ธรรมาธิปไตยไม่มา จึงหาประชาธิปไตยไม่เจอ
อ่าน: 5047“ธรรมาธิปไตยไม่มา จึงหาประชาธิปไตยไม่เจอ (จุดบรรจบ: รัฐศาสตร์ กับ นิติศาสตร์)” เป็นหนังสือที่บันทึกแง่คิด มุมมอง ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ที่เมตตาตอบศิษยานุศิษย์เมื่อต้นปี 2549
ผมนำหนังสือเล่มนี้ มาให้อ่านกันอีกครั้งหนึ่ง แต่อยากขอร้องท่านผู้อ่าน ว่าอย่าด่วนสรุปอะไรก่อนจะอ่านจบ เพราะว่าความฉาบฉวย คิดเอาง่ายๆ ความยึดมั่นถือมั่น อัตตา อคติ การติดกับรูปแบบมากกว่าเนื้อหา ได้ทำร้ายสังคมไทยซ้ำแล้วซ้ำอีก
หนังสือนี้ลึกซึ้งแต่ไม่ซับซ้อน และไม่ใช่เรื่องเฉพาะกาลที่นำมาเพื่อตำหนิฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่อยากให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณาเรื่องราวจากหลายๆ มุมมอง อย่าตัดสินอะไรโดยที่ไม่เข้าใจบริบทของเรื่องทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองจากอีกฝั่งหนึ่ง
คำปรารภ
คนไม่น้อย พูดกันบ่อยว่า ให้เอาวิกฤตเป็นโอกาส แต่เมื่อเกิดวิกฤตขึ้นจริง ก็มักลืมคตินี้ไป หาได้ประโยชน์จากวิกฤตนั้นไม่
หลักพระพุทธศาสนาสอนว่า บรรดาการสูญเสียทั้งหลาย การสูญเสียที่เลวร้ายที่สุด คือการสูญเสียทางปัญญา และในทางตรงข้าม บรรดาการได้เพิ่มขึ้นมา การได้เพิ่มขึ้นซึ่งปัญญา เป็นการได้ที่เลิศสุด (เอตทคฺคํ ภิกฺขเว วุฑฺฒีนํ ยทิทํ ปญฺญาวุฑฺฒิ - องฺ.เอก.๒๐/๓๗/๑๗)
โดยนัยนี้ บรรดาประโยชน์ทั้งหลายที่จะได้จากโอกาสแห่งวิกฤตไม่มีประโยชน์ใดยิ่งใหญ่กว่าการได้ปัญญา
สภาพวิกฤตนั้นเองเป็นโอกาสอันเยี่ยม ซึ่งมีข้อมูลและแบบฝึกหัดมากมายในการเรียนรู้ให้เจริญปัญญา และปัญญาที่เกิดจากการเรียนรู้นั้น แม้อาจจะมิต้องใช้ประโยชน์ในยามวิกฤตเอง ก็มีความสำคัญยิ่งกว่านั้นที่จะเป็นประโยชน์ยั่งยืนนานในกาลระยะยาวเบื้องหน้า
ไม่ว่าคนจะได้ประโยชน์อื่นใดหรือไม่ หรือแม้จะเกิดการสูญเสียใดๆ เมื่อรู้จักคิดพิจารณา มนุษย์ย่อมอาจถือเอาประโยชน์ทางปัญญาได้ทุกโอกาส
เพื่อประโยชน์ทางปัญญาดังว่านี้ จึงร่วมใจให้มีการพิมพ์หนังสือนี้ขึ้นมา
หลังจากมีผู้ศรัทธามากท่านขอพิมพ์หนังสือนี้เมื่อสิบวันก่อน ได้ทราบว่าหนังสือหมดไปอย่างรวดเร็ว หลายท่านขอพิมพ์ครั้งใหม่ จึงถือโอกาสเพิ่มเติมเล็กน้อยสำหรับการพิมพ์ครั้งปัจจุบัน อันเป็นวาระที่ ๒
ในโอกาสนี้ ขอร่วมตั้งใจปรารถนาดี ให้ทุกท่านตั้งอยู่ในธรรม และประสบประโยชน์สุขจากการดำ เนินตามธรรม และให้ผู้ร่วมสังคมเห็นทางนำประเทศชาติให้ดำ เนินสู่ความสงบสุขโดยธรรม
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)
๒๒ มีนาคม ๒๕๔๙
« « Prev : มหาสมุทรแห่งความอยาก
2 ความคิดเห็น
เมื่อไม่มีธรรม ความชอบธรรมไม่ต้องไปค้นหา มันน่าสลดใจ เหมือนการเรียนการสอน สอนแบบแห้งในวงการศึกษาของภาครัฐ ลองดูการสอนด้วยการลงมือปฏิบัติจริง มันต่างกันชนิดที่เทียบชั้นไม่ได้เลย ที่มีข้อเท็จจริง มีการชี้ปัจจัยของเหตุ การแก้ไขที่เหตุ อย่างเป็นระบบระเบียบ ที่มาจากท่านผู้ปฏิบัติจริงรู้จริง ไม่ใช่นักวิชาการ ที่ไม่ได้นำข้อมูลทุกด้านมาพิจารณา ฟังก็ไม่ได้ฟังความให้ครบถ้วน ด่วนเสนอความคิดเห็นที่น่าขายหน้าที่สุดแถมยังไม่รู้ตัวอีกตะหาก ใครเป็นลูกศิษย์คงต้องอายแทน ที่น่าเสียใจที่ปล่อยให้เวลาอันมีค่าผ่านไปโดยไม่ได้แก้ไข ปล่อยให้คนไร้คุณธรรมส่วนหนึ่งสร้างความอยุติธรรมเกิดขึ้น อย่างไร้สติและมองไม่เห็นความอกัญญูต่อประเทศชาติของตัวเอง
เผอิญผมนั่งดูรายการเดียวกัน (รู้เพราะคุยกับอาจารย์ Lin Hui อยู่) ฟังแล้วก็อึ้งเหมือนกันครับ แต่ว่าผมไม่รู้จักนักวิชาการท่านนั้น จึงไม่ได้คาดหวังอะไร
ถ้านักศึกษาเรียนรู้เป็น (กาลามสูตร) นักศึกษาก็อาจจะเป็นอภิชาติศิษย์ได้ครับ ถ้าการเรียนเป็นได้เพียงการรับรู้เพื่อตอบข้อสอบให้ได้ตรงใจผู้ออกข้อสอบ อย่างดีที่สุดนักศึกษาก็เป็นได้เพียงเสมอกับผู้ถ่ายทอดเท่านั้น
เว้นวิจารณ์ว่างเว้น สดับฟัง
เว้นที่ถามอันยัง ไป่รู้
เว้นที่เล่าลิขิตสัง เกตว่าง เว้นนา
เว้นดั่งกล่าวว่าผู้ ปราชญ์ได้ฤๅมี
ขอเชิญต่อที่คุณธรรมกับวิชาการครับ