อาม่าไปไหว้พระโพธิสัตว์กวนอิม

อ่าน: 1950

       วันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๔ เป็นวันที่ลูก ๆ หลาน ๆ อาม่ารอคอยกันมานาน และดีใจกันมากที่ได้มีโอกาสพาอาม่าออกไปไหว้องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ ในบริเวณสวนมิตรภาพไทยจีนริมบึงแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น  สำหรับคนทั่ว ๆ ไปอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา ๆ ที่ใคร ๆ ที่อยากจะไปไหว้เมื่อไหร่ก็ไปได้ไม่ยาก  แต่สำหรับอาม่าที่ปัจจุบันอายุ ๙๕ ปีแล้ว มีโรคประจำตัวหลายอย่าง เดินด้วยตัวเองได้ลำบาก และไม่ยอมออกจากบ้านไปไหนมานานหลายปีแล้ว ยกเว้นไปโรงพยาบาลแล้วก็กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน  การที่อาม่าตกลงยินยอมที่จะไปไหว้องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ที่แม้ว่าอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักมากก็ตามก็ถือว่าเป็นเรื่องพิเศษมาก ๆ สำหรับลูก ๆ หลาน ๆ ที่ทั้งดีใจและลุ้นกันด้วยใจระทึกตลอดเวลาว่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ หรือไม่ เพราะเรื่องนี้วางแผนกันมาเป็นสัปดาห์ตั้งแต่วันเสาร์อาทิตย์ก่อนหน้านี้ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่เมื่อถึงเวลาก็มีเหตุที่ต้องเลื่อนออกไปก่อนเพราะเรื่องสุขภาพร่างกายของอาม่าไม่พร้อม จนกระทั่งมาถึงบ่ายวันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม หลังจากอาม่าผ่านการตรวจสุขภาพด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ในวันพุธที่ ๒ แล้วพบว่าก้อนเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ที่เคยมีนั้นยุบลงไปหมดแล้ว และหมออนุญาติให้ออกจาก โรงพยาบาลกลับมาพักรักษาตัวต่อได้ที่บ้านตั้งแต่วันศุกร์ที่ ๔ 

      อ่านต่อ »


อาม่าเล่าเรื่อง (๑๘) จองบ้านให้อาม่า

4 ความคิดเห็น โดย Panda เมื่อ 28 ธันวาคม 2010 เวลา 23:50 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา, สังคม ครอบครัว ชุมชน #
อ่าน: 2554

       วันนี้ออกจากบ้านแต่เช้า เพื่อไปรับและดูการตกแต่งบ้านใหญ่ (ตั๋วฉู่) ที่ลูกหลานจองไว้สำหรับอาม่า ตามคำแนะนำของอากู๋และการเห็นชอบจากอาม่า เฝ้าดูตั้งแต่การเดินทางจาก กทม. มาถึงโคราชในเวลาประมาณ ๙.๓๐ น. จนกระทั่งทาสีแดงและตกแต่งเรียบร้อยในเวลาบ่ายประมาณ ๑๕.๓๐ น. จึงนำภาพกลับไปให้อาม่าดูที่ปักธงชัย  หลังจากการดื่มกาแฟและทานขนมและได้ดูภาพแล้ว อาม่าเล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้คิดว่าจะออกมาดูบ้านด้วยตัวเองที่โคราช แต่เมื่อคืนเกิดอาการแน่นท้องจนเกิดการอาเจียน คิดในใจว่าพอรู้ว่าบ้านจะมาถึงก็จะไปเลยหรือยังไง ผมฟังแล้วก็พูดอะไรไม่ออก จนอาโกที่นั่งอยู่ด้วยพูดว่า เมื่ออาเจียนออกมาแล้วก็ดีขึ้นและวันนี้ก็ถ่ายออกตามปกติแล้วหลังจากเมื่อคืนให้รับประทานยาระบายไป วันนี้สบายดีขึ้นมากแล้ว ทำให้ผมสบายใจขึ้นได้ครับ
          อ่านต่อ »


