น้ำท่วมขัง (2)

อ่าน: 5086

เรื่องเก่า ที่เขียนไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว [น้ำท่วมขัง (1)]

น้ำท่วมขังนำมาซึ่งความทุกข์ใจยิ่งกว่าน้ำท่วมทั่วไป เพราะน้ำลดยากกว่า น้ำท่วมขังเกิดได้ในสภาพพื้นที่เป็นแอ่ง เมื่อน้ำข้ามคันกั้นน้ำ (ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์สร้างขึ้นหรือเป็นสภาพตามธรรมชาติก็ตาม) น้ำก็จะไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ แต่เมื่อน้ำหลากผ่านไปแล้ว น้ำที่ข้ามคันกั้นน้ำเข้ามา กลับไม่มีทางออก ท่วมอยู่ในพื้นที่นั้นเป็นเวลานาน

น้ำท่วมไร่นา ชาวบ้านหมดเนื้อหมดตัว แต่น้ำท่วมขัง ชาวบ้านซึ่งหมดตัวไปแล้ว ยังถูกตอกย้ำด้วยภาพของน้ำท่วมโดยไม่ยอมลด มองไปทางไหนก็มีแต่น้ำ เห็นอยู่ทุกเวลา เหมือนกับย้ำเตือนอยู่ตลอดเวลา ว่าหมดตัว หมดตัว หมดตัว

นอกจากความเครียดสะสมข้างบนแล้ว ยังมีโรคที่มากับน้ำอีก เมื่อน้ำลดแล้ว ก็มีความเสี่ยงจากการระบาดซ้ำของโรคไข้หวัดนก

ทางการเป็นห่วงไข้หวัดนก ระบาดหนักหลังน้ำลดในเดือนพฤศจิกายนนี้ ระบุพื้นที่น้ำท่วมเป็นพื้นที่เดียวกับหวัดนกระบาด และเป็นฤดูนกอพยพพอดี เตรียมพร้อมน้ำยาพ่นฆ่าเชื้อโรคในทุกพื้นที่ที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีก แม้ว่าขณะนี้ยังมีรายงานเรื่องการเกิดโรคระบาดในสัตว์ แต่ต้องระวังการเกิดโรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงหลังน้ำลด — http://www.bangkokhealth.com/

สภาพน้ำท่วมขัง ยังนำมาซึ่งความเสี่ยงของการระบาดของหอยเชอร์รี่ เพลี้ย… ยิ่งดูละเอียด ก็ยิ่งไปกันใหญ่

เป็นเรื่องที่เกินกำลังของรัฐ หรือหน่วยงานใดๆ (เงินเยียวยาช่วยได้บ้าง แต่เทียบไม่ได้กับการหมดตัวซ้ำซากหรอกครับ) จึงต้องระดมความช่วยเหลือจากหลากหลายวิทยาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชน

อ่านต่อ »


กว่าจะได้ความรู้มา

อ่าน: 3005

พระราชดำรัส
ในโอกาสที่ประธานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นำผู้เข้าร่วมสัมมนา
และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวของเฝ้า ฯ เพื่อรับพระราชทานพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการดำเนินงานในช่วงต่อไป
ณ ศาลาดุสิดาลัย
วันศุกร์ ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๓๑

วันนี้ก็ขอพูดแบบที่เคยทำในระยะที่ผ่านมา คือโดยมากให้ความเห็น ก็ให้ความเห็นตอนที่ไปเยี่ยมศูนย์ศึกษา หรือตอนที่ไปในภูมิประเทศ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าถ้าหากว่าจะมาให้ปาฐกถาเรื่องอะไรก็ตามอย่างนี้ต่อที่ประชุมก็ไม่คอยถนัดนัก แล้วก็ไม่ทราบว่าจะมีประโยชน์หรือไม่ ฉะนั้นที่จะพูดนี้ก็พูดเหมือนเวลาไปเยี่ยมศูนย์ศึกษา

