ลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านเฮ

อ่าน: 4614

หมู่บ้านเฮ เป็นทั้งชุมชนและเป็นพื้นที่ทำกิน คงไม่ถึงกับอยู่ดีๆ ก็มีกินโดยเนรมิตขึ้นมาหรอกนะครับ แต่ว่าข้าวปลาอาหารควรจะหาได้จากพื้นที่ของหมู่บ้านเฮ ไม่ต้องซื้อกิน (จะซื้อก็ได้ ไม่ว่าหรอกครับ)

หมู่บ้านเฮ ควรจะมีความมั่นคงทางพลังงาน พลังงานทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากพื้นที่ของหมู่บ้าน (น้ำ ลม ไบโอดีเซล ขยะ solar thermal ฯลฯ) หักกับพลังงานที่ซื้อหามา แล้วยังเหลือขายกลับไปให้การไฟฟ้าฯ

ก่อนจะเพ้อเจ้อต่อไป ก็ต้องหาที่ก่อนครับ เมื่อคืนคุยกับพ่อครูบา ป้าจุ๋ม ครูสุ กับน้าราณี บรรดาสาวๆ ให้ความเห็นถึงความต้องการพื้นฐานไว้น่าสนใจครับ

ความปลอดภัย

พื้นที่หมู่บ้าน จะต้องมีความปลอดภัยจากโจรผู้ร้าย จากยาเสพติด จากการใช้กำลังตัดสิน/อิทธิพลมืด หมู่บ้านเฮอยู่ใต้กฏหมายไทย เป็นส่วนของราชอาณาจักรไทย

สังคมรอบข้าง

เราไม่ได้คิดจะไปตั้งหมู่บ้านเฮอยู่กลางป่าที่ห่างไกลผู้คนหรอกครับ จะไปอยู่ตรงไหน ก็จะมีคนอยู่ในพื้นที่นั้นแล้ว และเราก็คิดจะอยู่ร่วมกับเขาอย่างผาสุก จะจ้างงาน จะให้ความรู้ จะพยายามปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชุมชน ด้วยความรู้และประสบการณ์ต่างๆ ของชาวเฮ

เลี้ยงตนเองได้

การเลี้ยงตัวเองได้ แปลง่ายๆ ว่า ผลผลิตมากกว่าการบริโภค ในทุกมิติ เรื่องนี้ฟังดูง่าย แต่น่าจะเป็นความท้าทายว่าความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ สามารถจะสร้างผลผลิตให้เพียงพอต่อการบริโภคในชุมชน และเหลือพอที่จะจำหน่ายจ่ายแจกแก่สังคมรอบข้างหรือไม่

หากทำได้และยั่งยืนจริง หมู่บ้านเฮก็จะมีกำลังในการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต้องกินทุน และไม่แปลกว่าสมาชิกแต่ละท่าน จะมีสินเดิมมากน้อยเท่าใด (รู้แต่ว่าจะมีมากขึ้น และไม่อดตาย)

น้ำ ลม ดิน ดี

หมู่บ้านเฮ เปลี่ยนธรรมชาติมาเป็นความอยู่รอด ในเมื่อธรรมชาติเป็นวัตถุดิบแห่งวิถีของหมู่บ้านเฮ เราก็ต้องเป็นมิตรกับธรรมชาติ เราจะเลือกพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ปรับปรุงและบำรุงธรรมชาติอย่างดี ปลูกต้นไม้เยอะๆ; น้ำไหลดีกว่าน้ำนิ่ง เพราะน้ำไหล ปั่นเป็นพลังงานได้

สูงพอสมควร

ไม่ใช่เรื่องน้ำท่วมโลกหรอกครับ แต่น่าจะมีโอกาสสูง ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เนื่องจากเราจะลงทุนกับต้นไม้ ซึ่งกว่าต้นไม้ใหญ่จะโตก็ใช้เวลา 5-10 ปี ดังนั้นจึงไม่ควรเสี่ยง พื้นที่ของหมู่บ้านเฮ ไม่น่าจะอยู่ต่ำว่าระดับ 100-150 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง

ไม่ไกลนัก

เราไม่ได้คิดจะสร้างทุกสิ่งทุกอย่างใหม่หมดหรอกนะครับ อะไรไม่จำเป็น ก็ไม่ไปยุ่ง ดังนั้นก็ยังมีความจำเป็นที่จะอยู่ร่วมกับชุมชนเมืองที่มีหลายอย่างที่จะไม่มีที่หมู่บ้านเฮ ดังนั้นหากเป็นไปได้ หมู่บ้านเฮ ไม่น่าจะอยู่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ขับรถสักสองสามชั่วโมงก็ยังรับได้ ถ้ามีการขนส่งสาธารณะก็ยิ่งดี


