ใกล้ไกลกระทบถึงกันหมด

โดย Logos เมื่อ 17 December 2011 เวลา 13:00 ในหมวดหมู่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี #
อ่าน: 2604

เมื่อเร็วๆ นี้ หอดูดาวขนาดใหญ่มากของสหภาพยุโรปที่ตั้งอยู่ในชิลี ได้ศึกษาหลุมดำขนาดใหญ่ที่มีมวลประมาณสี่ล้านเท่าของดวงอาทิตย์และอยู่ที่ใจกลางกาแลกซีทางช้างเผือก(ของเรา) พบว่ามีหมอกก๊าซไฮโดรเจนที่มีมวลขนาดสี่เท่าของโลก กำลังเคลื่อนเข้าไปใกล้สู่หลุมดำมากด้วยความเร็วซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าแล้วในเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมา อาการอย่างนี้กลุ่มก๊าซนี้ คงจะเหวี่ยงตัวเองอ้อมหลังหลุมดำโดยมีบางส่วนถูกดูดเข้าไป

เรื่องนี้ดูเหมือนอยู่ห่างโลกมาก แต่เหตุการณ์ทางฟิสิกส์ดาราศาสตร์ มีความรุนแรงแบบที่เรามักจินตนาการไม่ออก ไม่เหมือนกับเห็นฟ้าแลบแต่ไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้อง — ฟ้าแลบเป็นแสง ส่วนฟ้าร้องเป็นเสียง ทั้งคู่วิ่งผ่านอากาศ แต่ฟ้าแลบไม่ถูกอากาศลดทอนแสงลง ในขณะที่ฟ้าร้องถูกลดทอนความดังลงตามระยะทาง จนบางทีฟ้าแลบไกลมาก เห็นแสงแต่ไม่ได้ยินเสียง — แต่ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ คลื่นและอนุภาควิ่งได้ไกลมากๆ ครับ

ผมไม่ควรเขียนเรื่องที่ไม่รู้เรื่องหรอกครับ แต่ถึงไม่รู้ ไม่เข้าใจทั้งหมด ก็ยังมีบางอย่างที่รู้สึกว่าน่าสนใจอยู่ดี

  • ที่ขอบฟ้าของเหตุการณ์ เมื่อวัตถุจะตกลงไปในหลุมดำ ก็จะปล่อยพลังงานออกมา (ธรรมดาหลุมดำก็ปล่อยพลังงานอยู่แล้ว)
  • กรณีของหลุมดำแบบไม่หมุน จะปล่อยอนุภาคนิวตริโน 81% โฟตอน 17% และกราวิตอน 2% ส่วนหลุมดำแบบหมุน ยังไม่มีผู้ใดอธิบายได้
  • เพราะว่าเราสังเกตเห็นเหตุการณ์ซึ่งอยู่ห่างออกไปสองหมื่นห้าพันปีแสง เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมานานแล้ว เพียงแต่แสง (และคลื่นอนุภาคอื่นๆ) ยังเดินทางมาไม่ถึง ตอนนี้การสังเกตด้วยอินฟราเรดยังไม่เห็นกลุ่มก๊าซตกลงไปในหลุมดำ แต่คงจะมาถึงในเวลาที่ไม่นานนัก
  • หากเราสังเกตอยู่ ผลของเหตุการณ์ก็มาถึงแล้ว

« « Prev : สวนป่าจากมุมมองของผู้ที่ไม่เคยไป

Next : กระถางในดิน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 December 2011 เวลา 16:27

    ผมก็ไม่มีความรู้หรอก แต่ก็สนใจ เพียงแค่สนใจครับ

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 December 2011 เวลา 18:50
    ถ้าถามว่าจะมีอะไรสั่นโลกทั้งใบให้เกิดแผ่นดินไหวทั่วทุกพื้นที่ได้หรือไม่ เหตุเหล่านั้นน่าจะมาจากอวกาศครับ เรื่องพวกนี้ยังไม่เคยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็เป็นสิ่งที่ไอนสไตน์ทำนายเอาไว้ในทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปในปี 1916 ว่าจะมีอยู่จริง

    ข้างล่างนี้เป็นเรื่องปวดหัว แต่ลิงก์เอาไว้ให้ผู้ที่ต้องการศึกษาต่อไปนะครับ (ไม่จำเป็นต้องอ่าน)

    มีเรื่องที่สงสัยกันมากว่าสึนามิเมื่อปี 2547 จะเกิดโดยคลื่นความโน้มถ่วงจากการระเบิดในอวกาศ แต่ “เผอิญ” ว่าเครื่องมือตรวจจับสนามความโน้มถ่วง LIGO ในเวลานั้น เกิดซ่อมบำรุงอยู่พอดี ก็เลยไม่มีหลักฐานพิสูจน์ เพียงแต่ว่า 44.6 ชั่วโมงหลังจากเกิดสึนามิขึ้น มีการตรวจจับการระเบิดของรังสีแกมมาได้ เวลามันใกล้กันจนน่าสงสัยครับ ผมเขียนเรื่องพวกนี้ไว้สองบันทึกแต่ว่าไม่ได้สรุปอะไร เพราะว่าสิ่งที่อาจเป็นไปได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปตามนั้น

    ปรากฏการณ์หลุมดำกลืนวัตถุขนาดใหญ่ ก็จะปล่อยแสง รังสี และคว๊าก ออกมาครับ รวมถึงกราวิตอนและสนามความโน้มถ่วงด้วย เนื่องจากกราวิตอนเป็นคว๊ากซึ่งไม่มีมวล จึงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงเหมือนแสงหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทั่วไป ซึ่งเมื่อเราสังเกตเห็นว่าหลุมดำกลืนหมอกก๊าซยักษ์ สนามความโน้มถ่วงก็เดินทางถึงโลกแล้ว — ส่วนจะรุนแรงแค่ไหนนั้น ไม่ทราบครับ

    อธิบายอย่างนี้ฟังดูยุ่งยากไป เอาเป็นว่า สมมุติว่ารัฐบาลไป(งุบงิบ)ทำอะไรหรือไม่ทำอะไรก็ตาม ผลกระทบย่อมเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า; ถ้าในบ้านเกิดมีคนวีนแตก คนอื่นไม่ว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ก็ได้รับผลนั้นเหมือนกันครับ

  • #3 BM.chaiwut ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 December 2011 เวลา 22:13

    สรรพสิ่ง อาจแบ่งเป็นสอง คือ สิ่งที่รู้แล้ว และสิ่งที่ยังไม่รู้… ซึ่งสิ่งที่รู้แล้วและยังไม่รู้นี้แหละ รวมกันทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียว คือ ความจริง เรียกว่า “พรหมัน”

    พุทธศาสนา ไม่ให้ความสำคัญว่าพรหมันจะเป็นอย่างไรหรือคืออะไร… ให้ความสำคัญแต่เพียง ทุกข์ และการดับทุกข์

    เจริญพร

  • #4 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 December 2011 เวลา 22:34
    สาธุ…ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ ทุกอย่างฝืนกฏไตรลักษณ์ไม่ได้ครับ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.29887294769287 sec
Sidebar: 0.27559304237366 sec