เรือยนต์

โดย Logos เมื่อ 28 June 2011 เวลา 18:47 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 5860

มีเรื่องจะขอความเห็นครับ

กรณีน้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนักนั้น มีกรณีที่การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยก็ยากลำบากเช่นกัน คือเนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวมาก แพหรือเรือพายไม่สามารถจะทานแรงของกระแสน้ำได้

ทางราชการมีเรือ แต่เรือมักไม่มีเครื่อง (ทำไมก็ไม่รู้) เรือที่ติดเครื่องเรือ ก็ขนส่งลำบากและมักไม่ทันการ เรือมีความจำเป้นในการส่งอาหาร น้ำ ยา บุคลากรทางการแพทย์ กู้ภัย และอาสาสมัครลงไปในพื้นที่ ในบางกรณีก็ต้องนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล

ผมชอบแนวคิดที่อาจารย์ทวิชให้นักศึกษาม.เทคโนโลยีสุรนารี ลองทำแพใช้เครื่องตัดหญ้าเมื่อคราวน้ำท่วมโคราช เป็นการแสวงเครื่อง ลบล้างลัทธิซื้อแหลก แสดงให้เห็นชัดว่าความรู้ง่ายๆ ประกอบกับความกล้าที่จะแสวงเครื่องดัดแปลงวัสดุในท้องถิ่น ก็สามารถจะช่วยตัวเองในเรื่องของเดินทางในช่วงน้ำท่วม

แต่ในกรณีของน้ำป่านั้น แพจะใช้งานไม่ได้เนื่องจากกระแสน้ำมีความรุนแรง CG ของเรือต้องอยู่ต่ำมากเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร แต่ว่ากินน้ำลึกมากนักก็คงต้านแรงน้ำไม่ไหว (มีกรณีศึกษาเมื่อคราวน้ำท่วมสุราษฎร์และนครศรีธรรมราช ว่าเรือที่กินน้ำลึกไป เจอสิ่งกีดขวางที่อยู่ใต้น้ำ) ใบพัดก็ต้องปรับปรุงให้จ้วงน้ำได้อย่างมีกำลัง

หากเรือมีอยู่แล้ว เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่ามีอยู่แล้ว การส่งใบพัดไปช่วย สามารถจะกระทำได้อย่างรวดเร็ว

ท่ามกลางข่าวว่าน้ำจะลดเร็ว จนผู้คนรีรอที่จะช่วยเหลือ แต่เมื่อส่งคนลงไปดูในพื้นที่แล้ว พบว่ามีความเสียหายมากกว่าที่ข่าวรายงาน มีพื้นที่ถูกตัดขาดมากมาย กิ่งอ.ภูเวียงซึ่งอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำน่านของ อ.เมือง ก็ถูกตัดขาด เรื่องข้าวปลาอาหารค่อนข้างลำบาก แม้แต่ อ.เมือง อาหารก็กำลังจะหมดลง ขณะนี้กำลังประสานกับหลายหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน ที่จะระดมความช่วยเหลือเข้าไปยังพื้นที่

เมื่ออาหารและของบริจาคอื่นๆ ไปถึงยังศูนย์แจกจ่ายความช่วยเหลือที่วัดอรัญญาวาส โดยมีกลุ่มฮักเมืองน่านเป็นกำลังสำคัญ จะมีปัญหาการแจกจ่ายความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัย ซึ่งก็ต้องเรียนรู้และแก้ไขกันไปทีละเปลาะ

แต่โชคดีที่ทีมอาสา ThaiFlood และอาสาดุสิต ลงพื้นที่อย่างรวดเร็ว จึงเห็นอะไรมากมาย น้ำลด งานไม่จบเหมือนจบข่าวนะครับ เพราะความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว คนจริงๆ มีเลือดเนื้อ

