การให้

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 30 June 2009 เวลา 0:03 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3237

ในที่นี้ การให้หมายถึงให้เลย ไม่ใช่ให้ยืม ให้แล้วเอาคืน; เหมือนให้ความคิด/ให้หลักคิด ให้แล้วเอาคืนไม่ได้ จะไปลบออกจากสมองของผู้ฟังไม่ได้

สิ่งใดเมื่อให้ไปแล้ว ก็ไม่ใช่ของเราอีกแล้ว จึงไม่ควรจะต้องไปลำเลิกว่าอันนี้เป็นของฉันให้เธอไปนะ ถ้ายังคิดอย่างนั้น บางทีอาจไม่เคยให้เขาเลยตั้งแต่ต้น — ความสำนึก/ขอบคุณที่เกิดในตัวผู้รับเป็นเรื่องความกตัญญู ซึ่งก็เป็นเรื่องมโนคติของผู้รับ ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ให้ที่เป็นผู้ให้จริงๆ จะต้องไปเตือน โกรธแค้น หรือคาดหวังการตอบแทน

ก่อนให้ควรพิจารณาก่อนว่าผู้รับสมควรได้รับหรือไม่ สิ่งที่ให้เป็นของบริสุทธิ์ หามาได้โดยบริสุทธิ์ และให้ไปแล้วเกิดประโยชน์ต่อผู้รับหรือไม่ ถ้าให้ไปแล้วกลับเป็นภาระแก่ผู้รับ การให้ก็เป็นการเบียดเบียน — เมื่อคิดพิจารณาได้ดังนี้ การให้ก็จะทำให้ใจเบิกบาน เพราะไม่ใช่การเบียดเบียนตัวเอง ให้แล้วไม่เดือดร้อน ไม่ทุกข์ใจ ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินมาให้เพื่อเอาหน้า ให้แล้วผู้คนไม่สรรเสริญก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้คาดหวังตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ให้ไปเกิดประโยชน์ต่อผู้รับ ก็ยังได้รับความปลื้มใจกลับมาเป็นโบนัส


แรงบันดาลใจ และโอกาส

6 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 29 June 2009 เวลา 0:19 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 4725

อ่านบันทึกนี้ เห็นรูปหนังสือ Popular Electronics เดือน January 1975 ทำให้ระลึกถึงแรงบันดาลใจอันแรก ที่ทำให้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เมื่อครั้งกระโน้นได้ครับ

ผมอ่าน Popular Electronics เดือน January และ February ปี 1975 ของพ่อ หนังสือทั้งสองเล่มน่าจะยังเก็บอยู่ที่ไหนสักที่ในบ้าน ในสมัยนั้นคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องเกินฝัน (IBM PC ตัวแรกออกสู่ตลาดปี 1981 เข้าเมืองไทยปีถัดมา ราคาเครื่องละเกือบแสนโดยมีแต่ฟลอบปี้ดิสก์ขนาด 5¼”) ในตอนนั้นผมเรียนมัธยม เริ่มหัดเขียนโปรแกรมด้วยเครื่องคิดเลขโปรแกรมได้ TI-59 ซื้อหนังสือ Fortran IV (อ.เดือน เล่มสีเขียว) จากศูนย์หนังสือจุฬามาเรียนเอง มั่นใจว่าเขียน Fortran เป็นโดยไม่มีคอมพิวเตอร์ไว้ลองเล่น ต่อมาเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย จึงได้ลอง และก็เล่นได้ไม่ติดขัด

นี่ผ่านมา 34 ปี ทำให้หวนระลึกได้ว่าตัวเองมีโอกาสดีที่พบแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ตั้งแต่เด็ก จนทำให้เป็นคนที่มีชั่วโมงบินสูงในเรื่องนี้ และเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น electronics, discrete logic, computer architecture, software engineering ฯลฯ

มีเรื่องประหลาดอีกอย่างหนึ่งคือผมเรียนภาษา C จากการอ่าน source code ของ Ron Cain’s Small-C Compiler ที่ตีพิมพ์ใน Dr. Dobb’s Journal (DDJ) หลังจากเรียนปริญญาตรีจบไม่นาน ประมาณปี 1980 ในเวลานั้น วารสาร DDJ ไม่มีขายในเมืองไทย ต้องสมัครเอาโดยตรง

แรงบันดาลใจทั้งสองตัวอย่าง จะไม่เกิดผลอะไรเลยหากไม่ได้รับโอกาส เรื่องการหัดเขียนโปรแกรมเกิดขึ้นได้เพราะพ่อซื้อ TI-59 ซึ่งแพงมากให้ได้เล่น; ส่วนเรื่องภาษา C และ compiler construction ก็จะไม่ไปไหนถ้าบริษัทที่ทำงานอยู่ด้วยในตอนนั้น ไม่ไว้ใจวิศวกรจบใหม่ถึงขนาดว่าได้ใช้ development system กึ่งส่วนตัวในขณะที่มหาวิทยาลัยยังสอนเรื่อง single board computer ใช้ Z-80 อย่างเป็นล่ำเป็นสัน