ข้อแรก เรื่องคำว่าศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องจากพระราชดำรินั้น คำนี้ทำให้เข้าใจว่าเป็นการศึกษาการพัฒนาที่เป็นเรื่องของพระราชดำริ ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้น อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หมายความว่าทั้งอันนี้เป็นศูนย์ศึกษา ทั้งอันนี้เป็นพระราชดำริ แล้วที่ดำเนินงานก็ดำเนินงานตามที่มีพระราชดำริ แต่ชื่อของกิจการก็ชื่อเพียงว่าศูนย์ศึกษาการพัฒนา ซึ่งหมายความว่าเป็นศูนย์หรือเป็นแห่งหนึ่งที่รวมการศึกษาเพื่อดูว่าทำอย่างไรจะพัฒนาได้ผล และแม้กระนั้นที่ตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนานี้มิได้ตั้งชื่อก่อน ได้ตั้งศูนย์ก่อนถึงได้ให้ชื่อว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนา ซึ่งหมายความว่าได้ตั้งกิจการอย่างหนึ่ง และได้ตั้งชื่อซึ่งจะชี้ว่าศูนย์หรือกิจการนี้ทำอะไร

มีคนที่เข้าใจว่าศูนย์ศึกษาการพัฒนานั้น เป็นเหมือนสถานีทดลองหรืออีกอย่างหนึ่งก็เป็นวิทยาลัย ทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่ เป็นสถานที่ที่ผู้ที่ทำงานในด้านพัฒนาจะไปทำอะไรอย่างหนึ่งหรือจะเรียกว่าทดลองก็ได้ เมื่อทดลองแล้วจะทำให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในวิชานั้นได้สามารถเข้าใจว่าเขาทำอะไรกัน อันนี้ก็เป็นประโยชน์อย่างหนึ่งที่จะได้จากกิจการศูนย์ศึกษาการพัฒนา คือเป็นการทำอะไรของฝ่ายหนึ่ง และทำให้ฝ่ายอื่นได้เข้าใจว่าคนอื่นเขาทำอะไรกัน เรียกว่าเป็นการทำให้เจ้าหน้าที่ด้านพัฒนาได้มีการร่วมมือสอดคล้องกัน อันนี้ก็เป็นข้อแรกที่สำคัญที่ว่าไม่ใช่สถานีทดลอง ก็เพราะว่าสถานีทดลองในด้านต่างๆ ก็มีอยู่มากแล้ว เช่น ทดลองเพาะพันธุ์ต่างๆ ทดลองพันธุ์ข้าว เป็นต้น นี้มีอยู่หลายแห่งแล้วและทำงานได้ดีมาก ได้ผลได้ประโยชน์มาก

อ่านต่อ »


ไม่ท่วมเอาเท่าไหร่…

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 31 August 2011 เวลา 0:26 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3177

สิบชั่วโมงก่อนเขียนบันทึกนี้ ได้รับจดหมายส่งต่อฉบับหนึ่ง ขอตัดตอนส่วนเสียงสะท้อนของชาวบ้านแถวบางระกำมาให้อ่านกัน…

…ถ้าเลือกได้ไม่มีใครอยากอยู่ไปวันๆด้วย “ถุงยังชีพ” หรอก ป้าก็อยากทำมาหากิน
แต่ปีนี้น้ำมาเร็วกว่าปีก่อนๆ ปกติก็กันยา-ตุลาโน่นอะปีนี้มันท่วมตั้งแต่กรกฎาเลย
ข้าวทั้งนาไม่ได้เกี่ยวสักเม็ด บางคนไม่เข้าใจเค้าก็ว่าเราไม่เตรียมพร้อมเอง
ทั้งที่รู้ว่ามันท่วมมาทุกปี ป้าอยู่มาจนป่านนี้ทำไมจะไม่รู้
คนข้างนอกมองพวกเราว่าเราไม่ช่วยเหลือตัวเอง เอะอะก็ขอถุงยังชีพ
เค้าไม่มาดูไหนจะว่าพวกเราอีกว่าได้เยอะจนไปตั้งร้านขายได้แล้วมั้ง
ที่เค้าว่ากันบางระกำโมเดลอะไรนั่นอะป้าไม่รู้เรื่องหรอก
รู้แต่ว่าวันนี้ก็เดือนร้อนกันอยู่…