อาม่าเล่าเรื่อง (๑๗) เกาลูนฮ่องกง

อ่าน: 2826

       เมื่อช่วงหลังน้ำท่วมใหญ่โคราชเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา  ได้ไปเกาลูนและฮ่องกง โดยเดินทางจากมาเก๊าไปเที่ยวฮ่องกง โดยเรือ HYDROFOIL ตั้งแต่เช้าไปสู่ฝั่งเกาลูนแล้ว นั่งรถแท็กซี่ไปไหว้เทพเจ้าหวังต้าเซียน

        อ่านต่อ »


อาม่าเล่าเรื่อง (๑๖) อากงของเรา

2 ความคิดเห็น โดย Panda เมื่อ 2 ธันวาคม 2010 เวลา 21:05 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา, สังคม ครอบครัว ชุมชน #
อ่าน: 2227

          ในโอกาสใกล้วันพ่อ ( ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓)  เลยขอนำเรื่องที่เกี่ยวกับคุณพ่อ (อากง) ที่อาม่าเล่าให้ฟังเพิ่มเติมครับ
          อากงเป็นลูกคนโตของครอบครัว มีน้องชายนึ่งคน (อาเจ็ก) และน้อสาวหนึ่งคน (อาโก)  และเนื่องจากเล่ากง (พ่อของอากง) เสียชีวิตตั้งแต่อากงมีอายุเพียง๑๖ ปี อากงในฐานะลูกชายคนโตจึงต้องรับภาระในการช่วยเหลือเล่าม่า (คุณแม่) ในการทำมาหาเลี้ยงครอบครัว ตั้งแต่อายุยังไม่มาก แต่ก็ยังโชคดีที่เจ้าของโรงงานใหญ่ในสมัยนั้น (ร้านตงอาว) ที่มีโรงงานต้มกลั่นสุรา ที่อาม่าเรียกว่า “โรงต้ม” และมีร้านจำหน่ายสุรา (เหล้าขาว) หลายสาขา  เป็นคนที่มาจากเมืองจีนที่เป็นบ้านเดียวกันกับเล่าม่า จึงรับอากงเข้าทำงานที่ร้านจำหน่ายสุรา แม้ว่าอากงจะไม่ได้เรียนหนังสือสูง แต่ด้วยความขยันเรียนรู้ด้วยตนเองจึงมีความรู้ความสามารถในการอ่านและเขียนเป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีความสามารถในการใช้ลูกคิด มีความละเอียดรอบครอบ จึงได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ด้านทำบัญชีของร้าน

         อาม่าบอกว่า อากงรักน้องทั้งสองคนมาก พยายามให้น้องทั้งสองได้เรียนหนังสือสูง ๆ  โดยเฉพาะอาเจ็กซึ่งเป็นน้องชาย ถึงกับลงทุนส่งให้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ  เรื่องของความรักและช่วยเหลือน้องของอากงนี้มีมาอย่างต่อเนื่องแม้ว่าน้องทั้งสองจะมีครอบครัวแล้วก็ตาม  อ่านต่อ »


อาม่าเล่าเรื่อง (๑๓) ภาพวาดจากเมืองจีน

ไม่มีความคิดเห็น โดย Panda เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2010 เวลา 21:19 ในหมวดหมู่ สังคม ครอบครัว ชุมชน, เรื่องเล่าทั่วไป #
อ่าน: 2578

         การจัดของหลังจากน้ำท่วมบ้านอาม่าเมื่อวานนี้ ทำให้ได้พบกระดาษม้วนหนึ่งที่เปียกน้ำ เมื่อคลี่ออกดูเป็นกระดาษคล้ายกระดาษสาที่มีรูปวาดอยู่ ๔ รูป รูปหนึ่งเป็นรูปดอกไม้ อีกสามรูปเป็นรูปวิวภูเขาและทะเล   หลังจากการนำมาผึ่งให้แห้งแล้วสอบถามจากอาม่า จึงได้ทราบว่า ภาพวาดทั้งหมดเป็นภาพที่อากู๋ น้องชายแท้ ๆ ของอาม่า ที่อยู่ที่เมืองจีนได้วาดขึ้น และมอบให้อาม่าตอนที่กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองจีน   สำหรับรูปดอกไม้ อาม่าบอกว่าเป็นรูปดอกโบตั๋น และอากู๋มอบให้มาหลายรูปเพื่อให้หลาน ๆ  ซึ่งบางคนเมื่อได้รับไปแล้วก็นำไปใส่กรอบ ติดโชว์ไว้ที่ฝาในบ้านที่ ผมเองจำไม่ได้ว่าเคยเห็นภาพเหล่านี้มาก่อน เลยถือโอกาสถ่ายภาพนำเก็บเอาไว้ในบันทึกนี้ครับ 

