เปลี่ยนคาร์บอนเป็นน้ำมันดิบ

อ่าน: 4140

อยากให้ดูวิดีโอคลิปอันหนึ่งครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการดูดคาร์บอนจากอากาศ แล้วใช้กระบวนการซึ่งมีชื่อว่า Thermal Depolymerization Process หรือ TDP เปลี่ยนคาร์บอนที่ดูดมาไปเป็นน้ำมัน(ดิบ) เศษที่เหลือฝังกลบไว้

อย่าเพิ่งกลัวว่าเป็นเรื่องเทคนิคแล้วจะไม่รู้เรื่องนะครับ มันเป็นเรื่องเทคนิคแน่! แต่ไม่ยากเกินเข้าใจหลักการ เพราะ TDP เป็นกระบวนการเลียนแบบธรรมชาติในการสร้างน้ำมันดิบ อาศัยความร้อน-ความกดดัน แยกสลายสารประกอบต่างๆ ลงเป็นระดับอะตอม เมื่อรวมตัวกันอีกครั้ง จึงเกิดสารประกอบไฮโดรคาร์บอนหลายชนิด ทั้งของแข็ง ของเหลว และก๊าซ มีคุณสมบัติเหมือนที่เกิดขึ้นในบ่อน้ำมัน

อ่านต่อ »


ขั้นบันไดชะลอน้ำฝน

อ่าน: 6693

มนุษย์มักไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่มี หลังจากแล้งหนักมาแปดเดือน ตอนนี้เป็นช่วงที่ฝนตกหนัก ภูเขาก็กลายเป็นภูเขาหัวโล้นไปหมด เมื่อฝนตกหนัก น้ำฝนไหลลงสู่ที่ต่ำตามแรงโน้มถ่วง แต่ว่าภูเขาเป็นพื้นที่รับน้ำขนาดใหญ่ เมื่อปริมาณน้ำไหลลงมารวมกันในร่องน้ำ ก็จะเป็นปริมาณน้ำมหาศาล ซึ่งเมื่อลงมาสู่ถิ่นที่อาศัยของคนซึ่งอยู่ด้านล่าง น้ำก็ระบายออกไม่ทันเนื่องจากน้ำปริมาณมหาศาล ไหลมาพร้อมๆ กัน บ้านเรือนเทือกสวนไร่นาทรัพย์สินเสียหาย

เรื่องอย่างนี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ฝนจะตก ก็ต้องตก ปริมาณน้ำที่จะไหลมา ยังไงก็ไหลมาตามร่องน้ำเดิม โครงการแก้มลิง ในลักษณะที่เป็นแหล่งน้ำของชุมชน สามารถแก้ปัญหาได้สองอย่างคือ เป็นที่เก็บกักน้ำในเวลาที่มีน้ำมาก และแก้ไขความแห้งแล้งในเวลาที่มีน้ำน้อย แต่ทว่าแก้มลิงต้องการปริมาตรบรรจุน้ำมหาศาลเพื่อหน่วงน้ำไว้ ไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน เนื่องจากที่ดินมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการทำโครงการแก้มลิง จึงต้องทำโดยรัฐซึ่งมีกำลังสูงกว่าใครทั้งนั้น

ในลุ่มน้ำน่านซึ่งไม่มีเขื่อน โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ความจุ 1,175 ล้านลูกบาศก์เมตรได้รับการต่อต้านมาก แม้จะมีประโยชน์แต่อาณาบริเวณของเขื่อน 74,000 ไร่ จะท่วมป่าสักทองแหล่งสุดท้ายของเมืองไทย จึงมีโครงการสร้างฝายล้านฝายแทนเขื่อนแก่งเสือเต้น ซึ่งชาวบ้านให้การตอบรับเป็นอย่างดี โครงการอย่างนี้ประสานประโยชน์เรื่องการจัดการน้ำ โดยช่วยลดความขัดแย้งทางความคิดลง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะสร้างฝายจำนวนมากมาย (ตัวเลขล้านแห่งเป็นเพียงการเปรียบเทียบ) ก็ยังเป็นพื้นที่หน่วงน้ำตามทางน้ำเท่านั้น จะเป็นพื้นที่เล็กๆ เก็บกักน้ำไว้ตามลำธารที่น้ำไหล

