พระดินเหนียวสอนอะไร

อ่าน: 3552

ไม่ได้ปั้นดินเหนียวมาสักสี่สิบปีแล้วมั๊งครับ เพราะไม่ได้ฝึกฝนจนชำนาญ พอนำมาปั้นพระเข้าก็มีปัญหา

ที่คิดว่านวดดินจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว (คนขายบอกไม่ต้องนวดเลย เค้านวดมาแล้วด้วยเครื่องจักร แต่ผมก็นวดต่อ) ยังไม่ใช่เรื่องทั้งหมด คนที่ขาดทักษะ มักมองข้ามเนื่องจากไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จริง แต่คิดเอาเองว่าใช่

ดินเหนียวไม่ใช่ดินน้ำมัน ดินเหนียวมีการหดตัว

ผมขึ้นรูปพระโดยแบ่งดินเหนียวออกมาเป็นส่วนๆ ทำเป็นฐาน ขาขวา ขาซ้าย ลำตัว แขนขวา แขกซ้าย ลำคอ หัว แต่ละส่วนบางทีก็มีเดือยสำหรับรับแรง บางทีก็ไม่มี ใช้ดินน้ำมันพอกเอาไว้ให้ดูเป็นเนื้อเดียวกัน ตอนปั้นเสร็จ ดูเรียบร้อยทั้งองค์ครับ

ทีนี้ก็ทิ้งไว้ให้แห้ง ปรากฏว่าแต่ละชิ้น แห้งด้วยอัตราเร็วไม่เท่ากัน ส่วนไหนแห้งก่อน ส่วนนั้นหดตัว อย่างมือของพระ ตอนนี้ ลอยขึ้นจากตัก เพราะแขนแห้งก่อน จึงหดตัวเร็วกว่าส่วนลำตัว ทำให้มือลอยขึ้นจากตัก

คิดดูแล้ว นึกถึงกระบวนการวางแผน ซึ่งมีอยู่ 2 แนว

อ่านต่อ »


เรียงอย่างไร

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 31 March 2010 เวลา 0:15 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 3328

กฏบัตรสหประชาชาติ เริ่มต้นด้วยข้อความว่า

WE THE PEOPLE OF THE UNITED NATIONS DETERMINED to save succeeding generations from the scourge of war, which twice in our lifetime has brought untold sorrow to mankind, and to reaffirm with in fundamental human rights, in the dignity and worth of the human person, in the equal rights of men and women, and of nations large and small, and to establish conditions under which justice and respect for the obligations arising from treaties and other sources of international law can be maintained, and to promote social progress and better standards of life in larger freedom….

อ่านแล้วซึ้ง แต่มีปัญหาใหญ่นะครับ ในย่อหน้านี้ มีวัตถุประสงค์ร่วมอยู่ 4 อย่าง

  1. to save succeeding generations from the scourge of war, which twice in our lifetime has brought untold sorrow to mankind
  2. to reaffirm with in fundamental human rights, in the dignity and worth of the human person, in the equal rights of men and women, and of nations large and small
  3. to establish conditions under which justice and respect for the obligations arising from treaties and other sources of international law can be maintained
  4. to promote social progress and better standards of life in larger freedom

ถ้าทำทั้งหมดได้ ก็ต้องทำทั้งหมด แต่ถ้าเกิดทำทั้งหมดพร้อมกันไม่ได้ จะด้วยข้อจำกัดอะไรก็ตาม ควรจะทำอะไรก่อน ควรจะเรียงลำดับอย่างไร


สถาบันสถาปนา

อ่าน: 4624

ความประทับใจในวัยเด็กลืมยาก ผมอ่านนิยายวิทยาศาสตร์บันลือโลกชุดสถาบันสถาปนา (the Foundation) เล่มแปลของ Isaac Asimov มาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย

Isaac Asimov เริ่มเขียนนิยายนี้ เมื่ออายุ 22 และแต่งงานในปีนั้น ตอนแรกๆ ตีพิมพ์เป็นเรื่องสั้นๆ ในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่สองกำลังดุเดือด — เนื้อเรื่องสนุกดี อ่านแล้วติดจนลืมหนังสือกำลังภายในไปเลยครับ

อ่านต่อ »


ทางรอดของประเทศ : การปฏิรูปประเทศไทย

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 29 March 2010 เวลา 0:17 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 3269