   อ่านต่อ »


อาม่าเล่าเรื่อง (๑๒) การเดินทางของตู้

อ่าน: 2400

     ตอนที่แล้ว ได้นำภาพตู้ไม้สองชั้น ที่อากงและอาม่าได้ใช้ประโยชน์มานานตั้งแต่เริ่มทำการค้า จนกระทั่งถึงรุ่นลูกที่ขยายกิจการ สร้างบ้าน (ร้านค้า) ใหม่  ตู้นี้อากงอาม่าจึงนำมาไว้ที่บ้านตึกที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยใช้เก็บของเก่าต่าง ๆ และตู้นี้ถูกน้ำท่วมมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังทนทานอยู่ในสภาพที่พอใช้งานต่อไปได้  นอกจากตู้ไม้สองชั้นนี้แล้วยังมีตู้กระจกบานเลื่อนอีกหนึ่งหลังที่ใช้ในการวางสินค้าจำหน่ายด้านหน้าร้านของอากงอาม่าตลอดมา ที่หลังจากลูก ๆ เลิกใช้งานแล้ว อากงอาม่าก็ยังนำมาใช้เก็บของต่าง ๆ  ที่บ้านด้วยเช่นกัน  ตู้กระจกบานเลื่อนนี้กลายเป็นตู้ยาของอาม่าในระยะหลัง และน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา  ตู้ยาของอาม่านี้ก็ถูกน้ำท่วมจนหมด ยาต่าง ๆ ของอาม่าที่อยู่ในตู้จึงจมน้ำเสียหาย ส่วนที่อยู่บนหลังตู้ก็ลอยและถูกน้ำพัดพากระจายเสียหายหมดเช่นกัน 

ตู้กระจกบานเลื่อนก่อนถูกน้ำท่วม (เป็นตู้ยาของอาม่า) อ่านต่อ »


อาม่าเล่าเรื่อง (๑๑) ตู้ทรหดหลังน้ำท่วมบ้านอาม่าที่ปักธงชัย

อ่าน: 3324

        หลังจากการเดินทางไปเยี่ยมอาม่าที่บ้านทีปักธงชัยในเช้าวันที่ ๑๖ ตุลาคม กลับมาแล้ว ในวันรุ่งขึ้น (๑๗ ตุลาคม) ก็ได้ทราบว่าระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอีกประมาณ ๑ เมตร  บริเวณถนนหน้าบ้านมีระดับน้ำสูงประมาณ ๑.๕๐ เมตร การเดินทางเข้าไปที่บ้านอาม่าต้องอาศัยเรือยางของทหารเท่านั้น  ติดตามข่าวจากทีวีและสอบถามข่าวอาม่าผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง  ลูก ๆ หลาน ๆ พยายามโน้มน้าวให้อาม่าเดินทางออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูง มาพักอยู่ที่บ้านวรารักษ์ที่โคราช  แต่อาม่าก็ยังคงยืนยันว่าจะอาศัยอยู่ที่ชั้นสองของบ้านสองคนกับอาโก  แม้ว่าน้ำประปาไม่มี แต่ไฟฟ้ายังคงใช้การได้ (แม้ว่าบ้านติดกันไฟฟ้าถูกตัดไปแล้ว) จนกระทั่งเช้าวันที่ ๑๙ ที่มีข่าวว่าน้ำอาจจะท่วมสูงเพิ่มขึ้นอีกระลอก อาโกจึงตัดสินใจว่าจะนำอาม่าออกจากบ้าน กระบวนการนำอาม่าและอาโกออกจากบ้านจึงเริ่มขึ้น และจากการช่วยกันหลาย ๆ ฝ่าย การช่วยเหลือเพื่อนำอาม่าและอาโกออกจากบ้านจึงสำเร็จได้ด้วยดีในบ่ายวันนั้นเอง  (อ่านรายละเอียดได้จากบันทึกของ อ. หลินฮุ่ย)

