ครัวลอยฟ้า
บ่ายสามโมงเมื่อวานนี้ iwhale ขอให้ช่วยระดมทุนเพื่อซื้อเสื้อชูชีพ 50 ตัว โดยจะนำไปให้ รพ.อินทร์บุรี ซึ่งอาสาดุสิตไปเยี่ยมและเห็นความเดือดร้อนมาเมื่อสองวันก่อน สี่โมงเย็น คุณปรีดา คนทุพลภาพมืออาชีพ ก็จัดทำเว็บเรียบร้อย ซึ่งภายในเวลาข้ามคืน ก็สามารถระดมทุนสำหรับชูชีพ 50 ตัวได้ครบ… ที่จริงมีเหลืออีกด้วย ดังนั้นโปรแกรมนี้ จึงขยายเป็นการระดมทุนจัดหาชูชีพสำหรับโรงพยาบาลในพื้นที่ประสบอุทกภัย เพราะว่าโรงพยาบาลอื่นๆ ก็คงมีปัญหาเดียวกัน ขออนุโมทนาด้วยครับ… “คนไทย มีน้ำใจ ไม่ทิ้งกัน”
เมื่อวานมีผู้บริจาคประเดิมให้ 20 ตัว ไปรับเมื่อวาน และวันนี้อาสาดุสิตกำลังเดินทางไปสิงห์บุรีเพื่อส่งมอบเสื้อชูชีพล็อตแรกให้โรงพยาบาล เรื่องความปลอดภัย รอไม่ได้เลยครับ และเมื่อไปถึงตรงนั้นแล้ว ทีมก็จะไปดูพื้นที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ใกล้กับวัดธรรมามูลวรวิหารซึ่งเคยไปทอดกฐิน อยู่กันคนละฝั่งของแม่น้ำ
ตอนน้ำท่วมน่านเมื่อต้นเดือนที่แล้ว อำเภอเมืองยังพอจะโอเค แต่อำเภอภูเวียงซึ่งอยู่ติดกันทางตะวันออกถูกตัดขาด มีแม่น้ำน่านคั่น น้ำเชี่ยวมาก ตอนนั้นเสนอให้ทำตั้งเสา ขึงสลิง ทำกระเช้าส่งของข้ามน้ำไป เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ดีที่ช่วยให้ชาวบ้านพอจะช่วยตัวเองได้บ้าง เรื่องอย่างนี้ ใครๆ ก็รู้ครับ เพียงแต่เวลาทุกข์ท่วมท้น อาจนึกไม่ออก อาสาสมัครที่เข้าไปในพื้นที่ ก็เพียงแต่สะกิดความคิดเท่านั้น เคารพการตัดสินใจของชาวบ้านซึ่งรู้ข้อจำกัดของตัวเองดีกว่าคนนอก อาสาสมัครไม่ควรที่จะนำของไปแจกเพียงอย่างเดียว เป็นโอกาสที่จะใช้ความรู้พลิกฟื้นชีวิตของชาวบ้าน ก็ใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่า ถึงอย่างไรอาสาสมัครก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นตลอดไป ให้ความคิดทิ้งเอาด้วยไว้ดีกว่าไหมครับ
ทีนี้ก็มีเรื่องละสิครับ กระแสน้ำเชี่ยวมาก ฝั่งตะวันตกที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ จมน้ำหมด ฝั่งตะวันออกเป็นภูเขา เข้าออกถนนสายเอเซียได้ ตั้งเต้นท์ช่วยเหลือชาวบ้านได้ แต่ถ้าให้ชาวบ้านมารับความช่วยเหลือ ก็จะมีอันตรายมากเนื่องจากความแรงของกระแสน้ำ ส่วน อบต.ซึ่งตั้งฐานอยู่ฝั่งตะวันออก เอาความช่วยเหลือลงเรือไปแจก ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ทำมาสักพักแล้ว กำลังจะหมดแรง ในที่สุดแล้ว ก็คงประกาศให้อพยพ และตัดไฟฟ้า
ตาม พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา 29 เมื่อสั่งอพยพแล้ว ไม่ออกจากพื้นที่ไม่ได้ครับ
มาตรา ๒๙ เมื่อเกิดหรือใกล้จะเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ใดและการอยู่อาศัย หรือดำเนินกิจการใด ๆ ในพื้นที่นั้นจะเป็นอันตรายอย่างร้ายแรง ผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการกลาง ผู้อำนวยการจังหวัด ผู้อำนวยการอำเภอ และผู้อำนวยการท้องถิ่นโดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการอำเภอ จะประกาศห้ามมิให้บุคคลใด ๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่ดังกล่าวก็ได้ ประกาศดังกล่าวให้กำหนดระยะเวลาการห้ามและเขตพื้นที่ที่ห้ามตามที่จำเป็นไว้ด้วย
หากชาวบ้านอพยพออกมา ก็จะหมดห่วงเรื่องความปลอดภัยไปเปลาะหนึ่ง แต่ผมก็ไม่สงสัยเช่นกัน ว่าจะไม่ได้เตรียมที่ทางเอาไว้พอ — เข้าใจครับ ว่ามันยุ่งมาก มีล้านเรื่องที่ต้องทำในเวลาเดียวกัน ที่เป็นอย่างนี้เพราะไม่ได้ทำแปดแสนเรื่องไว้ก่อนล่วงหน้า