ประชุมเครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ภาคประชาชน
ไม่ได้เขียนบันทึกเสียหลายวันเนื่องจากร่างกายไม่พร้อมที่จะนั่งเขียนนานๆ นะครับ
แต่วันนี้ เริ่มออกไปแรดได้ โดยไปร่วมประชุมเครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ภาคประชาชน อาการตอนเช้ายังไม่ค่อยดี เลยนอนต่อ ตื่นมาอีกที ตายล่ะหว่า เลยเวลานัดแล้ว ก็ต้องรีบแจ้นออกไปประชุมโดยไม่กินข้าวปลา
ไปถึงที่ประชุม กำลังแจก pizza กันอยู่ มี agenda วางอยู่บนโต๊ะ แต่ยังไม่ได้คุยกันอย่างจริงจัง(มั๊ง) พอนั่งได้สักครู่ก็เริ่มเปิดประชุมครับ เสร็จแล้วโยนไมค์มาที่ผม…เอิ๊ก ซึ่งก็ได้ใช้เวลาพูดถึงการวางแผนด้วยสถานการณ์ (scenario planning: คอมพิวเตอร์แปลเป็นไทย หรือ ไม่แปล) กระบวนการแบบนี้ จะช่วยจัดการความยุ่งยากซับซ้อนลงได้มากจนพอเห็นภาพใหญ่ ว่ามีอะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง และในแต่ละกรณีควรจะเตรียมตัวอย่างไร
อันนี้ตรงกับงานของมูลนิธิที่ทำอยู่ คือการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งไม่ได้เน้นหนักที่การบรรเทาทุกข์ แต่เป็นการจัดการกับความเสี่ยงต่างๆ ล่วงหน้า ลดผลกระทบอันอาจจะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด เมื่อเกิดภัยแล้ว ถึงยังไงก็เสียหายไม่ว่าจะบรรเทาทุกข์ได้เร็วเพียงใด งานป้องกันจึงมีความสำคัญมาก (และถูกมองข้ามมากเช่นกัน)
ผมไม่ได้หวังให้ผู้ร่วมประชุมเชื่อหรือทำตามหรอกครับ แค่ฉุกคิด ปรับปรุง หรือทำในสิ่งที่ดีกว่า ก็ดีใจแล้ว… เอ่อ…จะเขียนเล่าทั้งหมดก็ไม่ไหว นั่งแล้วยังโงนเงนอยู่บ้าง ขอจบดื้อๆ แค่นี้ครับ
อย่างไรก็ตาม ผมได้อัญเชิญพระบรมราโชวาทที่พระราชทานมาในปีที่ผมเรียนจบ มาฝากไว้ในห้องประชุมให้เป็นแง่คิด (ข้อความนำมาจากบันทึกเก่าซึ่งเขียนไว้หลายปีแล้ว)