รู้สึกอย่างไรที่ส่งถุงยังชีพไป โดยไม่รู้ว่าชาวบ้านต้องการอะไรครับ เสียงสะท้อนแบบนี้ เป็นไปในทำนองเดียวกันกับเสียงที่อาสาสมัครที่ลงพื้นที่อื่นได้ยินมา (และมีอาสาสมัครที่ไม่ได้ยินเรื่องแบบนี้เช่นกัน)

ถุงยังชีพนั้นมีประโยชน์ แต่มีมากเกินไปกลับเป็นภาระ ทางส่วนผู้บริจาคก็อยากจะช่วย ขอให้ช่วยได้บ้าง ก็คงดีกว่านิ่งดูดายในขณะที่ผู้ประสบภัยอยู่ในความทุกข์ยาก ลืมคิดไปว่าตนคิดแบบคนเมือง สิ่งของที่ส่งไปโดยไม่รู้ความต้องการนั้น หลายกรณีไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้ประสบภัย

อย่าไปว่าป้าคนนี้เรื่องมากเลยครับ ควรดูตัวเองด้วยเหมือนกัน เพื่อที่น้ำใจของท่านจะได้เกิดประโยชน์สมดังความตั้งใจ

อ่านต่อ »


โดมดาว (2)

อ่าน: 4495

ต่อจากตอนที่แล้ว ถ้ายังไม่ได้อ่าน ลองกลับไปอ่านก่อนได้ครับ

ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการสร้าง star dome อีกเล็กน้อย…

ที่เสนอให้ทำรูปโดม ก็เพราะว่าโดมกระจายแรงกดไปทั่วผิว ทำให้ทนต่อแรงลม แรงฝนได้ดีกว่าโครงสร้างแบบอื่น เช่นเต้นท์หรือจั่ว ตัวที่รับแรงคือโครงสร้างไม้ กับการยึดโครงสร้างให้ไม่ขยับไปมา ส่วนผิวของโดมเพียงแต่กันลมกันฝน

ส่วนผิวนั้น ทำได้ง่ายๆ โดยตัดเย็บผ้าตามรูปโครงสร้างโดม ระยะ s คือ ระยะ หนึ่งในห้าของความยาวโครงไม้

เอาเชือกมัดผ้าคลุมไว้กับโครงไม้ข้างนอกโดม เหมือนสุ่มไก่ห่อผ้าห่มกันหนาว

อ่านต่อ »


โดมดาว (1)

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 29 August 2011 เวลา 5:41 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว, เทคโนโลยีชาวบ้าน #
อ่าน: 5152

ในขณะที่ความสนใจ พุ่งไปทางเหนือ เนื่องจากน้ำเหนือกำลังมา ทางใต้ก็กำลังสาหัสเหมือนกัน เผลออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป เนื่องจากฝนยังตกอยู่ แล้วพื้นที่เป็นป่าเขาเช่นกัน เมื่อฝนตกบนภูเขา น้ำก็ไหลลงสู่ที่ต่ำ ไปตามลำน้ำซึ่งระบายไม่ทัน น้ำยกตัวขึ้นท่วมเมืองที่น้ำไหลผ่าน ทำความเดือนร้อนไปทั่ว

ฝนทางใต้นั้น ตกแบบน่ารำคาญ คือตกไม่เลิก ไม่ว่ามีลมหรือไม่ ปริมาณฝนเกิด 100 มม.ได้ง่ายๆ ในแต่ละวัน ในเมื่อที่ลุ่มมีน้ำท่วม ผู้คนต้องทิ้งถิ่นฐานบ้านเรือนไปชั่วคราว แล้วจะให้ไปอยู่กันที่ไหนล่ะครับ หนีขึ้นเขาก็ไม่มีอะไรเลย เผลอๆ มีดินถล่มซ้ำอีกเนื่องจากดินอุ้มน้ำไว้ไม่ไหวแล้ว

ฝนตกหนักทั่วฝั่งตะวันตก ที่พังงา น้ำท่วม อ.กะปง อ.ตะกั่วป่า และ อ.คุระบุรี แล้วที่ระนองก็มีอาการแบบเดียวกัน

