ลานไผ่

เนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ลูกๆพาหลานๆ มาเยี่ยม เลยถือโอกาสเก็บภาพบริเวณบ้านชานเมือง เพื่อบันทึกไว้เปรียบเทียบกับช่วงใกล้ ๆ กัน เมื่อปีที่ผ่านมา จากภาพก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน จากต้นไม้ที่เติบโตขึ้น

อากง อาม่า กับ หลานทั้ง ๒ ที่เดินทางมาเยี่ยม ที่สวนบ้านชานเมือง

ด้านหน้าบ้าน กิ่งมัลเบอรี่ ที่ปักชำไว้ตามแนวรั้วด้านหน้า โตขึ้นสูง คาดว่าจะให้ดอกและผลในเร็ว ๆ นี้

ต้นชงโคที่ปลูกไว้ เริ่มให้ดอกสีชมพูม่วงสดใส

ก่อนตรุษจีน ปี ๒๕๕๙ ไม่กี่วัน บ้านชานเมือง มีการ จัดการบริเวณรอบบ้าน ครั้งใหญ่ ด้วยการตัดต้นไม้ใหญ่ลงและสะสาง จัดระเบียบกระถางต้นไม้ต่าง ๆ ทำให้ บริเวณรอบบ้านเปลี่ยนไปอย่างมาก…ดังในภาพข้างล่าง

ซึ่งถ้ายังจำได้ ภาพในปีที่แล้ว จะมีความแตกต่างอย่างมาก….บ้านชานเมือง ๑๕ ปี ตามบันทึกนี้

อย่างไรก็ตาม…หนึ่งเดือนผ่านไป….ต้นไผ่ที่ถูกตัดเหลือแต่โคน ก็แสดงถึงความสามารถของต้นไม้ในการต่อสู้เพื่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตที่ชัดเจน โดยการแตกยอดใหม่ มากกว่าเดิม….ต้นพะยอมที่เคยถูกต้นไผ่บังแสงจนกลายเป็นยอดไม้ที่มีซีเดียว หลังจากได้รับแสงเต็มที่ ก็พร้อมใจกันออกดอกเต็มต้น ส่งกลิ่นหอมอบอวน…..อีกด้านหนึ่ง ตอต้นมะเฟืองหวาน ต้นจำปา และ ต้นมัลเบอรี่ ก็เริ่มแตกยอดใหม่ มีใบที่คลี่ออกเพิ่มปรุงอาหาร ไปเลี้ยงต้นต่อไป อย่างเต็มที่…มองไปที่พื้นดิน ก็จะเห็น ต้นอ่อนจำนวนมาก งอกขึ้นมาจากเมล็ดต่าง ๆ ที่ตกอยู่ตามพื้นดิน พร้อมที่จะเจริญเติบโตเป็นไม้ใหญ่ต่อไป…..6 เดือน ผ่านไป….เข้าสู่ฤดูฝน ต้นไม้ต้นหญ้างอกงามเจริญฌติบโต….

วันและเวลาเดินต่อไปไม่มีวันหยุด ทุกชีวิตย่อมเปลี่ยนแปลง บ้านชานเมืองก็เช่นเดียวกัน ลองค้นภาพเก่าที่เคยถ่ายไว้ เมื่อได้เป็นเจ้าของบ้านชานเมืองหลังนี้ บ้านมีบริเวณที่เป็นสนามหญ้า ทั้งด้านหน้าบ้าน และด้านข้างบ้านต่อจากโรงรถ ดังภาพ…..

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ๑๕ ปีแล้วนะ สภาพบริเวณบ้านเปลี่ยนไปเป็นดังภาพ…..

นี่คือความจริงของชีวิต….ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง….แม้ไม่ชีวิตแล้วก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงต่อไป….ตามวัฏจักรของสสาร………

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๗ มายังชาวลานปัญญาทุก ๆ ท่านคร๊าบ

เช้าวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๗ ได้ไปร่วมงานทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ร่วมกับชุมชนบ้านยางใหญ่พัฒนา บริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้านรุ่งนิรันดร์ ๔ เช่นเดียวกับ หลาย ๆ ปีที่ผ่านมา   เอาบุญมาฝากทุก ๆ ท่านคร๊าบ

หลังจากการชมโชว์อลังการโชว์หนึ่งของ มาเก๊า คือ  Dragon’s Treasure ซึ่งเป็นการแสดงแสงสีเสียงแบบมัลติมีเดีย รอบทิศทาง ในห้องชื่อ The Bubble แล้ว  ก็ถึงเวลาเดินทางต่อโดยใช้รถแท็กซี่ จากเมืองในฝัน ไปยัง หอคอยสูงอันดับ ๑๐ ของโลก เพื่อรับประทานอาหารเย็น พร้อมการชมทัศนียภาพมุมสูงของเกาะมาเก๊ารอบทิศ  ที่ 360°Cafe บนมาเก๊าทาวเออร์ ที่อยู่ชั้นที่ ๖๐ ถัดลงมาจากชั้นชมวิวสูงสุดที่อยู่ชั้นที่ ๖๑  ทุกคนได้ อิ่ม อร่อย กับอาหารแบบบุปเฟ่ย์นานาชาติ ในบรรยากาศสบาย ๆ กับวิวแบบพาโนราม่าของเกาะมาเก๊า เป็นมื้ออาหารสุดโรแมนติคของหลาย ๆ คู่ที่มา และหลายกลุ่มที่มาฉลองกันในโอกาสพิเศษต่าง ๆ

อ่านต่อ »

