SCG Paper ลงพื้นที่

อ่าน: 3805

หัวค่ำเมื่อวาน ได้นั่งฟัง Fa ของ SCG Paper สะท้อนสิ่งที่ได้ไปพบเห็นมาในการลงพื้นที่ในเวลาสั้นๆ

แต่ละกลุ่มต่างก็มีเรื่องน่าสนใจมานำเสนอเป็นที่สนุกสนาน เมื่อจบทั้งสี่กลุ่มแล้ว อ.ศักดิ์พงศ์ มาเล่าเรื่อง insight เกี่ยวกับนักสู้ชีวิตทั้งสี่ที่แบ่งให้แต่ละกลุ่มไปสัมภาษณ์มา ผมได้แต่หวังว่า Fa ฝึกหัดจะเข้าใจว่าต่อให้เป็นเรื่องที่เห็นประจักษ์อยู่ต่อหน้า ก็ยังมีเบื้องหลังอยู่เสมอ การหาคำตอบใดๆ ในงาน จะมองแค่เรื่องเฉพาะหน้า ตามเป้าหมาย ตาม KPI อาจจะเป็นการด่วนสรุปเกินไป (ความเห็นของเราก็อาจผิดได้)

นักสู้ชีวิตทั้งสี่นี้ เคยมาเรียนที่สวนป่าแล้วทั้งนั้น

กลุ่ม 4 เป็นกลุ่มเดียวที่แจ้งว่ามีครูน้อยเป็นพี่เลี้ยง กลุ่มนี้ไปพบพ่ออุทัย อ.สตึก เป็นกลุ่มเดียวที่มี intro ที่ฟังรู้เรื่อง อันนี้ไม่ใช่ข้อติติงกลุ่มอื่น แต่เป็นข้อสังเกตว่ากลุ่มอื่นใช้ assumption (assume ว่าคนอื่นรู้แล้ว) มากกว่ากลุ่มนี้

  • เมื่อ 15 ปีก่อน หมดนา ก็นั่งรถเข้ากรุงเทพ เพราะว่าไม่มีอะไรทำอีก
  • มาเรียนที่สวนป่า สวนป่าส่งเรียนเลี้ยงหมูที่ธรรมศาสตร์ ดูงานบริษัทเอกชนเรื่องเลี้ยงหมูที่ลำปลายมาศ
  • มีรถไถนามือถืออยู่คันหนึ่ง นำมาประดิษฐ์ต่อเป็น
    • เครื่องสูบน้ำ
    • เครื่องไสมันให้หมูกิน (ตากแดดก่อน ลดไซยาไนด์)
    • เครื่องบดปุ๋ย
    • เครื่องบดเม็ดสะเดา เอาไปทำยาฆ่าแมลง
    • ขับเข้าตลาดไปซื้อของ
  • มีที่ 35 ไร่ ทำเองครึ่งหนึ่ง ให้เช่าอีกครึ่งหนึ่ง
  • ประเด็นคิด
    • อยู่กับธรรมชาติ
    • ลองผิดลองถูก
    • ทำเองดีกว่าฟังเขาบอกมา
    • เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติ
    • เรียนรู้จากความผิดพลาด
    • ทุก[ปัญหา]มีทางออกเสมอ
    • มีความอยากเป็นตัวตั้ง
    • ทำในสิ่งที่ถนัด
    • ไม่ต้องใช้เงิน
    • มีเหนื่อย/มีท้อ แต่ท้อแล้วไม่ช่วยอะไร ชีวิตต้องไม่หยุดนิ่ง
    • “คนที่เตือนตัวเองได้ดีที่สุดคือตัวเราเอง”
  • เกรงไม่มีคนสืบทอดต่อ
  • รู้เรื่องเศรษฐกิจโลกดี แต่ไม่มีผลกับชีวิตพอเพียง

กลุ่ม 2 ไม่ได้แนะนำตัวเองว่าเป็นกลุ่ม 2 และไม่ได้แนะนำพี่เลี้ยง [ประเสริฐ/Ulem] มีปัญหาเรื่องภาษานิดหน่อย น่าเสียดายที่ไม่ใช้พี่เลี้ยงเป็นผู้แปล พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่เป็นเพียง GPS กลุ่มนี้ไปพบแม่ออน อายุ 65 ที่พยัคฆภูมิพิสัย

  • เป็นโรงเรียนให้คนหลายรุ่น
  • หลังจากมาเรียนที่สวนป่า มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
  • ไม่มีหนี้ มีที่ 12 ไร่
  • มีแปลงสาธิต -> แบรนด์ (ของดีขึงสาธิตได้) พืชผลขายหมดทุกวัน
  • มะเขือม่วง จากขายไม่ได้เลย กลายเป็นขายเกลี้ยงทุกวัน (ทำอย่างไร?)
  • อุปสรรค: หมดหน้านา ต้องไปทำอย่างอื่น ไม่ทำก็ไม่มีกิน
  • ดินมีไส้เดือน!
  • รดน้ำด้วยฝักบัว
  • มีการเปรียบเทียบกับเกษตรกรรายอื่นๆ benchmarking พยายามไปดูที่อื่น

กลุ่มที่ 3 ไปพบพ่อดา (70) กับแม่หนูพวน (46) ที่พยัคฆภูมิพิสัย [สุชาดาเป็นพี่เลี้ยง] กลุ่มนี้จับสิ่งที่ไม่เห็นได้มาก

