ภาษีซื้อมาขายไป
ธรรมดาผมไม่ค่อยเขียนเรื่องเฉพาะกาลหรอกนะครับ แต่คิดว่าบ้านเมืองเราออกอาการเข้าขั้นตรีฑูต มิใยว่ารัฐบาลจะออกมาตะโกนปาวๆ ว่ากำลังดีขึ้น (ซึ่งแปลว่ายังไม่ดี แต่แย่น้อยลง) แล้วฝ่ายนอมินีก็บอกว่าฝีมือเด็กๆ ทำบ้านเมืองย่อยยับ ทั้งที่ตัวเองก็รู้ว่าตัวมีส่วนสร้างความปั่นป่วนเป็นอย่างมาก บวกกับผลกระทบหนักหนาสาหัสจากต่างประเทศ
บ้านเมืองเรามีปัญหามากมาย เพราะอุปสงค์และอุปทาน ไม่สมดุลย์กัน แห่ผลิตไปตามๆ กันเพราะเห็นว่าราคาดีในปีที่แล้ว พอผลผลิตออกมามาก ราคาก็ตก ก็มาปิดถนนประท้วงต้องการให้ประกันราคา — แต่ที่หนักกว่านั้นคือมีเสือนอนกิน ทำธุรกิจซื้อมาขายไป เป็นคนกลาง มีสินค้าผ่านมือโดยไม่ได้เพิ่มมูลค่า แต่ชักกำไรไปฟรีๆ เฉยเลย เงาะ ข้าว กุ้ง ลิ้นจี่ ลำไย ทุเรียน ฯลฯ อาการเดียวกันทั้งนั้นครับ
อัตราเงินเฟ้อติดลบ ดูเผินๆ เหมือนจะดีเพราะสินค้ามีราคาถูกลง พอเศรษฐกิจไม่โต แต่เงินเฟ้อติดลบ ทำให้เศรษฐกิจไม่โต ก็ไม่มีการลงทุน+จ้างงาน ธุรกิจที่ขาดสภาพคล่องต้องปิดตัวลง ทำให้คนตกงาน ที่จริงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก้ปัญหาได้ แต่เพราะคนส่วนใหญ่ประมาท ไม่ได้ปรับตัวมาก่อน จึงเตรียมตัวไม่ทัน พอตกงาน แถมสูญเสียความรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิต ทุกอย่างเคยซื้อเอาได้หมด พอเงินขาดมือ เลยงงเต็ก ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป