กระถางที่ไม่ต้องรดน้ำ

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 16 February 2011 เวลา 0:46 ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้, สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 12959

กระถางนี้ เป็นการเอาวัสดุเหลือใช้มาทำเล่น เชื่อว่าไม่มีน้ำเหลือเกินกว่าที่จะเป็นต้องใช้

เริ่มต้นที่ขวดพลาสติกเหลือใช้ครับ

เป็นขวดเป็ปซี่แม็กซ์ขนาด 1.25 ลิตร ซึ่งหมดแล้ว ขวดนี้มีลักษณะพิเศษคือตรงฉลากสีดำๆ แคบกว่าส่วนหัวและส่วนก้นขวด ซึ่งมีลักษณะป่องออกเล็กน้อย

เอาคัตเตอร์ มีด หรือกรรไกรตัดตรงของของฉลากพลาสติกทั้งด้านบนและล่าง ก็จะได้พลาสติกสามส่วน

อ่านต่อ »


ภาษาเป็นหน้าต่างมองธรรมชาติของมนุษย์

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 15 February 2011 เวลา 0:10 ในหมวดหมู่ ภาษา วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ #
อ่าน: 3294

ภาษาที่อ้อมไปอ้อมมา ทั้งที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้ความหมายนั้น บางทีเรียกมรรยาท บางทีก็เป็นส่วนของวัฒนธรรม บางทีเป็นความดัดจริต ลีลา หรืออะไรก็แล้วแต่… มันไม่สำคัญเท่ากับว่าทำให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันหรือไม่หรอกครับ

อ่านต่อ »


ปลูกผักในกระถางเพื่อการรีไซเคิลน้ำ

อ่าน: 5906

พืชผักที่เป็นอาหารมักเป็นพืชล้มลุก — ในเมื่อเป็นพืชล้มลุก รากก็ไม่ไชลงลึก แต่มักเป็นรากฝอยอยู่บริเวณผิวดิน แต่เพราะว่ารากแผ่อยู่ตื้น จึงหาน้ำได้น้อย ประกอบกับแดดเผาผิวดิน พืชผักจึงต้องการน้ำมากพอสมควร จึงจะเติบโต

เราเอาผักมาปลูกในกระถางก็ได้ น้ำส่วนเกินที่รดให้แก่ผัก ซึ่งซึมลงเกินความลึกของราก สามารถนำกลับมารดใหม่ผ่านทางรูก้นกระถางได้ แต่ว่ามูลค่ากระถาง ก็ดูจะไม่คุ้มราคาผักอยู่แล้ว

บันทึกนี้เสนอความคิดบ้าบอ ให้เอาแผ่นพลาสติก (มีขนาด 48- 54- และ 72 นิ้ว; ยาว 40 50 และ 60 หลา) — ยกตัวอย่างเช่น ขนาดกว้าง 4.5 ฟุต ยาว 120 ฟุต ราคา 110 บาท — แขวนปลายตามแนวยาว เป็นรางที่มีหน้าตัดเป็นรูปตัว V เอาดินใส่ตรงกลางเพื่อปลูกผัก ในที่สุด น้ำที่รดลงในราง จะไหลไปรวมกันที่ก้นตัว V ซึ่งถ้าเอียงเล็กน้อย เราก็ไปดักน้ำที่ปลาย แล้วนำน้ำมารดผักใหม่ได้

อ่านต่อ »


เมืองใหญ่กับแหล่งสำรองน้ำจืด

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 13 February 2011 เวลา 0:22 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 6198

ที่ไหนๆ ในโลก ก็ใช้น้ำผิวดิน เนื่องจากสะดวกในการนำมาใช้

แต่ว่าน้ำผิวดินทั้งโลกนั้น คิดเป็นเพียง 0.9% ของปริมาณน้ำจืดที่มีอยู่ — 30.1% ปริมาณน้ำจืดเป็นน้ำใต้ดิน ส่วนที่เหลือยังอยู่ในรูปน้ำแข็งและธารน้ำแข็งซึ่งบ้านเราไม่มี