  • นาไม่ร้อนอย่างที่คิด นั่งใต้กอไผ่สูง 5 เมตร
  • ทำนาดำ แก่แล้วทำไม่ไหว ก็จ้างเอาวันละร้อยกว่าบาท
  • พ่อดา: ใช้รถคูโบต้าของลูกเขย ส่วนรถเกี่ยวข้าวใช้จ้างเอา
  • “EM คือปุ๋ยทำให้ต้นไม้งอกงาม KM คือปุ๋ยคนทำให้คนงอกงาม”
  • มีความรู้สมุนไพร เรียนจากครูบาจัน
  • กลุ่มช้างน้าว (เม็กดำ) บ้าน-วัด-โรงเรียน
  • ทดลอง ทดลอง ทดลอง เลี้ยงหมูสี่กลุ่ม ให้อาหารสี่อย่าง ดูว่ากลุ่มไหนดี
  • ไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยหวังกับอนาคต แต่อยากชนะธรรมชาติ
  • แม่หนูพวน: ขยันแต่ลุยทำไปเรื่อยๆ
  • เอาตะแกรงปู หว่านข้าว เมื่องอกเป็นต้นกล้า ดึงตะแกรงขึ้น กล้าติดมาเป็นแพ
  • ปุ๋ยชีวภาพดีกว่าปุ๋ยเคมี แต่ใช้เวลาหมัก(เตรียม)นานกว่า แม่หนูพวนไม่มีเวลา จึงใช้เท่าที่จำเป็น
  • ปุ๋ยเคมีทำให้ดิน/ข้าวกร่อน ถ้าเก็บเกี่ยวไม่ทัน จะเสียหาย
  • ปล่อยควายกินใบ/ยอด ทำให้ข้าวแตกกอ
  • วิเคราะห์เอง: เมื่อพืชจะตาย จะออกดอกออกผล -> ข้าวทิ้งรวงทันที ทำให้ผลผลิตสูงผิดปกติ
  • ใบข้าวเบาบางลง (ถูกควายกิน) -> ปลามา

กลุ่ม 1 พ่อไล (72) [ครูบาเป็นพี่เลี้ยง พร้อมคณะผู้ตรวจการแผ่นดิน และรถข่าวของทีวีสีช่อง 7] บ้านพ่อไลอยู่ห่างสวนป่าไป 1.7 กม เท่านั้น จึงไม่เสียเวลาเดินทางมาก

  • จบ ป.4 ลูก 5 ยึดวิถีพ่อแม่เพราะเรียนไม่สูง แต่หลานเรียนสูงกว่า เพราะเรียนตามระบบ
  • เป็นห่วงว่าจะไม่มีใครดูต่อ
  • เดิมมีที่ 30 ไร่ แล้วแบ่งให้ลูกจนเหลือไว้ทำเอง 7 ไร่
  • เดิมปลูกยูคาลิปตัส สามปีตัด สามปีตัด; แล้วเปลี่ยนเป็นยาง ปลูกแล้วดูแล 4 ปี กรีดยางได้ 10 ปี ตอนนี้ทำยางมาได้ 20 ปีแล้ว
  • เผาถ่าน ทำเองคนเดียว
  • “KM คือกิโลเมตร”
  • ไม่มีอุปสรรค ไม่่ป่วย ไม่นอนกลางวัน (นอนสองทุ่ม)
  • กรีดยางเอง ตื่นตีสาม

« « Prev : มองบ้านพ่อไล

Next : สรุปทริป SCG Paper » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 June 2009 เวลา 20:32

    ขอบคุณค่ะ นี่คือ 3 หน้ากระดาษที่แกะลายมือตัวเองเรียบร้อยแล้ว? ^ ^

    เห็นพี่รุมกอดมีบันทึกเกี่ยวกับบ้านพ่อไล เลยขอสงสัยกลุ่มที่ 1 ว่า
    1. ที่ที่พ่อไลแบ่งให้ลูกๆนั้น ลูกๆยังทำการเกษตรอยู่หรือไม่
    2. พ่อไลทำนาหรือเปล่า และใครช่วย
    3. ผลผลิตยางไปที่ไหน ขายใคร
    4. อายุพ่อ 72 ใครดูแล
    5. พ่อมีการเตรียมการสำหรับชีวิตบั้นปลายอย่างไรบ้าง เงินออม?
    6. ทำไมพ่อไลถึงเลือกปลูกยาง และยางก็มีช่วงอายุการเก็บเกี่ยว ถ้าต้องโค่นต้นยางพ่อไลวางแผนชีวิตยังไง

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 June 2009 เวลา 21:27
    1. ทำครับ
    2. ทำเอง นา 7 ไร่ แม่เปี่ยม (ภรรยา) มือนิ่ม ไม่ได้ช่วย พ่อไล workaholic ทำงานตั้งแต่ตื่นจนนอน
    3. ขายที่ไหนไม่ได้ถามครับ แค่แถวนี้ใครๆก็มียาง คงไม่ต้องไปขายไกล เวลาราคาตก ก็ไม่กรีด ไม่ขาย พ่อไลทำหลายอย่าง ขืนทำอย่างเดียว (เกษตรเชิงเดี่ยว) แย่แน่
    4. ดูแลตัวเองครับ ลูกแกอยู่ด้วย
    5. ไม่ได้ถามครับ
    6. ผมอธิบายเอาตามความเข้าใจนะครับ: ยูคาอายุสั้น พอตัดขายแล้ว ต้องเริ่มใหม่หมด จึงเป็นวัฐจักรเหนื่อยไม่รู้จบ เหมือนปลูกพืชล้มลุก ยางมีอายุการเก็บเกี่ยวผลผลิตนานกว่า เมื่อรู้ว่าต้นยางอายุ 10 ปี ในช่วงปีที่ 10-14 ทำอย่างอื่น (ข้าว มะม่วง เผาถ่าน ฯลฯ) รอต้นยางโตพอจะให้ผลผลิต
  • #3 ampatomeve ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 June 2009 เวลา 19:46

    น่าสนใจๆ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.39477109909058 sec
Sidebar: 0.1264328956604 sec