การประชุมกับ CSR โคราช

อ่าน: 3284

วันนี้ประชุมกับกลุ่ม CSR โคราชที่เขาใหญ่ ที่บ้านคุณเหน่งแม่ยกของกลุ่ม เริ่มประชุมตอนบ่ายสองโมง กลับออกจากเขาใหญ่เกือบสามทุ่ม จากการที่ได้พูดคุยเป็นเวลานาน พบว่ากลุ่มนี้ตั้งใจและทำงานจริงครับ (ถึงจะไม่เชื่อว่าผมถือศีล ๕ ซึ่งไม่ค่อยขาด ก็ขอให้เข้าใจด้วยว่าผมไม่ต้องอวยใครนะครับ อิอิ)

ไปโคราชคราวนี้ @iwhale ชวนไปแลกเปลี่ยนกับกลุ่มกลุ่มเครือข่ายเพื่อสังคมโคราช หรือเรียกง่ายๆ ว่ากลุ่ม CSR โคราช — เช่นเดียวกับในพื้นที่ต่างๆ กลุ่มที่มีความรับผิดชอบต่อท้องถิ่นนั้นมีกันอยู่มากมาย กลุ่ม CSR โคราชทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยไม่ได้แอ๊บประชาสัมพันธ์ธุรกิจหรือตัวบุคคล มีโครงสร้างจากหลากหลายกลุ่มย่อย มาร่วมกันทำงานพัฒนาท้องถิ่น; ถ้าหากกลุ่มต่างๆ ในท้องถิ่นสามารถรวมตัวกันเป็นภาคี (หมายความว่าทำงานด้วยเป้าหมายเดียวกัน แต่เป็นอิสระไม่ขึ้นต่อกันและกัน) ก็จะเกิดการรวมพลังพัฒนาท้องถิ่นได้ โดยไม่ต้องแบ่งแยกว่าใครใหญ่ ใครดัง ผลงานของใคร

งานของกลุ่ม CSR โคราช ทำเรื่องเด็กและเยาวชนกับเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก แต่ที่ผมได้ข่าวคราวของกลุ่มนี้มาครั้งแรก ก็เป็นเมื่อตอนน้ำท่วมโคราชเมื่อปีที่แล้ว เขาระดมสรรพกำลังมาช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ทั้งรถออฟโรดที่เข้าพื้นที่ห่างไกล โครงการกู้นาฝ่าวิกฤตที่จัดการเรื่องพันธุ์ข้าวหลายสิบตันสำหรับนาที่ล่ม เจอกันในเวทีของภาคประชาชนหลายครั้ง ได้รับโอกาสเข้าไปเสนอ “โคราชโมเดล” ใน คชอ. เป็นต้น ตลอดจนเมื่อสถานการณ์ของโคราชพ้นวิกฤตแล้ว ก็ยังส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยอื่นๆ ด้วย มีการแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือภาคประชาชนกันเอง เมื่อตอนน้ำท่วมโคราช ชาวสุราษฎร์ยกมาช่วย เมื่อคราวน้ำท่วมสุราษฎร์ ชาวโคราชก็ยกไปช่วย ฯลฯ

อ่านต่อ »


บทเรียนจากโคราช

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 10 July 2011 เวลา 0:42 ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้ #
อ่าน: 3401

เมื่อวานขึ้นมาโคราช จะประชุมร่วมกับส่วนหนึ่งของทีมอาสาสมัครในพื้นที่โคราช (CSR โคราช) ทีมนี้เป็นทีมเข้มแข็งครับ มีภาคีในพื้นที่อยู่พอสมควร มีกำลังในการบรรเทาทุกข์ เข้าถึงพื้นที่ประสบภัยลึกๆ ได้

แต่น้ำใจและความทุ่มเทเพื่อพลิกฟื้นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวโคราช หลังจากเกิดอุทกภัยใหญ่เมื่อปีที่แล้วจะน่ายกย่อง แต่การกระทำในลักษณะนี้ เป็นเรื่องปลายเหตุแล้วครับ ฟังดูเหมือนแล้งน้ำใจเหลือเกิน แต่มันก็เป็นความจริงที่ว่าความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะบรรเทาหรือเยียวยาอย่างไร ก็ไม่เหมือนเดิมหรอกนะครับ

หากชาวโคราชและชาวบ้านตลอดลำน้ำมูล จะได้บทเรียนอะไรบ้างจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ทุกคนควรจะหันไปมองเรื่องการป้องกันอย่างจริงจังขึ้น