เวลาคิดอะไรไม่ออก ผมก็ดูไปเรื่อยๆ เรียนจากคนอื่น ไม่เห็นต้องรีบตัดสินอะไรเลยครับ

คราวนี้แวะไปเว็บไซต์ของอาจารย์หมอประเวศ ท่านเขียนบทความเรื่อง “ทางรอดของประเทศ : การปฏิรูปประเทศไทย” เอาไว้เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว

ที่ต้องมาพูดกันถึงทางรอดของประเทศ  ก็เพราะมีความรู้สึกกันทั่วๆไปว่า ประเทศไทย วิกฤตสุดๆ ทุกทางและสุดทางไป

สุดทางไปหมายถึง สุดปัญญาที่จะแก้ไข  เมื่อสุดทางไปแล้วก็จะเกิดความรุนแรงขนานใหญ่  จนอาจเป็นมิคสัญญีกลียุค จนผู้คนล้มตายจำนวนมากถึงขนาด แล้วจึงเกิดปัญญาร่วม ตกลงกันได้ว่าเราจะไปสู่จุดลงตัวใหม่ได้อย่างไรนั้น เป็นฉากทัศน์หนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้น แต่เราก็อยากเห็นฉากอื่นที่ดีกว่านั้น  จึงมาพูดกันในวันนี้เรื่องทางรอดของประเทศ การจะเห็นทางรอดก็จะควรทำความเข้าใจว่าวิกฤตอะไร และสาเหตุจากอะไร

มีข้อเสนอปฏิรูปแบบยกเครื่อง (overhaul) อย่างน้อย 10 เรื่องคือ

  1. สร้างจิตสำนึกใหม่
  2. ระบบเศรษฐกิจใหม่-สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่
  3. ความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น
  4. สร้างระบบการศึกษาที่พาชาติออกจากวิกฤติ
  5. ธรรมาภิบาลของการเมือง การปกครอง ระบบยุติธรรม สันติภาพ
  6. ระบบสวัสดิการสังคมที่ก้าวหน้า
  7. ระบบพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่มีดุลยภาพ
  8. การปฏิรูประบบสุขภาพเพื่อสุขภาวะของคนทั้งมวล
  9. การวิจัยยุทธศาสตร์ชาติ
  10. สร้างระบบการสื่อสารที่ผสานการพัฒนาทุกด้าน

ทั้ง 10 เรื่องนี้ ไม่ได้ตั้งใจให้ท่องให้ขึ้นใจหรอกนะครับ แต่ผมคิดว่าเหตุและผล ตลอดจนแนวคิดและที่ไปที่มาของทั้ง 10 เรื่องนี้น่าสนใจ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร และแน่นอนว่าจะไม่สามารถเนรมิตขึ้นมาได้ข้ามวันข้ามคืน

แต่ถ้ามันเป็นปัญหาของเรา จะไปให้ใครแก้ให้ ถ้าสนใจก็อ่านจากที่นี่ครับ

อ่านต่อ »


ปางสมาธิ

5 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 28 March 2010 เวลา 13:19 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 8125

เมื่อคืนเกิดอยู่ดีๆ เกิดเบื่อขึ้นมากระทันหัน หลังจากเขียนบันทึกหลานโสรยาเสร็จ ก็เหลือบไปเห็นดินเหนียวซึ่งซื้อมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเสียที เอามาปั้นพระดีกว่า ว่าแล้วก็ลงมือเลย

ความตั้งใจเดิมจะปั้นพระปางนาคปรก (ครูบาเกิดวันเสาร์) หน้าตักขนาด 12 นิ้วจะเอาไปตั้งไว้ตรงลานไผ่ที่สวนป่า แต่ประมาณฝีมือตัวเองแล้ว รู้สึกจะอาจหาญไปหน่อย เคยปั้นสมัยเด็กๆ แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว เลยเปิดเว็บดูตำราปางพระพุทธรูปต่างๆ เกิดความคิดว่าปางนาคปรกนั้น คือปางสมาธิที่มีนาคมาปรกอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นเริ่มที่ปางสมาธิดีกว่า

ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ปั้นไปปั้นมา กลายเป็นพระปางสมาธิ หน้าตัก 8 นิ้ว

ไม่บรรยายรายละเอียดหรอกนะครับ จะทำก็ทำเลย (เที่ยงคืนแล้ว อย่าลีลามากนัก)

อ่านต่อ »


หลานโสรยา

8 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 28 March 2010 เวลา 0:08 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 6201

ผมคุยกับหลานออย ซึ่งเลี้ยงลูกหมาทั้ง 7 ตัวอยู่ ขอรูปและชื่อลูกหมา ได้มาข้างล่างครับ

ลูกหมาทั้ง 7 ตัวนี้ เป็นหลานของโสรยา โสรยามีลูกชายสาม ลูกสาวหนึ่ง ชื่อ อ้วน ฮาร์ท คล้ำ และมาริลิน ลูกชายก็หัวหกก้นขวิดไปตามเรื่อง บางทีไปบุกป่า บางทีก็ไปรวมกับแก๊งค์เจ้าถิ่น ส่วนลูกสาวปักหลักอยู่กับแม่ที่หน้าบ้านน้องสาวผม

อ่านต่อ »


ไวเกินไป

3 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 27 March 2010 เวลา 15:39 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 2584

โลกสมัยใหม่ อะไรๆ ก็ฉับไว ข่าวสาร การงาน การติดต่อสื่อสาร (ยกเว้นคุยกับแฟน) ปริมาณข้อมูลมากมายล้นทะลัก จนประมวลไม่ทัน งานต่างๆ ก็ทำไม่ทัน แถมจะต้องค้นคว้าเพื่อรู้เรื่องโน้นเรื่องนี้ เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน

ปี 2512 มนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ ก็ยังอุตส่าห์ถ่ายทอดสัญญาณมาไกลแสนไกล ต่อมาในปี 2514 Muhummad Ali ต่อยกับ Joe Frazier เฮอะ ก็ได้ดูอีก ฟุตบอลโลกซึ่งสมัยนี้รีบด่วนจนเรียกว่าบอลโลก ก็เป็นมหกรรมบ้าบอขนาดที่อดหลับอดนอน พักร้อน หรือลาออกเพื่อเฝ้าดูให้ได้ทุกนัด… อะไรจะอินกันได้ขนาดนั้น

สิ่งใดที่อยู่เลยสายตาไป อยู่ไกลเกินได้ยิน ก็เป็นเรื่องที่รับการบอกเล่าทั้งนั้น พึงสังวรณ์เอาไว้ด้วย

สิ่งที่คิดว่าใช่ผ่านการบอกเล่า เคยสอบทานหรือไม่ว่าใช่แน่หรือ


จอมป่วนยุคกรีกชื่อ Socrates

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 26 March 2010 เวลา 20:51 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 6146

Socrates (วิกิพีเดียภาษาไทยเขียน โสกราตีส แต่มีการสะกดชื่ออื่นๆ เช่นโสเครตีส โสคราตีส ฯลฯ) ชาวกรีกซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วง พ.ศ. 73 ถึง พ.ศ. 144 ได้การรับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งปรัชญาตะวันตก

เรื่องราวเกี่ยวกับ Socrates นั้น ปรากฏในงานเขียนของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Plato และท่านอื่นๆ เช่น Xenophon Aristotle และ Aristophanes ซึ่งเมื่อใช้ข้อมูลทุติยภูมิที่แปลมาหลายทอดแบบนี้ ก็ต้องเข้าใจว่ามีการตีความ และอาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด!

อย่างไรก็ตาม พอประมวลได้ว่า Socrates ชอบพูดคุยกับนักปรัชญา นักปราชญ์ และคนสำคัญของกรีกท่านอื่นๆ; Plato เรียก Socrates ว่าจอมป่วน (Gadfly) ผู้ซึ่งไม่เคยเหนื่อยหน่ายที่จะถามคำถามจนผู้คนจนปัญญา (แน่ล่ะ ใครจะชอบ)

ตามหนังสือ Apology ของ Plato ความเป็นจอมป่วนของ Socrates เริ่มต้นเมื่อ Chaerephon เพื่อนของ Socrates ถามเทพยากร (the Oracle ในวิหาร Apollo ที่หมู่บ้าน Delphi) ว่ามีใคร “ฉลาด” กว่า Socrates ไหม เทพยากรตอบว่า “ไม่มี”

ตัว Socrates เองกลับไม่ได้ปลื้มเลย เขาคิดว่าคำตอบของเทพยากรเป็น Paradox (สิ่งที่ดูเหมือนใช่ กลับไม่ใช่; สิ่งที่ดูเหมือนไม่ใช่ กลับใช่) เพราะว่าเขาไม่ได้รู้สึกเลยว่า “รู้” อะไร ดังนั้นเขาก็จึงเริ่มถามอำมาตย์ในเอเธนส์ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบุรุษ+นักการเมือง กวี ช่างฝีมือ ฯลฯ เพื่อที่จะแย้งคำของเทพยากร อนึ่ง Socrates ไม่นับถือเทพกรีกและไม่มีศาสนา

อ่านต่อ »


ฉลาด…ได้อีก!

