ตอน อภินิหารสปาเฮฮาศาสตร์
อ่าน: 6688(ทุกอย่างในวัดดำเนินไปเสมือนหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่)
: ปลูกต้นไม้ลงดิน
: ปลูกต้นไม้ในใจคน
: ชมผลงานโครงการหลวง
: ประชุมเจ้าเป็นไผ 2
: นอนแข็งทื่อให้มือพิฆาตขยุ้ม
: ตื่นเช้าไปตักบาตรกับชาวปากะญอ
: กะย่องกะแย่งกลับบ้าน
(กิจกรรมแลกเปลี่ยรเรียนรู้ และผลัดเปลี่ยนการกอดซึ่งกันและกัน)
>> เราเดินทางออกจากลำพูน ไปร่วมปลูกต้นไม้ช้าไปหน่อย ชาวบ้านมาชุมนุมกันแต่เช้า ให้ตุ๊เจ๊าทำพิธีรวมพลังใจใส่ต้นไม้ในโบสถ์ คณะเราเข้าไปร่วมอธิบายนิดหน่อย เพื่อทำตามขั้นตอนการปลูกต้นไม้ใจคน ผมกังวลใจพอสมควรเมื่อถามหาผู้ประสานไม่เจอ ไม่ทราบเขาแบ่งงานกันอย่างไร
(ในภาพอาม่าลุยเอง ปลูกเบิกโรงเป็นคนแรก)
>> ได้เวลาขนต้นไม้ขนคนขึ้นรถ เด็กนักเรียน ชาวบ้าน พระเณรนับร้อย จีวรเหลืองทะมัดทะแมงอยู่ริมถนนตลอดระยะทาง 2 ก.ม. อุปกรณ์ไม่พร้อม ขุดหลุมใหญ่ลึกบ้างกว้างบ้าง เป็นการเตรียมงานที่อิเหละเขะขละพอสมควร สถานการณ์เฉพาะหน้าตรงนั้นแทบจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ผู้ประสานงานหลักไม่อยู่ สิ่งที่ให้เตรียมล่วงหน้า รวมทั้งการทำความเข้าใจที่น้อยไป ทำให้เกิดภาพการมะรุมมะตุ้มปลูกแบบใจหายใจคว่ำ แต่ก็ผ่านไปได้ระดับหนึ่ง ทราบจากผู้นำหมู่บ้านว่าได้ตามไปแก้ไขในภายหลัง คงจะพอดูได้
(เป็นหลักฐานว่ามาปลูกต้นไม้จริงๆ)
>> คุณอมรา หารือว่าจะทำยังไงต่อ ผมชี้ให้ดูตอยูคาลิปตัสที่วางโค่โล่เกะกะ ชาวบ้านบอกว่าจะมาขนไปทำฟืน คุณอมราตัดสินใจเอารถมายกไปกองไว้ให้ในหมู่บ้าน แล้วเอารถมาปรับดิน 2 ข้างทางให้เรียบร้อย แล้วจะลงมือปลูกผักจำพวก ฟัก แฟง ฟักทอง น้ำเต้า มันเทศ ให้เลื้อยคลุมพื้น 2 ข้างทาง ..เจ้าภาพใจดีบอกว่า..จะทำตามความที่ครูบาบอกทุกอย่าง “ถ้าเกริ่นมาอย่างนี้ ก็แสดงว่าจะมีเรื่องมาวัดพระบาทห้วยต้มอีกในเดือนหน้าก็ไม่รู้นะ คราวนี้เราจะเอาปุ๋ยไปใส่ตามมุมแล้วปลูกผักตามที่เล่า..
