จิตใจระเบิดขวด
อ่าน: 4312พระราชดำรัส พระราชทานแก่ข้าราชการ นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน
คณะกรรมการของมูลนิธิและสมาคมต่างๆ เฝ้า ฯ ถวายพระพรชัยมงคล
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาผกาภิรมย์
วันพฤหัสบดี ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๑ขอขอบใจที่พากันมาอวยพร ที่ให้พรนั้นสรุปได้ว่าให้ทรงพระเจริญ สิ่งใดที่ต้องการขอให้สำเร็จ คำให้พรให้เจริญนั้นจะเจริญได้ถ้ามีกำลังใจ เมื่อมาให้กำลังใจให้อย่างนี้ก็คงจะเจริญได้ ความเจริญนั้นมีหลายอย่าง จะเล่าให้ฟัง เมื่อ ๒๐ กว่าปีมาแล้ว ไปเฝ้าสมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศ ฯ ทรงเจริญชนมพรรษาถึง ๙๐ ทูลว่า ขอให้ทรงพระเจริญ แล้วลงกราบท่าน ท่านรับสั่งไม่ค่อยได้ เพราะไม่ทรงสบาย ทรงเจ็บพระศอ และทรงเพลีย แต่ในที่สุดก็รับสั่งว่า เจริญแล้ว คงจะหมายความว่าทรงพระชรามากแล้ว และตามความจริง สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศ ฯ ก็ทรงพระเจริญมากด้วยคุณธรรม คือทรงมีความสามารถและความเพียรพยายามทุกด้าน โดยมากมักจะนึกถึงกันแต่ทางศิลปะ แท้จริงยังทรงสามารถทางการปกครองและทางวิชาการอื่นๆ อีก จึงทรงเป็นผู้ที่เจริญ และเมื่อตรัสว่าเจริญแล้ว จึงหมายความว่าพระชนมายุมากแล้วด้วย เจริญพอแล้วด้วย
ที่ทุกคนมาให้พรว่าให้ทรงพระเจริญ คงจะให้เจริญทางจิตใจ วันนี้มีสมาคมองค์การต่างๆ โรงเรียน นักศึกษา และนักเรียนมาให้พรกันมากมายรวมทั้งสมาคมที่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพจิตด้วย และเมื่อวันก่อนก็มีองค์การศาสนาต่างๆ ทุกศาสนาที่มีอยู่ในเมืองไทยมาให้พร ได้พูดด้วยทุกราย จึงต้องพูดกับนักเรียนบ้างเพื่อไม่ให้น้อยใจ ที่ตั้งใจจะพูดด้วยก็เรื่องสุขภาพจิต เพราะได้เคยพูดฝากกับผู้ที่เป็นสมาชิกสมาคมส่งเสริมสุขภาพจิตว่า “หมู่นี้ สุขภาพจิตไม่ค่อยดี” คุณหญิงอัมพรจึงมาให้พรว่า “ขอให้ทรงพระเจริญและให้พระสุขภาพจิตดียิ่งๆ ขึ้น” คำว่าพระสุขภาพจิตที่ใช้เป็นคำใหม่ มีความหมายอย่างไร ไม่ทราบได้ ตามจริงก็คงจะอยากให้พรให้มีสุขภาพทางจิตดี คิดว่าสุขภาพทางจิตหรือความรู้สึกนึกคิดจะดีได้ก็เพราะมีคนอื่นเอาใจช่วย อย่างที่ทุกคนมาเฝ้า ฯ นี้ ยินดีมีโอกาสพูดด้วย ถ้าทุกคน ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งผู้ที่เป็นนักศึกษา และเป็นครู เห็นความสำคัญในเรื่องสุขภาพจิต ขอโทษ ขององค์พระประมุข ถ้าทุกคนร่วมมือกันทำงานตามจุดประสงค์แล้ว จะทำให้สุขภาพจิตขององค์พระประมุขดีได้ และถ้าแต่ละคนทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่รู้สึกว่ามีหน้าที่ที่จะรักษาสุขภาพจิตของ องค์พระประมุข เมื่อถวายพระพรให้ทรงพระเจริญ หรือให้ทรงพระชนมายุยืนนานเป็นร้อยปีหรือเป็นหมื่นปี ก็ขอให้เข้าใจว่าได้ถวายพระพรให้สุขภาพจิตขององค์พระประมุขดีด้วย
