ปัญหาเก่าๆ กับความคิดเก่าๆ
อ่าน: 3486วันนี้โกลาหลเช่นเคยครับ
มีนัดหมายออกไปดูพื้นที่ทำงาน ซึ่งสภาพดีมาก อยู่กลางเมือง เดินทางไม่ลำบาก (แม้ไม่ใด้อยู่เชิงบันไดรถไฟฟ้าก็ตาม) เข้าออกทางถนนหลายทาง เข้าจากถนนใหญ่ได้สามถนน ปากซอยอยู่ระหว่างสถานีรถใต้ดินสองสถานี ระยะเดินจากปากซอยสัก 500 เมตร ไม่ไกลหรอกครับ มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ข้างหน้าพอดี คำว่าข้างหน้าหมายถึงเผาขนเลย ข้างในมีสระน้ำเลี้ยงปลา มีที่สำหรับประชุมหรือทำกิจกรรม บรรยากาศร่มรื่นมาก ที่จอดรถดูครั้งแรกเหมือนมีน้อย แต่ถ้าดูละเอียดจะพบว่ามีอยู่พอสมควรทีเดียวครับ
แล้วผมไปเกี่ยวอะไร… ก็เพื่อนกัน ทำไมจะช่วยเหลือกันไม่ได้ล่ะครับ แต่ขนาดเป็นเพื่อนกันนี่แหละ นัดหมายเวลาแล้วก็ยังตื่นสาย ความบักโกรกไม่ปราณีใคร เลยลืมเอา EM ไปฝาก จะได้ทดลองบำบัด “คลองสวยน้ำใส” ที่ขุ่นคลักส่งกลิ่นโชย มัวแต่ตื่นเต้นกับโน๊ตบุ๊คตัวใหม่ซึ่งมาวันนี้ แหะๆ ไม่ได้ใช้โน๊ตบุ๊คมาหลายปีแล้ว (อย่าคิดว่าแปลก ควรคิดว่าแบกไปทำไม) ตัวนี้น่าจะสมบุกสมบันพอควร
ที่เขียนมา ยังไม่เกี่ยวกับชื่อบันทึกเลย…
คนไทยโดยรวม ก็ยังไม่เข้าใจการจัดการภัยพิบัติอยู่ดี ไปตื่นเต้นเร่าร้อนกับการบรรเทาทุกข์ แทนที่จะเป็นการป้องกันและการจัดการความเสี่ยง เมื่อเกิดภัยขึ้น มีคนเสียหายแล้ว ในหลายกรณีมีคนตายด้วย จริงอยู่ที่การบรรเทาทุกข์หลังจากที่เกิดภัยขึ้นแล้ว เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน แต่ยัง reactive อยู่ดี (ก็ยังดีกว่าละเลย เพิกเฉย ธุระไม่ใช่) หากคนในแต่ละพื้นที่ เข้าใจความเสี่ยงของตัวเอง หาทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้า ก็จะลดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินได้บ้าง ยังพอประทังชีวิตตนและครอบครัวรอความช่วยเหลือไปได้สักระยะ
กรณี #น่านนะซิ ผู้รู้บอกพื้นที่ลาดชัน น้ำจะลดเร็ว… แล้วผู้รู้ก็ผิด และผิดโดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ข้อมูลที่ผิดพลาด มีผลมหาศาลกับการวางแผนช่วยเหลือ
ทีม ThaiFlood ล่วงหน้าไปก่อน และทีมอาสาดุสิตซึ่งตามไปติดๆ ตัดสินใจไม่รอ ไปปร๋ออยู่ที่น่านหลายวันแล้ว เก็บข้อเท็จจริงที่ไม่ต้องตีความ ประสานกับเครือข่ายฮักเมืองน่านในพื้นที่ ตั้งศูนย์กระจายความช่วยเหลือขึ้น ทำเท่าที่ทำได้ แม้แต่ว่าข่าวเบื้องต้นก่อนออกเดินทางจะบอกว่าอาหารมีพอ แต่ระหว่างเดินทาง มีข่าวใหม่ว่าอาหารเกิดหมดขึ้นมาเฉยๆ จะเนื่องจากการตื่นตระหนกและกักตุน หรือเสียหายจากน้ำท่วมก็แล้วแต่ ไม่มีอาหารแล้วผู้คนจะกินอะไรกัน น้ำมันพืชก็ขาดแคลนครับ ยังต้องแวะซื้อและขนไปเต็มรถ
ในขณะนี้ไม่ว่าอะไรจะขาดแคลน (คงมีอีกเยอะ) การส่งของไปโดยไม่รู้ความต้องการที่แท้จริง เป็นภาระหลายต่อนะครับ เราดันไปสนใจตัวเลข ส่งอะไร จำนวนเท่าไหร่ เหมือนหลงอยู่ในวังวนของลัทธิ KPI แต่ไม่ให้ความสำคัญต่อแนวทางหลักการ
ถึงเวลาหรือยังที่จะปรับแนวคิดและมุมมอง ถ้าหากว่าทำแบบเก่ามานานแล้วแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ จะทำได้ก็เพียงบรรเทาแต่ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร ผมว่าน่าจะลองเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำงานนะครับ
แทนที่จะหาคำตอบว่าทำไมจึงเกิดภัย พอรู้แล้วก็ไม่ทำอะไร ควรจะเปลี่ยนคำถามและใช้เวลากับคำถามว่าทำอย่างไรจึงไม่เกิดภัย/รอดจากภัยไม่ว่าจะเกิดจากเหตุใด แล้วลงมือทำตามนั้นจริงๆ น่าจะดีกว่านะครับ
« « Prev : เรือยนต์
Next : น้ำเริ่มลด งานจริงๆ เพิ่มเริ่ม » »
1 ความคิดเห็น
[...] ขอบคุณ : ลานซักล้าง … ใจซักได้ ถ้ารู้ตัว : http://lanpanya.com/wash/archives/2504 [...]