป็นความเห็น ให้เกียรติผู้ฟัง แล้วก็ไม่จำเป็นต้องสรุปให้แบบแม่อีแร้ง — แยกแยะการรับรู้กับการเรียนรู้ออกจากกัน — อย่าพอใจแค่สาระของการบรรยาย ให้ดูว่าช่วยผู้ฟังให้เข้าใจแก่นสาร+ความหมายมากขึ้นได้อย่างไรครับ อย่าทำเหมือนรายการเล่าข่าว

หากจะฟังทั้งหมด คลิกตรงนี้ครับ


แอร์ปอดบวม

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 21 February 2010 เวลา 8:47 ในหมวดหมู่ เทคโนโลยีชาวบ้าน #
อ่าน: 3052

อะไรมันจะขนาดนั้นก็ไม่รู้ การทำความเย็นโดยไม่ใช้ไฟฟ้านั้น สามารถใช้ข้อเท็จจริงที่ว่าการระเหยของน้ำ จะดูดความร้อนออกไป ดังนั้นหากมีลมไหลผ่านน้ำ โดยทำให้น้ำระเหย น้ำจะดูดความร้อนจากอากาศ ทำให้อากาศเย็นลง (หรือเย็นขึ้นหว่า)

ดังนั้น ในห้องปิดที่ประตู หากดูดอากาศออกทางหลังคา โดยเอาตะแกรงกรงไก่สองชั้นที่ตรงกลางใส่ถ่านไม้ แล้วเอาน้ำรดถ่านไม้ บังคับให้ลมไหลผ่าน อากาศในห้องก็จะเย็นลง; ส่วนการดูดอากาศออกทางหลังคานั้น สามารถใช้ความร้อนนำผ่านกระบอกไม้ไผ่ได้

อ่านต่อ »


สร้างหมอก น้ำค้าง และเมฆ

อ่าน: 5859

เอาน้ำใส่เข้าไปในอากาศ ไม่แน่ว่าน้ำจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน เป็นหมอก น้ำค้าง หรือเมฆ

ไอน้ำจะรวมตัวกันเป็นหยดน้ำหรือไม่ ขึ้นกับอุณหภูมิ ความดัน และความชื้นสัมพัทธ์ด้วย ตอนย่ำรุ่งซึ่งพื้นดินมีอุณหภูมิต่ำกว่าช่วงกลางวันหรือหัวค่ำ จะมีจุดดิวพอยท์ (Dew Point) ต่ำกว่า เพราะบรรยากาศมีอุณหภูมิต่ำกว่า เพราะว่าดินแผ่ความร้อนจากการที่โดนแดดเผามาทั้งวันออกไปแล้ว

มีเกณฑ์คร่าวๆ คือเมื่อระยะสูงขึ้นทุกพันฟุต อุณหภูมิจะลดลงประมาณสี่องศา และดิวพอยท์ลดลงสององศา เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่าดิวพอยท์ อากาศก็ไม่สามารถจะอุ้มความชื้นที่มีอยู่ไว้ได้ และน้ำจะรวมตัวกันเป็นละอองน้ำเล็กๆ ซึ่งโดยทั่วไปเราเรียกว่าเมฆ ถ้าอยู่ต่ำติดดินก็เป็นหมอก หรือน้ำค้าง

เมื่อใช้ Vortex นำละอองน้ำขึ้นไปในอากาศ จะทำให้ความชื้นสัมพัทธ์ในบริเวณนั้นขึ้นไปสูงมาก ทำให้ดิวพอยท์ขึ้นไปใกล้เคียงกับอุณหภูมิของบรรยากาศ ทำให้ความชื้นในบรรยากาศกลั่นตัว

ดังนั้น น้ำที่ส่งขึ้นไปกับ Vortex ซึ่งแม้มีปริมาณไม่มาก แต่ก็จะไปเหนี่ยวนำให้ไอน้ำในอากาศ (ที่มีอยู่แล้วแต่เรามองไม่เห็น) รวมตัวกันเป็นเมฆ หมอก หรือน้ำค้าง