คำว่าองค์พระประมุขนั้นแสดงถึงส่วนรวมของประเทศ คือแต่ละคนรวมกันเข้าก็เป็นประชาชน เป็นสังคมของประเทศ ผู้ที่อยู่ในที่นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของประชาชน เป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ถ้าแต่ละคนอยากดีก็จะต้องช่วยกันทำให้ประเทศดีขึ้น อย่างเมื่อกี้เดินผ่านทหาร ตำรวจ นักเรียนที่เป็นลูกเสือ นักเรียนที่เป็นอนุกาชาด นักเรียนที่เป็นนักเรียนในโรงเรียนราษฎร์ โรงเรียนรัฐบาล นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทุกคนพากันอวยพรให้ทรงพระเจริญ จึงต้องขอร้องทุกคนที่ขอให้ทรงพระเจริญนี้ทำหน้าที่ เพราะถ้าพูดหรือคิดขึ้นมาว่าขอให้ทรงพระเจริญ เป็นการคิดเป็นคำพูดลอยๆ เก๋ๆ ตามสมัย โดยเฉพาะในวันเฉลิมพระชนมพรรษายิ่งต้องพูดอย่างนั้นแล้วก็จะไม่ได้ผล แต่ถ้านึกถึงว่าทรงพระเจริญหมายความว่า องค์พระประมุขทรงพระเจริญ หมายความว่าประเทศจงเจริญก็เกิดหน้าที่ขึ้นมา แต่ละคนเกิดมีหน้าที่ต่อประเทศชาติ ซึ่งหมายความว่าหน้าที่ส่วนของตัวด้วยและหน้าที่ในส่วนรวมของกลุ่มด้วย
ไม่กี่วันมานี้ไปที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เล่าถึงเรื่องแปลกๆ ให้ฟัง เรื่องนั้นไม่ได้หมายถึงเรื่องที่อื้อฉาวคือเรื่องระเบิดขวด แต่เป็นอีกเรื่องหนึ่งคือได้เล่าว่าเวลาอะไรเป็นมงคลเกิดแล้ว ไม่ค่อยมีใครทราบไม่ค่อยมีใครสนใจ เพราะไม่ค่อยตื่นเต้น แต่ถ้าเกิดเรื่องอะไรที่เป็นอัปมงคลแล้วสนุก ลงหนังสือพิมพ์กันเป็นหลายหน้ากระดาษ ไม่ใช่ในประเทศเท่านั้น นอกประเทศด้วย ทีนี้หากจะกลับมาพูดเรื่องระเบิดขวดก็พูดได้ว่าระเบิดขวดเป็นตัวอย่างอย่าง หนึ่งที่แสดงถึงความไม่เรียบร้อยที่มีในประเทศ ถ้าทุกคนทั้งที่อยู่ในที่นี้และที่กลับบ้านไปแล้ว มาให้พรให้ทรงพระเจริญด้วยใจจริง ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ทุกคนก็มีหน้าที่ที่จะช่วยกันกำจัดจิตใจระเบิดขวดนี้ให้ หมดไป คือกำจัดคนที่มีจิตใจที่จะใช้ระเบิดขวดด้วยเหตุผล ด้วยการสอดส่อง อย่างที่ได้เคยขอร้องนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้สอดส่องดูแลมาแล้ว เวลานี้ทั้งครูก็อยู่ทั้งเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจก็อยู่ด้วยพร้อมกันทุกคนที่ ให้พรให้ทรงพระเจริญจะต้องทำหน้าที่ จะต้องช่วยกันสอดส่องไม่ให้เกิดจิตใจระเบิดขวด
จิตใจระเบิดขวดนั้น วิเคราะห์ได้ว่าคือความไม่รู้ ความอยากมีอำนาจแล้วไม่รู้ว่าอำนาจนั้นจะเป็นอย่างไร จิตใจระเบิดขวดมีได้ทุกชั้น ตั้งแต่จิตใจระเบิดแก๊ป จิตใจระเบิดที่ทำด้วยกระดาษแล้วกรอกน้ำโยนลงหัวคน จนกระทั่งถึงระเบิดปรมาณู ถ้าใช้ด้วยความไม่รู้จักรับผิดชอบ ไม่รู้ผิดรู้ชอบ ไม่รู้เหตุผลแล้วก็เกิดอันตราย เกิดวุ่นวาย ถ้าเป็นระเบิดขวดก็อาจเกิดวุ่นวายในหมู่ชนไม่มากนัก คนตายเพียงคนเดียว ถ้าเป็นระเบิดปรมาณูซึ่งประกอบขึ้นด้วยความรู้ คนก็ตายเป็นแสนเป็นล้าน แต่ทุกๆ ชั้นก็เป็นจิตใจระเบิดขวด ก็อันเดียวกัน ถ้าจิตใจระเบิดขวดนี้ยังคงอยู่ ความไม่รู้ผิดรู้ชอบนั้นยังอยู่ ก็เป็นอันตรายได้มากกว่าที่เราคิด อย่างเช่นที่สนามกีฬามีระเบิดขวดโยนลงไปโป้ง มีคนที่โดนเศษระเบิดจนถึงต้องไปตายที่โรงพยาบาลตำรวจ ผลของระเบิดขวดอย่างหนึ่งคือ นายสมคิดตาย แต่ว่าผลอย่างอื่นที่จะเป็นความเสียหายอย่างมากที่สุดก็มีอีกหลายอย่าง คือขวัญของประชาชน ชื่อเสียงของบ้านเมืองและอื่นๆ ก็จะแตกสลายไป จึงต้องพยายามปราบปราม
วิธีปราบปรามนั้น ถ้าปราบปรามในทางที่ถูกก็จะเป็นผล ถ้าปราบปรามในทางที่ผิดก็อาจทำลายยิ่งขึ้น ที่เป็นผลร้ายต่อประเทศชาติก็สองทาง ชื่อเสียงของประเทศชาติทางหนึ่ง ขวัญของประชาชนอีกทางหนึ่ง ในเรื่องชื่อเสียงของประเทศนั้น ต่างประเทศที่เป็นมหามิตรกับเรา ที่เรียกว่าเป็นคู่สัญญาที่ได้ช่วยกันรักษาความปลอดภัยให้บริเวณในแถบนี้ของ โลก หรือพวกที่เรียกมาช่วยเราหลายพวก เขาก็เสื่อมศรัทธาเรา พวกที่อยากที่จะมาในบริเวณนี้ของโลก โดยจะมากดขี่เราโดยใช้วิธีต่างๆ เขาก็จะบอกว่าเราไม่มีขื่อมีแป ต้องมาจัดการปลดแอกเรา ความเสียหายอีกส่วนหนึ่งก็คือว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปจริงๆ เราจึงต้องช่วยกัน
เรื่องระเบิดวิเคราะห์หรือเรื่องวิจัยระเบิดขวดนี้ก็มีว่าวัตถุเคมีที่อยู่ ในระเบิดขวดนั้นก็มีส่วนผสมง่ายๆ คือมีโปตัสเซี่ยมคลอเรตซึ่งหาได้ตามร้านขายยา นัยว่าสำหรับกลั้วคอ กับมีฟอสฟอรัสสีแดงซึ่งหาได้เช่นเดียวกัน วิธีการที่ไปซื้อ เด็กคนหนึ่งไปซื้ออย่างหนึ่งทีละนิดทีละหน่อย แล้วเด็กอีกคนก็ไปซื้ออีกอย่างหนึ่ง แล้วมาผสมกัน มาวางเอาไว้ ใครโยนได้ก็โยน ทำได้ง่ายๆ แต่จะบอกว่าคนไหนโยนก็จับมือไม่ได้
วิธีที่จะปราบปรามก็ปราบปราม ๒ ทาง ทางหนึ่งปราบปรามทางจิตใจ หรือว่าชี้แจงให้เข้าใจว่าการที่ทำระเบิดเล่นนั้นเป็นอำนาจ เป็นสิ่งที่สนุก มีเสียงดังด้วย แต่ว่าเมื่อเสียงดังก็หมายความว่ามีอานุภาพทำให้เกิดอันตรายได้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ยารักษาโรค อุปกรณ์ต่างๆ เกิดอันตรายได้ทั้งนั้น ถ้าอยากแกล้งกัน สนุกกัน ก็ต้องไม่ให้เกิดอันตรายทุกสิ่งทุกอย่างมีทั้งคุณมีทั้งโทษ อย่างไฟก็มีทั้งคุณทั้งโทษ ถ้าเราไม่มีไฟเราก็หุงต้มไม่ได้ เราก็อาจไม่มีแสงสว่าง