 

      ดีใจสุด ๆ ที่อาม่า พร้อมพี่ใหญ่และครอบครัว เดินทางออกมาจากบ้านที่ปักธงชัย ที่ถูกน้ำท่วม ไม่มีน้ำไม่มีไฟฟ้าใช้มา ๓ วัน สามารถเดินทางมาถึงที่บ้านโคราชโดยสวัสดิภาพ และได้รับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ด้วยบริการของอาม่าหลินฮุ่ย อ่านต่อ »


อาม่าเล่าเรื่อง (๑๐) ของฝากเมืองจีน

อ่าน: 4083

       อาม่าได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองจีนเมื่ออายุ ๖๐ ปี พอดี โดยเดินทางไปพร้อมกับน้องชาย (อากู๋) โคราช และ น้องสาว (อาอี้) กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งคู่เคยเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองจีนมาก่อนแล้ว การไปครั้งนี้จึงเป็นไปได้ด้วยดี โดยเดินทางด้วยเครื่องบินจากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) ไปลงที่เกาะฮ่องกงก่อน แล้วนั่งรถยนต์ต่อไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยการใช้บริการเรือขนส่งขนาดใหญ่ ที่สามารถนำรถยนต์ลงไปในเรือแล้วเมื่อเดินทางไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่ก็เดินทางต่อไปด้วยรถยนต์คันเดิมจนถึงโรงแรมที่พักในซัวเถา  ต่อจากนั้นญาติที่เมืองจีนก็จะมารับเพื่อเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านเกิด  สำหรับอาม่านั้น อากู๋ ซึ่งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของอาม่าเป็นผู้เดินทางมารับ และได้พักอยู่ที่บ้านอากู๋คนนี้ในช่วงที่อยู่ที่เมืองจีน  และอากู๋คนนี้ต่อมาก็ได้เดินทางมาเยี่ยมอาม่าที่เมืองไทยด้วยในปี พ.ศ. ๒๕๔๕

 

อากู๋น้องชายแท้ ๆ ของอาม่าเดินทางจากเมืองจีนมาเยี่ยมอาม่าที่เมืองไทย เมื่อ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕

           อ่านต่อ »


อาม่าเล่าเรื่อง (๙) ต้องย้ายที่อยู่อีกครั้ง

1 ความคิดเห็น โดย Panda เมื่อ 6 ตุลาคม 2010 เวลา 12:02 ในหมวดหมู่ สังคม ครอบครัว ชุมชน #
อ่าน: 2692

       การทำมาหาเลี้ยงชีพและสร้างครอบของอากงอาม่าที่ห้องเช่าบ้านไม้สามชั้นก็เป็นไปด้วยดีมาตามลำดับโดยมีลูก ๆ โดยเฉพาะลูกชายคนโตเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือ และมีอายุเข้าสู่วัยรุ่น  อาม่าเล่าว่าเจ้าของบ้านไม้สามชั้นที่ให้เช่าก็มีลูกชายคนหนึ่งที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายคนโตหรือตั๋วเฮียของพวกเรา  เนื่องจากเป็นลูกชายคนเดียวของผู้มีอันจะกิน จึงมีนิสัยค่อนข้างเกเร ชอบเอาเปรียบและรังแกคนอื่น ๆ ในระแวกนั้นอยู่เป็นประจำ รวมทั้งตั๋วเฮียและยี่เฮียของพวกเราก็ไม่เว้น จนมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตั๋วเฮียมีเรื่องกับลูกชายเจ้าของบ้านรุนแรงจนถึงขั้นชกต่อยกัน ตั๋วเฮียถูกลูกชายเจ้าของบ้านกัดจนเลือดออก อาม่าจึงเข้าไปห้ามพร้อมต่อว่าลูกชายเจ้าของบ้าน ต่อมาพี่สาวของเขาก็เข้ามาช่วย ในที่สุดก็นำเรื่องไปฟ้องแม่ของตน ที่เป็นเจ้าของบ้านเช่า เป็นเหตุให้เกิดการต่อว่าต่อขานกันตามมา และเกิดความบาดหมางกันระหว่างสองครอบครัว จนถึงขั้นที่เจ้าของบ้านออกปากไล่ให้ครอบครัวของเราไปหาที่อยู่ใหม่ อาม่าจึงขอให้อากงหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งในที่สุดก็ได้บ้านเช่าใหม่ที่เป็นบ้านไม้แถวชั้นเดียว โดยพื้นบ้านเป็นดินอัดแน่นแล้วปูด้วยไม้กระดานเป็นแผ่น ๆ อยู่ด้านบนอีกที อาม่าเล่าว่าตามร่องระหว่างไม้กระดานพื้นและใต้กระดานมักจะมีพวกตะขาบและแมงป่องอาศัยอยู่จำนวนมาก  ต้องคอยระวังไม่ให้ถูกสัตว์พิษพวกนี้กัดเอา  แม้กระนั้นก็โดนกันไปหลายครั้ง  ห้องเช่านี้ต่อมาเจ้าของที่ก็สร้างเป็นห้องแถวไม้สองชั้นให้เช่าต่อ ในช่วงก่อสร้างทำให้ครอบครัวของเราต้องย้ายไปอยู่ที่ห้องเช่าชั่วคราว ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอ ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่า “ตลาดใหม่” ในขณะที่บริเวณบ้านเช่าเดิมเรียกกันว่า “ตลาดเก่า”