        ถึงศูนย์การค้าและบันเทิงแบบครบวงจรอีกแห่งของมาเก๊า คือ เมืองในฝัน (The City of Dreams)  อยู่แค่ข้ามถนนมาจาก โรงแรมเดอะเวนิเชี่ยน นั่นเอง ดังในภาพที่ถ่ายย้อนกลับมา จากด้านหน้าของ เมืองในฝัน จะเห็นความอลังการของ เดอะเวนิเชี่ยน (The Venetian)

        อ่านต่อ »

        หลังจากการชม ชิม ช้อป และ เสี่ยงโชค จนเต็มอิ่มกันที่เดอะเวนิเชี่ยนแล้ว สุดท้ายพวกเราก็เดินมาออกที่ด้านหน้าของโรงแรม ซึ่งจะผ่านบริเวณลอบบี้ที่อลังการของโรงแรม อันเป็นบริเวณที่กลุ่มผู้มาเยือนเดอะเวนิเชี่ยน ที่มากับบริษัททัวร์จะได้สัมผัสก่อน  ดังนั้นบริเวณนี้จึงเป็นบริเวณที่มีผู้คนเต็มไปหมดเมื่อกลุ่มทัวร์มาถึง ต่างก็หามุมสวย ๆ ถ่ายรูปและวีดิโอกันอย่างเมามัน….รวมทั้งพวกเราด้วย…555

  อ่านต่อ »

        เล่าเรื่องการย่ำแดนคาสิโนมาเกือบสองวันแล้ว ยังไม่พูดถึงเรื่องของ คาสิโนเลย ที่จริงก็ได้สัมผัสบรรยากาศของคาสิโนตั้งแต่วันแรกที่ไปถึงแล้ว เพราะว่าทุกโรงแรมในมาเก๊า เข้าใจว่าจะมีคาสิโนอยู่ด้วยเสมอ ไม่ว่าพักโรงแรมไหน ถ้าสนใจเสี่ยงโชคก็ได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากโรงแรม

        ที่จริงทุกคนที่เข้าเขตของมาเก๊า ถ้าเปิดบริการโรมมิ่งของโทรศัพท์มือถือไว้ก็จะได้รับ ข่าวสารเชิญชวนให้ไปเสี่ยงโชคมากมาย  ตั้งแต่ลงจากเครื่องบินทันที อาม่าซึ่งเปิดบริการโรมมิ่งมือถือไว้ เล่าให้ฟังว่า มีการส่งคำเชิญชวนให้ไปเสี่ยงโชคจากโรงแรมและคาสิโนต่าง ๆ โดยเสนอให้ที่พักฟรีและแถมด้วยการให้ชิปฟรีจำนวนหนึ่ง เพื่อให้เข้าไปเสี่ยงโชคในคาสิโนต่าง ๆ ถูกส่งเข้ามาจำนวนมากตั้งแต่ลงจากเครื่องบินที่สนามบินนนาชาติมาเก๊า

        การไปชมโชว์ต่าง ๆ ที่เล่ามาแล้ว ที่อยู่ในศูนย์การค้าของโรงแรมหรือรีสอร์ทนั้น ก็จะสามารถมองเห็นส่วนที่เป็นคาสิโนได้อย่างชัดเจน มีป้ายบอกไว้ชัดเจนที่ทางเข้าว่า ห้ามคนที่อายุต่ำกว่า ๑๘ ปี เข้า และ ห้ามถ่ายภาพ  ส่วนใหญ่จะมีบรรไดเลื่อนเชื่อมระหว่างส่วนที่เป็นศูนย์การค้ากับส่วนที่เป็นคาสิโน  และที่ทางเข้าคาสิโนจะมี เจ้าหน้าที่ หรือ รปภ. ยืนประจำอยู่ ทุก ๆ ทางเข้าเสมอ

        อ่านต่อ »

        วันที่ ๒ ของการย่ำแดนคาสิโน หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พักแล้ว ก็ออกเดินทางด้วยรถบริการของโรงแรมไปยังบริเวณท่าเรือเฟอร์รี่  ซึ่งที่บริเวณด้านหน้าของท่าเรือ จะรถบัสบริการ ของ เดอะเวนิเชี่ยน (The Venetien Macau- Resort- Hotel) นำต่อไปยังศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิงแบบครบวงจรชื่อดังของมาเก๊า โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๒๐ นาที ก็ไปถึง ทางเข้าสู่โรงแรมด้านทิศใต้  (ซึ่งเป็นด้านหลังของโรงแรม)

     อ่านต่อ »

         หลังจากชื่นชมความงามยามค่ำคืนจากประตูโบสถ์เซ็นต์ปอล จนกลับมาถึงบริเวณจตุรัสเซนาโด้ เพื่อเก็บภาพความประทับใจต่าง ๆ ไว้ อีกรอบ ผู้คนยังคงมีมากเหมือนเดิม และดูจะมากกว่าช่วงกลางวันด้วยซ้ำ เพราะด้านหนึ่งของจัสตุรัส มีการตั้งเวทีการแสดงดนตรีด้วยในคืนวันนั้น

       อาคารสีขาวด้านขวามือในภาพ คือ  สำนักแห่งความเมตตา (Holy House of Mercy) สถาบันที่จำลองแบบมาจาก องค์กรการกุศลที่เก่าแก่ และสำคัญมากแห่งหนึ่งของโปรตุเกส สร้างโดยบิชอปองค์แรกของมาเก๊าในปี ค.ศ. 1569 นับว่าเป็นการก่อตั้งคลินิกการแพทย์แบบตะวันตกแห่งแรกในมาเก๊า ทั้งนี้โครงสร้างสวัสดิการสังคมรูปแบบต่างๆ ยังคงใช้การมาจนทุกวันนี้ และก็เช่นเดียวกับอาคารอื่นของมาเก๊า ที่สร้างในสไตล์นีโอคลาสสิก อ่านต่อ »