ครัวลอยฟ้า

อ่าน: 5009

บ่ายสามโมงเมื่อวานนี้ iwhale ขอให้ช่วยระดมทุนเพื่อซื้อเสื้อชูชีพ 50 ตัว โดยจะนำไปให้ รพ.อินทร์บุรี ซึ่งอาสาดุสิตไปเยี่ยมและเห็นความเดือดร้อนมาเมื่อสองวันก่อน สี่โมงเย็น คุณปรีดา คนทุพลภาพมืออาชีพ ก็จัดทำเว็บเรียบร้อย ซึ่งภายในเวลาข้ามคืน ก็สามารถระดมทุนสำหรับชูชีพ 50 ตัวได้ครบ… ที่จริงมีเหลืออีกด้วย ดังนั้นโปรแกรมนี้ จึงขยายเป็นการระดมทุนจัดหาชูชีพสำหรับโรงพยาบาลในพื้นที่ประสบอุทกภัย เพราะว่าโรงพยาบาลอื่นๆ ก็คงมีปัญหาเดียวกัน ขออนุโมทนาด้วยครับ… “คนไทย มีน้ำใจ ไม่ทิ้งกัน”

เมื่อวานมีผู้บริจาคประเดิมให้ 20 ตัว ไปรับเมื่อวาน และวันนี้อาสาดุสิตกำลังเดินทางไปสิงห์บุรีเพื่อส่งมอบเสื้อชูชีพล็อตแรกให้โรงพยาบาล เรื่องความปลอดภัย รอไม่ได้เลยครับ และเมื่อไปถึงตรงนั้นแล้ว ทีมก็จะไปดูพื้นที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ใกล้กับวัดธรรมามูลวรวิหารซึ่งเคยไปทอดกฐิน อยู่กันคนละฝั่งของแม่น้ำ

ตอนน้ำท่วมน่านเมื่อต้นเดือนที่แล้ว อำเภอเมืองยังพอจะโอเค แต่อำเภอภูเวียงซึ่งอยู่ติดกันทางตะวันออกถูกตัดขาด มีแม่น้ำน่านคั่น น้ำเชี่ยวมาก ตอนนั้นเสนอให้ทำตั้งเสา ขึงสลิง ทำกระเช้าส่งของข้ามน้ำไป เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ดีที่ช่วยให้ชาวบ้านพอจะช่วยตัวเองได้บ้าง เรื่องอย่างนี้ ใครๆ ก็รู้ครับ เพียงแต่เวลาทุกข์ท่วมท้น อาจนึกไม่ออก อาสาสมัครที่เข้าไปในพื้นที่ ก็เพียงแต่สะกิดความคิดเท่านั้น เคารพการตัดสินใจของชาวบ้านซึ่งรู้ข้อจำกัดของตัวเองดีกว่าคนนอก อาสาสมัครไม่ควรที่จะนำของไปแจกเพียงอย่างเดียว เป็นโอกาสที่จะใช้ความรู้พลิกฟื้นชีวิตของชาวบ้าน ก็ใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่า ถึงอย่างไรอาสาสมัครก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นตลอดไป ให้ความคิดทิ้งเอาด้วยไว้ดีกว่าไหมครับ

ทีนี้ก็มีเรื่องละสิครับ กระแสน้ำเชี่ยวมาก ฝั่งตะวันตกที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ จมน้ำหมด ฝั่งตะวันออกเป็นภูเขา เข้าออกถนนสายเอเซียได้ ตั้งเต้นท์ช่วยเหลือชาวบ้านได้ แต่ถ้าให้ชาวบ้านมารับความช่วยเหลือ ก็จะมีอันตรายมากเนื่องจากความแรงของกระแสน้ำ ส่วน อบต.ซึ่งตั้งฐานอยู่ฝั่งตะวันออก เอาความช่วยเหลือลงเรือไปแจก ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ทำมาสักพักแล้ว กำลังจะหมดแรง ในที่สุดแล้ว ก็คงประกาศให้อพยพ และตัดไฟฟ้า

ตาม พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา 29 เมื่อสั่งอพยพแล้ว ไม่ออกจากพื้นที่ไม่ได้ครับ

