น้ำเริ่มลด งานจริงๆ เพิ่มเริ่ม

อ่าน: 3330

กรณี #น่านนะซิ เป็นกรณีที่ยาก เมืองน่านไม่ใช่เมืองผ่าน แม้จะเอาของไปบริจาค ก็จะต้องตีรถเปล่ากลับมา ทำให้ค่าขนส่งแพง(มาก)

เมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ที่น่านปี 2549 คราวนั้นใช้พันธุ์ข้าว 16 ตัน ผมโทรไปขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มฮักเมืองน่าน “คราวนี้เสียหายถึง 70 ตำบล เฉพาะตำบลที่ผมอยู่ ก็ต้องการพันธ์ุข้าวน่าจะถึง 4 ตัน” พันธุ์ข้าวที่ปลูกและกินกันในพื้นที่ เป็นพันธุ์ข้าวเหนียวสะเมิง แต่ทางกลุ่มฮักเมืองน่านติดต่อไปทางสะเมิงแล้ว ยังไม่ได้คำตอบ จึงต้องดิ้นรนหาทางอื่น ซึ่งทางกลุ่มได้ทราบจากศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวอุบลราชธานี แนะนำข้าวเหนียวพันธุ์ กข.6 ตรวจสอบต่อ พบว่ามีอยู่ที่ศูนย์ฯ ที่ชุมแพ แต่อาจจะมีเพียง 700 กก. ถึง 1 ตันเท่านั้น — #ArsaDusit เช็คราคาค่าขนส่งอย่างรวดเร็ว ในเบื้องต้น รถบรรทุกจากเชียงใหม่ไปน่านหมื่นสาม แต่จากชุมแพ(ขอนแก่น)ไปน่านแค่เจ็ดพัน หึหึ ค่าครองชีพไม่เหมือนกันมั๊งครับ มีอาสาสมัครจากเชียงรายบอกจะขนให้ฟรี ขออนุโมทนาด้วยนะครับ เรื่องนี้ยังต้องรอความชัดเจนว่าจะมีพันธุ์ข้าวจากเชียงใหม่หรือไม่

ผมติดต่อป้าจุ๋มในลานปัญญาว่ามีทางช่วยเหลือชาวบ้านได้หรือไม่ มีหรือที่เห็นคนเดือดร้อนแล้วป้าจุ๋มจะไม่ช่วย ได้เรื่องอย่างไรแล้วจะติดต่อกลับมา ถ้าให้ก็จะจัดการเรื่องการขนส่งไปยังน่าน ถ้าขายก็จะซื้อครับ (ตอนนี้คงติดต่อกันวุ่นทั่วประเทศ เสาะหาพันธุ์ข้าวที่ต้องการ) ทางกลุ่มฮักเมืองน่านจะติดต่อกลับมาเย็นนี้

มีเรื่องให้แปลกใจอยู่ว่า น้ำท่วมครั้งนี้ น้ำเน่าเร็วมากทั้งที่เป็นต้นน้ำ เมื่อน้ำท่วม มีโรคที่มากับน้ำท่วมตั้งเยอะแยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉี่หนู น้ำกัดเท้า เป็นปัญหาสุขอนามัยตามติดมานอกเหนือจากความเครียด อาสาสมัครที่ลงพื้นที่ ลุยน้ำอยู่ตลอด มีเครื่องป้องกันนิดเดียว แต่ก็ลุยต่อไป

