เรื่องของคนจัดการจราจร
อ่าน: 3185ก็ในเมื่อเป็นเรื่องของคนจัดการจราจร ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของผมหรอกนะครับ แต่มีข้อสังเกตตัวเอง
เรื่องนี้ผมเคยรำคาญมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ความรู้สึกกลับไม่เหมือนเดิม
เมื่อก่อนนี้ ผมรำคาญพวกจัดการจราจรตามที่จอดรถของศูนย์การค้ามาก เป่านกหวีด ปรี๊ดดดดด ๆ ๆ ๆ ๆ ดังลั่น ไม่รู้ว่าจะเป่าหาอะไร ยืนห่างไปเมตรเดียว เป่าเบาๆ ก็ได้ยิน ขนาดเป่าเร่งคันที่อยู่ข้างหน้าห้าหกคัน ผมยังได้ยินเลย รถก็ขับตามกันมาติดแหงกกันถ้วนหน้า เร่งให้ไปก็ไปไม่ได้ ทั้งเป่าทั้งโบกมันได้ทุกคัน
ไม่รู้เค้านึกว่าที่ผมนั่งอยู่ในรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำและมีคนขับรถให้อยู่นั้น เราอยากจะติดอยู่ในที่จอดรถหรืออย่างไร ปรี๊ดดด ๆ ๆ ๆ ๆ เป่าอยู่ได้ ที่อาการหนักระดับได้โล่ห์ คือที่อิมแพ็คเมืองทองธานีครับ
ด้วยสมองซีกซ้าย รีบฟันธงหาเหตุผล อ๋อ พวกนี้เป็นคนที่ไม่มีอำนาจ พอมีนกหวีดเป็นเครื่องมือแสดงอำนาจ ก็ลนลานเป่าเสียงดัง เพิ่มความสำคัญของตนเองเพื่อลบปมด้อยทันที ฯลฯ
มองย้อนกลับไป ความรู้สึกรำคาญจะเป็นจะตาย ตอนนี้ก็ยังไม่ตาย ถ้าถามว่านึกถึงหน้าคนเป่านกหวีดได้ไหม นึกยังไงก็นึกไม่ออกครับ แล้วสิ่งที่เขาทำไม่สำคัญต่อผมเลย พอรถหลุดจากที่จอดรถตรงนั้น ก็กลับบ้านมาเสวยสุขตามเดิม จะทุกข์อะไรกันนักหนา
คิดดูก็เห็นว่าตัวเคยโง่มาก่อน ตอนนี้คงโง่น้อยลงนิดหน่อย หลงเพลิดเพลินอยู่กับความไม่จีรัง [นันทิ] เกิดความคับข้องอยากไปให้พ้น ทั้งที่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถบังคับให้เป็นไปตามใจปรารถนาได้ เมื่อจะหาย มันหายไปเอง เช่นเดียวกับเมื่อตอนเกิดขึ้น มันก็มาเอง จะไปอินอะไรกันนักหนา ดูละครจบไปแล้ว ยังติดอารมณ์อยู่ ไม่ถึงขนาดฟูมฟายหรอกครับ แต่ก็ยังติดอยู่ หรือดูบอลจบ ยังมีอารมณ์ค้างอะไรกัน ถ้าเป็นเรื่องจริงจัง ก็ลงไปเล่นเองซิ
ก่อนน้ำท่วมใหญ่ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว เจอเคสอีก จะต้องส่งหนังสือเจ้าเป็นไผไปขาย 200 เล่ม แต่สต็อคที่บ้านมีหนังสือไม่พอ ก็เลยต้องไปเอาที่มูลนิธิ ฯ ตึกที่ทำการ มีหน่วยราชการอยู่เยอะ บางหน่วยน่าจะต้องรักษาความปลอดภัยจริงๆ เพราะทำเรื่องเกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น แถมเจ้าของตึกมีอาการสลับสีทางการเมืองด้วย ดังนั้นจะเข้าไปที่ตึก ก็มีการตรวจเรื่องความปลอดภัยอย่างเข้มข้น
ผมนัดกับคนมารับหนังสือว่าเมื่อมาถึงให้โทรมานะ จะขนหนังสือลงมา ถึงขนาดต้องโทรนัดเพราะว่าต้องนัดจุดรับของ ต้องใช้ลิฟต์ขนของ ต้องตรวจรถ ฯลฯ นัดกันเสียดิบดี นั่งประชุมอยู่ตั้งนานแปลกใจว่าทำไมไม่โทรมาสักที ที่ไหนได้ลืมโทรศัพท์ไว้ในรถ มี Missed Calls 6 ครั้ง ในที่สุดก็เจอกัน ทันใดนั้นมียามมาดเข้มเดินมาห้ามอีก!
บอกโน่นบอกนี่ เหตุผลเยอะแยะแต่ไม่เข้าท่าหรอกครับ ที่จริงเขาก็แค่ทำตามที่ได้รับคำสั่งมาแค่นั้นเอง ถ้าเราฝ่าฝืน มันก็เกิดความไม่เรียบร้อย งานนี้ไม่ได้โกรธ ไม่ได้สงสารหรือสมเพช แค่เข้าใจสิ่งที่ยามทำเท่านั้นเอง แดดร้อน แค่ลงมาจากตึกแป๊บเดียวยังร้อนเลย ส่วนยามที่ยืนตากแดดอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เช้า เขาจะรู้สึกอย่างไร (ไม่ว่าอย่างไร มันก็เรื่องของเขา ถ้าเขามีอะไรที่ทำได้ดีกว่าที่เขาเป็นอยู่ เขาก็คงเป็นอย่างอื่นไปแล้วครับ)
« « Prev : ผิดถูกนั้น สำคัญแค่ไหน
Next : อินเทอร์เน็ตและสังคม: ให้อำนาจหรือปิดกั้น » »
1 ความคิดเห็น
เรื่องเป่าปรี๊ดๆนี้ ผมเองก็รำคาญมากๆ มันทำให้เราเสียสมาธิในการถอย เลยทำให้เบี้ยวเพราะลุกลี้ลุกลน
ที่เกลียดมากอีกอย่างคือพวกคอยเปิดประตูรถตามลานจอดร้านอาหาร และก่อนหน้านี้เขาก็เป่าปรี๊ดๆ อีกต่างหาก
เกลียดที่สุดคือพนักงานเสิร์ฟ ที่มายืนมองแก้ว แล้วคอยรินน้ำ ซึ่งหลายครั้งเรียกมาหา ให้เงินติบ แล้วบอกว่า “อีหนูไปยืนไกล ไม่ต้องมาสนใจลุงหรอก”
ก็รู้อยู่ว่าเกลียดคือโง่ โกรธคือบ้า แต่ถ้าไม่โง่ไม่บ้าในสังคมไทยวันนี้นี้ก็คงเป็นอรหันต์ไปแล้วแหละ ..ยังไอ้พวกแซงคิวตอนยูเทิร์นอีก
ถ้าพระพุทธเจ้ามาเกิดเป็นคนไทยในวันนี้ผมว่ายากที่จะได้ตรัสรู้