มาตรา ๒๙ เมื่อเกิดหรือใกล้จะเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ใดและการอยู่อาศัย
หรือดำเนินกิจการใด ๆ ในพื้นที่นั้นจะเป็นอันตรายอย่างร้ายแรง ผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการกลาง  ผู้อำนวยการจังหวัด ผู้อำนวยการอำเภอ และผู้อำนวยการท้องถิ่นโดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการอำเภอ จะประกาศห้ามมิให้บุคคลใด ๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่ดังกล่าวก็ได้ ประกาศดังกล่าวให้กำหนดระยะเวลาการห้ามและเขตพื้นที่ที่ห้ามตามที่จำเป็นไว้ด้วย

หากชาวบ้านอพยพออกมา ก็จะหมดห่วงเรื่องความปลอดภัยไปเปลาะหนึ่ง แต่ผมก็ไม่สงสัยเช่นกัน ว่าจะไม่ได้เตรียมที่ทางเอาไว้พอ — เข้าใจครับ ว่ามันยุ่งมาก มีล้านเรื่องที่ต้องทำในเวลาเดียวกัน ที่เป็นอย่างนี้เพราะไม่ได้ทำแปดแสนเรื่องไว้ก่อนล่วงหน้า

อ่านต่อ »


คิดแบบร่วมมือ

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 19 September 2011 เวลา 23:50 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 4159

ช่วงนี้แม้จะดูเหมือนว่าไม่มีอะไร แต่งานเยอะมากครับ ไม่ค่อยมีเวลานอนเลย

เรื่องของเรื่องก็คือว่า อยู่ดีๆ เพิ่งเกิดกระแสช่วยน้ำท่วมขึ้นแม้ว่าน้ำท่วมมานานแล้ว แต่ถึงอย่างไร การตระหนักถึงความเดือดร้อนและลงมือช่วยตามกำลัง ก็ยังดีกว่าพร่ำบ่นบริกรรมว่ารักพี่น้องเพื่อนพ้องร่วมชาติ แต่ไม่ได้ลงมือทำอะไรนะครับ… แต่ก็อย่างว่าล่ะนะครับ ขืนทุกคนคิดเหมือนกัน ทำเหมือนกันไปหมด เหมือนหุ่นยนต์ เหมือนผลผลิตทางอุตสาหกรรม เมืองไทยคงน่าเบื่อมากเลย

งานเยอะเพราะสถานการณ์น้ำท่วมหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผู้มีน้ำใจใหม่ๆ เริ่มเข้ามาช่วย ก็หาข้อมูลก่อน… ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องดี ยังไงก็ดีกว่าไม่รู้เรื่อง แต่ไม่รู้ว่าตัวไม่รู้ครับ

อ่านต่อ »


เดินทางในน้ำนิ่ง

อ่าน: 3898

ถนนของเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ไม่ว่าเมืองไหนก็เป็นคล้ายๆ กันหมดละครับ มีอยู่สองลักษณะ คือมีถนนเลียบแม่น้ำเลย ใช้ถนนเป็นเขื่อนไปในตัว หรือว่าถนนอยู่ห่างตลิ่ง แล้วมีซอยเข้าไปยังบ้านเรือนริมน้ำ

ในเขตเมืองต่างจังหวัด เช่นอ่างทอง นครสวรรค์ พิษณุโลก จะเป็นลักษณะถนนเลียบแม่น้ำอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะเมืองขยายตัวช้ากว่าถนน จึงไม่ต้องเวนคืนที่ริมน้ำด้วยราคาแพง แต่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลนั้น ที่ดินราคาแพงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว การเวนคืนที่ริมน้ำจะสิ้นเปลืองงบประมาณมาก ดังนั้นถนนจึงไม่มีถนนที่เลียบริมน้ำ ประกอบกับดิดอ่อน ถนนจึงขยับไปอยู่ห่างตลิ่ง สามารถระบายการจราจรได้เร็วเพราะตัดถนนได้ตรงมากกว่า จากนั้นจึงสร้างซอยแยกจากถนนใหญ่เข้าไปยังบริเวณบ้านเรือนริมน้ำ อาการอย่างนี้เห็นได้ชัดตั้งแต่ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพ และสมุทรปราการ

เพราะว่าริมตลิ่งแม่น้ำ มีบ้านเรือนตั้งอยู่ ทำให้สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมได้ลำบาก ดังนั้นบ้านเรือนริมน้ำ ก็มักจะมีน้ำท่วมในช่วงหน้าน้ำเสมอๆ ทำให้ชาวบ้านตามริมน้ำเข้าออกบ้านด้วยความลำบาก

อ่านต่อ »


น้ำท่วมกรุงเทพ?

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 17 September 2011 เวลา 12:20 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 4263

แม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.เมืองปทุมธานีเป็นต้นมา กว้าง 200 ม. อย่างสม่ำเสมอ ยกเว้นตรงเกาะเกร็ด นนทบุรี ซึ่งเป็นคลองขุดกว้าง 100 ม. (แต่แม่น้ำสายเก่าที่ไหลอ้อมไป อยู่ติดกันและยังกว้าง 200 ม. เช่นเดิม)

ความกว้าง 200 ม. นี้ เท่ากับที่ปากน้ำโพ นครสวรรค์ และเท่ากับที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก อ่างทอง ซึ่งอยู่เหนือ อ.บางบาล อยุธยา แต่ถ้าฝนไม่ตกหนัก ผมไม่คิดว่ากรุงเทพจะจมน้ำ

ทั้งนี้เป็นเพราะความจุของลำน้ำแถบ โผงเผง บางบาล มีเพียง 1,800 ลบ.ม./วินาที อันนี้หมายความว่าถ้าน้ำไหลมาเป็นปริมาณเกินค่า 1,800 ลบ.ม./วินาที น้ำก็จะยกตัวขึ้นพ้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมแผ่นดิน แล้วแต่ว่าที่ไหนต่ำกว่าก็จะท่วมก่อน บางบาลจึงน้ำท่วมหนักทุกปี เมื่อเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำมาเกินนี้ และน้ำไม่สามารถจัดสรรไปยังช่องทางอื่นได้ บางบาลก็ท่วมครับ

อ่านต่อ »


อย่าแผ่ว

5 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 16 September 2011 เวลา 23:38 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 2879

ตั้งชื่อบันทึกว่าอย่าแผ่ว แต่ตัวผมเองก็ไม่ไหวครับ สัปดาห์ที่ผ่านมา มีงานเช้าสามวัน ต้อง “เข้าเมือง” ก่อนเจ็ดโมงเช้า ไม่อย่างนั้นรถติด ก็เลยไม่ได้นอนทั้งสามวัน ถ้ายังเป็นเหมือนตอนหนุ่มๆ อยู่ ก็ไม่เป็นไร เคยทำงานไม่ได้กินไม่ได้นอน 60 ชั่วโมงติดกันก็ยังไหว ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ควรรู้ตัวและใช้เวลาอย่างมีค่ามากขึ้น

เมื่อวันที่ 3 กันยายน เป็นวันที่ได้ภาพถ่ายจากดาวเทียม Terra (NASA/GSFC) ที่ชัดมาก เมื่อดูรายละเอียดใน Google Earth แล้ว ส่วนของแม่น้ำยม เห็นขอบเขตของน้ำท่วมตั้งแต่ใต้ อ.เมืองสุโขทัย อ.กงไกรลาศ อ.บางระกำ แล้วท่วมตลอดริมแม่น้ำผ่านพิจิตรไปยันนครสวรรค์ ส่วนแม่น้ำน่านนั้น ท่วมที่ อ.พรหมพิราม ข้าม อ.เมืองพิษณุโลก แล้วท่วมต่อตลอดลำน้ำไปยันบึงบระเพ็ดที่นครสวรรค์ ตอนนั้น “บางระกำโมเดล” กำลังฮิตกัน ข่าวที่ปรากฏในสื่อ ก็มีได้เพียงแค่ที่ผู้สื่อข่าวกล้าตายสามารถเดินทางไปถึง แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดของพื้นที่และเวลานำเสนอจึงไม่สามารถให้รายละเอียดอย่างเพียงพอ ผู้บริโภคข่าวสารอาจจะไม่เห็นภาพว่าอุทกภัยครั้งนี้ ชาวบ้านเดือดร้อนในวงกว้างขนาดไหน

ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีเมฆมาก ภาพถ่ายจากดาวเทียมมองไม่เห็นขอบเขตของน้ำท่วมเลย จนคืนนี้ ภาพล่าสุดจากดาวเทียม Aqua พอมองเห็นขอบเขตของน้ำที่เคลื่อนตัวลงมา (ที่ท่วมอยู่เมื่อ 13 วันก่อน ก็ยังท่วมอยู่ครับ) แต่มีพื้นที่ใหม่ที่ท่วมแล้ว ดูด้วย Google Earth จะเห็นบริเวณที่น้ำท่วมใหม่ในหลายพื้นที่ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี มีแนวโน้มจะไปลงทะเลที่แม่น้ำท่าจีน ซึ่งจะกระทบนครปฐมด้วย — ถ้าไม่มี Google Earth ก็ควรโหลดมาใช้ซะ ฟรีครับ (หรือดูรูปนี้ก็ได้ แต่ว่ามันไม่มีเขตจังหวัด เขตอำเภอ และซูมดูบริเวณที่สนใจไม่ได้)

