คาถาธรรมบท พุทธวรรค
อ่าน: 3437วันนี้เป็นวันมาฆบูชา ซึ่ง 9 เดือนหลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ได้ตรัสโอวาทปาฏิโมกข์ ประทานแก่พระอรหันต์ที่ทรงเอหิภิกขุอุปสัมปทาจำนวน 1,250 รูป ซึ่งไปเฝ้าโดยพร้อมเพรียงกันในคืนวันเพ็ญ เดือนสาม 44 ปีกับอีก 3 เดือนก่อนพุทธศักราช
ผมค้นพระไตรปิฎกดูว่าอยู่ตรงไหน ก็พบอยู่ในธรรมบท พุทธวรรคที่ 14 ข้อ [24] ดังนี้ครับ (ขออภัยอย่างยิ่งหากท่านไม่ชอบบาลี ผมนำมาจากพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐทั้งบาลีและไทย แต่สำหรับนักศึกษาแล้ว เชื่อว่าพอแกะ+เปรียบเทียบได้ครับ)
สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธาน สาสนํ ฯ ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโต ฯ อนูปวาโท อนูปฆาโต ปาติโมกฺเข จ สํวโร มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ ปนฺตญฺจ สยนาสนํ อธิจิตฺเต จ อาโยโค เอตํ พุทฺธาน สาสนํ ฯ |
ความไม่ทำบาปทั้งปวง ความบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม ความชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้ว นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ฯ ความอดทน คือ ความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง ท่านผู้รู้ทั้งหลายย่อมกล่าวนิพพานว่าเป็นธรรมอย่างยิ่ง ผู้ฆ่าสัตว์อื่นไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต ผู้เบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย ฯ การไม่เข้าไปว่าร้ายกัน ๑ การไม่เข้าไปฆ่า ๑ ความสำรวมในพระปาติโมกข์ ๑ ความเป็นผู้รู้จักประมาณในภัต(ตาหาร) ๑ การนอนการนั่งอันสงัด ๑ การประกอบความเพียรในอธิจิต ๑ นี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ฯ |
กล่าวกันว่าโอวาทปาฏิโมกข์นี้ เป็นแก่นของศาสนาพุทธ เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ที่ประชุมสงฆ์ถึง 20 พรรษาติดต่อกัน ก่อนที่จะทรงให้สวดปาฏิโมกข์กันต่อมา
ทีนี้ เกิดมีข้อความคล้ายกันปรากฏอีกใน มหาวรรค ข้อ [54] แต่ข้อความนี้ กล่าวถึงพระพุทธเจ้าวิปัสสีครับ
[๕๔] ตตฺร สุทํ ภิกฺขเว วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภิกฺขุสงฺเฆ เอวํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสฺสติ ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโต ฯ สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานสาสนํ ฯ อนูปวาโท อนูปฆาโต ปาติโมกฺเข จ สํวโร มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ ปนฺตญฺจ สยนาสนํ อธิจิตฺเต จ อาโยโค เอตํ พุทฺธานสาสนนฺติ ฯ |
[๕๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธ เจ้าพระนามว่าวิปัสสี ทรงสวดพระปาติโมกข์ในที่ประชุมพระภิกษุสงฆ์ดังนี้ ขันติคือความทนทานเป็นตบะอย่างยิ่ง พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสว่า พระนิพพานเป็นธรรมอย่างยิ่ง ผู้ทำร้ายผู้อื่นผู้เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย ฯ การไม่ทำบาปทั้งสิ้น การยังกุศลให้ถึงพร้อม การทำจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ฯ การไม่กล่าวร้าย ๑ การไม่ทำร้าย ๑ ความสำรวมในพระปาติโมกข์ ๑ ความเป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหาร ๑ ที่นอนที่นั่งอันสงัด ๑ การประกอบความเพียรในอธิจิต ๑ หกอย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ฯ |
« « Prev : ถุงยังชีพ
Next : สมานใจด้วยความดี ปลูกไมตรีในผองชน » »
1 ความคิดเห็น