อ่านต่อ »


เปลี่ยนพลาสติกกลับเป็นน้ำมันดิบ

อ่าน: 3899

เมื่อปีที่แล้ว มีข่าวนักประดิษฐ์ชาวญี่ปุ่น ประดิษฐ์เตาที่เปลี่ยนพลาสติกให้กลับเป็นน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ง่ายจนน่าทึ่ง

คลิปเรื่องนี้ กลับไปปรากฏอีกครั้งหนึ่งใน United Nations University ซึ่งได้รับความสนใจมากอีกครั้งหนึ่ง

อ่านต่อ »


เหลืออีกเท่าไร

อ่าน: 3652

วารสาร Scientific American เดือนกันยายน ตีพิมพ์ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรของโลกที่ “เหลืออยู่” ในบทความชื่อ How Much Is Left? The Limits of Earth’s Resources, Made Interactive เป็นการแสดงข้อมูลซับซ้อนด้วยภาพ (Visualization)

เป็นที่ทรัพยากรเป็นสิ่งมีค่าและมีอยู่จำกัด ซึ่งเมื่อหมดก็คือหมดครับ

แต่ผมไม่คิดว่าการทำนายว่าทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ในปัจจุบันจะหมดลงเมื่อไหร่ เรามักเข้าใจว่าจะเกิดปัญหาเมื่อทรัพยากรหมด ซึ่ง(หวังว่า)คงจะอีกนาน ที่จริงแล้ว ปัญหาต่างๆ จะทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อการนำทรัพยากรไปใช้(ผลิต)ในระดับสูงสุดต่างหาก ปัจจุบันโลกมีประชากรเกือบเจ็ดพันล้านคนแล้ว มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นอัตราการใช้ทรัพยากรจึงเพิ่มขึ้นด้วยอัตราก้าวหน้า ซึ่งเร่งให้ใช้หมดไปด้วยอัตราที่เร็วขึ้น กรณีประเทศที่มีแหล่งน้ำมันดิบ ถูกบุกรุกโดยประเทศที่มีอำนาจในทางทหารแข็งแกร่ง ซ้ำแล้วซ้ำอีก คงเป็นสัญญาณสำคัญว่าการแย่งชิงทรัพยากรจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

อ่านต่อ »


แว๊บไป แว๊บมา สวนป่าอีกแล้ว: ค่าย TT&T รุ่นที่ 3

อ่าน: 4915

มหาชีวาลัยอีสานเป็นเสมือนสำนักตักศิลา ใครอยากได้วิชาก็ต้องดั้นด้นไปเรียนเอง ไม่ใช่แค่ไปเท่านั้นหรอกนะครับ แต่ว่าเรียนเองด้วย ภารกิจครูบาช่วงนี้แน่นอีกแล้ว หากทำได้ก็สมควรไปช่วยแบ่งเบาบ้าง

ผมตั้งใจจะไปช่วยตั้งแต่เมื่อวานซืน แต่ว่าคืนก่อนหน้านั้น ไม่ได้นอน(อีกแล้ว) เมื่อร่างกายไม่พร้อม ก็ไม่เสี่ยงขับรถทางไกลดีกว่า -> จึงเลื่อนการเดินทางออกไปวันหนึ่ง ขับรถไปสวนป่าเมื่อวานนี้

ออกจากบ้านเจ็ดโมงเช้า ไปถึงสวนป่าบ่ายสองโมงครึ่ง ตั้งแต่ไปมาสวนป่าเกือบยี่สิบครั้งในสองปีที่ผ่านมา ไม่เคยใช้เวลานานขนาดนี้เลยครับ ระยะทาง 420 กม. แรกๆ ก็ใช้เวลา 5 ชั่วโมง ช่วงหลังๆ นี้เหลือ 4 ชั่วโมงเท่านั้นเอง เที่ยวนี้ใช้เวลา 7 ชั่วโมงครึ่ง… แต่ว่าเป็นเพราะแวะเที่ยวครับ แถมเที่ยวสองที่เสียด้วยซิ รถกินน้ำมันน้อยลงครึ่งลิตร/100 กม. ระยะทางจากบ้านไปสวนป่า ก็ประหยัดไปจากเดิมหกสิบกว่าบาท

อ่านต่อ »