แรงบันดาลใจต้องหาเองครับ ส่วนโอกาสต้องอาศัยผู้อื่นหยิบยื่นให้ ถ้ามีไม่ครบทั้งสองอย่าง สิ่งยิ่งใหญ่ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น

อาคีมีดิส (คนที่ร้องยูเรก้า) พบความถ่วงจำเพาะเนื่องจากเจ้าเมืองให้เขาพิสูจน์ให้ได้ ว่าช่างทองที่ทำมงกุฎมาให้ โกงทองหรือไม่

ถ้าไม่มีโอกาส ก็ไม่มียูเรก้าครับ

ดังนั้น จึงต้องถามใจพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ พี่เลี้ยง หัวหน้างาน ฯลฯ ว่าคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องของการให้โอกาส ซึ่งไม่เหมือนกับการถีบลงน้ำกลางทะเล แล้วให้ว่ายน้ำเข้าฝั่งเอง


วิชาเหมือนสินค้า

อ่าน: 6855

ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าการจัดการศึกษาแบบให้ทุกคนเหมือนกันหมดตามมาตรฐาน กับให้แสวงหาเอาตามความต้องการ (และอยากเรียน) แบบไหนจะดีกว่ากันนะครับ

วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล
ต้องยากลำบากไป จึงจะได้สินค้ามา

จงตั้งเอากายเจ้า เป็นสำเภาอันโสภา
ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ

นิ้วเป็นสายระนาง สองเท้าต่างสมอใหญ่
ปากเป็นนายงานไป อัชฌาสัยเป็นเสบียง

สติเป็นหางเสือ ถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง
ถือไว้อย่าให้เอียง ตัดแล่นเลี่ยงข้ามคงคา

ปัญญาเป็นกล้องแก้ว ส่องดูแถวแนวหินผา
เจ้าจงเอาหูตา เป็นล้าต้าฟังดูลม

ขึ้เกียจคือปลาร้าย จะทำลายให้เรือจม
เอาใจเป็นปืนคม ยิงระดมให้จมไป

จึงจะได้สินค้ามา คือวิชาอันพิสมัย
จงหมั่นมั่นหมายใจ อย่าได้คร้านการวิชา

เจษฎาจารย์ ฟ.ฮีแลร์


สรุปทริป SCG Paper

อ่าน: 3184

มาสวนป่าหลายครั้งแล้ว ดีทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ดีพร้อมกับสนุกครับ

มีเที่ยวละไม มีแอ็คชั่นบู้ล้างผลาญ มีหัวเราะ มีการเรียนรู้ มีการประยุกต์ มีการสนทนาที่ประเทืองปัญญา มีใบสั่งสองใบให้ดูแลคุณหนู(ผม) ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจมาทำไม่ใช่แค่เดินไปเดินมา อาหารอร่อยทุกมื๊อ และมีอิสระมากมาย นึกจะไปตลาดก็ไป นึกจะเอารถไปบดถนนก็ไป จะไปกินไอติม-ซื้อกาแฟเย็น-ไปเช็คยอดโอนเงินค่าหนังสือก็ไป ฯลฯ

สนุกที่ SCG Paper มีความพร้อมสูง ไม่เป็นภาระใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความคิด (ซึ่งมักจะเป็นเรื่องที่น่ากังวลที่สุด)

อากาศค่อนข้างร้อนแต่ไม่ร้อนมาก อาบน้ำวันละหลายครั้ง แต่เสื้อผ้าที่หอบมาก็ยังใช้ไม่หมด อย่าว่าแต่เสื้อผ้าที่หอบมาเกินเลยครับ ยาประจำตัวก็มีเกิน แต่ลืมหมวกไว้ในรถ ซ่อนไว้มิดชิดเกินไป ตัวดำเลย ฮือๆ

ก่อนมา ใครๆ ก็กังวลว่าจะเหนื่อยเพราะเพิ่งกลับจากวัดพระบาทห้วยต้ม ซึ่งเป็นทริปที่ขับรถไกลและยาวนาน แต่ลืมนึกไปว่า last call อยู่กับผม ถ้าผมไม่ไหว ก็ไม่มาหรอกครับ — รู้สึกดีใจที่ไม่เหนื่อยจากลำพูน และมาสวนป่าในครั้งนี้