ผมมาคิดถึงที่พักชั่วคราว เคยเขียนเรื่อง [โดมสำหรับพักพิงชั่วคราว] และ [บ้านปลอดภัย] เอาไว้ แต่มาอ่านอีกที รู้สึกว่ายุ่งยากเหมือนกัน เพราะว่าเป้นความพยายามที่จะทำรูปเหลี่ยมให้ดูโค้ง น่าจะมีวิธีสร้างที่ง่ายและถูกกว่านั้น ก็มาเจองานของอาจารย์ญี่ปุ่นครับ เรียกว่า Star Dome หรือโดมดาว — เอามาจาก stardome.jp นะครับ

โดมดาว เริ่มจากการคำนวณครึ่งทรงกลมง่ายๆ (แต่คนใช้ไม่ต้องคำนวณ เอาตัวเลขไปใช้เลย)

เค้าใช้ไม้ไผ่ยาว มาผ่าเป็นซีกเพื่อให้ดัดให้งอได้ จำนวน 17 ท่อน แบ่งเป็นท่อนแบบสีน้ำเงินข้างล่าง 10 ท่อน และแบบสีเขียวและสีแดง อีก 7 ท่อน

ทั้ง 17 ท่อนมีความยาวเท่ากัน แต่ว่าท่อนสีน้ำเงิน แบ่งเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน (เจาะรู 4 รู) และแบบสีเขียนกับสีแดง แบ่งเป็น 5 ส่วนเท่าๆ กัน (เจาะรู 6 รู)

เราเอาท่อนไม้ไผ่ต่างๆ มาวางให้รูที่เจาะไว้ตรงกัน แล้วผูกให้แข็งแรง จากนั้นงอจนได้รูป

อ่านต่อ »


แพจากที่นอน

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 28 August 2011 เวลา 22:35 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว, เทคโนโลยีชาวบ้าน #
อ่าน: 4095

เย็นนี้ แวะไปเที่ยว SimCity จะไปดูเขาโยน EMBall แก้ปัญหาน้ำเสียกัน บ้านของเรา ถ้าเราไม่ดูแล จะหวังให้ใครมาดูแลครับ (ขนาดบ้านคนอื่น ผมยังไปดูเลย)

กลับมาเรื่องอุทกภัย มีคนมากมายที่พยายามเตือนภัย แต่เตือนไป ผู้ที่อยู่ในความเสี่ยงก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน เพราะว่ามนุษย์กระจ้อยร่อย ไม่มีกำลังจะต้านทางภัยธรรมชาติได้… ไม่ว่าการเตือนภัยจะเป็นไปเพื่อเหตุผลอะไรก็ตาม การเตือนภัยที่ไม่บอกว่าควรทำอย่างไรต่อ เป็นเหมือนคิดมาไม่จบ ตัดตอนเฉพาะส่วนของตัวเองว่าได้เตือนแล้ว… การเตือนภัยที่ดี ควรจะเป็นการให้ความรู้ว่าจะต้องเตรียมการอะไร ไม่ใช่แค่ทำนายแล้วลุ้นว่าจะถูกหรือไม่นะครับ

และการเตือนภัย ควรจะเป็นการเตือนด้วยความรู้จริง (ต่อให้คาดเดาก็เตือนได้ แต่พูดให้ชัดว่าน่าจะเป็นอย่างนี้อย่างนั้น อย่าฟันธง) อธิบายได้ ตอบคำถามได้ ถ้าตอบไม่ได้ หรือแม้แต่เป็นการบอกต่อ/พรายกระซิบ ก็ควรให้แหล่งข้อมูลต้นทางเพื่อตรวจสอบด้วยครับ… อย่าลืมว่ามี พรบ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (ไม่ใช่ว่าผมเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพียงแต่บอกว่ามีกฏหมายอยู่)

แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ เมื่อเตือนภัยล่วงหน้า มีน้อยคน/น้อยชุมชนมากที่จะขยับเตรียมการ แล้วเวลาเตือนว่าภัยมาแล้ว ก็อยู่โยงเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ไม่ยอมอพยพไปไหน เรื่องนี้ที่จริงพอเข้าใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุซึ่งไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนหนุ่มสาว บางคนก็ต้องเฝ้าเทือกสวนไร่นาไม่รู้จะฝากใครไว้ แล้วบางคนก็ไม่มีที่ไป ชุมชนไม่เตรียมพื้นที่ปลอดภัยไว้ล่วงหน้า