คุณเป็นมนุษย์มือสอง

7 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 20 August 2010 เวลา 23:55 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 4499

บ่ายนี้ฝนตกอีกแล้ว แทนที่จะนั่งรอฝนหยุดเพื่อไปเลี้ยงหมา ผมออกไปเดินดูหนังสือ เจอหนังสือของมูลนิธิอันวีกษณาอยู่สองเล่ม เป็นหนังสือแปลของท่าน J. Krishnamurti

ล่มแรกไม่ได้หยิบมา แต่ว่าชื่อหนังสือโดนก้านคอเลยครับ

สัจจะเกิดขึ้นเมื่อไม่มี “คุณ”
Truth Is Where You Are Not

จ. กฤษณมูรติ

คนเรามีความเห็นแก่ตัวเป็นธรรมดา แม้บางคนจะ(คิดว่า)กระทำเพื่อผู้อื่น แต่ก็มักจะมีเบื้องหลัง คือสิ่งที่ตนต้องการ ยังต้องการการยอมรับยกย่องจากผู้อื่น ต้องการชื่อเสียง ต้องการประโยชน์โดยอ้อม ฯลฯ

ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดานะครับ ดังนั้นหากใครทำอย่างนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องผิดเลยถ้าจะทำเพื่อผู้อื่นบ้างโดยไม่เบียดเบียน ไม่ละเมิดกติกาของสังคม

ส่วนพวกที่ชี้นิ้ว ป่าวประกาศว่าต้องอย่างนี้ ต้องอย่างนั้น ก็เป็นเพียงแต่อาการสายตาสั้น มองเห็นแคบแค่ที่ตัวมองเห็นได้เท่านั้น จึงคิด(ไปเอง)ว่ามีทางออกเพียงทางเดียว จะเป็นจะตายให้ได้ ซึ่งก็ไม่ตายหรอก ถ้าตายไปแล้วจะไม่โวยวาย

ผมตีความชื่อหนังสือเล่มนี้ไปถึง การลดละวางอัตตา เสียสละเพื่อผู้อื่น ใครเห็น-ใครไม่เห็น ก็ยังทำต่อไปแม้ไม่มีชื่อเสียง ไม่ได้รับการยกย่อง ไม่ได้รับประโยชน์ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ฯลฯ เป็นการทำเพื่อธรรม ไม่ต้องการอะไรตอบแทน

แล้วทำไมต้องทำเพื่อผู้อื่นด้วยล่ะ​? ก็เพราะว่าคนทุกคน ไม่สามารถจะมีชีวิตอยู่ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีหากไม่พึ่งพากัน หาก “คนอื่น” อยู่ไม่ได้ “ตัวเรา” ก็อยู่แบบนี้ไม่ได้เช่นกัน ยิ่งกว่านั้น ทุกคนมีเวลาว่างเสมอไม่ว่าจะ(บอกตัวเองว่า)ยุ่งขนาดไหน ใช้เวลานั้นให้เป็นประโยชน์ ดีกว่าปล่อยผ่านอย่างเปล่าประโยชน์

อ่านต่อ »


3 x 3 x 3 กับความเป็นนาย

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 19 August 2010 เวลา 21:38 ในหมวดหมู่ การบริหารจัดการ #
อ่าน: 3393

มี quick management tips จาก harvard business review มาฝากครับ ที่จริงสำหรับแต่ละหัวข้อ มีแนวทางมากกว่าสามข้อ แต่แค่สามข้อสำหรับแต่ละหัวข้อนั้น ทำให้หมดก็ยากแล้วครับ