สถานการณ์อุทกภัย อันเนื่องมากจากอิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่น “ไหหม่า” (Haima) ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศลาว ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ ๓ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ตาก และจังหวัดน่าน ๒๓ อำเภอ ๙๑ ตำบล ๕๔๒ หมู่บ้าน ๓๐,๖๕๐ ครัวเรือน ๙๙,๔๑๖ คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย ๓๑,๘๙๑ ไร่ ถนน ๖๓ สาย ท่อระบายน้ำ ๓๕ แห่ง ฝ่าย/ทำนบ ๕๕ แห่ง สะพาน/คอสะพาน ๔๕ แห่ง บ่อปลา/บ่อกุ้ง ๒๐๘ บ่อ ปศุศัตว์ ๓,๙๑๗ ตัว มีผู้เสียชีวิต ๒ ราย (อ.แม่สอด จ.ตาก ๒ ราย) — รายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เช้าวันนี้ (28)

« « Prev : ฉุกละหุกอีกแล้ว #น่านนะซิ

Next : ปัญหาเก่าๆ กับความคิดเก่าๆ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

15 ความคิดเห็น

  • #1 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 19:45

    ใบพัดแบบเครื่องตัดหญ้านั้น ผมคิดปุ๊ยทำปั๊บ ไม่ได้มีเวลาลองผิดลองถูก พอดีไอ้เด็กสองคนนี้ผมกำลังให้เขาช่วยทำเครื่องถอนหญ้าจากเครื่องตัดหญ้าพอดี

    ตอนหลังผมให้เอา “ช้อนกินข้าว” มาทำเป็นใบพัด ปรากฎว่า ให้แรงผลักเรือดีกว่าใบเหล็กดัดเสียอีก

    ถ้าให้เวลาผมสักเดือน และช่างฝีมือดีๆ สักคน ผมเชื่อว่าผมจะสามารถสร้างเรือที่เอาชนะแรงดันน้ำหลากไหลแรงได้ไม่ยาก จากเครื่องตัดหญ้าสะพายบ่านี่แหละครับ

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 19:49
    หนึ่งเดือนคงไม่ทันกรณี #น่านนะซิ แต่ก็ยังน่าคิดน่าทำครับพี่ เชื่อว่ายังมีภัยในลักษณะนี้อีกในอนาคต หากเราพยายามแก้ไขไปทีละเปลาะสองเปลาะ ก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้ายอมแพ้ต่อลัทธิซื้อแหลก ก็ต้องซื้อตลอดไป
  • #3 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 19:55

    โพสต์เสร็บปั๊บก็คิดออกปึ๊บว่า ถ้ามันฉุกเฉินจริงๆ ก็เอาง่ายแบบนี้ก็ได้ครับ

    ชายฉกรรจ์กล้ามโตหนึ่งคน เชือกผูกกับสมอสองชุด ..เหวี่ยงสมอไปข้างหน้า อาจได้ไกลสัก 10 เมตร สมอจมลงเกาะดินแน่น  แล้วดึงเชือกลากเรือทวนน้ำขึ้นไป …ก่อนถอนสมอที่ 1 ก็เหวี่ยงสมอที่สองไปอีก 10 เมตร …ถอนสมอที่  1 …สาวเรือไปอีก 10 เมตร เหวี่ยงสมอ แล้วกระดึบไปเรื่อยๆ ที่ละ 10 เมตร …อาจต้องออกแบบสมอเสียใหม่ให้เบา เกาะดินได้แน่น เผลอๆ อาจไปได้ทีละ 20 เมตร นะครับ

  • #4 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 19:58
    เอื๊อก เมื่อจะเอาเรือออกไปช่วย ระยะทางไกลนะครับ ต้องขนของหนักไปด้วย สงสัยว่าจะไม่ไหว

    แต่เมื่อคืนผมก็เสนอไปคล้ายๆ กันครับ คือติดต่อ ปภ.จังหวัด (ก่อสร้างเก่ง) ตั้งเสาสองฝั่ง โยงสลิงข้ามแม่น้ำ ขนของทางกระเช้าส่งอาหารและน้ำก่อนเลยครับ แต่ท่าทางคนฟังไม่ค่อยเชื่อถือ :-D

  • #5 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 21:17

    นั่นแหละ ทำไมผมจึงต้องเน้นว่า “กล้ามโต”

    แต่จริงๆแล้ว ไม่เหนื่อยมากหรอกครับ เพราะว่า แรงฉุดจากน้ำจะไม่มากนัก เพราะเรือเป็นอะไรที่แรงฉุดน้อยมาก (ถ้าออกแบบมาดีเช่นหัวมนแหลม และที่สำคัญหางมนด้วย ) มันจะต้านน้ำน้อยมาก ใช้แรงไม่มากก็ดึงลากไปได้