อ่านต่อ »


นาฬิกาแดด

อ่าน: 6186

น้ำจะท่วม ในชั่วโมงนี้ สิ่งที่ควรเตรียมแล้วยังไม่ได้เตรียม ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วล่ะครับ

ระหว่างรอความช่วยเหลือ ให้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวก่อน อย่าทำตนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ซึ่งอาจจะได้อยู่เฝ้าจริงๆ ติดตามข่าวสารกันหน่อย จากสภาพแห้งๆ เปลี่ยนเป็นท่วมมิดหัวได้ในวันเดียว หน่วยงานทางปกครอง ควรจะประสานเครือข่ายเฝ้าระวังทางด้านต้นน้ำ ทำกันเป็นทอดๆ ไป ขอให้ช่วยเตือนบ้านเรือนทางใต้น้ำด้วย หากเขตของท่านน้ำท่วม ก็เมตตาเขตที่อยู่ใต้น้ำด้วย แจ้งสถานการณ์เขาไปโดยด่วนเพื่อที่จะเตรียมพร้อม

แล้วเมื่อได้รับคำเตือนมา หากยังไม่ได้เตรียมการใดๆ ไว้ ก็ควรจะเตรียมอพยพนะครับ ขนข้าวของขึ้นที่สูงแล้่วย้ายผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และเด็ก ไปสู่ที่ปลอดภัยก่อน (ว่าแต่รู้และกำหนดกันหรือยังว่าสถานที่ปลอดภัยอยู่ตรงไหน จะไปตามหากันตรงไหน)

ทีนี้เวลาอพยพไปอยู่ที่สูงกันแล้ว สิ่งที่คุ้นเคย ก็หาไม่เจอหรอกครับ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่ผมนึกถึงนาฬิกาแดด

ถ้าหากเชื่อว่าการโคจรของเทหวัตถุเป็นไปตามกฏเกณฑ์ทางฟิสิกส์ ก็ใช้โปรแกรมนี้คำนวณได้ครับ แต่ถ้าหากเชื่อว่าทางโคจรของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าเปลี่ยนไปมาแบบขึ้นและตกบนภูเขาผิดลูก ก็ข้ามบันทึกนี้ไปเลย

อ่านต่อ »


เฝ้าระวังความสั่น

อ่าน: 4611

ก็เรื่องแผ่นดินไหวนั่นล่ะครับ

จนปัจจุบัน ยังไม่มีใครทำนายแผ่นดินไหวได้แม่นยำ — ทำนายได้ แต่มักไม่ถูก; “มักไม่ถูก” แปลว่าทำนายไปเรื่อยๆ คงมีถูกบ้างเหมือนกัน — ซึ่งการทำนายด้วยความรู้จริงนั้น ประกอบไปด้วยองค์ประกอบสองสามเรื่อง คือ (1) เกิดที่ไหน (2) เกิดเมื่อไหร่ในอนาคต [และ (3) เกิดแรงแค่ไหน] ด้วยความซับซ้อนและแตกต่างของโครงสร้างของดิน+แผ่นเปลือกโลก แผ่นดินไหวเกิดได้จากหลายสาเหตุ มีผู้สังเกตสิ่งบอกเหตุซึ่งใช้ได้เป็นบางกรณี แต่ยังไม่มีวิธีการใดๆ ที่จะทำนายแผ่นดินไหวได้ถูกต้องแม่นยำ

ถึงจะไม่มีสูตรทำนายแผ่นดินไหวแบบครอบจักรวาล หมั่นสังเกตสิ่งบอกเหตุรอบตัว ก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย เช่น earth sounding ช้างกับ ELF เมฆแผ่นดินไหว การศึกษาการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกด้วย GPS ฯลฯ ส่วนสัญญาณจากอวกาศ มีผู้พยายามศึกษาเช่นกัน (ข้อมูลที่ผมเห็น ก็พบว่ามี correlations สูง แต่ยังไม่มีการตั้งทฤษฎี) และได้ร้องขอให้ช่วยกันสังเกต