  • ยายังขาดอยู่ แพทย์ก็ขาดแคลน [ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตลอดลำนํ้าน่าน]
  • สภาพน้ำเน่าท่วมขัง ต้องรีบสูบออก บ่อน้ำของชาวบ้าน ก็ต้องสูบน้ำออกแล้วบำบัดด้วยคลอรีน ปั๊มน้ำจากจีน ท่อขนาด 2 นิ้ว เครื่องละสี่พันกว่า
  • ขาดน้ำหมักจุลินทรีย์ (EM) สำหรับปรับปรุงสภาพน้ำ
  • สถานการณ์เปลี่ยนแปลงเร็ว การรู้่ความเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในพื้นที่ที่ทันท่วงที จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ส่งของที่พื้นที่ต้องการไปดีที่สุดครับ พื้นที่แห้งยังพอมี แต่มีอาสาสมัครไม่พอสำหรับการจัดใหม่ เพื่อแจกจ่ายไปยังพื้นที่ประสบภัยที่ต้องการอีกทีหนึ่ง เมื่อของมาลงยังศูนย์กระจายความช่วยเหลือแล้ว ต้องรีบขนลงพื้นที่เลย ดังนั้น จะส่งอะไร สอบถามความจำเป็นให้แน่นอนก่อนนะครับ ให้อาสาสมัครในพื้นที่ได้ใช้เวลากับการช่วยชาวบ้านจริงๆ

ป้าจุ๋มติดต่อเรื่องข้าวให้แล้ว ได้ความว่า (ถ้าฟังผิด ขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียวครับ)

  1. ขณะนี้ เลยฤดูปลูกข้าวเหนียวดอยไปแล้ว ข้าวที่ปลูกตั้งแต่เดือนพฤษภาคมสูงเป็นเมตรแล้ว ดังนั้นเมล็ดพันธุ์อาจจะหายากอยู่สักหน่อย เพราะยังไม่ถึงระยะเก็บเกี่ยว
  2. ข้าวพันธุ์ กข.6 แม้จะเป็นข้าวเหนียว แต่ปลูกกันที่พื้นราบ อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับภูมิประเทศของ จ.น่าน
  3. ในโครงการภูฟ้าพัฒนา จ.น่าน ในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มีคลังเมล็ดพันธุ์(ของกรมการข้าว)อยู่ ในกระบวนการปกติก็จะนำไปช่วยเหลือชาวบ้านอยู่แล้ว พอมีเรื่องอุทกภัยนี้ ป้าจุ๋มคุยกับเพื่อนในกรมการข้าว ทำให้แน่ใจว่าความจำเป็นในพื้นที่นั้นรู้ถึงกรมการข้าวแล้วครับ

เขียนแล้วเครียด ปะคลิปที่น้องชายถ่ายแล้วส่งมาให้ดูก็แล้วกันครับ My name is Albert อัลเบิร์ตเป็นหมาเริงร่าหน้าพัดลม มีนิวาสถานอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว

« « Prev : ปัญหาเก่าๆ กับความคิดเก่าๆ

Next : พระปฐมสิกขาบท » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 June 2011 เวลา 21:33

    ประเทศไทยทั้งประเทศ หาพันธุ์ข้าวช่วยน่าน จังหวัดที่มีพลเมืองเบาบางไม่ได้ ผมว่าขายทอดตลาดมันเลยดีไหม ไอ้ประเทศนี้ ยิ่งในช่วงหาเสียงแบบนี้ หุหุ

    หาไม่ได้จริงๆ ขอจากสปป.ลาวก็ได้นะผมว่า ลาวคงดีใจที่ได้ช่วยไทยมั่ง

    เป็นราชสีห์ไม่ควรลืมหนู (แม้ว่าราชสีห์ที่แบกเสลี่ยงพาฝรั่งชมวิวโล”ภา”ภิวัฒน์ก็ตามทีเถิด)

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 June 2011 เวลา 23:21
    อ้าว เม้นท์ๆไม่มา ไม่เป็นไรครับ ลอกได้
    “ฝากเรื่องข้าวเพิ่มเติมคะ นอกจากพันธุ์ข้าวแล้ว ตอนคุยครั้งสุดท้ายกับพี่สำรวยกลุ่มฮักเมืองน่าน พี่สำรวยบอกว่า อีกสองวันข้าวสารหมดแล้วคะ ^^”
  • #3 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 July 2011 เวลา 0:51