ห้ามศึกระหว่างทีม

  1. ตัดไฟแต่ต้นลม — เข้าไปแทรกแทรงก่อนจะลุกลาม คงต้องอาศัยความละเอียดอ่อน รู้จักคน รู้จักทีมจนเห็นสิ่งที่ไม่ได้เขียน ได้ยินในสิ่งที่ไม่ได้พูด รู้สึกถึงความอึดอัดคุกรุ่น จึงจะสัมผัสถึงความผิดปกติได้
  2. เป้าหมายร่วม — ต่างฝ่ายต่างก็ปรารถนาดีล่ะครับ แต่วิธีการไม่เหมือนกัน เพราะมุมมองไม่เหมือนกัน แล้วก็มาทะเลาะกันว่าซ้ายหรือขวา ถ้ายืนประจันหน้ากัน แล้วฝ่ายหนึ่งบอกว่าซ้าย อีกฝ่ายบอกว่าขวา ที่จริงก็จะถูกทั้งคู่ล่ะครับ แต่ก็ไร้สาระทั้งคู่เช่นกัน เพราะติดอยู่แค่ใครถูกใครผิด ทั้งๆ ที่พูดถึงสิ่งเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างคิด
  3. หาสิ่งที่ตกลงร่วมกันให้ได้โดยเร็ว — เวลาเกิดความระหองระแหง ทั้งสองฝ่ายต่่าง “คิด” ย้ำอยู่บนความแตกต่าง แต่ว่าที่จริงไม่มีอะไรตรงกันข้ามร้อยเปอร์เซ็นต์ แบบขาวและดำหรอกครับ ในความแตกต่างจะมีความเหมือน แม้ในความเหมือนก็มีความแตกต่าง ถ้าเอาอารมณ์และอัตตามาเป็นที่ตั้ง มักจะมองข้ามความเหมือนไป ความเหมือนเป็นข้อพิสูจน์อย่างรวดเร็วว่าทั้งสองฝ่าย ไม่ได้ต่างกันอย่างสิ้นเชิงเหมือนอย่างที่คิด

อ่านต่อ »


Copenhagen Consensus

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 18 August 2010 เวลา 18:53 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 2716

ผมนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้เมื่อกลับไปดูบันทึกเก่าใน GotoKnow.org ซึ่งเคยเขียนไว้สองปีก่อนว่า

ปัญหาโลกพิกลพิการ: Copenhagen Consensus 2008

เมื่อวานนี้ ทีม Google Earth Outreach จาก Google.org ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่บริหาร Google Foundation ได้มาเยี่ยมทีมงาน OpenCARE แรกทีเดียว เค้ามาเพื่อจะนำเทคโนโลยีมาให้ แต่กลับไปด้วยความประหลาดใจ (ปนประทับใจ) ในสิ่งที่เราทำ มีอยู่แล้ว และแผนงานที่จะทำต่อ เค้าบอกว่าจะแนะนำ CEO ของ International NGO ขนาดยักษ์ให้อีกสององค์กร

ชื่อ Google.org ผมไม่ได้สนใจมาก่อน; คือรู้ว่า Google ให้ความช่วยเหลือในเชิง CSR อยู่หลายอย่าง แต่ไม่เคยรู้มาว่าตั้งมูลนิธิทำอย่างจริงจัง

In 2004, when Google founders Larry Page and Sergey Brin wrote to prospective shareholders about their vision for the company, they outlined a commitment to contribute significant resources, including 1% of Google’s equity and profits in some form, as well as employee time, to address some of the world’s most urgent problems. That commitment became Google.org.

ก็เลยแวะไปดูเว็บไซต์ของเขาซะหน่อย เจอเรื่อง Copenhagen Consensus น่าสนใจ

ตลอดสองปีที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์กว่า 50 คนทั่วโลก ช่วยกันศึกษาว่าโลกกำลังเผชิญปัญหาร้ายแรงอะไรบ้าง ซึ่งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์ระดับหัวกะทิ 8 ท่าน (ซึ่ง 5 ท่านได้รับรางวัลโนเบลมาแล้ว) ได้มาประชุมกันเพื่อพยายามแยกแยะ จัดลำดับความสำคัญปัญหาร้ายแรงของโลกที่ต้องการการแก้ไขโดยด่วน 10 อันดับ ได้แก่

อ่านต่อ »


ทะเลใต้

อ่าน: 4959

เดิมทีเดียว ไม่คิดว่าจะเขียนบันทึกในวันนี้ เพราะว่าไม่พบประเด็นอะไรที่น่าเขียนครับ แต่เมื่อตอนบ่ายไปประชุมกับหน่วยงานจัดการภัยพิบัติ ก็มีประเด็นที่น่าจะทำความเข้าใจกันอีก