อ่านต่อ »


กามนิต

3 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 9 July 2011 เวลา 0:01 ในหมวดหมู่ ดนตรี ศิลปะ วรรณกรรม บันเทิง #
อ่าน: 4278

ผมเชื่อกรรมครับ มีเรื่องสะตอเบอรี่ ที่คนจิตอ่อน ติดดี หลงเชื่อไปโดยไม่ตรวจสอบ ไม่รู้จักฉุกคิด; ก็มาสงสัยว่าคนที่น่าจะดี กลายเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ผมมาปลงใจที่ “อัตตา” ทำให้เพี้ยนไป…

อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ มักจะแปลกันว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน แต่แปลได้ว่า อัตตาเป็นที่พึ่งแห่งอัตตา เช่นกัน ทางจิตวิทยาว่าอัตตา(ego)พยายามปกป้องอัตตา พยายามสร้างคุณค่าสนองอัตตา แม้จะไม่จริงก็พยายามจะบอกตัวเองว่าจริง(จนเชื่อเองแฮะ) ซึ่งถ้าไม่เคลมก็คงไม่มีใครว่าอะไร แต่พอเคลมแล้วไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็เป็นเรื่องซิครับ… ได้พยายามให้สติหลายครั้งแล้ว กด Like กันเต็มไปหมด แต่ก็ยังทำเหมือนเดิม… คงต้องวางอุเบกขาแล้วปล่อยไป… อุเบกขาไม่ใช่แอ๊บไร้เดียงสา อุเบกขานั้นรู้ผิดรู้ถูก แต่ไม่ยุ่งเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่นเรื่องอัตตาปลอมๆ… กรุณาอย่าถามว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร เพราะเรื่องมันยาว ดราม่าไม่มีแบบตอนเดียวจบหรอกครับ ลากกันได้ทีละครึ่งค่อนปี…

กลับมาเรื่องกามนิต ซึ่งเป็นนิยายอิงพุทธศาสนา ข้อมูลจากวิกิพีเดียบอกว่า เรื่องเดิมชื่อ Der Pilger Kamanita แต่งโดยนักเขียนชาวเดนมาร์ก ในปี 2449 ผู้ซึ่ง 11 ปีให้หลัง ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม หนังสือกามนิตได้รับการยกย่องให้เป็นหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน ฉบับภาษาไทยแปลโดย เสฐียรโกเศศ–นาคะประทีป ในปีพ.ศ. 2473 มีรูปประกอบโดยอาจารย์ช่วง มูลพินิจ โดยแปลจากฉบับภาษาอังกฤษ (The Pilgrim Kamanita) ซึ่งแปลมาจากต้นฉบับภาษาเยอรมัน (Der Pilger Kamanita) อีกทอดหนึ่ง

อ่านต่อ »


คน(ที่)มักพูดเท็จ ไม่พึงทำบาป ย่อมไม่มี

3 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 8 July 2011 เวลา 0:16 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3521

คาถาธรรมบท โลกวรรคที่ ๑๓

[๒๓] บุคคลไม่พึงเสพธรรมอันเลว ไม่พึงอยู่ร่วมกับความประมาท ไม่พึงเสพมิจฉาทิฐิ ไม่พึงเป็นคนรกโลก ภิกษุไม่พึงประมาทในบิณฑะที่ลุกพึงขึ้นยืนรับ พึงประพฤติธรรมให้สุจริต ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า พึงประพฤติธรรมให้สุจริต ไม่พึงประพฤติให้ทุจริต ผู้ประพฤติธรรม ย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า มัจจุราชย่อมไม่เห็นบุคคลผู้พิจารณาเห็นโลก ดุจบุคคลเห็นฟองน้ำเห็นพยับแดด ฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงมาดูโลกนี้อันวิจิตรเปรียบด้วยราชรถที่พวกคนเขลาหมกอยู่ [แต่] พวกผู้รู้หาข้องอยู่ไม่ ก็ผู้ใดประมาทแล้วในกาลก่อน ในภายหลังผู้นั้นย่อมไม่ประมาท เขาย่อมยังโลกนี้ให้สว่างไสว เหมือนพระจันทร์พ้นแล้วจากเมฆ ฉะนั้น ผู้ใดทำกรรมอันลามกผู้นั้นย่อมปิด [ละ] เสียได้ด้วยกุศล บุคคลนั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่างไสว เหมือนพระจันทร์พ้นแล้วจากเมฆ ฉะนั้น โลกนี้มืดมน ในโลกนี้น้อยคนที่จะเห็นแจ้ง สัตว์ไปสวรรค์ได้น้อยดุจนกพ้นจากข่าย ฝูงหงส์ย่อมไปในทางพระอาทิตย์ ท่านผู้เจริญอิทธิบาทดีแล้ว ย่อมไปในอากาศด้วยฤทธิ์ นักปราชญ์ทั้งหลายชนะมารพร้อมทั้งพาหนะได้แล้ว ย่อมออกไปจากโลก คนล่วงธรรมอย่างเอกเสียแล้ว เป็นคนมักพูดเท็จ ข้ามโลกหน้าเสียแล้ว ไม่พึงทำบาป ย่อมไม่มี คนตระหนี่ย่อมไปสู่เทวโลกไม่ได้เลย คนพาลย่อมไม่สรรเสริญทานโดยแท้ ส่วนนักปราชญ์อนุโมทนาทาน เพราะการอนุโมทนาทานนั่นเอง ท่านย่อมเป็นผู้มีความสุขในโลกหน้า โสดาปัตติผลประเสริฐกว่าความเป็นพระราชาเอกในแผ่นดิน กว่าความไปสู่สวรรค์ และกว่าความเป็นอธิบดีในโลกทั้งปวง ฯ