    ว่าไปแล้วผมได้อีกโครงการแล้ว คือใช้แรงน้ำไหล ในการผลักให้เรือเคลื่อนไปข้างหน้า ..ผมว่าน่าทำได้นะ

    เมื่อสองเดือนก่อนก็เพิ่งคิดโครงการให้เด็กไปทำเรือเมล์ที่ไม่สร้างคลื่นให้ไปเซาะตลิ่ง และไปทำให้ความเดือดร้อนให้เรือเล็กๆ ที่ขายขนาดและกาแฟ

  • #6 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 21:30

    คิดออกแล้วครับ เรือพลังน้ำไหล

    หลักการเดียวกับเรือพลังลมไหล (หรือเรือใบนั่นเอง) คือ ทำเป็นใบเรือรับน้ำ (ไม่ใช่รับลม ) จะอยู่ด้านหน้า ด้านข้าง หรือท้ายเรือก็ได้ หน้าที่ของใบคือเปลี่ยนทางน้ำ ทำให้เกิดแรงผลักเรื่อไปข้างหน้า

    เสียแต่ว่า ต้อง “แล่นก้าว” หมายถึงว่าไม่อาจวิ่งสวนน้ำได้ ต้องวิ่งเฉียงน้ำไปข้างหน้า พอติดฝั่ง ก็หักหัวจากเฉียงขวา เป็นเฉียงซ้าย

    แบบนี้ไม่ต้อง กล้ามโต ก็พอไหวครับ แต่เรือจะเอียง อาจล่มได้ ต้องรู้จักถ่วงเรือด้วยการโยนตัว แบบที่เขาเล่นเรือใบนะครับ

    ปล. เอเชียนเกมส์ที่จีน คราวก่อน เราได้ 3 เหรียญทองจากเรือใบ กีฬาปัญญาชน แต่แทบไม่มีข่าว ส่วนมวยไทย มวยเกาหลี กีฬาบ้าระห่ำ ได้มาสองเหรียญ เป็นข่าวใหญ่

  • #7 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 21:43

    มีเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของกองทัพ….ที่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจาก ผบ.สส. ได้นะ เรื่องแบบนี้ต้องใช้ของที่มีอยู่แล้วในการช่วยเหลือให้ทันต่อสถานการณ์เหมือนตอนที่ภาคใต้

  • #8 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 22:31

    เรื่องแบบนี้ต้องให้นักคิดวิศวกร คิด ผมนั้นคิดไม่ออก มองไม่เห็นในมุมวิศวกรรม แต่เห็นอย่างอาม่า หรือเห็นคล้อยตามเรื่องเครื่องตัดหญ้าครับ

  • #9 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 22:49

    พี่อาม่าครับ ..ทุกครั้งเขาก็ขอไปหมดแหละครับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ทั้งพลเรือนและทหาร ตั้งแต่กรมบรรเทาสาธารณภัย ทัพบกเรืออากาศที่ขาดและไม่ขาดรักทั้งหลาย ..เสียแต่ว่า(แมร่ง)หัวหาย เอาแต่ตีกอล์ฟ ออฟแคดดี้ ไม่เคยเอาเวลาและนาทีมาคิดป้องกันภัยพิบัติให้ประชน

    เรือไม่พอ งบไม่มี เบี้ยเลี้ยงไม่คุ้ม …เป็นข้ออ้างเสมอมา ว่าแล้วก็ไปถ่ายรูปไขว้สายสะพายประดับฝาบ้านกันเป็นทิวแถว

    ทำให้พวกครูบ้านนอก วิศวะนอกคอกแบบผมต้องมาคิดหาทางช่วยกันคิดแบบพื้นบ้านนี่แหละครับ

    อ้าว…พรุ่งนี้สอน คณิตศาสตร์ป.โท เอก สองชม. ยังไม่ได้เตรียมสอนเลย ขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวมาต่อ

  • #10 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 22:55
    เรือที่ไม่สร้างคลื่นก็สำคัญมากนะครับ มีชาวบ้านบ่นกันเยอะเรื่องพวกเอาของไปแจก ขับเรือกันไม่บันยะบันยัง แทนที่จะไปช่วยเหลือชาวบ้าน กลับไปช่วยให้ชาวบ้านไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่บ้าน เนื่องจากคลื่นจากเรือที่ไปแจกของ