(ซุ้มทางเดินเข้าโครงการหลวง และผลไม้ที่สดสวย)
>> ก่อนเที่ยง พระเณรจะต้องฉัน คณะทั้งหมดจึงยกทีมไปกินข้าวเที่ยงที่โครงการหลวง ได้ชิมผัดหมี่เจ ก้วยเตี๋ยวเจ ไอติมอร่อย แล้วฉายPower Point พระอาจารย์Handy นำเสนอเครื่องพ่นหมอก แล้วคณะเราก็ไปปลูกต้นเอกมหาชัยเป็นที่ระลึกที่ทางโครงการฯเตรียมหลุมไว้ให้ ต่อด้วยเจ้าหน้าที่พาเดินชมแปลงผัก ผลไม้ ชมหม่อนที่ปลูกเพื่อเอาผลมารับประทาน ชมการกลั่นพืชน้ำมัน ไปเจอมะเฟืองและเสาวรสออกผลเต็มต้น ใครใครชิมก็ชิมได้ตามอัธยาศัย
(ชมแปลงผัก กินข้าว ที่โครงการหลวง)
>> เรากลับมาที่วัด แยกย้ายกันเข้าบ้านพัก สำหรับท่านที่ต้องกลับ ยังพอมีเวลาโต๋เต๋ชมวัดอาอาราม แดดร่มลมตกได้เวลามาชิมอาหารมังสะวิรัส แล้วชวนกันไปคุยกันเรื่องลู่ทางที่จะทำหนังสือเจ้าเป็นไผ 2 ได้รับฟังความเห็นดีๆแง่คิดดีๆมากมาย แต่ยังไม่สรุปตอนนี้ เอาไว้สุกหงอมเหมือนมะม่วงสุก มันถึงจะหอมหวานน่ารับประทานใช่ไหมละครับ
(ประชุมกันที่เรือนสาวน้อย แต่มานอนปวดหลังที่บ้านหนุ่มโสดขาวมือ อิอิ)
>> ส่งเครือญาติกลับ ผมก็ขนของขึ้นบ้านพัก ที่วัดแห่งนี้มีเรือนสำหรับรักแขกที่ดีที่สุดในโลก ดีกว่ารีสอร์ทหลายแห่ง เจ้าภาพแจกบ้านพักให้เป็นหลังๆ เครื่องอำนวยความสะดวกดีกว่าโรงแรมหลายแห่ง “ไปวัดนอนรีสอร์ทวัด คิดดูจะเจ๋งขนาดไหน” ..ผมอาบน้ำ แต่ลืมทาแป้ง กะจะเอนองค์ลงบนเตียง ก็เสียวแปล๊บขึ้นมาที่กระเบนเหน็บ ปวดร้าวลงไปตามขา แอบนอนสังเกตอาการตัวเอง นอนเฉยๆพอไหว แต่พลิกตัวทีไรก็ปวดมากขึ้นๆ เกรงว่าจะไม่ได้กลับบ้าน..จึงโทรศัพท์หาป้าแห่งชาติ บอกว่านอนต่อไปไม่หายปวดแน่ ..หลังจากนั้นหมอนวด หมอผีบอก หมอนิรนาม หมอหมดอายุใบประกอบโรคศิลป์ ก็แห่กันมาเต็มบ้าน..มาถึงก็บงการให้นอนคว่ำ เอาน้ำมันเหลืองเทจนหมดขวด ไม่รู้มือใครต่อมือใครเค้นขยำมหกรรมบีบๆๆนวดๆๆ ยังดึงขาด้วยนะ คนป่วยก็จะตกเตียงนะสิ บอกเบิร์ดให้รีบมาดึงคอไว้อีกข้าง ..นอนน้ำตาซึม ชาติก่อนเราคงไปแกล้งกิ้งกือกระมัง ชาตินี้จึงมีมือมะรุมมะตุ้ม..แต่อาการปวดก็ค่อยยังชั่ว ลองพลิกตัวยังเคล็ดขัดยอกนิดหน่อย คงจะเหนื่อยด้วย จึงม่อยหลับไปจนรุ่งสาง ขอขอบใจหมอนวดฝีมือดีทั้งหลาย กลับไปถ้ามีเวลาฝึกปรือฝีมือไว้บ้างก็ดี จะได้เป็นประโยชน์ต่อมหาชนในวันข้างหน้า อิ อิ ..
(ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก มีภาพสาวน้อยกับสาวมากมาอวดด้วย เธอสวยสุดซึ้งทั้งคู่)
>> เรานัดกันตื่นไปตักบาตร 6 โมงเช้า ผมตามไปทีหลัง ยังทันเห็นพิธีทำบุญช่วงเช้าของชาวบ้าน สังเกตเห็นชาวบ้านเตรียมอาหาร ขันดอกไม้ และน้ำไว้เทกรวดน้ำตอนพระสวด มีรูปปั้นครูบาเจ้านั่งเป็นประธานบนตั่งสูงประมาณ 40 เซ็นติเมตร พระสงฆ์นั่งเรียงถัดไป ส่วนเณรนั่งด้านล่าง หลังจากพระสวดเสร็จชาวบ้านก็ลุกมาใส่บาตรเป็นจำพวกอาหารแห้ง ข้าวเหนียว รับศีลรับพระแล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี
(ทำบุญได้บุญดูตรงที่รอยยิ้ม )
:พิธีการทำเสมือนท่านครูบาวงษ์ฯท่านยังมีชีวิตอยู่ทุกประการ ยังตักบาตรท่าน บรรยากาศรู้สึกเหมือนท่านยังไม่ได้ไปไหน ยังอยู่เป็นหลักชัยให้กับลูกหลานหว่านเครือของท่าน เห็นแล้วนึกชื่นชมชาวบ้านปากะญอที่เขามีจิตใจสูงยิ่งนัก ..เด็กผู้ชายในหมู่บ้านจะบวชเรียนเป็นส่วนใหญ่ จะเหลือเฉพาะเด็กหญิงที่อยู่ช่วยงานหรือเข้าโรงเรียนของหมู่บ้าน
(เรือนพักสาวๆ ด้านหลังมีชานนั่งสูดโอโซน)
>> วันนี้อากาศดีมาก เย็นสบายๆอย่างบอกไม่ถูก คุยกันว่าอุณหภูมิทั่วโลกย่อมผิดแผกแตกต่างกันไป แต่วันนี้ที่วัดพระบาทห้วยต้มมีอุณหภูมิพอดีที่สุดในโลก อากาศสะอาดร่มรื่นทำให้เห็นว่าพลังบุญเป็นเช่นนี้หนอ เท่าที่ผมสังเกตตัวเอง เคยรู้สึกว่าได้อยู่ในบรรยากาศเช่นนี้ไม่กี่ครั้ง ส่วนมากจะร้อนไปหนาวไป วันที่พอดีจึงมีความหมายมาก รู้สึกดีใจที่ได้มานอนสัมผัสกับวันที่ดีที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของเรา แทบจะลืมเรื่องที่โดนพนักงานร้านสปาเฮฮานวดแหลกเมื่อคืนนี้ อิ อิ..
(ลองค้นดูในภาพมีรูปตัวเองหรือเปล่า)
>> เช้านี้คุณอมรา เลี้ยงโรตี ขนมกะหรี่ปั๊บ ข้าวต้มเจ ขาเห็ดหอมผัด น้ำมะตูม อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า เบริ์ดบอกข้าวต้มมากไป ตักแบ่งมาให้ผมครึ่งหนึ่ง ซึ่งก็ยังมากอยู่ดี จึงยกให้ป้าจุ๋มไปแบ่งออก คุณป้าก็แบ่งๆไปแบ่งไปจนเกลี้ยง ผมก็เลยอดชิมข้าวต้มแต่ก็อิ่มโรตี ขนม แล้วเราก็กอดล่ำลา..
(ของฝากที่แวะซื้อฝากหลาน)
>> เรากลับออกมาเส้นเถิน-ตาก รถวิ่งมาเรื่อยๆ ฟังอาม่าคุยเรื่อยๆ แวะกินข้าวมันไก่ที่กำแพงเพชรเจ้าเก่า แวะซื้อของฝากหลานรัก เจ้าฟาง-เจ้าฟ้า ที่วันเกิดผ่านมาหลายราตรีแล้ว พรุ่งนี้จะจัดส่งไปให้ตื่นเต้นๆๆ นะจ๊ะ
: จบเรื่องเล่าเช้านี้