« « Prev : ต้านสแปมในบล็อก

Next : คำแนะนำถึงสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

11 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 December 2008 เวลา 4:44

    หมู่บ้านเฮ ควรมีแม่ย่านาง นางกวัก นางเกา
    มีดารา่ หน้าตาดี ยิ้มดี ทำโรตีอร่อย
    มีระบบสื่อสาร มีสายเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
    มีูหลานวิ่งเกรียวตามลานบ้าน มีโฮงเฮียนสอนวิชาเฮ
    มีหลวงพี่มาบำเพ็ญเพียร ให้เราแวะเวียนไปสนทนาด้วย
    มีลานละครกลางแจ้ง ให้ฝึกการเจ๊าะแจ๊ะ ออกกำลังกาย หรือนั่งบริกรรมพักผ่อน นอนกลิ้ง
    มีเสียงนกร้องเพลง เลี้ยงนกยูงก็ได้นะ
    มีคนทุกวัยใจดี มีเขตปลอดคนใจร้าย ใจดำ
    มีแปลงปลูกผัก ทำนาไร่ เลี้ยงไก่แจ้ ไว้ขันเอิ๊กอิเอ๊กๆ
    มีเด็กพูดมากอย่างโก๊ะจิ.. ขันแข่งไก่
    มีแสงแดดอุ่น กาแฟรสละมุมเสิฟคุณๆยามเช้าตรู่
    มีสื่อปู นอนชมดาวตก ..ยกกล้องถ่ายภาพ
    มีศาลาประกวดภาพถ่าย แปะไว้อวดฝีมือ
    มีศาลาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คนขายต้องยิ้มเก่ง
    มีศาลานวดแผนไทย ลาว แขก บอดี้เซฟ
    มีลานสาวกอดให้หมอจอมป่วน
    มีศาลาจัดอบรม สัมมนา แบบกระชับมิตร
    มีห้องคนตรี ให้โกีะแสดง ร้องรำทำเพลง
    มีห้องครัวให้ฝึกปรือวิชาต้มแกงแฮงดี
    มีๆๆ…มีๆๆ

  • #2 อุ้ยจั๋นตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 December 2008 เวลา 6:02

    วันก่อนพานักศึกษาไปดูงานที่หมู่บ้านหนึ่ง เป็นหมู่บ้านที่ดูแลผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ..ดูแลโดยชาวต่างชาติ ..มีข้อมูลเล็กน้อยมาร่วมคิดค่ะ..
    หมู่บ้านมีพื้นที่แค่ 7 ไร่ เป็นที่นาเดิม แบ่งเนื้อที่ส่วนหนึ่งทำนา ส่วนหนึ่งปลูกผักและต้นไม้ยืนต้น มีสระน้ำจากการขุดเอาดินมาใช้ ส่วนหนึ่งปลูกบ้าน บ้านฝาไม้ไผ่อัดแต่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบแบบบ้านฝรั่ง ทุกหลังคาบ้านติดเครื่องทำไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ซึ่งใช้กับอุปกรณ์ทุกอย่างในบ้าน   มีอินเทอร์เนตใช้ มีสนามเด็กเล่นที่เล่นกับดินทราย ตอนที่ไปเขากำลังปลูกบ้านดิน รอบบริเวณมีศาลาอเนกประสงค์ตั้งห่างกันเป็นจุดๆ เขาใช้เป็นที่สอนหนังสือให้ผู้หญิงเป็นกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 5-6 คน ลานกลางหมู่บ้านเป็นที่เล่นกีฬาได้  คนอยู่และอาสาสมัครที่ไป่ช่วยก็ร่วมกันทำนาปลูกผักดูแลบ้าน
    ข้อมูลทางกายภาพก็เห็นแค่นั้น ส่วนข้อมูลด้านอื่นๆยังเข้าไม่ถึง ยังดูไม่ออกว่าสายสัมพันธ์อย่างไร เพราะดูฉาบฉวยมองไม่เห็นรายละเอียดของการอยู่ร่วมกันคนในหมู่บ้านค่ะ

  • #3 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 December 2008 เวลา 8:37
    ถ้า requirement ในบันทึกเป็นเรื่องรับได้ พื้นที่เป้าหมายหลักก็จะอยู่ในรัศมี 100-150 กม.จากกรุงเทพครับ ได้แก่ สมุทสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี ลพบุรี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และชลบุรี