ในบรรดาภัย(ธรรมชาติ)ร้ายแรงนั้น

  • แผ่นดินไหวเตือนล่วงหน้าไม่ได้ แถมผู้ประสบภัยรู้ก่อนส่วนกลางแน่นอน อันนี้รวมถึงเขื่อนแตกจากแผ่นดินไหวด้วย
  • วาตภัยจากพายุขนาดใหญ่ ทางกรมอุตุนิยมวิทยาสามารถพยากรณ์ความแรง+ทิศทาง และติดตามได้ 7 วันก่อนส่งผลต่อแผ่นดินไทย — แต่พายุขนาดเล็กที่เข้ามาในอ่าวไทยแล้วทวีความรุนแรงขึ้นอย่างฉับพลัน มีความเสี่ยงที่จะเตือน+เตรียมตัวไม่ทัน
  • ฝน น้ำป่า ดินถล่ม เกิดจากปริมาณน้ำฝนที่มากผิดปกติ ซึ่งกรมอุตุฯ เตือนล่วงหน้าเช่นกัน ทางกรมทรัพยากรธรณี มีแผนที่ภูเขาที่เสี่ยงต่อดินถล่มอยู่แล้ว และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ก็ได้แจ้งเตือน+ฝึกซ้อมชาวบ้านในพื้นที่ล่วงหน้าสำหรับความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งปริมาณน้ำในเขื่อน
  • เขื่อนแตก มักจะมีอาการปรากฏก่อนซึ่งตรวจได้ด้วยเครื่องวัดความเร่ง (แผ่นดินไหว) และการบำรุงรักษาปกติ
  • ภัยแล้ง ดูจากปริมาณน้ำฝนสะสม และปริมาณน้ำในเขื่อน
  • สึนามิ อันนี้ไม่เกิดบ่อย แต่อาจสร้างความเสียหายได้สูง และเป็นวงกว้าง

อ่านต่อ »


มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่ดูยาก — บุคคลสี่จำพวก

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 16 August 2010 เวลา 0:13 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3881

เอามั่งหิ! สืบเนื่องจากการที่มีคนเมาแล้วขับแบบวิปลาส ทำให้ผู้คนเดือดร้อนกันมากมาย

เขาชนเสาหลักถนนแล้วเร่งเครื่องหนีเลยชนรถคันหนึ่ง จากนั้นก็จะขับรถชนคนที่ออกมาบอกให้เขาจอด แล้วเร่งเครื่องจะหนีแต่คงหลงทิศเลยหันรีหันขวางกลางถนนแล้วพุ่งมากวาดรถฝั่งตรงข้าม จากนั้นจะเปิดรถหนี แต่ถนนหน้าบ้านแคบและชาวบ้านออกมากันแล้ว จะปีนรั้วบ้านข้างๆเลยถูกสะกัดไว้ค่ะ… ใบขับขี่ก็ไม่มี เมามาก จะหนี เจตนาชนคน

ไม่รู้เป็นยังไง เรื่องคนที่ชอบก่อความเดือดร้อนนี้ รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยอ่าน จึงไปค้นดู ก็เจอในกันทรกสูตร จะอ่านโดยละเอียดก็เชิญที่ลิงก์ที่ให้ไว้นะครับ

ส่วนเรื่องบุคคลสี่จำพวก โผล่มาระหว่างที่นายเปสสะ กับนักพรตกันทรกะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า นายเปสสะตั้งข้อสังเกต (ตามหนังสือพระไตรปิฎก ฉบับที่ทำให้ง่ายแล้ว ของ อ.วศิน อินทสระ) ว่า

มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่ดูยาก เข้าใจได้ยาก มนุษย์ที่ดีมีน้อย ส่วนมากเป็นกากเดนมนุษย์ ชอบโอ้อวด (และมีมายา) ส่วนสัตว์เดียรัจฉานตื้น คือดูง่าย เข้าใจได้ง่าย เปิดเผย มีความรู้สึกอย่างไรแสดงตนอย่างนั้น ส่วนมนุษย์คิดอย่างหนึ่ง พูดและกระทำอย่างหนึ่ง กาย วาจา ใจ ไม่ตรงกัน การที่พระพุทธองค์ทรงฝึกมนุษย์ได้นั้น จัดว่าเป็นสิ่งที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง เพราะมนุษย์เป็นสัตว์โลกที่รกชัฏดูยาก

อ่านต่อ »



Main: 0.062703132629395 sec
Sidebar: 0.19247698783875 sec