อ่าน: 4440

เมื่่อเย็นวาน ครูบาหอบเอาพืชผักสดมาฝากจากสวนป่าหนึ่งลัง แล้วตามตัวไปเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสที่ลาออก กราบขอบพระคุณด้วยครับ ที่จริงเรื่องนี้เป็นการก้าวไปตามจังหวะชีวิต ไม่มีความจำเป็นจะต้องฉลองเลย แต่ผมรู้ว่าผักของสวนป่าสด สะอาด และอร่อยมาก จึงไม่ควรจะลีลามากนัก คาดว่าครูบาคงมีเรื่องอยากคุยด้วย ก็เลยไป ปรากฏว่ามีของแถมเป็นหนังสือ “ฉลาด…ได้อีก!” ของ ดร.วรภัทร์​ ภู่เจริญ กำลังอยากอ่านอยู่พอดี

กลับถึงบ้านอ่านทันที และอ่านจบเมื่อคืนนี้ (คงต้องอ่านอีกหลายรอบ) อยากจะแนะนำคนคอเดียวกันให้ลองหามาอ่านบ้าง เชื่อว่าท่านจะต้องชอบแน่

ข้อมูลจากสำนักพิมพ์

ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม - 6 เมษายน 2553 งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาตสิริกิติ์ อ.วรภัทร์บอกจะแวะไปที่บูธ N42 โซน C บจก.อริยชน ในวันเสาร์และอาทิตย์ ใครผ่านไปแถวนั้น อย่าพลาดของดีก็แล้วกันครับ

อ่านต่อ »


ลมบก-ลมทะเล กับทฤษฎี Biotic Pump

อ่าน: 5863

ทฤษฎี Biotic Pump เริ่มต้นที่ต้นไม้บริเวณชายฝั่ง จะเหนี่ยวนำให้เกิดฝนตกบนฝั่ง เนื่องจากลมทะเลพัดพาเอาความชุ่มชื้นเข้ามาบนฝั่ง แต่หากไม่มีต้นไม้ชายฝั่ง แทนที่จะเกิดลมทะเลพัดพาเอาความชื้นเข้าฝั่งในตอนกลางวัน ลมกลับพัดในอีกทิศหนึ่งหอบเอาความชุ่มชื้นจากฝั่งลงไปในทะเลแทน

ดังนั้นหากมีป่าเป็นพื้นที่ติดกัน ก็จะนำความชุ่มชื้นจากทะเลเข้ามาสู่แผ่นดินลึกได้

(ทฤษฎีนี้เกิดในรัสเซีย แผนที่เขาเสนอในเอกสารทางวิชาการท้ายบันทึก แสดงแนวคิดในระดับทวีป)

ทฤษฎีนี้ไม่ใช่ว่าจะได้รับการยอมรับเสียทีเดียว มีนักอุตุนิยมวิทยาแย้งว่าขัดกับฟิสิกส์ของบรรยากาศ อย่างไรก็ตาม วารสาร New Scientist ก็ตีพิมพ์เรื่องนี้เมื่อปีที่แล้ว

จากการศึกษาไอน้ำในอากาศด้วยไมโครเวฟจากดาวเทียม โลกร้อนทำให้เกิดปริมาณไอน้ำเหนือทะเลมาก

ไอน้ำในอากาศ กรอง(และเก็บ)พลังงานแสงอาทิตย์เอาไว้ จึงมีผลเหมือนก๊าซโลกร้อนอื่นๆ เช่นกัน เมื่อมีปริมาณไอน้ำในอากาศมากขึ้น ก็ทำให้โลกร้อนมากขึ้น เป็นการป้อนกลับแบบบวก

สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนมากที่สุด คือนำไอน้ำในบรรยากาศไปสร้างเมฆ บังคับให้เมฆกลั่นตัวเป็นฝน เพิ่มปริมาณน้ำจืด และอุณหภูมิเย็นลงบ้าง



Main: 0.06025505065918 sec
Sidebar: 0.31643390655518 sec