    อยากจะขอทำความเข้าใจกับ#1อาจารย์ withwit สักนิดนะคะ ไม่ใช่ประเทศไทยทั้งประเทศหาพันธุ์ข้าวช่วยชาวนาน่านไม่ได้และไม่มี… แต่ข้าวบางพันธุ์นั้นเป็นพันธุ์เฉพาะถิ่น…จะมีความเหมาะสมสำหรับการปลูกในแต่ละพื้นที่เท่านั้น  พันธุ์ข้าวที่ว่านั้นเป็นพันธุ์ข้าวเหนียวดอย ซึ่งจะนิยมปลูกบนดอยและตามไหล่เขาทั่วไป หรือเรียกว่าข้าวไร่ ซึ่งเป็นข้าวที่คุณภาพดี กลิ่นหอมและอร่อยมากด้วยค่ะ(เรียกว่าคนที่เคยกินข้าวเหนียวดอยแล้วก็ไม่อยากกินข้าวเหนียวอื่นเลย)…

    ดังนั้นเมล็ดพันธุ์จึงมีเฉพาะในกลุ่มที่นิยมปลูกและก็ได้ใช้ไปแล้ว(ส่วนมากชาวนาเขาจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง และไม่ค่อยมีสำรองมากเพราะเขาไม่นิยมเก็บเมล็ดพันธุ์ข้ามปี)

    สำหรับหน่วยราชการที่รับผิดชอบด้านเมล็ดพันธุ์ข้าวดอย เท่าที่ทราบอย่างน้อยมี 2 แห่งคือศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอนและศูนย์วิจัยข้าวเสมิง ซึ่งเป็นแหล่งที่ชาวนานิยมปลูกข้าวดอย

    การปลูกพืชเกือบทุกชนิดส่วนใหญ่ต้องเป็นไปตามฤดูกาล ไม่เช่นนั้นจะไม่ออกดอกออกผล

    ฤดูปลูกของข้าวดอยนี้ก็เช่นกันเขาเริ่มกันเริ่มเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา(คือพอเริ่มมีฝนเขาก็รีบปลูกเลย) ดังนั้นมาถึงตอนนี้ก็ปลูกมาได้เกือบสองเดือนแล้ว เรียกข้าวกำลังงามทีเดียว น่าเห็นใจมากค่ะ อีกไม่นานก็จะได้ผลผลิตแล้ว

    ในขณะนี้แม้หลังน้ำท่วมจะได้รับเมล็ดพันธุ์ไปก็ไม่แน่ว่าจะปลูกและได้ผลผลิต ถ้าหากปลูกตอนนี้เกรงว่าในช่วงที่กำลังจะให้ผลผลิตเป็นปลายฝน…น้ำไม่พอผลผลิตก็จะไม่ได้เช่นกัน

    ทราบมาว่าการช่วยเหลือชาวนานั้นทางการ(หลายหน่วยงาน)ทราบและได้มีการเตรียมการเป็นขั้นเป็นตอนอยู่แล้วค่ะ

    อาจารย์#1 withwit เล่น comment แรงอย่างนี้ คนที่เขากำลังทำงานมาอ่านเจอคงจะเสียใจเหมือนกันนะคะ

  • #4 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 July 2011 เวลา 11:32
    บันทึกนี้ ผมเริ่มเขียนไว้สามย่อหน้าแรกแต่เผยแพร่ออกไปให้อ่านกันก่อน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องระดมความช่วยเหลือด่วนนะครับ แล้วผมก็ไปให้อาหารหมา กินข้าวเย็น และโทรศัพท์อีกมากมาย กว่าจะกลับมาเขียนต่อได้ให้จบ แปะคลิปสุดท้าย ก็มี #1 มาแล้วครับ

    จะทำให้เกิดผล แค่คิดดีไม่พอ ยังมีอะไรที่ต้องทำอีกตั้งเยอะนะครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.6161949634552 sec
Sidebar: 0.38050198554993 sec