จบโลกวรรคที่ ๑๓

อ่านต่อ »


รอบปีที่สามในการเป็นบล็อกเกอร์ที่ลานปัญญา

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 7 July 2011 เวลา 0:00 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 2998

วันนี้ครบรอบสามปีของลานซักล้างซึ่งเป็นบล็อกแรกของลานปัญญาครับ

ผมเริ่มเขียนตั้งแต่เซอร์เวอร์ยังอยู่อเมริกา ปีแรกเขียนอยู่ 470 บันทึก เขียนทุกวันไม่เคยขาด มีคำอธิบายเกี่ยวกับการใช้งานลานปัญญามากหน่อย เพราะตอนนั้นอะไรๆ ก็ใหม่สำหรับสมาชิก ปีที่สองเดินทางเยอะ บางจังหวะเขียนไม่สะดวก แต่ก็มี 343 บันทึก เป็นเรื่องที่ผมพบเห็นมาแล้วฉุกใจ ส่วนปีที่สามนี่ บ้าได้ที่ มีอีก 371 บันทึก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องภัยพิบัติ​ ซึ่งมีอย่างต่อเนื่องตลอดปี

ทุกบันทึก ผมพยายามไม่ให้เป็นเรื่องเฉพาะกาล-อ่านครั้งเดียวแล้วผ่านไปเลย แต่ว่าพยายามเขียนให้บันทึกทันสมัยอยู่เสมอ ใครเข้ามาอ่านในภายหลังก็ยังได้อะไรไปบ้าง บันทึกที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็น [สุภาษิตสอนหญิง (ฉบับเต็ม) - สุนทรภู่] ซึ่งขณะนี้มีเกือบหมื่นแปดพัน pageviews เรื่องนี้น่าแปลกใจ เพราะลานปัญญาไม่ได้เป็นเว็บที่เด่นดังอะไร ไม่โปรโมท แถมแต่ละบล็อกก็หนักๆ ทั้งนั้น มี signal-to-noise ratio สูงผิดปกติ เข้มข้นมากจนมีผู้เสพลานปัญญาไม่มากหรอกครับ แต่เราไม่เชื่อในลัทธิกะปิ (KPI) ตัวเลขต่างๆ ไม่สำคัญเท่ากับว่าแต่ละบันทึก แต่ละบล็อกให้อะไรไว้กับผู้อ่านบ้าง

ผมยังชอบลานปัญญาในแบบที่เป็นอยู่ คือไม่มากจนเฝือ เบิ้ลกันไปมา เป็นสังคมเล็กๆ ที่รู้จักกันเป็นส่วนใหญ่ ถ้าจะคบกันนานๆ ของจริงจะหลุดออกมาเองเมื่อเวลาผ่านไป อีกทั้งสังคมลานปัญญามีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง ดังนั้นเรายอมรับสมาชิกอื่นในแบบที่เขาเป็นได้อยู่แล้ว