ลุ่มน้ำชี ก็ท่วมตามริมฝั่งครับ กาฬสินธุ์ ยโสธร อุบลราชธานี

ถ้าคิดว่าทำอะไรได้บ้าง ควรเริ่มจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ใช่แค่รับฟัง เกิดอารมณ์คล้อยตาม แล้วเชื่อไปเลยนะครับ (กาลามสูตร) ยกตัวอย่างเช่นกรณีดินถล่มที่ น้ำปาด อุตรดิตถ์ ข้อมูลจาก 3 แหล่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน คือทีมอาสาสมัครที่ลงพื้นที่เอง ทีมเครือข่ายการจัดการพิบัติภัยจากธรรมขาติพื้นที่ภาคใต้ที่ยกมาช่วยและขอการสนับสนุนมา และจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ขณะนี้ของบริจาคกองเป็นพะเนินแล้วครับ เสาร์-อาทิตย์นี้จะมีเพิ่มอีก แต่ยังขาดแรงงาน เครื่องมือ และวัสดุซ่อมสร้างบูรณะบ้านเรือนที่เสียหาย… การกระทำโดยความไม่รู้นั้น ยากจะเกิดผลดีครับ ของบริจาคส่วนเกินจะกลายเป็นภาระไป

อ่านต่อ »


ร่วมแสดงความยินดีในโอกาสที่เนคเทคครบรอบ 25 ปี

6 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 15 September 2011 เวลา 17:00 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 4073

วันนี้ มีงาน NECTEC-ACE ซึ่งจัดขึ้นในโอกาสที่เนคเทคสถาปนาครบรอบ 25 ปี (ตามมติ ครม. เนคเทคตั้งในวันที่ 16 กันยายน 2529 เป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์)

ทางเนคเทคก็ชวนผมไปขึ้นเวทีในฐานะที่คุ้นเคยกับเนคเทคมานาน ขอรับฟังมุมมองอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าดีหรือไม่ดี เวทีนี้มีอาจารย์บรรยงค์ สุวรรณผ่อง  ที่ปรึกษาชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินรายการ และมี รศ.ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต, ดร.มนู อรดีดลเชษฐ์ ประธานกรรมการนโยบาย ICT มหาวิทยาลัยศรีปทุม, คุณชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กับผม

ที่จริงก็รู้จักกับวิทยากรทุกท่านมานานแล้วทั้งนั้นละครับ แต่เป็นรุ่นใหญ่ทั้งนั้นเลย (หรือว่าเราแก่แล้วหว่า) แต่อย่างไรก็ต้องค้นข้อมูล ย้อนกลับไปตรวจสอบหน่อย ว่าผมเกี่ยวข้องกับเนคเทคอย่างไร แค่ไหน เมื่อไหร่…

เรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้ ไม่มีโอกาสได้พูดบนเวทีหรอกครับ มีเวลาน้อยมาก… และเขียนไม่ครบทุกเรื่องที่เตรียมไปด้วยครับ

อ่านต่อ »


ชาวบ้านริมแม่น้ำ

3 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 September 2011 เวลา 12:59 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว, เทคโนโลยีชาวบ้าน #
อ่าน: 6559

ได้รับอีเมลจากตัวแทนชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนที่อยุธยาซึ่งอยู่ติดแม่น้ำ และอยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมครับ

เรียน ท่านผู้มีจิตศรัทธาและมีน้ำใจ

เรื่อง ขอความช่วยเหลือจากผลกระทบน้ำท่วมหนัก

ผมเป็นตัวแทนชาวบ้าน จะของบประมาณในการสร้างสะพาน เนื่องจากน้ำท่วมสูง และกระแสน้ำแรง ประชาชนในหมู่บ้านต้องเดินทางไปทำงานหรือติดต่อกับ ภายนอกด้วยความยากลำบาก เพราะหลายคนทำงานโรงงาน ต้องใส่ชุดอยู่บ้านลุยนำ ออกไปเปลี่ยนชุดข้างนอก ที่ถนนใหญ่ทั้งชายและหญิง เพื่อขึ้นรถไปทำงาน พายเรือก็เป็นความเสี่ยงที่เรือจะล้ม เพราะกระแสน้ำแรงมากต้องพายทวนกระแสน้ำ และเรือมักจะล้มอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งจากสภาพปีที่แล้ว (2553) เป็นความลำบากมาก และเมื่อมาถึงปีนี้น้ำก็มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และน่าจะคงสภาพความลำบากเช่นนี้อีกนาน เพราะอีกฝั่งกั้นขั้นดินไม่ให้น้ำเข้าพื้นที่ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนนา ซึ่งระยะทางในการออกไปถนนใหญ่ประมาณ 3-4 ร้อยเมตร จึงเรียนมาเพื่อขอคำปรึกษาและขอความช่วยเหลือ ว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 14 ต.ปากกราน อ. พระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา ส่วนรายละเอียดต่างๆสามารถติดต่อผมได้ ที่ 089-xxxxxxx ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