ยิ่งกว่านั้น ความร้อนและลมหมุนที่นำละอองน้ำและความชื้นขึ้นไปในอากาศ ก็ขึ้นไปตรงๆ ซึ่งด้วยโครงสร้างนี้ อาจช่วยให้ก่อตัวเป็นเมฆ Cumulonimbus (Cb) ซึ่งคือเมฆที่จะก่อตัวเป็นเมฆฝนได้ง่าย

อ่านต่อ »


บทเรียนจากทะเลทรายในอินเดีย: เก็บน้ำไว้ใต้ดิน

อ่าน: 4302

ถ้าเก็บไว้ผิวดิน ก็มีโอกาสระเหยไปได้มาก แต่ถึงระเหย ก็ยังดีกว่าไม่เก็บอะไรไว้เลยนะครับ

ผู้เฒ่า Anupam Mishra จากทะเลทราย Golden Desert ในอินเดีย มาเล่าให้ฟังถึงภูมิปัญญาโบราณ ซึ่งเก็บน้ำฝนจากพื้นที่ที่มีฝนตกเพียง 16 นิ้วต่อปี (400 มม./ปี ครึ่งเดียวของอีสานในปีที่แล้งจัด) แต่เขาเก็บน้ำไว้ทุกหยด จากทุกหลังคา ทุกพื้นที่ เอาไปรวมกันในบ่อใต้ดินส่วนกลาง

น้ำฝนที่ตกลงมา 2 มม. (ตกแบบไม่ตั้งใจตก) ถ้ามีพื้นที่รับน้ำ 10 ไร่ คิดเป็นน้ำหนักน้ำฝน 32 ตัน หรือเป็นปริมาตร 32 คิว ให้สูญเสียจากการซึมลงไปในดินเสียสามในสี่ ก็ยังได้น้ำถึง 8 คิว — ถ้าใช้หลังคารับน้ำบ้านเรือน ก็จะได้เป็นน้ำอุปโภคบริโภคทั้งหมด

ผมนึกถึงพื้นที่ภูเขาแถวสถานปฏิบัติธรรมผาซ่อนแก้วนะครับ ระดับน้ำใต้ดิน (water table) ลึก 150 เมตร แต่ถ้าให้ภูเขารับน้ำ เก็บไว้ในห้องใต้ดินที่ดาดคอนกรีต จะใช้ไฟฟ้าสำหรับสูบน้ำ ต่ำกว่าที่ใช้อยู่เยอะแยะ บางทีอาจไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเลย ถ้าสร้างห้องเก็บน้ำไว้บนภูเขา ให้สูงกว่าผาซ่อนแก้ว

อ่านต่อ »


จริง ปลอม ใช่ ไม่ใช่ อะไรกันแน่

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 20 February 2010 เวลา 3:01 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3049

สิ่งที่เห็น เป็นจริงแน่หรือ ทำไม่จึงปักใจเชื่อกันง่ายอย่างนั้น อย่าว่าแต่เรื่องเล่าต่อๆ กันมาเหมือนเกมพรายกระซิบเลยครับ


ปฏักแห่งสติ

อ่าน: 2950

…ระบบการศึกษาที่ดำรงอยู่ทำให้เกิดความอ่อนแอทางปัญญา เพราะเป็นระบบการศึกษานอกสังคม ไม่ร่วมทุกข์ร่วมสุข ไม่ร่วมแก้ปัญหา จึงอ่อนแอทางปัญญา ปัญญาจะเข้มแข็งต่อเมื่อเผชิญปัญหาและพยายามแก้ปัญหา การปฏิรูปการศึกษาที่กำลังทำอยู่ ไม่เพียงพอต่อการอภิวัฒน์ทางปัญญา เพราะยังทำอยู่ในภพเดิมที่ถือว่าความรู้มาจากตำรา เป็นการคิดแยกชีวิตกับการศึกษาออกจากกัน ว่าชีวิตก็อย่างหนึ่ง การศึกษาก็อีกอย่างหนึ่ง โดยการศึกษาเอาวิชาเป็นตัวตั้ง ไม่ได้เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง…

ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
หนังสือ ดินดิ้นได้ กรกฎาคม ๒๕๔๘
สคส. สกว. สสส.


