อริยะกลัวเหตุ ปุถุชนกลัวผล
อ่าน: 3851คำภีร์กู่เต๋อ กล่าวว่า
“อริยะกลัวเหตุ
ปุถุชนกลัวผล”
พุทธะคอยระวังความคิด อันเป็นรากกำเนิด
เกรงว่าจะไปสร้างเหตุ เพราะต้องไปรับผล
เวไนย์กลัวต้องรับผลอันเจ็บปวด
แต่ไม่คิดที่จะไปแก้ไขที่ต้นเหตุ
ลานซักล้าง: ใจซักได้ ถ้ารู้ตัว / นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา / สุทธิ อสุทธิ ปจฺจตฺตํ นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย / Improvement begins with I
คำภีร์กู่เต๋อ กล่าวว่า
“อริยะกลัวเหตุ
ปุถุชนกลัวผล”
พุทธะคอยระวังความคิด อันเป็นรากกำเนิด
เกรงว่าจะไปสร้างเหตุ เพราะต้องไปรับผล
เวไนย์กลัวต้องรับผลอันเจ็บปวด
แต่ไม่คิดที่จะไปแก้ไขที่ต้นเหตุ
ชายผู้หนึ่งเดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ในบาร์ แล้วกล่าวขอน้ำจากบาร์เทนเดอร์แก้วหนึ่ง
แทนที่บาร์เทนเดอร์จะนำน้ำมาให้ กลับชักปืนออกมา ชี้ไปที่ชายคนนั้น
ชายคนนั้นนอกจากไม่โกรธแล้ว ยังกล่าวคำสำนึกขอบคุณด้วยซ้ำไป แล้วก็เดินจากไป
เกิดอะไรขึ้น…. คิดก่อนดูเฉลยข้างล่างนะครับ
อ่านหนังสือพระนิพนธ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน ป.ธ.๙) เจอข้อความที่สะดุดใจ จึงค้นพระไตรปิฎก เจอข้อความนี้ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๒ ขุททกนิกาย จูฬนิทเทสครับ
[๘๑๗] มิตรทั้งหลายมีประโยชน์เป็นเหตุ จึงจะคบหาสมาคมด้วย.
มิตรในวันนี้ไม่มีเหตุหาได้ยาก. มนุษย์ทั้งหลายมีปัญญามุ่ง
ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด. (เพราะฉะนั้น) พึง
เที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น.[๘๑๘] คำว่า มิตรทั้งหลายมีประโยชน์เป็นเหตุ จึงจะคบหาสมาคมด้วย ความว่า
มิตรทั้งหลายมีประโยชน์ตนเป็นเหตุ มีประโยชน์ผู้อื่นเป็นเหตุ มีประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเป็นเหตุ
มีประโยชน์ในปัจจุบันเป็นเหตุ มีประโยชน์ในสัมปรายภพเป็นเหตุ มีประโยชน์อย่างยิ่งเป็นเหตุ
จึงจะคบหา สมคบ เสพ สมาคมด้วย เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า มิตรทั้งหลายมีประโยชน์เป็นเหตุ
จึงจะคบหาสมาคมด้วย.
เพราะประโยชน์เป็นเหตุ จึงติดแหงกกันอยู่ตรงนี้
แต่เพราะว่ายังไม่หลุดพ้น ติดแหงกอยู่กับประโยชน์ ก็ดีกว่าอยู่กับติดอยู่กับโทษและมิจฉาทิฏฐินะครับ อิอิ