ด้วยความเคารพและขอบคุณ

อับดุสสลาม xxxxxxxx

ตัวแทนชาวบ้านผู้เดือดร้อนจากผลกระทบน้ำท่วม

จดหมายไม่ได้เจาะจงแต่ส่งมาถึงมูลนิธิ เช้านี้ผมติดต่อกลับไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันประมาณ 15 นาที และได้ความว่าอยู่ติดกับวัดไชยวัฒนาราม อยุธยา ตรงนั้นมีสภาพเป็นคุ้งน้ำ ทำให้น้ำพัดเข้าพื้นที่ด้วยความแรง จนเรือพายล่มได้บ่อยๆ ชาวบ้านต้องลุยน้ำออกมาหลายร้อยเมตร ผู้หญิงลำบาก น่าเห็นใจมากครับ

อ่านต่อ »


ถังหมักของเสียจากส้วม

อ่าน: 4288

คนเราต้องกินต้องถ่าย แต่ช่วงอุทกภัยนั้น ลำบากทั้งกิน ทั้งถ่าย แถมการหุงหาอาหาร ก็ยากลำบากด้วย

ครอบครัวในเมือง ก็เปลี่ยนไปใช้ก๊าซหุงต้มกันหมด ถ้าน้ำท่วมเมืองจะส่งถังก๊าซลำบากมาก ส่วนครอบครัวที่ไม่ได้อยู่ในเมืองอาจจะใช้ถ่านหรือฟืน แต่ในภาวะที่น้ำท่วม จะไปหาถ่านหาฟืนจากไหน การหมักไบโอจากมูลสัตว์ไว้ใช้ เป็นทางออกที่ดี เพียงแต่ว่าเมื่อน้ำท่วม ถังหมักก็ท่วมด้วย

บันทึกนี้เสนอความคิดเรื่องถังหมักสำหรับครัวเรือน ที่ใช้หมักของเสียจากส้วม ผลิตก๊าซชีวภาพเอาไปใช้ในการหุงหาอาหาร มีหลายแบบ เลือกเอาตามความเหมาะสมก็แล้วกันครับ

ถ้าใช้ส้วมกระดาษ หรือถ่ายใส่ถุงพลาสติก คงรวบรวมของเสียมาหมักแบบนี้ได้ง่ายครับ ซึ่งการหมักแบบนี้เป็น anaerobic digestion ไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งก็หมายความว่าของเสียที่มี เติมน้ำจนเต็ม แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้เกิดก๊าซ โดยแรกๆ จะเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งปล่อยทิ้งไป หลังๆ จะเป็นมีเทนซึ่งติดไฟได้ เอาไปใช้เป็นก๊าซหุงต้มแก้ขัดไปพลางก่อน ผู้ประสบอุทกภัยก็จะมีที่กักเก็บของเสีย และมีก๊าซหุงต้มไว้ให้หุงหาอาหาร

อ่านต่อ »


รางวัล

10 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 13 September 2011 เวลา 15:20 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3235

วันนี้ ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า ไปงาน Software Park Annual Conference 2011 ซึ่งไม่ได้นอนตามเคย

ที่ต้องไปเช้าก็เพราะว่ามูลนิธิได้รับรางวัลครับ เพื่อความเหมาะสม จึงขอร้องลุงเอก (พล.อ. เอกชัย ศรีวิลาศ) ในฐานะประธานมูลนิธิขึ้นรับรางวัล ลุงเอกมีสอนด้วยเช้านี้ แต่ยังกรุณาขยับเวลาให้ ขอบคุณครับ