    ดังนั้นก็มองหาที่ในพื้นที่เป้าหมายก่อนนะครับ แต่ถ้า requirement อันสุดท้ายเปลี่ยนเป็นขับรถหนึ่งชั่วโมงจากสนามบิน(นานาชาติ) ก็จะมีทางเลือกเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ

    ตอนนี้ พยายามหาที่ก่อน ใครเสนอตรงไหน นัดไปดูกันหลายๆ คนนะครับ

  • #4 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 December 2008 เวลา 9:52

    พื้นที่ในฝันที่สมบูรณ์แบบของคุณ เกือบมี และเคยเล่าให้ฟังไปแล้ว และเป็นที่ๆ  สามีอยากจะไปอยู่  หลังจากที่มนส. เลิกข้าง

  • #5 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 December 2008 เวลา 22:01

    Happy talking keep talking happy talk
    Talk about thing you like to do
    You gonna have a dream
    If you don’t have a dream
    How you have a dream comes true…..

  • #6 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 December 2008 เวลา 17:24
  • #7 born2011 ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 July 2011 เวลา 17:19

    ยังเปิดรับสมาชิกใหม่เข้าเป็นสมาชิกในชุมชนหมู่บ้านเฮมั้ยคะ ขอสมัตรด้วยคน เดือนุตลาคม จะเริ่มลงมือทำสวนพอเพียงที่อุบล เมื่ออะไรเข้าที่เข้าทางคงได้มีเวลาลงมือทำบล็ิิอกเพื่อแชร์ประสบการณ์กับท่านที่สนใจค่ะ ยินดีต้อนรับสมาชิกลานปัญญาทุกท่านค่ะ ก่อนลงมือคงต้องแวะไปกราบขอความรู้จากท่านครูบาและปราชญ์อีกหลายท่านค่ะ

    เคยคิดเรื่องระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขั้นเหมือนกันค่ะ คิดว่าชัยภููมิ นครราชสีมา สกลนคร อุบลราชธานี และ ลพบุรีน่าสนใจค่ะ

  • #8 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 July 2011 เวลา 18:28
    การอยู่ในที่สูงไม่ได้แปลว่าจะรอดจากน้ำท่วมครับ เพราะว่าน้ำท่วมนั้น คือสภาพที่น้ำไหลออกจากพื้นที่ได้ช้ากว่าน้ำที่ไหลเข้ามาในพื้นที่

    ส่วนสภาพพื้นที่สูงกับระดับน้ำทะเลนั้น ใช้ชดเชยกับแผ่นดินทรุดครับ ระดับน้ำทะเลไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงได้เยอะเป็นหลายๆ สิบเมตร ทั้งนี้ก็เพราะจะต้องมีปริมาณน้ำในมหาสมุทรเพิ่มขึ้นมหาศาล ซึ่งคิดไม่ออกว่าจะมีน้ำปริมาณมหาศาลแบบนั้นมาเพิ่มในมหาสมุทรได้อย่างไร

  • #9 born2011 ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 July 2011 เวลา 9:05

    ติดตามข้อมูล ดร.อาจอง ก็เป็นกังวลกับเรื่องระดับน้ำทะเลพอสมควรค่ะ

  • #10 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 July 2011 เวลา 9:49
    “ความคิด” ไม่ว่าจะเป็นของใคร ก็ผิดได้นะครับ… ผมเชื่อกาลมสูตร :)

    ข้อมูลจากวิกิพีเดีย ว่าพื้นผิวโลกมีพื้นที่ 510 ล้านตารางกิโลเมตร ถ้าระดับน้ำสูงขึ้น 7 เมตร โลกจะต้องมีน้ำมากขึ้นหรือมีมวลอะไรมาแทนที่น้ำในมหาสมุทร 3.57 ล้านล้านตัน ยังไม่รู้จะเอามาจากไหนเลย น้ำแข็งละลายหมดทั้งโลกยังไม่พอเลยครับ

  • #11 born2011 ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 July 2011 เวลา 10:43

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อธิบายได้เห็นภาพชัดเจนดีค่ะ ค่อยคลายกังวล
    และขอบคุณในการเตือนสติว่าอย่าเชื่อในสิ่งใดเพียงเพราะ…… (ขอบคุณที่เป็นกระจกเงาให้ค่ะ)


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.56823706626892 sec
Sidebar: 0.6982159614563 sec