รูปครอบครัว ที่หน้าบ้านสามชั้น เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒

      เมื่อการก่อสร้างเสร็จ ครอบครัวเราก็ย้ายมาเช่าอยู่ที่ห้องเช่าเดิม ต่อมาลูกของเจ้าของที่เดิมก็ขาย  ครอบครัวของเราจึงได้ซื้อบ้าน(ห้องแถวไม้สองชั้นสองคูหา) เป็นของตนเอง เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและทำมาค้าขายมาจนถึงปัจจุบัน และเปลี่ยนแปลงเป็นบ้านตึกแถวสามชั้นไปแล้วในขณะนี้


อาม่าเล่าเรื่อง (๘) ชีวิตที่บ้านไม้สามชั้น

อ่าน: 2564

        ชีวิตของอากงอาม่าและครอบครัวเรา ที่บ้านเช่าชั้นล่างของ ตึกแถวไม้สามชั้น ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นไปด้วยความยากลำบากพอสมควร  นอกจากเปิดเป็นร้านค้าขายของทั้งเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ  ทุกอย่างที่คิดว่าจะขายได้ อากงก็จะไปหามาไว้ที่ร้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนแถบ บริเวณตรงกันข้ามกับร้านจะเป็นที่ตั้งโรงเรียนของเอกชนซึ่งต่อมาคือ โรงเรียนมัธยมปักธงชัย หรือเรียกย่อ ๆ ว่า โรงเรียน มป. ที่พวกพี่ ๆ น้อง ๆ ของเรา รวมทั้งตัวผมด้วยได้เข้าเรียนกัน  อาม่าเล่าว่า ช่วงสงครามและหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ใหม่ ๆ  ขณะที่ผมยังเล็กอยู่ ครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมปักธงชัย มีความสนิทสนมกับครอบครัวเราและอาม่ามาก  ครูใหญ่จะแวะมานั่งคุยเป็นประจำ และจะได้รับบุหรี่จากอาม่าให้ไปสูบฟรี ๆ อีกด้วย เพราะที่ร้านจำหน่ายบุหรี่ โดยอาม่าจะมวนบุหรี่เองเพื่อไว้จำหน่ายด้วย นอกเหนือจากบุหรี่ที่ซื้อมาเป็นซองสำเร็จ และเมื่อผมได้เข้าเรียนในชั้นมัธยมที่โรงเรียนนี้ คุณครูใหญ่ท่านนี้เองที่มีความรอบรู้มาก รวมทั้งเรื่องการดูดวงและการตั้งชื่อ  และเป็นผู้ตั้งชื่อปัจจุบันให้ผม ดังนั้นถ้าสอบประวัติของผมเมื่อเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนชุณหะวัณวิทยาคาร ก็จะไม่พบครับ เพราะยังใช้ชื่อจีน นามสกุลจีน (แซ่ตัง) อยู่ในตอนนั้น…  อ่านต่อ »



Main: 1.0369098186493 sec
Sidebar: 0.9340500831604 sec