มีดี…ก็งัดออกมาเลย
เมื่อวานเข้ากรุงเทพไปทำเรื่องบัญชีการรับบริจาคซึ่งติดขัดอยู่ แก้ไขจนเรียบร้อยแล้วครับ หมดเวลาไปทั้งวันทั้งคืนจนไม่ได้เขียนบันทึก
บ้านอยู่ปากเกร็ดฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ทางตะวันตกห่างเพียง 1 กม. ทางตะวันออกเป็นคลองประปา ทางเหนือเป็นแนวคันดินพระราชดำริ (ถนนประชาชื่นปากเกร็ดหรือศรีสมาน) น้ำยังไม่ท่วม ก็ต้องยกความดีให้กับเทศบาลนครปากเกร็ดและชาวบ้านปากเกร็ดที่ป้องกันเขื่อนอย่างเข้มแข็ง
เมื่อน้ำทะลักแนวป้องกันเข้ามา เป็นเรื่องใหญ่ เพราะว่าพื้นที่ไม่ได้ราบเรียบ น้ำที่ขังอยู่ในที่ต่ำจะไม่ระเหยไปเอง แต่จะต้องสูบออก สถานการณ์นี้ เจอกันมาทุกจังหวัดตามแนวการไหลของน้ำ การยกน้ำปริมาณ 1 ลิตร (ซึ่งหนัก 1 กก.) ขึ้นสูง 1 เมตร ใช้กำลัง 1 วัตต์ บกน้ำหนึ่งคิวขึ้นสูงหนึ่งเมตร ใช้กำลัง 1 กิโลวัตต์ แต่น้ำที่ทะลักเข้ากรุงร้อยล้านคิว ที่ต้องสูบออก ใช้พลังงานอีกมหาศาลครับ
บ้านเรือนริมคลองที่น้ำยังไม่ท่วม พยายามกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำให้หมด ผักตบชวา และกอหญ้าริมตลิ่ง เอาออกนะครับ จะช่วยให้น้ำผ่านไปเร็วที่สุด
น้ำเน่ามีออกซิเจนที่ละลายในน้ำต่ำ เอาจุลินทรีย์ไปบำบัด ก็เกิดประสาทเสียว่าจุลินทรีย์จะไปใช้ออกซิเจนในน้ำ ทำให้น้ำยิ่งเน่าเสีย…เอาเข้าไป ทำไมถึงเอาตัวเองไปเปรียบกับจุลินทรีย์ซะงั้น เพราะเราใช้ออกซิเจน จุลินทรีย์จึงต้องใช้ออกซิเจนเหมือนกันหรือครับ? จุลินทรีย์มีทั้งแบบแอโรบิคและแอนแอโรบิค ถ้าไม่รู้จักคัดเลือกมาทำงาน ก็สมควรแล้วที่ได้ข้อสรุปแบบนั้น เหมือนพวกขายปุ๋ยบอกว่าธาตุอาหารหลักของพืชคือไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ โปแตสเซียม (ก็จริง) ปุ๋ยจึงต้องเป็นสูตร N-P-K เท่านั้น (เหยื่อคนขายปุ๋ยเจ๊งไปไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดกี่ล้านรายแล้ว) ที่จริงพืชใช้ธาตุอาหารมากกว่านั้น และอยู่รอดวิวัฒนาการมาหลายร้อยล้านปีโดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี
น้ำเน่าในที่สุดจะลงอ่าวไทย ไปเป็นวิกฤตทางสิ่งแวดล้อมขนาดใหญ่ต่อไป ส่วนบนบกก็ทิ้งไว้แต่โรคในชุมชนขนาดใหญ่ ไม่บำบัดน้ำตอนนี้ จะตามไปบำบัดในอ่าวไทยหรือครับ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เห็นข้อเสนอใดๆ ที่จะแก้ไขน้ำเน่าเสียนะครับ ถ้าเสนอให้ปล่อยน้ำท่วมกรุงเทพให้น้ำเน่าน้อยมาไล่น้ำเน่ามากก็ยังพอเสนอได้ (แต่ผมไม่เอา) จะใช้เครื่องกลเติมอากาศ เพิ่มออกซิเจนในน้ำ ก็ใช้ซิครับ
ลำคลองมีความจุ (หน่วยเป็นลูกบาศก์เมตร/วินาที) จำกัด ถ้าจะเร่งระบายน้ำ เครื่องสูบต้องสูบได้ปริมาตรที่เพียงพอ แล้วเราอาจจะเร่งความเร็วของน้ำไหลด้วยเครื่องมือกลได้ ทีไปทำในแม่น้ำเจ้าพระยายังทำได้ ทำไมจึงจะทำในลำคลองไม่ได้
Next : นาวาฝ่าวิกฤต: Mobility in the time of flood » »
1 ความคิดเห็น
ผมเองติดตามเรื่อง em ball มาเพราะสนใจ ภรรยาก็เอาความรู้นี้ไปขยายทุกครั้งที่ไปพบปะชาวบ้าน โดยใช้วิทยากรจากคณะเกษตรศาสตร์ผู้มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ พี่แดง (เตือนใจ ดีเทศน์) ก็สนใจจะระดมชาวเชียงรายทำ em ball ช่วย กทม ผมเองเรียน Biology เป็นวิชาเอก ก็พอเข้าใจเรื่องเหล่านี้พอสมควร จุลินทรีย์นั้นมีเป็นพันเป็นหมื่น และถูกต้องที่เขาแบ่งเป็นสองชนิดคือชนิดที่ต้องการ O2 และชนิดที่ไม่ต้องการ O2 ที่บ้านขอนแก่นนั้นติดบึงใหญ่ที่เป็นแก้มลิงของจังหวัด ตอนนี้น้ำลงแล้วและเริ่มเน่าเหม็น ผมก็ใช้ em น้ำ ที่ทำไว้ใช้หลายถังมานาน เอาไปราดริมน้ำทุกสัปดาห์ กลิ่นมันไม่หมด แต่ลดลงจริงๆ เราไม่ได้ทำ em ball เพราะคิดว่า กรณีริมบ้านที่น้ำนิ่งมีแต่ลดลง เราใช้แบบน้ำนี้ราดไปเลย
หากมีคนระแวงใจก็ถือโอกาสนี้ ทำการวิจัยไปเลย มหาวิทยาลัยใดที่สนใจก็ทำเลย ทำเดี๋ยวนี้เลย ทำความจริงให้กระจ่างไปเลยน่าจะเกิดผลดีนะครับ