ถ้าหากมีการทำนายแผ่นดินไหวที่แม่นยำก็ดีไป แต่ในเมื่อไม่มี ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กำหนดขอบเขตการเฝ้าระวังเอาไว้อย่างชัดเจน แม้จะเป็นลักษณะ reactive ก็ตาม

อ่านต่อ »


วัดมงคลชัยพัฒนา สระบุรี

อ่าน: 3998

สืบเนื่องจากบันทึกที่แล้ว จะถวายพระในวันศุกร์ แต่ว่าวัดมีงานใหญ่ เกรงว่าจะไม่สะดวกสำหรับพ่อแม่ซึ่งอายุมากแล้ว

วันนี้ก็เลยชวนกันนำพระไปถวายที่วัดมงคลชัยพัฒนาในตอนบ่ายเลยครับ (14.60216°N, 100.90844°E) วัดนี้มีทั้งปริยัติและปฏิบัติ แต่เนื่องจากไม่ได้นัดไว้ล่วงหน้า ท่านเจ้าอาวาสไปปากช่องเพื่อนำอะไรบางอย่างกลับมาในงานของวัดในวันศุกร์ แต่เจ้าหน้าที่ของวัดได้ต่อโทรศัพท์ให้คุยกับเจ้าอาวาส และเจ้าอาวาสได้มอบให้รองเจ้าอาวาส (พระมหาสายชล) รับพระแทน

อ่านต่อ »


พักบ้าง

6 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 24 August 2011 เวลา 0:22 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3659

ผมแทบจะเขียนเรื่องการจัดการภัยพิบัติล้วนๆ มาสักปีหนึ่งแล้วครับ เขียนทุกวัน วันละเรื่องหนึ่ง ก็สามร้อยกว่าเรื่องแล้ว

สำหรับท่านผู้อ่านที่ต้องการความหลากหลายในลานซักล้างเหมือนก่อน คงเต็มกลืนเหมือนกัน (แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ…ผมไม่ถือ) ผมว่าเขียนเรื่องที่ต้องเขียนก่อนดีกว่านะครับ และการเขียนเรื่องเครียดๆ นี้ ก็ไม่ได้เครียดตามหรอกนะครับ ไม่ใช่ว่าอินจัด หรือพยายามสร้างภาพว่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ เพียงแต่พิจารณาแล้วว่าขืนทำกันอย่างที่เคยทำกันอยู่ คงไม่แคล้วหมดตัวซ้ำซาก โดนภัยแล้วโดนภัยอีก

เพราะคนเราไม่ใช่หุ่นยนต์ จึงไม่มีด้านเดียว ผมก็เช่นกัน มีการบอกบุญบน facebook เพื่อร่วมกันสร้างพระขนาดหน้าตัก 9 ศอก สูง 10 เมตร ที่นครศรีธรรมราชมาสักพักแล้ว ในการนี้ ยังมีการสร้างพระขนาดหน้าตัก 26 นิ้ว อีกสี่องค์ ถวายวัดต่างๆ ในหลายภูมิภาค ซึ่งกำหนดจะถวายองค์แรกที่วัดมงคลชัยพัฒนาในวันศุกร์นี้แล้ว (วัดนี้เป็นพื้นที่แห่งแรกที่ทดลอง “ทฤษฎีใหม่” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) แต่ใกล้กำหนดการแล้ว ยังขาดเจ้าภาพอยู่ เมื่อได้ทราบดังนี้ ผมจึงปรึกษากับพ่อแม่ เพื่อที่ครอบครัวจะรับเป็นเจ้าภาพองค์แรกที่เวลากระชั้นชิดที่สุด และได้ตอบตกลงไป ประกอบกับในเวลาใกล้เคียงกัน องค์ที่สองซึ่งจะถวายวัดที่ อ.สีคิ้ว วันเสาร์หน้า ก็มีเจ้าภาพเรียบร้อยแล้ว วันนี้จึงเดินทางไปรับพระทั้งสององค์ที่อุทัยธานี เป็นสมเด็จองค์ปฐม (พระพุทธเจ้าพระองค์แรก) สมเด็จองค์ปฐม ทรงเครื่องพระเจ้าจักรพรรดิ ปิดทอง ประดับแก้ว

อ่านต่อ »



Main: 0.061791896820068 sec
Sidebar: 0.17139410972595 sec