พรุ่งนี้กลับบ้าน พักสักวันแล้วจะไปขึ้น panel วันที่ 30 นี้ ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย เพิ่งมีโทรศัพท์ติดต่อมาเมื่อคืน แต่พูดใน panel ไม่ยากครับ เตรียมเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ


SCG Paper ลงพื้นที่

อ่าน: 3714

หัวค่ำเมื่อวาน ได้นั่งฟัง Fa ของ SCG Paper สะท้อนสิ่งที่ได้ไปพบเห็นมาในการลงพื้นที่ในเวลาสั้นๆ

แต่ละกลุ่มต่างก็มีเรื่องน่าสนใจมานำเสนอเป็นที่สนุกสนาน เมื่อจบทั้งสี่กลุ่มแล้ว อ.ศักดิ์พงศ์ มาเล่าเรื่อง insight เกี่ยวกับนักสู้ชีวิตทั้งสี่ที่แบ่งให้แต่ละกลุ่มไปสัมภาษณ์มา ผมได้แต่หวังว่า Fa ฝึกหัดจะเข้าใจว่าต่อให้เป็นเรื่องที่เห็นประจักษ์อยู่ต่อหน้า ก็ยังมีเบื้องหลังอยู่เสมอ การหาคำตอบใดๆ ในงาน จะมองแค่เรื่องเฉพาะหน้า ตามเป้าหมาย ตาม KPI อาจจะเป็นการด่วนสรุปเกินไป (ความเห็นของเราก็อาจผิดได้)

นักสู้ชีวิตทั้งสี่นี้ เคยมาเรียนที่สวนป่าแล้วทั้งนั้น

กลุ่ม 4 เป็นกลุ่มเดียวที่แจ้งว่ามีครูน้อยเป็นพี่เลี้ยง กลุ่มนี้ไปพบพ่ออุทัย อ.สตึก เป็นกลุ่มเดียวที่มี intro ที่ฟังรู้เรื่อง อันนี้ไม่ใช่ข้อติติงกลุ่มอื่น แต่เป็นข้อสังเกตว่ากลุ่มอื่นใช้ assumption (assume ว่าคนอื่นรู้แล้ว) มากกว่ากลุ่มนี้

อ่านต่อ »


มองบ้านพ่อไล

อ่าน: 5175

วันพฤหัสที่ 25 ตามกลุ่ม 1 ของ SCG Paper ไปดูบ้านพ่อไล ที่บ้านสนามชัย ใกล้สวนป่า (ห่าง 1.7 กม) เนื่องจากเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ไม่ต้องทำการบ้าน ผมจึงเดินชมนกชมไม้ไปเรื่อย มาพบมุมสงบหน้าที่ของพ่อไล ที่มีอุณหภูมิเย็นกว่าในร่ม และเย็นกว่าในบ้านสามสี่องศา

ที่ตรงนั้น เย็นได้เพราะลมครับ


ไม่ใช่พ่อไลถูกหวยหรอกนะครับ ภาพรถส่งหนังสือเจ้าเป็นไผ ๑ อิอิ

ลมเกิดขึ้นเพราะสภาพพื้นที่ มีบึงใหญ่อยู่อันหนึ่ง รอบๆ บึง ก็เป็นไร่นาของชาวบ้านที่ปลูกต้นไม้ใหญ่; หน้าที่ของพ่อไล ปลูกต้นไม้ใหญ่เป็นแนว ซึ่งอยู่ติดกับบึงพอดี ดังนั้นหน้าบ้านของพ่อไล จึงมีสภาพเป็นช่องลมธรรมชาติ ลมที่พัดมา ควรจะเป็นลมร้อน แต่เนื่องจากพัดกรอกมาตามแนวต้นไม้ซึ่งมีร่มเงา จึงเป็นสายลมที่มีความเย็น

อ่านต่อ »


เครื่องทำความเย็นที่ไม่ใช้ไฟฟ้า

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 25 June 2009 เวลา 0:08 ในหมวดหมู่ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม #
อ่าน: 4387

สิ่งประดิษฐ์ง่ายๆ แต่สามารถใช้ถนอมอาหาร หรือพืชผลทางการเกษตรได้

หลักการคือใช้หม้อสองหม้อ ที่หม้อเล็กใส่ลงไปในหม้อใหญ่ได้ ระหว่างหม้อทั้งสองใส่ทรายเปียก ใช้ฝาปิดเป็นผ้าเปียก เมื่อน้ำระเหยออกไป ก็จะดึงเอาความร้อนออกไปด้วย ทำให้อุณหภูมิของทราย (และหม้อ) เย็นลง

ในสภาวะอากาศร้อนและแห้ง อาจลดอุณหภูมิลงได้ถึง 15-20°C อากาศบ้านเราร้อนชื้น คงไม่ได้อุณหภูมิที่แตกต่างขนาดนั้น แต่ถ้าได้เพียงครึ่งหนึ่ง ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย


กฤษณาสอนน้อง

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 24 June 2009 เวลา 0:02 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3165

พึงน้องสำรวมโอษฐ์ ผรุสโทษทำลายโฉม
เสียศรีอินทรีย์โทรม ศุภลักษณ์พักตราหมอง

หนึ่งเราเยาว์มี ชนนีชนกครอง
ตราบได้ภิเษกสอง สุขในมไหศวรรย์

คุณพระภรรดาเจ้า ได้ปกเกล้าช่วยกั้นกัน
คุ้มขวงภยันอัน ตรายร้าง บ่ รางพาน

ธรรมดาคณะพธู บำราศคู่สมัครสมาน
เสมอแหวนวิเชียรราน รังสีหมอง บ่ ผ่องพรรณ

เจียนจันทรดารก วลาหกมากีดกัน
เศร้าแสงชระอับอัน ธการคลุ้มชรอุ่มโพยม

เฉกหญิงที่ชายหน่าย แม้เป็นม่ายก็หมองโฉม
เสื่อมสุขแต่ทุกข์โทม นัสเศร้ากำสรวลศัลย์

ชุมชนจะชวนฉิน ประมาทหมิ่นทุกสิ่งอัน
ยากนักจักผ่อนผัน บรรเทาที่สตรีตรอม

สบสรรพสิ่งชั่ว มาเกลือกกลั้วให้หมองมอม
พักตร์ผ่องก็เผือผอม พิกลรูปจักซูบทรง

พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี

นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา

ความดีก็ปรากฏ กิติยศลือชา
ความชั่วก็นินทา ทุรยศยินขจร

กฤษณาสอนน้อง
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส


ขนน้ำ ทำไมต้องแบก

3 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 23 June 2009 เวลา 0:07 ในหมวดหมู่ การบริหารจัดการ #
อ่าน: 3664

เมื่อดูรูปแล้ว ถ้าคิดเอาง่ายๆ ก็จะตั้งข้อสังเกตว่า “สมควรแล้ว ลากเอาง่ายกว่าเยอะ” — ก็นั่นนะซิครับ ปัญหาคือในเมื่อลากได้ ทำไมจึงแบก ใครๆ ก็มองอย่างนั้น

ความคิดเรื่องการลากถังน้ำแทนการแบก ดูเผินๆ ก็เป็นเรื่องสมเหตุผลมาก แต่ก็เหมือนกับการที่ไม่ได้ทำแต่ไปดูเฉลยแล้วมาวิจารณ์; สิ่งที่ยากและหลงประเด็นได้ง่ายเหลือเกิน คือการเข้าใจเป้าหมาย (ขนน้ำ) และกล้าคิดหาทางออกด้วยวิธีการที่แตกต่างออกไป/กล้าทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป เพื่อผลลัพท์ที่ดีกว่า (แล้วแต่ว่าคำว่า “ดีกว่า” จะมีความหมายอย่างไร)

ถ้าจะเดินหน้าไปโดยไม่รู้ว่าเป้าหมายอยู่ตรงไหน มีโอกาสเดินถึงเป้าหมายเหมือนกันครับ เหมือนหมูวิ่งชนปังตอ

ที่แย่คือในการเดินหน้าไปนั้น กลับมาสนใจท่วงท่าเดินว่าสง่างามหรือไม่ ซึ่งเป็นวิธีมองแบบระบบราชการทั่วไปที่สนใจกระบวนการมากกว่าผลลัพท์ มองประสิทธิภาพ กะปิ (KPI) และขั้นตอนตามระเบียบ มากกว่าประสิทธิผลและประชาชนผู้เป็นนาย

พลทหารอยากเป็นนายพล คิดเอาง่ายๆ ว่าเป็นนายพลแล้วสบาย โดยไม่รู้ว่านายพลแบกรับอะไรไว้… พันธกิจจะสำเร็จได้ ก็ด้วยความสนับสนุนของนายพัน นายร้อย นายสิบ พลทหาร และหน่วยสนับสนุนข้างเคียงอื่นๆ

แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าพันธกิจของส่วนรวม ยิ่งใหญ่กว่าใครเป็นอะไร ใครใหญ่โตแค่ไหน — อำนาจที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ผู้อื่นมอบให้เท่านั้น อำนาจไม่ใช่เรื่องที่คิดเอาเอง อุปโลกน์ตัวเอง เคลมว่าตัวเป็นโน่นเป็นนี่ เรื่องของอัตตาทั้งนั้น

อ่านต่อ »


ภาพลับ

13 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 22 June 2009 เวลา 0:32 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 4622

Main: 0.83138394355774 sec
Sidebar: 0.38787388801575 sec