สารคดีแม่น้ำโขง

โดย Logos เมื่อ 20 May 2009 เวลา 0:56 ในหมวดหมู่ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย #
อ่าน: 6070

ก็เพียงแต่อยากให้กำลังใจทีมงานที่ทำสารคดีเรื่องนี้ครับ ออกอากาศทาง MCOT TV (ช่อง 9 อ.ส.ม.ท.)

http://www.mekongstory.com/

ผมคิดว่าเลือกโจทย์ได้น่าสนใจมากๆ แล้วก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจจริงครับ

แต่ว่าทีม production กับทีม research เล็กไป — เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะใช้กล้องถ่ายวิดีโอตัวเล็ก ถือเดินถ่ายกันไปเรื่อยๆ บทพูดสดๆ ให้ความรู้สึกเหมือนโฮมวิดีโอ ถ่ายเวลาไปเที่ยวกันสองคน (ผลัดกันเก็บภาพ) กับไกด์คนหนึ่ง หาข้อมูลกันสดๆ — แต่เมื่อเทียบกับสารคดีของ Panorama Documentary แล้ว เป็นคนละอารมณ์กัน

อย่างไรก็ตาม สารคดีเรื่องนี้ เปิดให้เห็นความจริงว่าคนเราสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว และเรียนรู้/หาคำตอบได้ตลอดเวลา หากทำอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ ก็จะพอกพูนความรู้/ประสบการณ์ ข้อความนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดที่สารคดี แม่น้ำโขง สายน้ำพยศ มอบให้กับผู้ชมครับ

การทำสารคดีแบบนี้ น่าจะส่งเสริมให้ได้ทำกันตั้งแต่ในระดับโรงเรียนเลย อาจจะช่วยให้นักเรียนหันมาเรียนรู้เกี่ยวกับชุมชนรอบตัว มากกว่าจะมุ่งสอบ แข่งขัน ฟุ้งเฟ้อ เล่นเกมส์ ฯลฯ — ซึ่งสังคมไทย มี “ช่วงคนเสีย” เป็นช่วงยาวหลายสิบปีแล้วครับ เมื่อคนเหล่านี้มีลูก เฮ้อ ไม่อยากคิดเลย…

« « Prev : สรุปทริปเบิกโรงวัดพระบาทห้วยต้ม อ.ลี้ ลำพูน

Next : สงครามหมู » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 May 2009 เวลา 7:49

    “สังคมไทย มี “ช่วงคนเสีย” เป็นช่วงยาวหลายสิบปีแล้วครับ เมื่อคนเหล่านี้มีลูก เฮ้อ ไม่อยากคิดเลย…”

    คนเหล่านี้มีลูกแล้วค่ะ..คนเป็นครู..ไม่อยากคิดก็ต้องคิด 
    ก็เลยทำไปคิดไป.. งานของครูมีอยู่เรื่อยๆ   ทำอย่างไรเมื่อไม่มีกำลังพอที่จะหนีออกจากระบบเดิมไปสร้างระบบใหม่
    ก็ต้องหาช่องทางปรับเปลี่ยน เรียนรู้จะพัฒนาไปตามกำลังที่ทำได้

    เป็นงานใหญ่จริงๆ  ต้องค่อยๆ ปรับทั้งครูและเด็ก
    ครูรุ่นเก่า มีจิตวิญญาณ  แต่วิธีการบางอย่างอาจไม่ทันเด็ก
    ครูรุ่นใหม่ก็เป็นผลผลิตจากสังคม ช่วงคนเริ่มเสีย หรือ เสียแล้ว  ต้องค่อยปรับเปลี่ยนวิธีคิด

    เรื่องของเด็กและผู้ปกครองมีมาให้แก้ไข และ บางทีทดสอบสติทุกวัน
    วัฒนธรรมสะดวกซื้อ  ทำให้ต้องลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ตอนสี่ทุ่ม เพื่อจะตอบคำถามว่า ครูคะ พรุ่งนี้จะให้น้องสวมชุดยุวกาชาดหรือชุดนักเรียน
    หรือแม้แต่วันหยุด  ก็ต้องเจอคำถามที่ต้องใช้ข้อมูลรายละเอียดตอบ  แถมถูกดุอีกว่า อะไร..ทำไมไม่มีครูเวรไว้ตอบคำถามในวันหยุด
    (เสียสติไปบ้าง..เมื่อนึกในใจว่า..ครูเวรก็ต้องการพักบ้างเฟ้ย..)