เขตเมืองนั้น มีอาคารสิ่งปลูกสร้าง+ถนนหนทางปกคลุมดินอยู่เป็นพื้นที่กว้าง การพัฒนาแบบนี้สร้างปัญหาคือไม่มีการเติมน้ำใต้ดิน ปริมาณน้ำสำรองที่อยู่ใต้ดินก็ลดลงตามกาลเวลา เมื่อระดับน้ำใต้ดินลดลง แผ่นดินก็จะทรุดลงด้วย พอน้ำหลากมา ก็รีบสูบทิ้งไปให้เร็วที่สุด ดินก็ยิ่งทรุดเร็ว

เมืองไทยมีปริมาณฝนตกเฉลี่ยกว่าปีละ 1600 มม. ถ้าคูณด้วยพื้นที่แผ่นดินของประเทศ ปริมาณน้ำฝนจะเป็นกว่า 8 เท่าของความจุเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศรวมกัน ดังนั้นเราควรจะมีน้ำเพียงพอ แต่ที่ไม่พอเป็นเพราะเราปล่อยน้ำทิ้งไปเฉยๆ

เทศบาล 170 แห่ง (ไม่รวมกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเทศบาลเต็มพื้นที่จังหวัด) แค่ดูจำนวนประชากรในเขตเทศบาล คูณด้วยน้ำจืด 15 ลิตรต่อคนต่อวัน แล้วเทียบกับแหล่งน้ำจืดสำรอง แล้วก็น่าตกใจครับ ถ้าโชคไม่ดีที่ไม่มีเขื่อน/อ่างเก็บน้ำอยู่ใกล้ๆ อาศัยแม่น้ำ ลำธาร และน้ำบาดาล จะอยู่กันไปได้สักกี่วัน??? ถ้าแม่น้ำมีน้ำลดลง จะอยู่กันได้สักกี่วัน

อ่านต่อ »


โจดี้ วิลเลียมส์ พูดเรื่องสังคมสันติสุข

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 12 February 2011 เวลา 0:14 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 3274

โจดี้ วิลเลียมส์ เป็นสตรีผู้ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพเมื่อปี 2540 เมื่อเธอทำเรื่องแคมเปญห้ามการใช้ทุ่นระเบิดครับ

เธอพูดอะไรหลายอย่างที่ TEDwomen ในปลายปีที่แล้ว แต่ข้อสรุปนั้น ชี้ไปที่ การเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมสันติสุขเกิดจากการกระทำไปทางนั้นทุกคน

… But it was the actions together of all of us that brought about that change. In my view, what we need today is people getting up and taking action to reclaim the meaning of peace. It’s not a dirty word. It’s hard work every single day. And if each of us who cares about the different things we care about got up off out butts and volunteered as much time as we could, we would change this world - we would save this world. And we can’t wait for the other guy, we have to do it ourselves. Thank you.


ระบบตามหาคน

อ่าน: 4284

ประสบการณ์จากเหตุสึนามิที่มีความอลหม่าน ทำให้เนคเทคพัฒนาระบบตามหาคนขึ้นมา”สอง”ระบบ ซึ่งมีประสิทธิภาพดี เมื่อโทรศัพท์แน่นไปหมด

ระบบแรกเป็นระบบตามหาคน Missing person เป็นระบบให้ผู้ตามหาผู้(ที่คาดว่าจะ)ประสบภัย ได้มาลงทะเบียนว่าตามหาคนชื่อ “nnnnn” อยู่นะ ในขณะที่เขียน ระบบนี้ยังทำงานอยู่ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครใช้

ส่วนอีกระบบหนึ่งนั้นก็ไม่ใช่ความคิดใหม่ เมื่อคราวเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่เมืองโกเบในญี่ปุ่น ต้นปี 1995 เขามีระบบ I Am Alive ซึ่งปรากฏอยู่ใน ISOC INET2000 proceedings เพื่อให้ผู้ประสบภัยที่รอดจากภัยพิบัติ แต่พลัดหลงกับครอบครัวแล้วไม่รู้จะไปตามหากันที่ไหน ได้มาลงทะเบียน อย่างน้อยเผื่อว่ามีใครตามหาอยู่ จะรู้ว่ายังปลอดภัย — ขณะนี้ ระบบ I am alive ในเมืองไทยไม่ได้ทำงานอยู่ครับ

สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินแบบกรณีสึนามินั้น ผมคิดว่าทั้งสองระบบทำงานได้อย่างวิเศษครับ เหมาะมากกับสถานการณ์ที่มีศูนย์พักพิง โรงพยาบาลสนาม หรือส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่น กระจัดกระจายกันอยู่ อยู่กันคนละกระทรวง โดยที่การตรวจสอบรายการชื่อของคนเข้าออก กระทำได้ลำบากเนื่องจากเจ้าหน้าที่มีงานล้นมือ… เรื่องแบบนี้ ควรจะใช้คอมพิวเตอร์ค้นหาเอา

แต่ขอร้องอย่างหนึ่งครับ ว่าอย่าเอารายชื่อในฐานข้อมูลขึ้นเว็บเด็ดขาด มันเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่คนไม่ค่อยคิดกัน

อ่านต่อ »


เรื่องสำคัญที่โรงเรียนไม่สอน แถมพ่อแม่ก็ไม่บอกอีก

อ่าน: 4382

บันทึกรีไซเคิ้ลครับ เขียนไว้เมื่อสามปีก่อน คงยังใช้ได้ดี

บน gotoknow มีปุ่ม Like ซึ่งแจ้งเตือนมาทางอีเมลเมื่อมีใครมา Like; คราวนี้มะปรางมา Like ก็เลยได้กลับไปอ่านอีกที — ยังมีบางครั้งที่เกิดอาการช้าเป็นครั้งคราว ไม่เป็นไรครับ — ผมเลยลอกมาไว้ที่นี่ ถ้าจะอ่านความคิดเห็นเก่าๆ ก็เชิญคลิกตรงนี้นะครับ

อ่านต่อ »


ปีกบินตรวจการณ์

6 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 9 February 2011 เวลา 13:04 ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้, เทคโนโลยีชาวบ้าน #
อ่าน: 4541

เมื่อคืน คุยกับ @iwhale ก่อนเริ่มงาน Ignite Thailand++ หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือเครื่องบินตรวจการณ์

ดูรูปทางขวาแล้ว ไม่แปลกใจที่ทำไมจังหวัดทางภาคเหนือ จึงได้มีปัญหาหมอกควัน คือพอเกิดไฟป่าแล้วเราไม่รู้ว่าเกิดตรงไหน นับประสาอะไรกับการเข้าไปดับไฟ

จุดแดง คือจุดที่เกิดไฟป่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

จะเห็นว่ามีจุดแดงอยู่นอกประเทศก็มาก ซึ่งเราคงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากพูดคุยกัน แต่ในเขตป่าของเมืองไทยก็มีเป็นจำนวนมากเช่นกัน

ดาวเทียมเหมาะกับเรื่องแบบนี้ แต่เราดันไม่มีดาวเทียมสำรวจทรัพยากร ก็ต้องไปซื้อภาพถ่ายจากดาวเทียมจากบริษัทต่างประเทศ ถึงมีเงินจะซื้อก็ตาม ดาวเทียมมีวงโคจร ไม่ได้ผ่านจุดต่างๆ ที่เราต้องการ ในเวลาที่เราต้องการ บางทีต้องรอสองสามวัน ซึ่งสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแล้ว

ว่ากันที่จริงแล้ว สามารถใช้เครื่องบิน/เครื่องร่อนไร้คนขับ บินถ่ายภาพได้นะครับ

อ่านต่อ »


Ignite Thailand++ ครั้งที่ 4

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 8 February 2011 เวลา 23:41 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3290

คืนนี้มีงาน Ignite Thailand++ ครั้งที่ 4 จัดที่โรงภาพยนตร์สกาล่าเหมือนครั้งที่แล้ว

แต่คราวนี้ กว่าจะเริ่มได้ก็ทุ่มหนึ่ง เที่ยวนี้ คนแน่นกว่าคราวที่แล้วอีกครับ ที่นั่งเต็มหมด แล้วเปิดให้นั่งที่ทางเดิน (ขั้นบันได)

งานที่ดึกมากๆ เนี่ย ผมมีปัญหาครับ คือตั้งแต่ป่วยเมื่อสิบปีก่อน ก็ไม่ค่อยยอมขับรถกลางคืนอีก เพราะปฏิกริยาช้าลงกว่าเดิมมาก แถมช่วงนี้รู้สึกชา ไม่รู้ว่านอนท่าไหน ก็เลยอยู่ฟังแป๊บนึงแล้วรีบออกมาจากงานเลยครับ โชคดีที่รถติด ทำให้กระดึ๊บๆ ไปทีละน้อย…รถติดก็ดีไปอย่าง

ในเมื่อรู้ตัวอยู่แล้วว่าชา ก็ยังซ่าไปงานอีก ทั้งนี้ก็เพราะ กองทุนร้อยน้ำใจ #ThaiBorder ArsaDusit และมูลนิธิโอเพ่นแคร์ ไปเปิดรับบริจาคที่หน้างาน ซึ่งก็ได้รับความกรุณาจากเครือข่ายพลังบวก (ผู้จัดงาน) ให้ตั้งโต๊ะรับบริจาคได้ เนื่องจากผมปลีกตัวออกมาก่อน จึงไม่ทราบว่าได้รับเงินบริจาคมาเท่าไหร่ แต่ที่เห็นนั้นมีข้าวของมาบริจาคกองใหญ่ ปริมาตรสิ่งของก็ประมาณรถกระบะหนึ่งคันครับ

เปิดงานด้วยการแสดงดนตรีของคุณยงสิทธิ์ ยงค์กมล (ดูอายุแล้ว เรียกหลานก็ได้ครับ) เป็นผู้พิการทางสายตาแบบไม่เห็นแสงอะไรเลย เป็นนักแซกโซโฟนมฝีมือรางวัล เรียนอยู่ปี 4 วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระหว่างแสดงดนตรีอยู่นั้น ภาพข้างหลังเหมือนเป็นการนำเสนอ ทำให้เข้าใจว่าการเรียนรู้ (แม้แต่ดนตรี) ของคนตาบอดนั้น มีอุปสรรคไปซะทุกอย่าง แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ ทำให้ฝ่าฟันมาได้ คุณยงสิทธิ์เขียนไว้น่าคิด

ผมคิดว่าทุกๆคนจะมีพลังบวกของตัวเอง และ พลังบวกนั้นจะเกิดขึ้นและมีประสิทธิภาพ ได้ก็ต่อเมื่อ เราช่วยกันลงมือทำ

อ่านต่อ »


การขอรับบริจาค เพื่อบรรเทาทุกข์ผู้อพยพภัยจากการสู้รบ

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 8 February 2011 เวลา 0:05 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 3519

เมื่อมีข่าวการสู้รบบริเวณชายแดนเขตอีสานใต้ ก็มีข้อเสนอจากความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องช่วยเหลือผู้อพยพจากภัยการสู้รบ โดยขอให้มูลนิธิโอเพ่นแคร์ช่วยเป็นตัวกลางในการรับบริจาค และจ่ายเงินอย่างโปร่งใสให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการบริจาคนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ รีบรับปากทำเลย

ระบบเดิมมีอยู่แล้ว ยุ่งเหมือนกัน แต่ถ้าจะเอาแบบโปร่งใสนะ ก็ต้องมีการสอบทานกันทุกขั้นตอนอย่างนี้ล่ะครับ ทั้งหมดก็เพื่อให้ผู้บริจาคสบายใจได้ว่าเงินบริจาคนั้น ใช้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการบริจาคจริงๆ — ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเรียกร้องให้คนอื่นโปร่งใส แต่ตัวเองงุบงิบ มีนอกมีในนะครับ

ขั้นตอนคือ

อ่านต่อ »



Main: 0.22537589073181 sec
Sidebar: 0.4424889087677 sec