แล้งซ้ำซาก คิดซ้ำซาก แก้ปัญหาซ้ำซาก (ไม่ได้แก้อะไรเลย)

อ่าน: 4827

ปีนี้ เอลนินโญ่รุนแรง ร้อนจัด หน้าร้อนมาเร็ว น้ำแห้ง อย่าว่าแต่น้ำไม่พอสำหรับข้าวนาปรังเลยครับ น้ำสำหรับจะใช้ ยังทำท่าจะไม่พอ

เมืองไทย ไม่มีภูเขาที่สูงพอจะดักจับความชุ่มชื้นในเมฆ (มีแต่น้อยมาก) ป่าก็หัวโกร๋นไปหมด แถมน้ำที่ใช้ ยังเป็นน้ำผิวดินซะเป็นส่วนใหญ่

รอฟ้า รอฝน แห่นางแมว จุดบั้งไฟ… จะทำอะไรก็ทำไปเถิดนะครับ

จะทำฝนเทียมหรือว่าฝนจะตกเอง ก็ต้องมีเมฆ… จะมีเมฆ ต้องมีความชื้นในอากาศ… จะมีความชื้นในอากาศ ต้องมีปริมาณน้ำลอยอยู่ในอากาศสูง

แล้วจะเอาน้ำขึ้นไปในอากาศได้อย่างไร

ต้มน้ำแล้วปล่อยไอน้ำขึ้นไป -> วิธีนี้ใช้พลังงานมากเกินไป แล้วยังมีปัญหากับสารแขวนลอยที่อยู่ในน้ำที่เอามาต้มอีก

ใช้ Rotor Ship -> น่าสนใจเหมือนกัน เคยเขียนบันทึกเรื่องสร้างเมฆเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว แต่เหมาะกับทะเลที่มีลมแรงครับ วัตถุประสงค์จริงๆ คือสร้างเมฆให้สะท้อนแสงอาทิตย์ ลดความร้อนของผิวโลก และ/หรือผิวน้ำ แต่ก็มีประเด็นน่าสนใจเรื่อง Cloud condensation nuclei หรือเชื้อเมฆ

อ่านต่อ »


เจ้าเป็นไผ ๑ พิมพ์ครั้งใหม่มาแล้วครับ

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 17 February 2010 เวลา 18:24 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4257

วันนี้ไปรับหนังสือ เจ้าเป็นไผ ๑ พิมพ์ครั้งใหม่จากโรงพิมพ์มาเมื่อตอนบ่าย สวยสมใจครับ

สีสันถูกต้อง รูปไม่มืดไป แต่ละหน้าตัวหนังสือไม่ติดส้นปก(ตามที่น้าแป๊ดเตือน)

ขอขอบคุณกองบรรณาธิการที่ช่วยตรวจแล้วตรวจอีก เหมือนคนย้ำคิดย้ำทำ [งานนี้ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับอายคีม ดังนั้นอย่าทวง]

ป้าจุ๋มประเดิมไปสองเล่มก่อนใครเลย ให้ธนบัตรใหม่เอี่ยม แล้วไม่ต้องทอนด้วยครับ

ปกหนังสือ เจ้าเป็นไผ ๑

จะให้มูลนิธิโอเพ่นแคร์เป็นผู้จัดจำหน่ายให้ แต่ยังสามารถสั่งซื้อโดยตรงกับผมก็ได้ เล่มละ 140 บาท รวมค่าจัดส่งทางไปรษณีย์; ส่วนนักเขียนและกองบรรณาธิการ จะจัดส่งโควต้าให้ฟรีหนึ่งกล่องครับ ยังไม่รู้ว่ากี่เล่ม อาจจะประมาณ 8 เล่มพอดีกล่อง ขอไปวัดขนาดและน้ำหนักก่อนนะครับ แล้วจะทยอยส่งไปให้ทุกท่านที่มีส่วนทำหนังสือเล่มนี้ ท่านละเท่าๆ กัน

อ่านต่อ »


ชาจักรพรรดิ์

5 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 16 February 2010 เวลา 17:40 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4867

ก่อน เฮฯ หก จะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ธ.ค.2551 ครูบา ป้าจุ๋ม น้องจิ กับผม เดินทางขึ้นไปเชียงรายเป็นการฉุกเฉิน ที่จริงก็จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วครับ แต่มีเหตุการประท้วงทำให้ใช้บริการของสนามบินไม่ได้ คนไม่เกี่ยวข้องเลยเดือดร้อน ทีนี้คณะเรามีผู้ใหญ่อยู่ด้วยหลายท่าน ขืนไปไม่ได้ งานกร่อยแน่เลย ในวันที่ 3 ธ.ค. จึงเหมารถตู้ขึ้นไปก่อนเลย วันที่ 4 จึงมีโอกาสเที่ยวก่อนพลพรรคที่ทยอยเดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ ได้กินข้าวเหนียวไก่ทอดสุดอร่อยจากตลาดเทศบาลก่อนคนอื่นๆ

วันที่ 4 คุณเบิร์ดเจ้าภาพ พาเราไปเที่ยวปางช้างกระเหรี่ยงสามัคคี ไปกินข้าวซอยที่ไม่ใช้กะทิที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ไปพิพิธภัณฑ์อูบคำ แล้วก็ไปบ้านอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี (ได้พบได้คุยกับอาจารย์ด้วย ลึกล้ำมากๆ ขอบอก)

พิพิธภัณฑ์อูบคำ เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน จัดตั้งโดยอาจารย์จุลศักดิ์ สุริยะไชย ให้เป็นศูนย์มรดกล้านนา ก่อนที่เราจะออกมา มานั่งจิบชาคุยกัน ชารสชาติดีมาก เรียกว่าชาจักรพรรดิ์ เลยซื้อมาฝากแม่สองห่อ

แม่ผมนะ ได้ชาเจียวกู่หลันคุณภาพดีมากจากป้าจุ๋ม แม่กินแล้วก็ชอบมาก แต่กินได้สักพัก ก็ไม่กินอีก พอถามแม่ว่าทำไมไม่กิน แม่บอกกลัวหมด… โธ่แม่

อ่านต่อ »


รูปประจำบล็อก

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 15 February 2010 เวลา 22:55 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 4569

โดยปกติ โปรแกรมที่ใช้ควบคุมลานปัญญา ไม่มีที่ให้ใส่รูปประจำตัวหรอกครับ แต่ว่ามีการใช้รูปประจำตัว (gravatar) เวลาไปให้ความคิดเห็นตามที่ต่างๆ

มีสมาชิกหลายท่าน ที่พบวิธีติดรูปประจำบล็อก กล่าวคือใช้ Text Widget เขียน HTML Code ที่แสดงรูปลงไป ซึ่งเป็นวิธีที่สะอาดและตรงไปตรงมามากครับ มีปัญหาอยู่อันหนึ่งซึ่งผมเคยตอบไปหลายครั้งแล้ว (และรู้ว่าผู้ถาม ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะต้องทำอย่างไร)

ปัญหาคือจะทำอย่างไรที่จะให้รูปประจำตัวกับรูปใน Gravatar ตรงกัน ถ้าเปลี่ยนรูปใน Gravatar ให้รูปประจำตัวเปลี่ยนด้วย

เรื่องนี้ก็ไม่ยากหรอกครับ ถ้ามีรูปประจำตัวอยู่แล้ว ยิ่งง่ายใหญ่

อ่านต่อ »



Main: 0.9181981086731 sec
Sidebar: 0.70124697685242 sec