    เรื่องความช่วยเหลือของทหาร ต้องออกมาเป็นคำสั่งครับ เพราะเคลื่อนกำลังโดยพละการไม่ได้ เล่าแล้วยาว…

  • #11 truna ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 June 2011 เวลา 22:59

    น่าสนใจมากมายครับ

  • #12 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 June 2011 เวลา 1:51

    เอาของไปแจก ก็น่าเห็นใจครับ แต่นานๆครั้งที่น้ำท่วมก็พอทนไหวนะครับ 

    แต่สาวๆ ไทดำ ขายก๋วยเตี๋ยวเรือริมคลองดำเนินฯ และแม่น้ำทั้งหลาย เขาต้องอยู่กับมันตลอดเวลา แถมเสียงบ้าหนวกหูของเรือหางยาว ที่รัฐบาลไทย หรือ นักเลือกตั้งทั้งหลาย ไม่เคยเหลียวแล กลับเอาไปโฆษณาเป็นจุดขายการท่องเที่ยวเสียอีก

    ฝรั่งมันมาเอ็นจอย 10 นาที เอาเงินดอล ยูโรฟาดหน้า มันกว่าสนุกมันส์ ส่วนคนไทจะตายกันหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าบ่น เพราะกลัวโดนเก็บ

    เป็นแรงบันดาลใจให้ผมคิดค้น เรือไร้คลื่น (แต่ไร้เสียงนั้นคงยาก เพราะนักการเมืองเขาชอบแบบนั้น)

  • #13 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 June 2011 เวลา 12:24

    เห็นใจและปรบมือให้ในความพยายามคิดที่จะหาทางที่ประหยัดที่สุด ดีที่สุดในการช่วยเหลือ แต่อาจจะเป็นโจทย์ระยะยาวที่ค่อยคิดค่อยทำกันไปแต่สามารถเริ่มได้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ขณะเดียวกันความต้องการปัจจุบันทันด่วนอาจจำเปผ้นต้องลุงทุนเพื่อยังชีวิตและเป็นกำลังใจให้กับประชาชนผู้เดือนร้อน เราอยู่หลังนอกจากจะสนับสนุนการเงิน สิ่งของแล้ว การคิดความช่วยเหลือบนจินตนาการ(แบบผม)ที่ไม่ได้เผชิญหน้าตรงๆนั้น ยังเห็นว่า เฮลิคอบเตอร์ ก็ไปช่วยได้  อ้าว บอลลูนที่ปักใต้  เอามาใช้ก่อนซิ  ทางเหนือไม่มีใครยิงทิ้งหรอก บรรทุกอาหารและสิ่งของจำเป็นไปใช้ได้เลย อิอิ ผมกล่าวมานี้โดยไม่มีความรู้เรื่องบอลลูนนะครับ

  • #14 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 June 2011 เวลา 19:22

    อ้อ..ผมลืมเล่าไปครับ ถ้าจะเอาเครื่องตัดหญ้าสะพายบ่ามาใช้เป็นฝบพัดเรือหางยาวนั้น ง่ายที่สุดและทดลองแล้วว่าดีพอใช้เลยคือ เอาช้อนแสตนเลสแบบสั้น (ที่ชาวบ้านนอกชอบใช้) สองคัน มาต่อกันเป็นใบพัด (ยังไม่ได้ทดลองว่าสามใบและสี่ใบจะดีกว่าไหม) โดยหันเอาด้านโค้งของช้อนออกจากตัวเรือ เจาะรูแล้วขันน๊อตให้ติดกับแป้นแกนเพลา ..ทดลองแล้ววิ่งปรื๋อเลยครับ

    หลักการแอโรไดนามิกส์จากนาซ่าเลยนะเนี่ยสิบอกไห่ หลักการนี้เหมือนกับว่าทำไม จานร่อน (ฟริสบี้) จึงลอยอยู่ได้

  • #15 ลานซักล้าง » เรือกู้ชาติ พับได้ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 August 2011 เวลา 3:34

    [...] [เรือยนต์] แต่โดยปกตินั้น [...]


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.36564207077026 sec
Sidebar: 0.16636204719543 sec