คุณค่าของบันทึก ไม่ได้อยู่ที่ตัวบันทึก แต่เป็นการร่วมกันเรียนรู้ในความคิดเห็นต่างหากครับ การเรียนในลานปัญญาไม่ใช่การ lecture โดยอาจารย์เขียนบันทึก นักเรียนอ่านเพื่อเชื่อฟัง (ไม่อย่างนั้นสอบตก) เราก้าวข้ามมาสู่การเรียนรู้ด้วยตนเอง สอบถาม-โต้แย้งเพื่อความกระจ่าง ดังนั้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจึงสำคัญมากนะครับ


รูปที่(ไม่)มีทุกบ้าน

12 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 6 July 2011 เวลา 7:52 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 3821

ตามบ้านเรือนอาจจะมีพระบรมฉายาลักษณ์หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ประดับอยู่ แต่พระบรมฉายาลักษณ์นี้ ติดอยู่ที่บ้านมาหลายปีแล้วครับ แม่ไปเอามาจากไหนก็ไม่รู้ แดดเช้าเข้าข้างหลังกล้อง แสงจ้าไปหน่อย


อ.เวียงสา จ.น่าน

อ่าน: 3924

เมื่อวาน ได้โอกาสดีที่ได้เรียนประสบการณ์จากทีม #thaiflood และ #arsadusit ที่ลงพื้นที่ จ.น่าน และ จ.สุโขทัย

แม้จะได้คุยเป็นเวลาสั้นๆ แต่มีประเด็นชวนคิด คือ อ.เวียงสาทางใต้ของ อ.เมืองนั้น ยังน้ำท่วมหนัก เริ่มเน่าเสีย ท่วมซ้ำซาก (ธรรมดาท่วมเดือน 8 ทุกปี) เพื่อที่จะดูให้ชัด ก็ต้องกลับไปดูแผนที่ครับ

อ่านต่อ »


ดินหรือหัว

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 4 July 2011 เวลา 23:40 ในหมวดหมู่ ดนตรี ศิลปะ วรรณกรรม บันเทิง #
อ่าน: 2539

กว่าจะเป็นชิ้นงาน ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หรอกครับ
ดินเปลี่ยนเป็นหัว หรือว่าดินยังเป็นดิน


ขึ้นรอบปีที่สี่ของลานปัญญา

15 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 3 July 2011 เวลา 16:29 ในหมวดหมู่ ลานปัญญา #
อ่าน: 4336

เวลาตกฟากของลานปัญญาเป็นวันที่ 4 ก.ค. 2551 15:22 เวลาประเทศไทย (ตอนนั้นเซอร์เวอร์อยู่ที่สหรัฐ เดือนต่อมาจึงย้ายกลับเมืองไทย) วันนี้จึงไม่ใช่วันเกิดของลานปัญญา แต่ผมอยากจะเขียนวันนี้ ก็เลยเขียน

ในรอบปีที่ผ่านมา ระบบมีเสถียรภาพดีเลิศเช่นปีที่ผ่านๆ มา ลานปัญญาทำงานตลอดวันตลอดคืน ตลอดทั้งปี รีบู๊ตเครื่องไปสักสามสี่ครั้งมั๊งครับ เซอร์เวอร์ของลานปัญญา แม้จะเก่าแก่มากแล้วแต่ก็ยังทำงานได้ดี ถึงจะไม่เร็วปรู๊ดปร๊าดแบบคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ แต่เหลือเฟือสำหรับการใช้งานในลักษณะของลานปัญญาและต้องขอขอบคุณผู้ดูแล ซึ่งเป็นสมาชิกลานปัญญาที่ไม่ค่อยเขียนอะไร ยินดีที่จะทำงานเงียบๆ อยู่เบื้องหลัง ขอบคุณมากครับ ถ้าคุณไม่ช่วย คงไม่นิ่งอย่างนี้

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรประมาทกับความเสื่อม ควรจจะจัดหาเซอร์เวอร์ใหม่เพื่อลดความเสี่ยงเกี่ยวกับอายุการใช้งาน และเสถียรภาพทางความร้อนจากการเปิดใช้งานตลอดเวลามาหลายปี เอาเซอร์เวอร์เก่าไปเป็นระบบสำรอง เงินส่วนนี้มีอยู่แล้ว จากการพิมพ์หนังสือ เจ้าเป็นไผ ๑ และ ๒ ขาย