ลุงเอกรับรางวัลเสร็จ ก็ชะแว๊บออกจากงานไปสอนอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมก็ต้องเผ่นเหมือนกัน เนื่องจากมีการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องเครือข่ายการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชน จัดโดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) หรือเดิมคือศูนย์นเรนทร สนุกดีครับ แต่ไม่ได้มีอะไรที่ประหลาดใจ ได้ยินคำยืนยันซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งข้อมูล คำเสนอแนะ ก็เขียนอยู่ในลานซักล้างนี่ทั้งนั้น แต่ผมอยู่ฟังจนจบไม่ไหว พออายุมากขึ้น อดนอนเหมือนสมัยหนุ่มๆ ไม่ไหว ก็เลยต้องขอตัวกลับก่อน

อ่านต่อ »


เครื่องอบข้าว

อ่าน: 9375

เมื่อคืนจะเขียนเรื่องนี้ในบันทึกที่แล้ว แต่ง่วงเกินไป ประกอบกับยังคิดไม่รอบคอบ เนื่องจากผมเป็นคนเมืองมาตั้งแต่เกิด ไม่เข้าใจบริบทของการทำนาอย่างแท้จริง เพียงแต่รู้สึกได้ถึงความเดือดร้อน — มาวันนี้ ก็ยังไม่เข้าใจ+คิดไม่รอบคอบอยู่ดี แต่มีความเห็นของพี่บางทราย (ลูกชาวนาตัวจริงและทำงานพัฒนากับชาวบ้านหลายท้องถิ่นมาตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยจนเกษียณอายุ และยังทำต่อ) มาบอกว่าคิดไม่ผิดทางนัก ก็เลยตัดสินใจเขียนต่อครับ

อีกเหตุหนึ่งที่ไม่เขียนเรื่องเครื่องอบข้าว ก็เพราะไม่รู้จะเอาเครื่องอบข้าวเข้าไปในพื้นที่อุทกภัยได้อย่างไร มาวันนี้คิดตกแล้วว่าถ้ายุ้งฉางจมน้ำด้วย ก็ไม่มีที่เก็บข้าวอยู่ดีหรือข้าวเปียกจนเกินเยียวยา ดังนั้นก็ตั้งสมมติฐานไว้เลยว่า มีที่แห้งเก็บข้าว จะได้ไม่ต้องเอาเครื่องอบข้าว ลงแพหรือเรือท้องแบน ตามไปอบข้าวที่ยุ้งฉางที่จมน้ำอยู่ พื้นที่น้ำท่วม มีความชื้นสัมพัทธ์ 100% อยู่ดี ถึงอบไปก็จะชื้นใหม่อย่างรวดเร็ว

เดิมทีคิดจะใช้เกลียวของอาร์คิมิดีส ที่ปลายต่ำใส่ข้าวชื้น และจุดเตา เอาความร้อนใส่ไปในท่อ ความร้อนลอยขึ้นสูงไปออกปลายบน จะไม่อบอวลจนข้าวไหม้ หมุนๆๆๆๆ ข้าวที่มาโผล่ข้างบนจะชื้นน้อยลง แต่ถ้ายังชื้นอยู่ ก็ปล่อยข้าวลงไปข้างล่างตามทางลาด เอาไปขึ้นเกลียวที่สอง ที่สาม … ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนความชื้นเหลือน้อยพอที่จะส่งไปจำนำข้าว

มาคิดอีกที สมมุติเอาข้าวมาอบหนึ่งตัน ต้องหมุนเกลียวเพื่อยกน้ำหนัก คิดเป็นงานเหมือนกับยกน้ำหนักหนึ่งตันจะระดับพื้นข้างล่าง ขึ้นมาสู่ระดับปลายบนของท่อนะครับ แล้วเกิดผ่านท่อครั้งเดียวยังไล่ความชื้นออกได้ไม่พอ จะต้องส่งผ่านท่ออย่างนี้หลายๆ ท่อ ก็เท่ากับว่าต้องยกน้ำหนักหลายตัน โอย… อย่างนี้จะหมุนท่อไหวเหรอ

โชคดีที่เวลาชาวนาเอาข้าวเปลือกมาอบ ก็มักจะมาด้วยรถ(อีแต๋น) เราใช้ล้อรถขึ้นเพลามาหมุนเกลียวได้ ทดให้เครื่องเดินเบาหมุนเกลียวอย่างช้าๆ ส่วนค่าพลังงานเพื่อหมุน+ค่าใช้จ่ายในการขนส่งและโกย ชาวนาออกเอง ทำเอง ไม่ต้องจ่ายค่าหัวคิวให้ใคร

อ่านต่อ »



Main: 0.089927911758423 sec
Sidebar: 0.24483108520508 sec