: ยังมีเรื่องต้องคิดหนักว่าจะไปตรวจสังขารที่ไหนดี
: อิ อิ..คืนนี้จะนอนฝันถึงหมอนวดมหาภัย
« « Prev : ไปจีบสาวพยาบาลมาแล้วเน้อ
Next : SCG. paper บุกสวนป่า » »
18 ความคิดเห็น
ดีใจค่ะพ่อครู รุ่งเช้าอาการขัดยอกหายด้วยมือคุณหมอทั้งหลายนะคะ หนูดีใจมากที่ได้พาครอบครัวไปด้วยครั้งนี้
คิดไว้ว่าต้องมีผู้ใหญ่ไปดูผลงานมะรุมมะตุั้มให้ต้นเจริญเติบโตได้ หนูลาพ่อออกมาได้เห็นผู้นำและเณร เตรียมไม้หลัก ไปปักยึดใช่มั้ยคะ หนาวที่จะถึงหนูมีเวลาอาจจะไปชมต้นที่ปลูกกันจ้ะ เพราะยังต้องเดินทางทำงานที่ตากอีกถึงปีหน้า เมื่อคืนนอนที่อุทยานลานสาง สายๆเก็บข้อมูลท้องถิ่น ถึงบ้านก็ 4 โมงเย็น จ้า
อยากเห็นภาพและโฉมหน้าของเหล่าหมอนวดมหาภัยจังเลยค่ะ
หนูจะได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยคน กั่กๆๆๆๆ :P
พ่อรักษาสุขภาพนะคะ พักผ่อนมาก ๆ
ไอ้ที่อั้น ๆ ไว้อยากจะบอก อยากจะเล่า เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยโม้ เอ๊ย
ค่อยตื่นมาทำให้มันเป็นวันพิเศษก็ได้ค่ะ อิอิ
ภาพลับ จะมาโพสต์กันง่ายๆ ได้ยังไงครับ
ได้ข่าวว่าสปาเจ้านี้ มีเสียงพากษ์ประกอบฉากเซ็งแซ่ ใช่ไหมเจ้าคะ…
ครูบาคะ เรื่องตรวจเช็คสุขภาพ คุยกันเมื่อกลางวันนี้ ก็มีหลายแนวทางนะคะ
1 ใช้โรงพยาบาลใกล้บ้านใกล้ใจก่อนเพื่อให้สามารถใช้สิทธิ์ 30บาท แล้วให้ส่งต่อไปโรงพยาบาลใหญ๋ จนถึง รพ. ขอนแก่น
2 ไปโรงพยาบาลที่ ม. ขอนแก่น เพราะมีข้อมูลเดิมอยู่แล้ว
3 ใช้บริการที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ถ้าศิริราชก็แนะนำให้ไปคลินิกนอกเวลา
4 มาตรวจที่เชียงใหม่ นำผลเดิมที่ขอนแก่นมาด้วย
ฯลฯ
ส่วนสำคัญอยู่ที่การตรวจอะไรค่ะ ถ้าของครูบาจะตรวจสุขภาพประจำปีควรมี
1 ตรวจเลือด ควรตรวจให้ครบ ความเข้มข้นของเลือด ไขมันในเลือด(รวม HDL LDL) น้ำตาลในเลือด
2 ตรวจปัสสาวะ และอุจจาระ
3 การทำอัลตราซาวน์อวัยวะในช่องท้องที่รวมตับ
4 EKG
5 x_ray ปอด
6 ความหนาแน่นของมวลกระดูก
7 น้ำหนักส่วนสูง ความดันโลหิต
8 ตรวจฟัน
9 ต่อมลูกหมาก
“”"”"”ที่จริงอ่านแล้วนึกขำ เพราะเดาภาพสปากลางดึกว่าจะเป็นอย่างไง คงมีทั้งไล่ชี่ให้เดินสะดวก คลายเส้น อาบไพล กดจุด ลากขา ดึงคอ ขยุ้มเอ็น แถมตลอดรายการมีคนถ่ายภาพไว้ตลอดเรื่อง…แต่ก็เดาว่าครูบาคงปวดหลังมากและห่วงว่าเดินทางทั้งวันจะทำให้ปวดมากขึ้นไหมน่ะค่ะ???
ผิดพลาดที่ไม่ได้มานอนที่พระบาทห้วยต้ม..
