หัดเล่น Light Painting

โดย Logos เมื่อ 1 March 2010 เวลา 20:36 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 20123

Light painting เป็นเทคนิคการถ่ายภาพ โดยเปิดหน้ากล้องนานๆ แล้วเคลื่อนแสง (เครื่องแหล่งกำเนิดแสง) หรือเคลื่อนกล้อง — ดังนั้นจะเห็นแสงปรากฏเป็นเส้น เคยเล่นกันแล้วครั้งหนึ่งตอนเฮฯ หก 7 ธ.ค. 2551 @เชียงราย หลังลงมาจากดอยแม่สลอง คุณเบิร์ดเตรียมไฟเย็นไว้ล่วงหน้า จึงมีเล่นกัน — Light Painting ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดของคนเล่นกล้อง แต่เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมการ อันนี้ก็เช่นกันครับ

ครั้งนั้น อุปกรณ์ไม่พร้อมหรอกครับ แต่ก็เป็นที่สนุกสนานกันถ้วนหน้า คราวนี้เป็นวาระวันเกิดครูบา อยากจะทำอะไรพิเศษทิ้งไว้ให้ที่สวนป่า จึงเตรียมการอย่างดี วิธีการมีดังนี้ครับ

  • ขาตั้งกล้อง
  • กล้องถ่ายภาพ ที่สามารถเปิดหน้ากล้องได้นานเท่าที่ต้องการ (เปิดชัตเตอร์เป็น Blub)
  • สายลั่นชัตเตอร์ เพราะคงไม่มีใครไปกดชัตเตอร์อยู่นานๆ โดยที่กล้องไม่สั่นได้
  • @@ หากจะทดลองถ่ายเล่น ยังไม่ต้องหาขาตั้งกล้องกับสายลั่นชัตเตอร์ แต่เอากล้องวางบนพื้น(โต๊ะ)ที่มั่งคง แล้วกดชัตเตอร์แน่นๆ แต่ไม่ให้กล้องสั่น ก็ยังไหว @@
  • แหล่งกำเนิดแสง (ใช้ไฟฉายเพื่อไม่ให้สิ้นเปลือง)
  • เสื้อผ้าหรือกระดาษสี เอามาแปะหน้าแหล่งกำเนิดแสงเพื่อให้เห็นเป็นสีต่างๆ

เริ่มต้นในคืนแรกที่ไปถึงสวนป่า ผมลองเล่นดูก่อน รู้ทฤษฎีไม่ได้แปลว่าจะทำเป็น

ลองวาดเล่น แล้วสังเกตดูว่าทำอะไรแล้วเกิดอะไร จากนั้นจึงไปชวนครูบา แม่หวี และครูปูมาเล่นบ้าง โดยลองวาดรูปมั่วอีกรูปหนึ่ง

ครูบากับแม่หวีไม่ให้ความร่วมมือ หึหึ เลยชวนครูปูมาวาดรูปตามแผน — อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้มีการเตรียมการมาล่วงหน้า คือผมคิดคำ “พ่ออุ๊รักแม่หวี” มาก่อน โทรไปบอกครูปูให้หากระดาษสีคืนก่อนเดินทาง ทีนี้เลยวุ่นวายเลย (ก่อนวุ่นวาย มี reaction แรก คือ​ “แหวะ”) เมื่อหากระดาษไม่ได้ ก็เลยขนเสื้อมาใช้แทน

ผมถ่ายรูป ครูปูวาด

ข้างบน สองรูปแรกยังไม่เป็น เลยบอกให้เขียนห่างๆ กันหน่อย อย่าให้ไฟฉาย ฉายตรงมาเข้าที่หน้ากล้อง ลองใหม่ออกมาเป็นรูปที่สาม เท่านั้นแหละ ศิลปินก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นในทันที หัวเราะลั่นป่า ขนาดตุ๊กแกยังตกใจเงียบไปเลย; แล้วก็ลงมือวาดคำตามที่ตกลงกันไว้ แต่เนื่องจากอาการคลุ้มคลั่ง จึงสะกดผิดที่เดียวกันถึงสองครั้ง

ลองเป็นครั้งที่สาม จึงได้รูปที่ต้องการ ใช้ถุงขนมของผม (สีชมพู) มาปะหน้าหลอดไฟฉาย ตัวหนังสือไม่สูงนักเพราะศิลปินตัวเตี้ย เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ รูปนี้จะเอาไปขยายแล้วส่งไปสวนป่าในภายหลังนะครับ

จากนั้นผมจึงวาดเล่น… Pacman เกิดทันไหมเนี่ย

คืนต่อมา ผมวาดเล่นอีก คราวนี้เปลี่ยนฉากหลังไปเป็นหน้าเวทีที่ลานไผ่

« « Prev : นกยูง อตร

Next : คืนหนึ่ง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 BM.chaiwut ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 March 2010 เวลา 20:59
    • เยี่ยม !

    เจริญพร

  • #2 sothorn ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 March 2010 เวลา 21:25

    คนวาดนี่จินตนาการล้ำลึก
    คนถ่ายก็ช่างคิด หาของมาเล่น

    สุดยอดครับ

  • #3 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 March 2010 เวลา 21:53

    น่ารัก..
    และก็เพิ่งได้รู้ว่า เจ้าตัว B ที่อยู่บนที่ปรับฟังก์ชั่นบนกล่องนี่มันอะไร..ไม่เคยใช้สักทีค่ะ..5555

    รูปที่สมบูรณ์ดูเหมือนกับเขียนบนฉากเลยนะคะ  แต่รูปอื่นเห็นฉากไม่ค่อยชัด  เป็นเพราะสีของแสงด้วยหรือเปล่าคะ

  • #4 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 March 2010 เวลา 22:06
    แต่ละรูป เปิดหน้ากล้องนานหลายนาทีครับ แรกๆ คนวาดยังไม่คล่อง จึงค่อยๆ เขียน ทำให้แสงของฉากหลังสว่างขึ้นมาก (ไม่มีไฟฟ้า แต่มีแสงจันทร์ขึ้น ๑๓ ค่ำ จึงมองเห็นกองฟางด้านหลังอย่างชัดเจน)

    สังเกตได้อีกอย่างหนึ่งครับ ว่ามองไม่ค่อยเห็นผู้วาดในรูปที่สมบูรณ์ แต่ยังพอมองเห็นเสื้อของผู้วาดในรูปที่เละๆ อันนี้แสดงว่ารูปที่สมบูรณ์ วาดคล่องแล้ว ทำให้เคลื่อนตัวไปเร็วกว่าในขณะที่กำลังฝึกหัด มีผลทำให้รูปที่สมบูรณ์เปิดหน้ากล้องสั้นกว่า แสงรบกวนน้อยกว่า

    ตั้งชัตเตอร์เป็นตัว B พอกดชัตเตอร์คือถ่ายไปเรื่อยๆ จนปล่อยชัตเตอร์ครับ

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 March 2010 เวลา 1:37

    เรื่องใหม่ๆแปลกๆ สนุกๆได้ทุกคน
    จากเฮ 6 พัฒนาการด้วยไฟฉาย
    ทำให้ได้ภาพคมชัดขึ้น เชิงศิลปะแสงแห่งจินตนาการ แบบวิ๊บบึ๊มส์
    ใครเก่งด้านนี้ทดลองดูนะครับ

  • #6 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 March 2010 เวลา 6:48


    รูปนี้ยังกะระยะไม่ถูกโดยสิ้นเชิง เขียนไปงงไป


    รูปนี้ได้ระยะเฉพาะความกว้างยาว แต่ความสูงยังเกินตัวไปหน่อย จึงยังมีปัญหาเรื่องไม้ตรีและสระอี แถมศิลปินยังเล็งผลเลิศเปลี่ยนสีเสื้อตลอด เพราะอยากให้ตัวหนังสือออกมาหลากสีสัน เลยเสียเวลาอยู่จุดใดจุดหนึ่งนานไป ทำให้เห็นเงาตัวศิลปินเป็นจุด ๆ
    ประกอบกับมัวแต่หัวเราะ (เป็นเพื่อนป๋า) เลยลืมใช้ปุ่มเล็ก ๆ เหนือปุ่มเลื่อนเปิดปิดบนด้ามไฟฉาย ซึ่งควบคุมการเปิดปิดแสงได้ง่ายกว่าปุ่มเลื่อน  ทำให้ควบคุมลำแสงได้ไม่ดีนัก บางจุดแสงจึงยังส่องตรงเข้ากล้องอยู่ ทำให้แสงกระเจิง ตัวอักษรไม่คมชัด


    (ผลงานชิ้นโบว์แดง ที่แสนภาคภูมิใจ เหอ เหอ)    :-P
    ใช้เสื้อสีแดงเข้มห่อไฟฉายไว้ คำสั้น ผู้เขียนตั้งใจ จึงสื่อความหมายได้อย่างครบถ้วน ตรงใจ เอิ๊กซ์!


    สองภาพนี้ป๋าให้ลองใช้ถุงลูกอมสีชมพูแทนเสื้อ ตัวอักษรไม่คมเลย เพราะถุงลูกอมมีขนาดใหญ่กว่าหน้ากระบอกไฟฉายหน่อยนึง แสงเลยกระเจิงไปตามขนาดของถุงลูกอมนั้น แต่ลายมือเริ่มดีขึ้นแล้ว  แถมยังได้ทดลองขีดเส้นใต้ยึกยือใต้คำ แต่ยังสาดไฟใส่พื้นเหมือนในรูป Pacman ของป๋าไม่เป็น

    เมื่อพบว่าถุงขนมทำให้ตัวอักษรไม่คม จึงกลับมาใช้เสื้อสีแดงเหมือนเดิม เอาเสื้อห่อไฟฉายทั้งกระบอกไปเลยแล้วรวบตอนท้ายให้ตึง จึงได้รูปตามต้องการ สมใจศิลปินและหัวหน้าศิลปิน(ผู้อารมณ์ดี มิใช่คลุ้มคลั่ง!)

    ความพยายามทั้งหมดนี่แค่จะบอกว่า พวกเรารักและเคารพพ่อครูบาและแม่หวีขนาดไหน เพียงแค่เลือกวิธีบอกแบบมันส์ ๆ และหนุกหนานหน่อยเท่านั้นเองค่ะ ฮี่ๆๆ

    ขอบคุณป๋ามาก ๆ นะคะ ที่ให้โอกาสนุกสนานกับชีวิต… อีกแล้ว   :-)


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.73147320747375 sec
Sidebar: 0.1688449382782 sec