ความเจริญผาสุกเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน
อ่าน: 3929พระราชดำรัส
ในการเสด็จออกมหาสมาคม
ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช ๒๕๓๘
ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
วันอังคาร ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๘ข้าพเจ้ามีความปีติชื่นชมอย่างยิ่ง ที่ท่านทั้งหลายพรั่งพร้อมกันมาอวยพรวันเกิดด้วยไมตรีจิต. ขอขอบพระทัยและขอบใจในคำอวยพรอันไพเราะ เปี่ยมด้วยความปรารถนาดีโดยประการต่างๆ. ขอทุกท่านจงได้รับพรและไมตรีของข้าพเจ้าจากใจจริงเช่นเดียวกัน.
ความเจริญผาสุกและความตั้งมั่นของบ้านเมือง เป็นสิ่งสำคัญสูงสุดที่บุคคลพึงรำลึกถึงและพึงประสงค์. และความเจริญมั่นคงนั้นจะเกิดมีขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อประชาชนในชาติมีความอยู่ดีเป็นปรกติสุข ปราศจากทุกข์ยากเข็ญ. ในระยะนี้ สภาวการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา โดยเฉพาะสภาวะน้ำท่วม ได้ก่อให้เกิดความทุกข์เดือดร้อนแก่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วหน้า. จำเป็นที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันปัดเป่าแก้ไขให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และเมื่อผ่านพ้นภาวะวิกฤตไปแล้ว ก็จะต้องคิดค้นหาวิธีทำการป้องกันแบบถาวรยั่งยืน. ข้าพเจ้าจึงใคร่จะปรารภกับทุกท่านว่า ความทุกข์เดือดร้อนของประชาชนนั้น มิใช่เป็นความรับผิดชอบของผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ที่จะต้องช่วยกันแก้ไขป้องกันโดยเต็มกำลัง และโครงการใหญ่ๆ ที่จัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนนั้น มิใช่จะเสร็จสิ้นในเร็ววันได้ จะต้องมีผู้รับช่วงกระทำต่อให้แล้วเสร็จ. ท่านทั้งหลายในที่นี้ล้วนแต่มีตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญอยู่ในแผ่นดิน จึงควรจะได้ตระหนักในข้อนี้ให้มากและชอบที่กระทำความคิดจิตใจให้กระจ่างแจ่มใส เพื่อลดละอคติและสร้างเสริมความเมตตาสามัคคีในกันและกัน แล้วร่วมกันเร่งรัดปฏิบัติสรรพกิจการงาน ให้ประสานสอดคล้องและปรองดองเกื้อกูลกัน โดยยึดเอาความมั่นคงของประเทศชาติและประโยชน์สุขของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด.
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยทั้งมวลเคารพเลื่อมใส จงอภิบาลรักษาท่านให้มีความสุข ปราศจากทุกข์ปราศจากภัยทุกเมื่อ เพื่อให้มีกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญา ที่จะคิดอ่านปฏิบัติงานของแผ่นดิน นำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นอุปสรรค และบรรลุถึงความผาสุกสวัสดีได้ดังที่ตั้งใจปรารถนาจงทุกประการ.