ภาษีที่ดิน
อ่าน: 3875ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 63.121 ล้านคน
- อยู่ในเมือง 22.799 ล้านคน อยู่ในชนบท 40.322 ล้านคน
- มีเกณฑ์อายุอยู่ในช่วงทำงานได้ (15-59) 44.444 ล้านคน
- มีหญิงอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ (15-44) 17.842 ล้านคน
เมืองไทยมีพื้นที่บนบกประมาณ 511,770 ตร.กม. หรือประมาณ 319.856 ล้านไร่ -> (มั่ว)หักพื้นที่ป่า เขตอุทยาน พื้นที่เมือง และที่ที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ออกสักครึ่งหนึ่ง เหลือเฉลี่ยคนละ 2.5 ไร่
พยายามจะค้นข้อมูลที่สำนักงานสถิติแห่งชาติว่ามีกี่ครอบครัว ครอบครัวละกี่คน ก็หาไม่ได้ (บ่น: เป็นเรื่องแปลกมากที่ข้อมูลสาธารณะเหล่านี้ กลับไม่มีการตีพิมพ์ออนไลน์ แต่กลับไปพิมพ์เป็นสื่อสิ่งพิมพ์จำนวน 3000 ฉบับ แถมยังไม่ได้แจกจ่ายให้กับผู้ที่อยากใช้อีก)
อย่างไรก็ตาม จำตัวเลขได้ว่าเมืองไทยมีประมาณ 15 ล้านครอบครัว ครอบครัวละ 4 คน เมื่อไม่กี่ปีก่อน
ภาษีการมีที่ดินมากเกินไป
เพื่อให้เกิดการใช้ที่ดินต่อหัวประชากรมีอรรถประโยชน์มากขึ้น ใครที่มีที่ดินมากเกินไปโดยไม่มีผู้อยู่อาศัย-ทำกิน-และมีทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่นั้น ก็ควรเสียภาษีที่ดินมากขึ้น เช่นไร่ผลไม้ขนาด 200 ไร่ มีคนงาน 100 คน เฉลี่ยคนละ 2 ไร่ อย่างนี้ไม่ต้องเสียภาษีที่ดินเพิ่ม แต่นายทุนอสังหาริมทรัพย์ กว้านซื้อที่ 80 ไร่ ดองไว้ 3 ปี โดยรอให้ราคาที่ดินสูงขึ้น อย่างนี้ควรเสียภาษีที่ดินเพิ่มขึ้น เพราะว่าไม่ได้ใช้ที่ิดินให้เป็นประโยชน์
ภาษีการไม่มีที่ดิน
ภาษีประหลาดอันนี้ เกิดจากความคิดที่ว่าคนที่ไม่มีที่ดิน ใช้เงินซื้อเอาอะไรต่อมิอะไรมาเลี้ยงชีวิตทั้งนั้น แต่ชีวิตเกิดจากดิน จึงสมควรจ่ายภาษีเพื่อการพัฒนาการทำกินจากดินบ้าง นำเอาภาษีนี้ไปพัฒนาแหล่งน้ำ ระบบชลประทาน ให้ความรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ food traceability ปรับปรุงเรื่องการขนส่ง/การแปรรูปพืชผลไปสู่ตลาด ฯลฯ
เขียนบันทึกนี้ทำไม
เขียนระบายอารมณ์เฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจเสนอให้ใครทำอะไรหรอกครับ เพียงแต่รู้สึกว่าเมืองไทยเราใช้ที่ดินแบบไม่เกิดประโยชน์มากเกินไป ที่จริงเราก็ทำอะไรกันเรื่อยเจื้อยกันเป็นส่วนใหญ่ด้วยซ้ำไป แล้วก็มาบ่นว่าประเทศอื่นๆ เค้าแซงกันไปหมด โดยไม่กลับมาพิจารณาตัวเองว่าเราไม่ทำอะไรให้มันเกิดประโยชน์เอง
« « Prev : Alan Kay: A powerful idea about teaching ideas
Next : ออริกามิ: จินตนาการเปลี่ยน “แผ่น” เป็น “ทรง” ได้ » »
3 ความคิดเห็น
ยังใช้ได้ๆ ข้อมูลครอบครัวหนึ่งโดยเฉลี่ยมี 4 คนนะน่ะ
ช่องว่างมันเยอะน้องเอ๋ย แต่ตามันถูกบดบังด้วยอะไรไม่รู้ ก็เลยไม่ใคร่จะมีใครเห็นส่วนที่ขาดเจ้าภาพดูแล/จัดการ
เห็นด้วยกันการซื้อที่ดินกักตุนไว้โดยไม่ได้ใช้ทำประโยชน์
ถ้าทุกผืนดินรกร้างมีการใช้สอย จะเกิดสนามความรู้ขึ้นอีกมาก ความเจริญโดยเบื้องหลังคือการระดมความรู้อย่างไม่มีขอบเขต
ภาษีอันนี้น่าที่จะใช้ระบบทวี ครับ
ขอบคุณมากครับ