ในส่วนของซอฟต์แวร์ ก็สมควรอัพเกรดไปใช้ Wordpress รุ่นใหม่ๆ ที่ใช้งานง่ายขึ้น ที่ยังไม่ได้ทำเสียทีเป็นเพราะผมมีงานเยอะ หากอัพเกรดซอฟต์แวร์ จะกลายเป็นงานหนักสองด้านพร้อมกัน ซึ่งทำไม่ไหว… ไม่รู้ว่ายังจำได้หรือเปล่าถึงความกังวลในตอนเริ่มต้นลานปัญญา ว่าจะต้องจ้างใครมาดูแลเป็นการเฉพาะหรือเปล่า ผมตอบไปว่าหากช่วยกันประคับประคองสมาชิกใหม่ รู้อะไรบอกอย่างนั้น แบบนี้ก็จะไม่เป็นภาระหนักกับ admin มากนัก ซึ่งในที่สุดท่านจอมป่วนก็ระดมช่วยกันเขียนคู่มือขึ้นมา ทีนี้ถ้าอัพเกรดซอฟต์แวร์ ก็ต้องปรับปรุงคู่มือด้วยนะครับ รูป/ตำแหน่งต่างๆ จะไม่เหมือนเดิม

เกิดคณะกรรมการสมาชิกสัมพันธ์ขึ้นมา ไม่มีใครแต่งตั้ง ไม่ต้องออกหน้า แต่มีขึ้นมาแล้ว (พี่ตึ๋ง พี่บู๊ด พี่ฑูร) เพื่อช่วยกันทำงานดูแลสังคมลานปัญญา

ปีที่ผ่านมา มีงานเฮย่อยๆ หลายครั้ง การจัดงานเฮใหญ่ยากขึ้นเนื่องจากสมาชิกว่างไม่ตรงกัน จึงรวมพลคณะใหญ่กันได้ลำบาก อาจจะจัดตารางกันง่ายกว่า หากนัดล่วงหน้าเป็นเวลานาน

หลังจากหนังสือเจ้าเป็นไผเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง ทำให้มีสมาชิกกล้าตายใหม่ๆ เข้ามาเขียนในลานปัญญามากขึ้น ในขณะเดียวกัน มีการส่งบันทึกของปัญญาไปยัง Facebook อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ชอบแบบนั้น

อ่านต่อ »


แนวกันคลื่น

อ่าน: 3806

ถ้าน้ำไม่ท่วมได้ก็ดีหรอกครับ แต่ไม่รู้จะมาบ่นตอนนี้ไปทำไม ในเมื่อน้ำท่วมแล้ว เป็น Reactive approach เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

ในหนึ่งปีที่ผ่านมา ผมเขียนเรื่องบ้านๆ มาเยอะแล้ว วันนี้จะลองเรื่องภัยในเมืองบ้าง คำว่าเมืองไม่ได้หมายถึงจังหวัดใหญ่ แต่หมายถึงชุมชนเมืองขนาดต่างๆ ที่มีถนนหนทางผ่านสะดวก จะเป็นหมู่บ้าน ตำบล อำเภอน้อยใหญ่ ต่างก็มีลักษณะของเมืองทั้งนั้น

เพราะว่าเราไม่มีแผนที่ความสูง การป้องกันน้ำท่วมจึงวางแนวป้องกันชั่วคราวได้ลำบากมาก เพราะไม่รู้ที่ไหนสูงที่ไหนต่ำ หากน้ำไหลเข้าท่วมเมือง ก็จะมีภัยซ้ำซ้อนจากคลื่นที่เกิดจากรถราวิ่งกันแบบไม่เกรงใจใคร บางทีก็เป็นคลื่นจากเรือ คนจะไปช่วยแต่รีบร้อน ดันไปสร้างคลื่นกระแทกบ้านเรือน เข้าใจได้ว่ามันเครียดมากครับ น้ำท่วม แถมมีคลื่นซัดมาโครมๆ บ้านจะทนไหวหรือไม่

สงสัยเหมือนกันว่าคลื่นทำงานอย่างไร หากทำแนวป้องกันเฉพาะบริเวณผิวน้ำ ให้มีส่วนจมน้ำ+เหนือน้ำสูงกว่ายอดคลื่นแต่ข้างล่างโบ๋ๆ แนวป้องกันแบบนี้จะดูดซับพลังงานของคลื่นได้มากน้อยแค่ไหน ก็ไม่ใช่ความคิดอันยิ่งใหญ่อะไรหรอกครับ แล้วก็ไม่ใช่ความคิดใหม่ในโลกด้วย

อ่านต่อ »



Main: 0.12170815467834 sec
Sidebar: 0.17972779273987 sec