แต่เรื่องราวเฮฮาศาสตร์ กิจกรรมเฮฮาศาสตร์ ที่พระบาทห้วยต้ม
ต้นเอกมหาชัย เพื่อนที่ชื่อขวัญชัย สกลุลทอง
จะเอาไปพูดในวิทยุ มก.แม่โจ้ ที่เขาจัดรายการอยู่ทุกวันครับ
อิจฉาจังเล๊ย..อิอิ
อนาคตหากเฮฮาศาสตร์มีกิจกรรม หรืออื่นๆที่น่าสนใจก็จะขอขวัญชัยมาสัมภาษณ์ หรือพากลุ่มพวกเราไปออกรายการก็เป็นได้ครับ เอาเขามาเห็นพวกเฮฮาศาสตร์ทำกิจกรรมที่พระบาทห้วยต้มก่อน เขาก็สนใจและคงคิดต่อครับ
อาม่าตกใจ หมดเลย รีบพาสาวๆ( หมอเถื่อน) ดิลิเวอรีี่ส่งตรงถึงห้องพักครูบาฯ ทันที พวกนี้รู้งานรุมกันไม่เห็นตัว ผู้ป่วย ป้าจุ๋มเทยานวดพลวดเดียวครูบาฯ ถึงกับสะดุ้งเลย จากนั้นก็ดึงขาจนเกือบตกเตียงครูบาร้อง ช่วยดึงหัวไว้ด้วย ไม่งั้นแรงดึงขาฝีมือป้าจุ๋ม นั้นทำเอาตกเตียงได้ ฮาๆๆๆๆๆ
-เมื่อคืนนี้ป้าจุ๋มกับอาม่าตั้งใจจะนอนแต่หัวค่ำเพราะรู้สึกเหนื่อยเหมือนกันหลังจากกรำแดดปลูกต้นไม้ เดินชมโครงการหลวงกันมาทั้งวัน(เป็นสว.ก็เป็นอย่างนี้แหละ)…ขณะที่กำลังจะเข้านอนป้าจุ๋มก็ได้รับโทรศัพท์จากครูบา…ตอนนั้นเกือบสามทุ่มครึ่งแล้ว…ครูบาถามป้าจุ๋มว่านอนหรือยัง ฟังดูเสียงแล้วน่าจะมีปัญหาแน่ ก็จริงตามที่คาด…ครูบาบอกว่าปวดหลังมากทนจะไม่ไหวแล้ว…ป้าจุ๋มก็ตกใจเพราะปกติครูบาจะเป็นคนขี้เกรงใจ…ลองโทร.มาผิดเวลาเช่นนี้ต้องมีปัญหา…ป้าจุ๋มรีบบอกอาม่าแล้วเตรียมล่วมยาเพื่อไปดูอาการ…ปรากฎว่าไปกันทั้งทีมเลย…เมื่อไปถึงพบว่าอาการของครูบาน่าเป็นห่วงมาก…หลังจากคุยถามอาการด้วยความรวดเร็ว วินิจฉัยอาการแล้ว ทีมแม่หมอ หมอเถื่อนทั้งหลายก็สวดมนต์เสกคาถา(ในใจ)แล้วก็พากันรุมที่เรียกว่า “สหวิทยาการ” แถมแม่หมอตกใจมากเห็นอาการน่าเป็นห่วงเทน้ำมันไพลพรวดเดียวเกือบหมดขวดเลย(จะเรียกว่าอาบก็ได้)หลังจากนั้นก็เริ่มใช้วิทยายุทธ…นวดๆๆๆๆดึงๆๆๆครูบานอนนิ่งเงียบ พวกเราก็นวดๆๆๆสักพักน้องอารามนวดไปที่ข้อพับขา พร้อมกับร้องลั่นด้วยความดีใจว่าพบเส้นแล้วยังเต้นตุ๊บๆๆอยู่…ป้าจุ๋มก็ร้องตอบไปว่า…เอ้าดีแล้วน้องอาราม…นั่นแสดงว่าหัวใจยังเต้นอยู่(นี่พูดตามหลักวิชาการน๊ะ) เท่านั้นทุกคนก็ฮา…แล้วก็รุมนวดกันต่อจนครูบายอมแพ้…บอกว่าหายแล้วๆๆก็ได้…ทีมหมอไม่ไว้ใจให้ลองลุกนั่งดูถ้าหายจริงต้องนั่งได้ เอ้า…หายจริงๆ…จาก สามทุ่มครึ่งถึงเกือบห้าทุ่ม…สำเร็จ…หลังจากนั้นครูบาบอกว่าหลับไม่รู้สึกตัวเลยจนถึงเช้า(หลับสนิทเพราะถูกนวดจนน่วมจ้า…อิ อิ อิ)
-ไปครั้งนี้พวกเราคิดถึงหลานจิมากจ้า…ป้าจุ๋มนำบุญมาฝากหลานด้วยน๊ะจ๊ะขอให้อนุโมทนาบุญด้วย…เปิดเทอมใหม่แล้ว หลานโตขึ้นอีกปี ขอให้ตั้งใจเรียนและโชคดีในทุกๆสิ่งจ้า ปีนี้เลี้ยงมดเยอะๆหน่อยน๊ะจ๊ะหลานรัก…ป้าจุ๋มรักและห่วงใยหลานเสมอจ้า…
[...] เรื่องเริ่มต้นตรงนี้ ? [...]
