ยังไม่เป็นผู้ประสบภัย

โดย Logos เมื่อ 21 October 2011 เวลา 4:56 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 2874

ค่ำนี้น็อคไป ตื่นขึ้นมากลางดึก ตกใจสุดขีดที่ได้รับการอุปโลกน์ให้เป็น ผอ.ศูนย์ปฎิบัติการป้องกันตัวเองจากอุทกภัย เป็นเรื่องขำขำกลางดึกนะครับ

อย่างไรก็ตาม อยากให้ดูคลิปนี้ก่อน

เม้งซึ่งจบปริญญาเอกด้านคณิตศาสตร์ประยุกต์ และมีความสนใจและความชำนาญเป็นพิเศษเรื่องการเคลื่อนไหวของน้ำ ได้ทำแบบจำลองทางคณิตศาสตร์แล้วพบว่าแนวป้องกันน้ำเพียงอย่างเดียวไม่พอครับ ต้องทำอย่างอื่นด้วย อันนี้อาจเป็นวิธีหนึ่งที่ทำได้ที่ช่วยให้น้ำไหลผ่านกรุงเทพไปลงทะเลเร็วขึ้น

การระแวดระวังภัย การป้องกันภัย ไม่ใช่การแตกตื่น ส่วนการที่ยังนิ่งอยู่ได้นั้น ใช้ทั้งความรู้ ความเข้าใจ และการยอมรับสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

บ้านผมอยู่ใกล้บริเวณที่น้ำท่วมหนักมากครับ แต่ที่บ้านยังแห้งสนิท เพราะว่าบ้านตั้งอยู่ในที่สูง อาจจะโชคดีกว่าผู้ที่ปลูกบ้านโดยไม่พิจารณาเรื่องทำเลอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม การที่บ้านอยู่ในพื้นที่สูง ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ท่วม (ถ้าโคราชสูง 150 ม.รนก.ยังท่วมได้ ทำไมบ้านที่ตั้งอยู่บนพื้นระดับ 7 ม.รนก.จะท่วมไม่ได้) น้ำทะลักอีกแถวคลองประปา ช่วงกลางถนนแจ้งวัฒนะ

ไม่ว่าบ้านจะท่วมหรือกลายเป็นเกาะ ผมก็ยังคงเขียนบันทึกเผยแพร่แง่คิดมุมมองต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเน็ตยังอยู่นะครับ บล็อกผมถ้าอ่านโดยไม่คิด+ไม่ทำแล้ว คงจะไม่ได้อะไร ถึงไม่ได้รับความนิยมผมก็ไม่สนใจ แต่ถ้ามีเพียงหนึ่งคนเอาไปใช้ได้ ผมก็ดีใจแล้ว ทั้งนี้เป็นไปตามพระบรมราโชวาทที่พระราชทานในโอกาสที่จบการศึกษา ซึ่งน้อมใส่เกล้ามาสามสิบปีแล้ว

หลายวันมานี้ มีการติดต่อผ่านเพื่อนของผมเข้ามา ถามหาระบบงานที่เกี่ยวกับการรับบริจาคที่โปร่งใสแบบที่ทำให้มูลนิธิโอเพ่นแคร์ คำถามมาจากทั้งรัฐและมหาวิทยาลัย รู้สึกดีใจนะครับ ไม่มีประโยชน์ที่จะเรียกร้องให้ประเทศไทยโปร่งใส ในขณะที่ตัวเราเองก็ไม่ทำ ระบบงานที่ผมทำเป็นระบบ manual ทั้งหมด ถึกจริงๆ อาจจะใช้ในสเกลใหญ่ไม่ได้ แต่แค่สอบถามมา ก็ดีใจแล้วว่ามีคนเห็นความสำคัญเรื่องความถูกต้องโปร่งใส

ถ้าเมืองไทยจะมีอนาคต ก็ต้องผ่านวันนี้ให้ได้ก่อน กรุงเทพไม่รวมจังหวัดรอบๆ นั้นเป็นกำลังหลักทางเศรษฐกิจของประเทศ สรรพากรเก็บภาษี 49.9% จากกรุงเทพจังหวัดเดียวเท่่านั้น หากน้ำท่วม การเดินทางหยุดชงัก ทุกอย่างก็จะหยุดชงักไปด้วย และการผลักดันกลับมาให้เคลื่อนตัวดังเดิมนั้น เกินกำลังของทุกคนครับ ไม่ว่าจะคิดว่าตัวเองเจ๋งหรืออวดอ้างว่าเก่งกาจขนาดไหน สังเกตได้เลยว่าเมื่อการคมนาคมจากกรุงเทพถูกตัดขาด ความช่วยเหลือที่ไปยังผู้ประสบภัยในจังหวัดต่างๆ นั้นแผ่วลงเป็นอย่างมาก

« « Prev : ตื่นเต้นยามวิกาล

Next : ทดสอบระบบคลังภาพ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 October 2011 เวลา 8:00

    เรียน ท่าน ผอ.ศูนย์ฯคนใหม่สดๆร้อนๆคร๊าบบบบบบบบ

    อย่าไปรีรอรัฐบาลหรือใครๆเลย เขาคงช็อคจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ชวนคุณปรเมศร ชวนอีตาเม้ง หรือท่านผู้สันทัดกรณีอื่น มาระดมความคิด ตีแตกประเด็นที่ควรจะกอบกู้เร่งด่วน จะไปยืมมือใครทำเรื่องอะไร บริหารความคิดให้สำเร็จ วิชาบริหารความเสี่ยงจะต้องมีพลังแสดงรีบด่วน ต้องมองข้ามเรื่องน้ำท่วม เรื่องโกลาหลต่างๆ ปล่อยให้คนอื่นเขาทำ ศูนย์ฯนี้ควรมาทำเรื่องมองไปข้างหน้าพร้อมๆกับเหลียวหลังมาประเมินเป็นระยะๆ ทุก 3 ชั่วโมง

    ขอให้มีแรงมาคิดมาทำ อย่าเพิ่งหมอบก็แล้วกัน โด๊ปมากหน่อย คิดสุดขีด สู้ๆๆๆๆๆๆ จ๋อม จ๋อม

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 October 2011 เวลา 8:45

    จัดประชุมวาระตีแตกแห่งชาติ
    เชิญนักวิชาการ ผู้สันทักรณี นักโน่นนักนี่ทั้งหลาย
    ระดมพลังความคิดแห่งชาติ
    เปิดรับฟังข้อคิดเห็นแบบที่ คุณปรเมศเปิดห้องให้ออกความเห็นเรื่องคิดบวก แต่คนก็มาเอาเป็นที่กล่าวหากัน สีต่างๆออกมาละเลงจนเละ คราวนี้เอาใหม่ รับเฉพาะเรื่องแนวคิดแก้วิกฤติไทย ผ่าน เน็ท หรือจัดโต๊ะกลม เอาผู้รู้มาจับเข่าคุยกัน น่าจะได้ชุดความรู้สดๆใหม่ๆ ดีไหมครับ?

  • #3 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 October 2011 เวลา 9:13
    แค่นี้ก็โดนหมั่นใส้จะตายอยู่แล้วครับ แต่ผมไม่สน ;-) เรื่องที่ต้องทำ ก็ต้องทำอยู่ดีครับ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.11495900154114 sec
Sidebar: 0.15017485618591 sec