    มีงานที่ทดลองเรียนรู้อย่างไม่เป็นทางการอยู่กันเองในโรงเรียน
    บางทีก็มาหาความคิดจากลานนี้บ่อยๆ  ขอบคุณที่เขียนให้อ่านค่ะ..
    ^_____^

  • #2 พิภพ พานิชภักดิ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 May 2009 เวลา 9:27

    ขอขอบคุณครับที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะตามความตั้งใจของผู้ผลิตสารคดีชุดนี้ เราอยากจะแสดงให้เห็นว่า ความรู้เป็นสิ่งที่ประกอบขึ้นมาตามมุมมองในยุคต่าง ๆ และมักจะรวมศูนย์ ซึ่งแท้ที่จริงความรู้กระจายตัวอยู่ในบุคคลน้อยใหญ่ที่อยู่รอบตัวเช่นกัน ความสามารถในการเปรียบเทียบ ตีความ และ ตรึกตรอง จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนในยุคที่เรามีข้อมูลล้นเหลือ

    เราใช้เครื่องมือเล็ก ๆ ระดับท้องตลาด เพื่อยืนยันว่า นักข่าวพลเมือง มีศักยภาพเพียงพอที่จะเสาะแสวงหาความรู้และถ่ายทอดเรื่องราว การหาข้อมูลเบื้องต้นของเราได้ใช้แนวคิดในทางสหวิทยาการ และ ใช้ การค้นจาก internet โดยไม่ได้หาความรู้เฉพาะแต่สถาบันการศึกษาหรือนักวิชาการกระแสหลัก แต่จาก bloggers และ การแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นา ๆ บน พื้นที่ไซเบอร์ ที่สำคัญที่สุด เราไม่ได้กล่าวอ้างว่าความรู้ของเราเป็นความรู้ที่บริสุทธิ์ ปราศจากข้อโต้เถียง หรือ มีความเบ็ดเสร็จ

    ไม่ใช่เฉพาะแต่เด็กนักเรียน แต่บุคคลทั่วไปได้หากได้รับแรงบันดาลใจและเริ่มผลิต บทสนทนาเหล่านี้ โดยใช้เครื่องมือที่มีอยู่ และ ความเป็นจริงรอบตัว ก็จะถือเป็นความสำเร็จของผู้ผลิต ที่หวังว่าคนส่วนใหญ่คงไม่ต้องเป็นแต่เพียงผู้ชม แต่เป็นผู้ที่เก็บเกี่ยว สร้าง และ กระจายความรู้ได้เช่นกัน ขอขอบคุณที่เห็นถึงประเด็นนี้ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจของสารคดีชุดนี้….พิภพ พานิชภักดิ์/ผู้กำกับสารคดี แม่โขง สายน้ำพยศ

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 May 2009 เวลา 10:02

    จ๊าบส์ อีกแล้ว อิอิ

  • #4 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 May 2009 เวลา 10:45

    ผมและคนข้างกายชอบชุดนี้มาก แต่ก็ตามดูได้ไม่ครบยังคิดจะซื้อมาดูหากมี vcd ขาย เดี๋ยวนี้การทำสารคดี พัฒนาไปมาก สร้างประเด็นและให้สาระที่คมมากขึ้น จริงๆเอามาเปิดให้คนทุกระดับดูแล้วตั้งคพถามถกกันก็มีสาระมากทีเดียว

  • #5 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 May 2009 เวลา 14:39
    ขอบคุณทุกท่านนะครับ ผมแปลกใจกับคุณพิภพ #2 เป็นพิเศษ ว่ามาได้ยังไงเนี่ยเร็วจัง ฮาๆๆๆๆ

    แต่ก็เป็นเรื่องที่เห็นชัดอีกเรื่องหนึ่ง ว่ามีสื่ออย่างน้อยกลุ่มหนึ่ง ได้ปรับตัว ปรับทัศนคติอย่างจริงจัง จากการสื่อสารทางเดียว ไปสู่ปฏิสัมพันธ์แบบเท่าเทียมแล้วครับ

    อ้อ ในเว็บไซต์ที่ให้ไว้ในบันทึก มีวิดีโอตอนเก่าๆ ให้ชมนะครับ ใครจะย้อนดูก็ดูได้

  • #6 พิภพ พานิชภักดิ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 May 2009 เวลา 0:43

    แว๊ะ เข้ามาอีกครั้งครับ ผมเลย เอา link เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการผลิตความรู้ และ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับแวดวงสื่อมวลชน

    http://lofihistyle.com/2009/05/the-future-of-journalism-in-the-age-of-youtube/

    หากใครได้ชม สารคดี แม่โขง สายน้ำพยศ จะเห็นช่วงที่คุก S-21 ใช้การถ่ายทำด้วยกล้องคล้าย ๆ กล้อง มือถือล้วน ๆ เรียกว่า Flip ( http://www.theflip.com/) ซึ่ง ถึงแม้นคุณภาพจะไม่เทียบเท่ากับกล้องขนาดที่โตขึ้่นมาหน่อย แต่ก็เป็นการยืนยันความเป็นไปได้ของการใช้กล้องในราคาไม่ถึงหมื่นบาทในการผลิตรายการสารคดีครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.63725399971008 sec
Sidebar: 0.44178605079651 sec