แต่ว่าถ้าใช้ไฟไม่ดีหรือเราประมาท ไฟลุกขึ้นมาก็เกิดเดือดร้อนถึงราชประชานุเคราะห์ เพราะว่าทำให้สิ่งต่างๆ วอดไปหมด เรื่องไฟนั้นก็เคยพูดกับนักศึกษาธรรมศาสตร์หลายปีมาแล้ว คือได้พูดว่าความรู้เหมือนไฟ และว่าไฟลุกลามได้เราต้องควบคุมดีๆ จึงจะใช้ไฟได้ ก็อำนาจนั้นให้ใช้ได้แต่ให้รู้ด้วยจิตใจว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ถ้าอยากสนุก ชี้แจงให้เขาทราบว่ามีสิ่งอื่นที่สนุกเหมือนกัน อย่างลูกเสือที่ฝึกตัวให้ดี ช่วยเหลือราชการ ช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ก็มีความสนุกสนานไม่น้อย ขอให้ถือว่าการทำประโยชน์เป็นความสนุกสนาน เป็นความบันเทิงของตัวเรา ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเป็นความสุขถาวรในทางใจ การปราบปรามหรือการแก้ไขในอีกทางหนึ่งคือการควบคุม วัตถุเคมีต่างๆ นั้นมีไว้สำหรับใช้ประโยชน์ ผู้ที่จะไปซื้อก็ต้องทราบว่าประโยชน์เป็นอย่างไร และจะต้องทราบว่าวัตถุเหล่านั้นลำพังตัวเองไม่เป็นอันตราย แต่ว่าเมื่อผสมกันเข้าแล้วเป็นอันตราย ควรที่จะควบคุมการขายและการมีไว้ในครอบครองว่ามีไว้เพื่อจะใช้ประโยชน์จริงๆ ทั้งจะใช้ประโยชน์แต่ในทางที่เหมาะสมด้วย เรื่องนี้ต้องถือเป็นเรื่องของท่านผู้ใหญ่ทั้งทางตำรวจ และทางรัฐบาล ที่จะต้องพิจารณาว่าวัตถุเคมีต่างๆ นั้น ในโรงเรียนมีมากขึ้นทุกวันๆ เพราะว่าเราสอนเคมี เราสอนวิทยาศาสตร์มากในโรงเรียนถ้าไม่มีการควบคุม เด็กที่ยังไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนในทางจิตใจ ก็เห็นว่าเป็นสิ่งสำหรับนำมาใช้เพื่อความสนุก
ที่ทุกคนมาให้พรนี้ สรุปได้ว่าขอให้สุขภาพจิตดีขึ้น การทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น ก็คือช่วยกันขจัดปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วยการปฏิบัติตนให้ดีตามหน้าที่ของตน คือตั้งใจที่จะเป็นคนดี ถ้าเป็นนักเรียนก็ให้เล่าเรียนให้ดี เป็นครู เป็นพยาบาล เป็นอะไรก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด การช่วยขจัดปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจแท้จริงเพื่อส่วนรวมนั้นจะเป็นการให้พรที่ ประเสริฐที่สุด จะทำให้อายุยืนได้จริงๆ ถ้ามีความยุ่งยากอยู่เรื่อยๆ อย่างที่เป็นอยู่นี้ ก็รู้สึกว่าอายุจะไม่ยืน แต่ถ้าทุกคนช่วยกัน พระสุขภาพจิตอาจดีขึ้น ทำให้อายุยืนได้
ขอขอบใจทุกคนที่อดทนและที่มาสนับสนุน ขออวยพรให้ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง ได้รับผลสำเร็จที่เรียบร้อยที่สุดในกิจการทุกอย่าง.
« « Prev : พักกาย พักใจ “รีเซ็ต”
Next : ไม่ก้าวหน้า เพราะไม่กล้าคิด » »
ความคิดเห็นสำหรับ "จิตใจระเบิดขวด"