น่าตื่นเต้นดีใจด้วยครับ เสียดายจริงๆที่ไม่ได้ไปด้วย ระวังสุขภาพนะครับ
กิจกรรรมชาวฮาเที่ยวนี้ คุณอมรา ให้มืออาชีพมาถ่ายทำเป็นสื่อออก ทีวี.
ในระหว่างที่พวกเราคุยกันเพลิน
ผมถูกฉกตัวมาสัมภาษณ์ ก็เล่าให้เขาฟังว่า
เราเป็นไผ คิดและทำอะไร ทำไมถึงมาที่นี่
ยังไม่จบนะครับ
ตอนท้ายๆเขาจะตามไปถ่ายทำต่อที่สวนป่า
ใครอยากเป็นดาราหน้าจอ ยกมือขึ้น
>> เท่าที่ทราบทุกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
>> เอาไว้ฟ้าดินเป็นใจ เราจะมาพบกันอีก
>> ขอให้เตรียมตัว อิ อิ ไว้ให้ดี
เฮอะๆเหอ ถ้ามิมีบุญเก๊าะมิโดนขยำน่วมเช่นนี้นะคะ แต่ขำน้ำมันไพลป้าจุ๋มเทซะชุ่มทะลุสะดือเลย อิอิอิ
เสื้อเหลืองอ๋อย ซักออกรึเปล่าก็ไม่รู้
มาให้ข้อมูลพ่อครูเพิ่มอีกหน่อย ช่วงไหนอยู่กรุงเทพฯหลายวัน แวะไปที่คลินิคบัลวี ริมคลองประปาให้ตรวจดูก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง ที่นั่นแนะวิธีดูแลสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ซึ่งน่าจะถูกจริตกับพ่อครูและสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใข้ได้ง่ายกว่าการแพทย์ตะวันตกค่ะ
จะลองใช้เครือข่ายที่มี ศึกษาดูว่าจะช่วยให้พ่อครูเข้าสู่เรื่องการเข้าสู่ระบบยังไงให้เข้าไปถึงร.พ.ขอนแก่นได้ง่ายขึ้นด้วยสิทธิ 30 บาทที่มีค่ะ เพื่อช่วยเสริมให้อุ่นใจในเรื่องงบประมาณการดูแลตัวเอง เดี๋ยวนี้สิทธิที่ 30 บาทให้ดีกว่าสิทธิของข้าราชการเสียอีกนะค่ะ อย่าดูถูกไป เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะค่ะ ขอบอก
ถ้าไม่ติดภาระกิจอะไรมากมาย ให้กลับไปนอนรับออกซิเจนที่สวนป่าดีกว่าอยู่รับก๊าซแย่ๆในเมืองกรุงค่ะ (ขอบังอาจสั่งหน่อยนะค่ะ)
ได้วิธีจัดการเพื่อไปใช้สิทธิ 30 บาทที่ขอนแก่นแล้วค่ะ
ถ้าเลขที่บ้านของสวนป่าอยู่ในเขตของสถานีอนามัย ครูบาให้ใครไปขอรับบัตร 30 บาทของครูบามาไว้กับตัวก่อนนะค่ะ
รับบัตร 30 บาทมาแล้วก็ให้เตรียมเรื่องต่อไปนี้ไว้หน่อย : สำเนาบัตรประชาชนของครูบา , สำเนาทะเบียนบ้านที่ครูบามีชื่ออยู่ , หาเจ้าบ้านที่มีบ้านอยู่ในอำเภอเดียวกับร.พ.ขอนแก่นสักคน (พี่บางทรายได้รึเปล่า?), ยืนยันให้หน่อยว่าหมอที่รักษานั้นอยู่ร.พ.ไหนแน่ระหว่างมข.และร.พ.ขอนแก่น
ได้เจ้าบ้านเป็นใครครูบาส่งข่าวให้ทราบด้วยค่ะ จะได้ให้คำแนะนำวิธีที่น่าจะง่ายกว่าการไปเริ่มที่ร.พ.ใกล้บ้านค่ะ