บัญชีรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
อ่าน: 2372มูลนิธิโอเพ่นแคร์ เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ตามความในมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2546
มูลนิธิเปิดบัญชีมูลนิธิโอเพ่นแคร์เพื่องานอาสาฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติ SCB 402-177853-3 ใช้วิธีการถ่ายรูปสมุดคู่ฝากทุกหน้ามาแสดงไว้บนเว็บ ซึ่งผู้บริจาคและผู้สนใจสามารถจะเห็นความเคลื่อนไหวของยอดเงินบริจาค ตลอดจนค่าใช้จ่ายทุกรายการเช่นกัน
มูลนิธิฯ แยกเงินบริจาคในบัญชีนี้ออกจากกิจการของมูลนิธิฯ และไม่ได้ถือว่าเงินบริจาคเป็นกำไรหรือทุน หากแต่ใช้เงินบริจาคเพื่อประโยชน์ของผู้ประสบภัยทั้งสิ้น ทั้งเงินบริจาคและเงินที่ใช้จ่าย ทำผ่านธนาคารทั้งหมดเพื่อให้ทุกรายการปรากฏอยู่ในสมุดคู่ฝาก ให้ผู้บริจาคได้เห็นความเคลื่อนไหวทั้งหมด โดยปกติมูลนิธิฯ จะบริจาคเงินบริจาคต่อให้กับผู้ประสบภัยหรือตัวแทนของกลุ่มผู้ประสบภัย โดยตรง หากแต่ว่ามีหลายกรณีที่การเบิกจ่ายผ่านธนาคารในพื้นที่ประสบภัยเป็นเรื่อง ลำบากมาก ในกรณีอย่างนี้ มูลนิธิฯ บริจาคเงินบริจาคต่อตามความจำเป็น ให้กับกลุ่มอาสาสมัครหลายกลุ่มที่ทำงานจริงในพื้นที่ ที่มีความโปร่งใสตรงไปตรงมา สามารถแสดงรายการค่าใช้จ่ายและได้ผลงานได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้เพื่อความถูกต้อง และความสบายใจของผู้บริจาคว่าเงินบริจาคนั้น ไม่ตกหล่นสูญหายไปที่ใด
ใบเสร็จรับเงินที่บริจาคเข้าบัญชีนี้ ไม่เข้าตามเกณฑ์มาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่สามารถใช้หักภาษีได้; อนึ่งเงินบริจาค ไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
อนึ่ง เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2554 เมื่อกรมสรรพากรออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเงินได้ ทรัพย์สินหรือสินค้าที่บริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติอื่น ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2554 เป็นต้นไป โดยมีบริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เป็นตัวแทนรับเงิน ทรัพย์สินหรือสินค้าที่บริจาค เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการเพื่อขอเป็นตัวแทนการรับบริจาคเพื่อการดังกล่าว ได้แจ้งต่อกรมสรรพากรและมีการประกาศรับการรับรองบนเว็บของกรมสรรพากรเมื่อสองวันก่อน มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2554 โดยเงินบริจาคที่บริจาคเข้าบัญชีมูลนิธิโอเพ่นแคร์เพื่อการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย SCB 402-177809-6 จะสามารถนำไปหักค่าใช้จ่ายตามกฏเกณฑ์ในตอนที่ยื่นชำระภาษีเงินได้ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อยื่นเรื่องต่อกรมสรรพากรไปแล้วนั้น ก่อนที่จะเรียบร้อย ปรากฏว่าที่ทำการของมูลนิธิฯ และสาขาของธนาคารที่เปิดเป็นบัญชีรับบริจาคดังกล่าวอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงต่ออุทกภัย ทำให้มูลนิธิฯ ตัดสินใจไม่ประชาสัมพันธ์การมีอยู่ของบัญชีนี้ เนื่องจากว่าการเบิกจ่ายจากบัญชีนิติบุคคลจะต้องทำที่สาขาที่เปิดบัญชีไว้เท่านั้น ซึ่งทำได้ลำบากในภาวะน้ำท่วม หากระดมเงินบริจาคเข้ามาโดยไม่นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ก็จะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการบริจาค ดังนั้นมูลนิธิฯ จึงตัดสินใจระงับเรื่องบัญชีรับบริจาคอันนี้ไว้ก่อน เพื่อความถูกต้องสบายใจของทุกฝ่าย และในส่วนของการบรรเทาทุกข์นั้น ยังสามารถใช้บัญชีมูลนิธิโอเพ่นแคร์เพื่องานอาสาฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติ SCB 402-177853-3 (ซึ่งเงินบริจาคหักภาษีไม่ได้) ไปพลางก่อนได้
มาบัดนี้เหตุการณ์มหาอุทกภัยปี54 ได้คลี่คลายไปมากแล้ว แต่การฟื้นฟูยังอีกยาวนาน… มูลนิธิฯ จึงจะเปิดรับบริจาคในบัญชีมูลนิธิโอเพ่นแคร์เพื่อการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย SCB 402-177809-6 เพิ่มขึ้นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการฟื้นฟูในระยะรีบด่วน
ตามมาตรฐานการบัญชี มูลนิธิฯ ออกใบเสร็จสำหรับการบริจาคทุกกรณี ซึ่งสำหรับการบริจาคที่ผู้บริจาคต้องการจะนำใบเสร็จไปหักค่าใช้จ่ายเมื่อตอนยื่นภาษี จะต้องปฏิบัติดังนี้
- โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 402-177809-6 ชื่อบัญชีมูลนิธิโอเพ่นแคร์เพื่อการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย
- กรอกรายละเอียดของการบริจาค ที่ http://bitly.com/opencare-flood จนครบถ้วน — ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการโอนเนื่องจากมูลนิธิฯ ไม่ได้รับค่าธรรมเนียมในการโอนนั้น
- เมื่อจะยื่นแบบแสดงรายการภาษี แนบทั้งใบเสร็จรับเงินของมูลนิธิและสลิปการโอนเงินเป็นหลักฐานค่าใช้จ่ายที่หักได้
เงินบริจาคสำหรับบัญชีนี้ จะต้องใช้ให้หมดภายในหกเดือนนับตั้งแต่ยื่นเรื่องขอเป็นตัวแทนการรับบริจาคต่อกรมสรรพากร ซึ่งในกรณีของมูลนิธิฯ นั้น อยู่ในช่วงระหว่าง 1 พ.ย. 2554 จนถึง 30 เม.ย. 2555 เท่านั้น ดังนั้นเงินบริจาคที่โอนมาช้ากว่า 30 เม.ย.55 จึงไม่เข้าเกณฑ์การหักลดหย่อนภาษี!
สำหรับการบริจาคสิ่งของ มีความยุ่งยากเนื่องจากจะต้องตรวจสอบจำนวน+มูลค่าที่แท้จริง ตลอดจนประสานงานการนำสิ่งของลงพื้นที่โดยไม่เก็บเอาไว้ มูลนิธิฯ จะขอพิจารณาไปกรณี ๆ ไป แและสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ
« « Prev : ผ่าฟืนโดยใช้ยางรถยนต์
ความคิดเห็นสำหรับ "บัญชีรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย"