ตายน้ำตื้น (ปะการัง)

อ่าน: 4002

ด้านใต้ของเกาะสุมาตรา มีปะการังน้ำตื้นอยู่ใน genus Porites

ปะการังนี้ เติบโตได้ใต้น้ำทะเล (แหงล่ะ) ตามรูป A มันก็ค่อยๆ โตออกรอบทิศทาง

ในรูป B เมื่อส่วนของปะการังโผล่พ้นน้ำ มันไม่สามารถจะโตต่อไปได้ และจะมีผิวอยู่ในระดับเพียงแค่ระดับน้ำทำเล ในขณะที่ส่วนอื่นๆ ที่ยังอยู่ใต้น้ำ ยังคงโตต่อไป

ถ้าหากว่าพื้นจมลงอีกเหมือนในรูป C ประการังสามารถกลับมาโตทางด้านสูงได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยจะเห็นรูแหว่งอยู่ตรงกลางหัวกะโหลก

แล้วเมื่อแผ่นดินยกตัวขึ้น การเติบโตจะมีเพียงที่ด้านข้าง (โตเกินระดับน้ำไม่ได้)

เฮ้ย…จะมีอะไรพิสดารขนาดนี้เชียวหรือ… ก็มีน่ะซิครับ!!!

รูปทางซ้าย คือการเติบโตของปะการังทางด้านใต้ของเกาะสุมาตรา ซึ่งการยกตัวครั้งสุดท้าย (46 ซม.) เกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหวใหญ่และสึนามิในวันที่ 26 ธันวาคม 2547

ปะการังในรูปทางซ้ายนี้ เราเห็นทั้งขั้นตอน A B C และ D

อ่านต่อ »


แผ่นดินบิด

อ่าน: 5870

@DrJoop ให้ลิงก์ของเอกสารสนุกชื่อ The Science behind China’s 2008 earthquake พร้อมทั้ง e-book วิชาฟิสิกส์ดาราศาสตร์อีกกระบิหนึ่ง แต่ตอนนั้นกำลังอลหม่านกับน้ำท่วมทางภาคใต้ จึงเก็บไว้ก่อน ปลายสัปดาห์นี้จะไปต่างจังหวัดหลายวัน จึงพยายามเคลียร์งานที่คั่งค้างให้ได้มากที่สุด

เอกสารดังกล่าวข้างบนมาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งคาลิฟอร์เนีย (คาลเทค) ซึ่งที่นี่ล่ะครับ บีโน กูเทนเบิก และ ชาลส์​ ริกเตอร์ เป็นผู้บัญญัติ Local Magnitude scale (ML) ที่ใช้วัดความแรงของแผ่นดินไหวมาตั้งแต่ปี 2478 เรามักเรียกกันติดปากว่าริกเตอร์สเกล แต่ ML ก็วัดได้ไม่ค่อยดีในกรณีที่แผ่นดินไหวมีความแรงสูงๆ ดังนั้น ในปี 2522 นักธรณีวิทยาของคาลเทคอีกสองคน คือทอมัส แฮงส์ และฮิรู คานาโมริ ได้พัฒนา Moment Magnitude scale (Mw) ขึ้นมาใช้วัดพลังงานที่แผ่นดินไหวปลดปล่อยออกมา เรายังเรียกเหมารวมกันว่าริกเตอร์สเกลเช่นเดิม ทั้งที่ไม่เหมือนกันทีเดียวหรอกครับ

เอกสารในย่อหน้าแรก เป็นงานวิจัยของคาลเทคเหมือนกัน แต่เป็นการมองในภาพที่ใหญ่กว่าสึนามิปี 2547 มาก (อันหลังผมเล่าไว้นิดหน่อย ท้ายบันทึก [แผ่นดินไหวขนาด 10 ริกเตอร์])

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2551 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.9 ริกเตอร์ในแคว้นเสฉวน ประเทศจีน แคว้นนี้อยู่ติดกับที่ราบสูงทิเบต ภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงบ่อย เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขึ้น รายงานอย่างเป็นทางการปลายปีนั้น ยืนยันว่ามีเด็กนักเรียนตาย 19,065 คน และมีคนอีก 90,000 ตายหรือสูญหาย ในตอนปลายปี ทางการสร้างบ้านใหม่ไปแล้ว 200,000 หลัง และยังกำลังสร้างอีก 685,000 หลัง แต่ว่ายังมีอีก 1.94 ล้านครอบครัวที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยถาวร มีการสร้างโรงเรียนใหม่ 1,900 โรง จำเป็นต้องอพยพ(ปิดตาย)เมือง 25 เมือง

ความเสียหายครั้งนั้นรุนแรงมาก บรรดาผู้เชี่ยวชาญ (และผู้เสมือนเชี่ยวชาญ) ต่างก็บอกว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากแผ่นดินไหวปลายเกาะสุมาตราที่ทำให้เกิดสึนามิปี 2547…แฮ่… ผมสงสัยครับ ถ้าแผ่นดินไหวที่สุมาตรา (ซึ่งรุนแรงมากจริงๆ) ทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่เสฉวน ทำไมรอยแยกมีพลังในพม่าจึงไม่ออกฤทธิ์ในระหว่างปี 2548-2551​ (มีแผ่นดินไหวบ้างแต่ไม่รุนแรง)

เอกสารของคาลเทคในย่อหน้าแรก อธิบายอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งฟังดูสมเหตุผลกว่ามากนะครับ ถ้าอยากอ่านแบบละเอียดโดยไม่ผ่านการตีความของผม ก็เชิญคลิกที่ลิงก์นั้นได้เลย

อ่านต่อ »


แผ่นดินไหวขนาด 10 ริกเตอร์

อ่าน: 4200

บันทึกนี้ เขียนก่อนที่สารคดี Megaquake 10.0 จะฉายทาง History Channel ในตอนค่ำนี้ เพื่อที่จะให้แง่คิดอีกด้านหนึ่งสำหรับผู้ชมในวงเล็กๆ ที่อ่านบันทึกนี้ แต่เนื่องจากมันเป็นเพียงแง่คิด ผมไม่รับรองความถูกต้องนะครับ เพราะไม่มีความสามารถใดๆ ในการทำนายทายทักอนาคต แต่ถ้าถามถึงความเสี่ยง…พอตอบได้

มีโอกาสไหมที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 10 ริกเตอร์

ตอบ: ไม่รู้ครับ เท่าที่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์…มันยังไม่เคยเกิดขึ้นมา

แผ่นดินไหวที่แรงที่สุด ประมาณ 9.5 ริกเตอร์ เกิดบนบกที่ชิลีในเดือนพฤษภาคม 2503 เกิดเพราะแผ่นเปลือกโลกนาซคามุดใต้แผ่นเปลือกโลกอเมริกาใต้ แล้วเกิดดีดขึ้นมา (มุดกันมานานๆ เกิดความเค้นที่รุนแรง เรียกว่า Megatrust จนแผ่นดินแตกหัก แล้วดีดขึ้น) เกิดที่ความลึกเพียง 33 กม. จึงรุนแรง

ในอดีต นักธรณีวิทยาศึกษาแผ่นเปลือกโลก ไม่พบว่ามีแผ่นเปลือกโลกมุดตัวอันไหน ที่น่ามีพลังงงานมากพอจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 10 ริกเตอร์ — อันนี้ ผมคิดว่ามีข้อโต้แย้งได้เหมือนกัน คือ (1) โลกวันนี้ไม่เหมือนกับโลกเมื่อวาน (2) แผ่นดินไหวไม่จำเป็นต้องเกิดจากแผ่นเปลือกโลกมุดตัวหรือเกยกันเท่านั้น (3) แผ่นดินไหวขนาดที่เล็กกว่า 10 ริกเตอร์ หากเกิดใกล้บริเวณที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่น สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าครั้งที่เกิดรุนแรงแต่เกิดในบริเวณห่างไกล

อ่านต่อ »


คนเมืองแบบคนป่า คนป่าแบบคนเมือง

อ่าน: 5598

เมื่อวานนี้ เนื๊อยเหนื่อย เพื่อนของน้องชายชื่อคุณน้องและคุณหน่อยสองสามีภรรยาที่ไม่มีลูก ชวนไปดูที่มาครับ เป็นที่แถววังน้ำเขียวและปักธงชัย ผมน่ะไม่ได้คิดจะอยู่ในเมืองอยู่แล้ว ยังติดขัดอยู่แต่พ่อแม่ที่แก่เฒ่า แม้น้องๆ ก็ดูแลครอบครัวของตัวเองกันได้ทุกคน แต่ก็ต้องเตรียมที่ทางเผื่อไว้ให้เหมือนกัน

นัดกันออกจากบ้านตีห้าครึ่ง เฮอะ…อย่างนี้ก็แปลว่าไม่ได้นอน เพราะว่าคงจะตื่นไม่ทันนะซิ แล้วก็ไม่ได้นอนจริงๆ แต่ไม่เป็นไรเนื่องจากไม่ได้ขับรถเอง ขาไปรถไม่ติดเพราะยังเช้าอยู่ แวะกินข้าวเช้าแถวหมูสี แล้วก็ผ่านไปดูที่สองแปลงของเพื่อนน้องแถวเขาแผงม้า ซึ่งเคยวิจารณ์ที่แถวนี้เอาไว้แล้วว่าชาวบ้านถางจนโกร๋นไปหมด เมื่อไม่มีต้นไม้ใหญ่ ไม่มีร่มเงาบังดิน ดินจะเสื่อมและเก็บความชุ่มชื้นไม่ได้ อีกหน่อยอากาศคงจะไม่เย็น เหมือนแถวน้ำหนาวในปัจจุบันซึ่งไม่หนาวเหมือนในอดีตแล้ว โชคดีที่เขาซื้อไว้ตั้งแต่ราคายังถูกอยู่ ที่ดินแถวนี้ราคาเพี้ยนไปมากแล้ว จนกลายเป็นราคาที่ดินที่ตั้งไว้สำหรับไปทำรีสอร์ตอย่างเดียว แต่จะเป็นรีสอร์ตกันทุกที่ไปได้อย่างไร มีอาการตีหัวเข้าบ้าน คือพัฒนาไปนิดหน่อยแล้วขายทิ้งเอากำไรซะมากกว่า ความยั่งยืนเป็นปัญหามาก แหล่งน้ำพอมีเป็นพวกลำธารลำคลองที่ไหลมาจากภูเขา แต่พวกน้ำซับนี่ผมสงสัยครับ เพราะแถวนี้มีการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าหญ้ากันเยอะมาก อาจจะเป็นปัญหากับคุณภาพน้ำก็ได้

จากนั้นก็ไปอีกฝั่งของวังน้ำเขียว ไปเยี่ยมผู้ใหญ่บ้านซึ่งรู้จักชอบพอกันมานาน อยู่แถวสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช เธอเป็นคนตรงแบบที่ไม่กลัวอิทธิพลที่จะมาเบียดบังประโยชน์ของชาวบ้านด้วย ผู้ใหญ่บ้านขอให้สามีพาบุกป่าขึ้นเขาไปดูเส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันใหม่ เป็นห้าเขา ห้าเขื่อน สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าธรรมชาติ บางส่วนก็ปลูกแต่ดูกลมกลืนดี มีเห็ดขึ้นในหน้าร้อนนี่แหละ (ยายฉิมไม่แห้วแน่) ยอดไม้สูงลิบ หินบนภูเขาเป็นหินตะกอนขนาดใหญ่ ชาวบ้านขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นมาหาของป่ากัน พอมีเสียงรถผ่านมา ก็ทำเนียนชมนกชมไม้ไปเรื่อย เมื่อเห็นว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ก็หาของป่ากันต่อไป

อ่านต่อ »


ระวัง-ยิง-เล็ง

อ่าน: 4267

ชื่อบันทึก ระวัง-ยิง-เล็ง ไม่ได้เรียงผิดหรอกครับ แล้วไม่ได้คิดเองด้วย มาจากของฝรั่ง Ready, Fire, Aim

เวลาจะยิงปืนนะครับ “ลำดับ” มักจะเป็น ระวัง-เล็ง-ยิง (Ready, Aim, Fire) ก็ต้องเล็งก่อนยิงใช่ไหมครับ? สามัญสำนึกบอกว่าอย่างนั้นนะ; แล้วยิงโดยไม่ได้เล็ง จะไม่มีโอกาสถูกเลยหรือ…ผมว่าก็คงไม่ใช่หรอก เพียงแต่โอกาสคงไม่มาก

“Not everything that can be counted counts, and not everything that counts can be counted.” — Albert Einstein

ไม่ทุกสิ่งที่นับได้ จะมีความหมาย และไม่ทุกสิ่งที่มีความหมาย จะนับได้ — อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

ไอน์สไตน์ไม่ได้พูดถึงฟิสิกซ์ดาราศาสตร์หรอกครับ เขาชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่สำคัญนั้น ไม่แน่ว่าจะวัดเป็นจำนวนได้

อ่านต่อ »


เพราะมองข้ามความปลอดภัย

อ่าน: 3259

เมื่อตอนหัวค่ำ คุยกับ ผอ.ศูนย์ข้อมูลและการจัดการความรู้ สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (@MunicipalLeague) บนทวิตเตอร์ ร้อยข้อความเป็นเรื่องให้แล้ว ถ้าห้วนไปบ้าง ก็เพราะข้อจำกัดของความยาวแต่ละข้อความนะครับ

@iwhale: เรื่องเศร้าคือยังไม่ได้ถุงยังชีพ เรื่องเศร้ากว่าคือได้ถุงยังชีพจนล้น ดีที่สุดคือป้องกันให้ไม่ต้องส่งถุงยังชีพอีก #thaiflood

@superconductor: ปัญหา last miles? ชาวบ้านกระจัดกระจายอยู่ตรงไหนบ้างก็ไม่รู้ ขนส่งลำบาก เรือ-รถไม่มี ขนส่งของลำบาก #thaiflood ถ้าไม่รู้ ทำไมไม่รู้

@MunicipalLeague: @superconductor @iwhale ชาวบ้านกระจัดกระจายอยู่ตรงไหนบ้างก็ไม่รู้ขนส่งลำบาก  #thaiflood / ติดต่อเทศบาล อบต.สิคะรู้ทุกหลืบของพท.(มีเบอร์โทรค่ะ)

@superconductor: ควรจะเป็นอย่างนั้นล่ะครับ แต่เห็นเรียกชาวบ้านมารับแจกของ+ซองทุกที… เฮ้อ ว่าจะไม่บ่นแล้วเชียว :)

@MunicipalLeague: แล้วแต่พท.นะคะ ท้องถิ่นก็คนเหมือนกับเรา มีดีบ้างเลวบ้างเป็นธรรมดา แต่ส่วนมากจะโอเคนะคะ เรื่องไหนเป็นประโยชน์ก็ประสานกันนะ

@superconductor: ถนนขาด-ท่วม-เสีย เข้าพื้นที่ลำบาก เรือทานแรงน้ำไม่ไหว ชาวบ้านออกมาลำบาก เสบียงส่งเข้าพื้นที่ลำบากเหมือนกัน คอปเตอร์ไม่พอ — ถ้าจะให้ความช่วยเหลือกระจายได้ แก้ปัญหาโลจิสติกส์+คมนาคมก่อนครับ หรืออพยพชาวบ้านไปที่ปลอดภัย (ที่ไหน? พอไหม?)

@MunicipalLeague: ปัญหาหนึ่งที่สำคัญคือชาวบ้านไม่ยอมย้ายออก หลายพท.ท้องถิ่นแจ้งเตือนหรือเอาเรือเข้าไปรับ ชาวบ้านรวมถึงพระตามวัด — ไม่ยอมอพยพออกมาเพราะห่วงข้าของ พอตกดึกน้ำขึ้นสูงและเชี่ยว ไฟดับ ไปช่วยเพราะอันตรายมาก ปัญหาออกสื่อว่าไม่มีหน่วยไหนไปช่วย — บางแห่งทางขาดชาวบ้านออกมาลำบาก นายกอบต.หรือผู้ใหญ่เป็นตัวแทนออกมารับ แต่คนบริจาคก็อยากเอาไปมอบให้ถึงมือ #ละเหี่ยใจ — ถุงยังชีพมากมาย ต่างคนต่างเอาไปให้ใครๆก็อยากเอาไปให้ถึงมือชาวบ้าน บางแห่งมี500หลัง300หลังแรกได้หลายรอบอีก200ได้1รอบจากเทศบาล

@superconductor: จริงครับ แต่ชาวบ้านเดือดร้อนก็ต้องเข้าไปช่วย ชิมิ สังคมไทยยึดแต่มุมมองของตัวเอง จึงขาดความเข้าใจความจริงจากอีกมุมหนึ่ง

@MunicipalLeague: จริงค่ะ ตอนนี้ที่น่าสงสารที่สุดคือเทศบาลหรืออบต.ที่ไม่รู้จักใคร ขอกาชาดหรือ ปภ.ก็รอขั้นตอน แทบไม่มีถุงยังชีพมาเลย — บางแห่งคอนเนกชั่นดี มีทั้งช่องนู้นนี้ขนมาให้กันเพียบ อย่างทันท่วงที/ ไม่รู้จักคนโทรไปเบอร์กลางก็รอแล้วรออีก

อ่านต่อ »


การ์ตูนร่วมด้วยช่วยป้องกันดินถล่ม

อ่าน: 8769

กรมทรัพยากรธรณี จัดทำการ์ตูนร่วมด้วยช่วยป้องกันดินถล่มเอาไว้สักพักหนึ่งแล้ว เว็บของกรมอยู่ที่ www.dmr.go.th แต่ผมเตือนผู้อ่านที่ชอบค้นไว้ก่อนนะครับ ว่าเว็บนี้ เต็มไปด้วย dead link อย่าหงุดหงิด (เตือนแล้วนะ)

ภาพการ์ตูนที่แสดงในบันทึกนี้ ก็ต้องเล่นกายกรรมแก้ช้าหน่อยครับ ความจริงชี้ไปที่เว็บของกรมก็ได้ครับ แต่ตัวภาพและหนังสือสำคัญขาดหายไป (และช้า)

อ่านต่อ »


แก้ไขหรือรอไป

อ่าน: 3277

เน็ตผมเจ๊งครับ ต่อผ่านมือถือได้แต่ไม่ถนัด ดังนั้นจะไม่เขียนอะไรยาวมากๆ

น้ำท่วมหาดใหญ่ ถ้าท่วมแล้ว การแก้ไขโดยการเร่งระบายน้ำนั้น น่าจะถูกต้อง แต่ถ้าชลอน้ำเอาไว้ไม่ให้ท่วมเลย น่าจะดีกว่า

น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาบรรทัดเข้าสู่นครศรีธรรมราช-พัทลุง และอาจจะไปยังจังหวัดอื่นๆ เกิดจากฝนตกลงกลางคาบสมุทรซึ่งเป็นภูเขา ภูเขาเป็นพื้นที่รับน้ำ ปริมาณน้ำฝนตกวันละ 100-200 มม. คูณกับพื้นที่ภูเขากลายเป็นปริมาตรน้ำมหาศาล แต่น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ ก็จะไหลลงไปรวมกันในโตรกเขา ตามลุ่มน้ำลำธาร และไหลต่อไปยังชุมชน และเมืองซึ่งมักตั้งอยู่ใกล้ทางน้ำเสมอ… เป็นอาการเดียวกับหาดใหญ่ สุโขทัย บางระกำ-พิษณุโลก บางบาล-อยุธยา เมื่อมีฝนตกหนักอีก ผลอย่างนี้ก็จะเกิดอีก

พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กว่าสองพันตารางกิโลเมตร ฝนตกหนัก 600 มม.ในเจ็ดวัน คิดเป็นปริมาณน้ำ 1,200 ล้านลูกบากศ์เมตร ถ้าดินและป่าดูดซับหรือชลอไว้ได้ครึ่งหนึ่ง น้ำที่เหลือ 600 ล้านลูกบากศ์เมตร ไหลไปทางปากช่องในเวลาอันรวดเร็ง ลงเขื่อนลำตะคองซึ่งมีความจุ 300 ล้านลูกบากศก์เมตร ลำตะคองจะไปรับได้ยังไงไหวล่ะครับ น้ำล้นเขื่อน แล้วอะไรที่อยู่ใต้เขื่อน ก็ท่วมแหลกราญกันไป

ฝนตก จะไปห้ามคงยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำอะไรไม่ได้ซะทีเดียวหรอกครับ สำคัญอยู่ที่ว่าทำอะไรหรือเปล่าต่างหาก หรือว่าจะรอให้น้ำท่วมเสียก่อนแล้วจึงจะช่วยเหลือ

จะแก้ปัญหาน้ำของพื้นที่อะไรก็ตาม ลองดูไปทางต้นน้ำซิครับ


การขาดมิติในข่าวสาร

อ่าน: 3174

เมื่อเกิดเหตุความไม่สงบเมื่อปีก่อนและอีกครั้งเมื่อกลางปีที่แล้ว ผมบ่นในทวิตเตอร์ว่าข่าวสารไม่มี timestamp ทำให้ไม่รู้ว่าเป็นข่าวเก่าหรือข่าวใหม่ เนื่องจาก Retweet/Share/Forward ส่งต่อกันทางอิเล็กทรอนิกส์ไปเรื่อยๆ

สักพักการรายงานข่าวก็เปลี่ยนไปบ้างครับ มีเวลาแปะข้างหน้ามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้รายงานข่าวต้นทางหรือสำนักข่าวตระหนักได้เองหรือไม่ก็ตาม ในฐานะผู้บริโภค ผมก็ขอขอบคุณที่ให้ความกระจ่างในข่าวสารครับ

ที่เสนอเรื่อง timestamp นี้ เพราะเป็นบทเรียนจากสึนามิปี 2547 ซึ่งมีความอลหม่านมาก ข่าวถูกก็อบปี้ไปมาจนไม่รู้ว่าอะไรเก่าอะไรใหม่ ข้อมูลต้นทางก็ไม่มีให้ตรวจสอบ ทั้งความเห็นผู้เชี่ยวชาญ ความเห็นส่วนตัว ข่าวลือ แซวเล่น รายงานเหตุการณ์ เรื่องเล่า ปนเปกันไปหมด แล้วไม่รู้ด้วยว่า “ข่าว” อันนั้น อยู่บนบริบทอะไร

ช่วงนี้มีการตื่นข่าวโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นเกิดมีปัญหาขึ้นมาจากภัยธรรมชาติ ก็เกิดการอลหม่านขึ้นอีกแล้ว ตื่นรังสีจากข่าวที่ถูกส่งต่อซ้ำๆ กันโดยไม่มีเวลา บริบท ตลอดจนแหล่งข่าว ด้วยความแตกตื่น แล้วก็มีข่าวให้เอาเบตาดีน (น้ำยาใส่แผลสด) ทาคอ นัยว่าการทายาที่มีส่วนผสมของไอโอดีนที่ดูดซึมผ่านเนื้อเยื่ออ่อน จะทำให้ไอโอดีนเข้าสู่ต่อมไทรอยด์ ซึ่งไอโซโทปของไอโอดีนที่มากับฝุ่นกัมมันตภาพรังสี ไม่สามารถเข้าไปในต่อมไทรอยด์ได้เพราะ “เต็มแล้ว” หรือว่าเป็นข่าวลือขายยาก็ไม่รู้ แต่ว่าทั้งยาเม็ดและยาใส่แผล ขาดตลาดไปเรียบร้อยแล้ว

เรื่องนี้ อ.วิบุล วงศ์ภูวรักษ์ ท่านรวบรวมข้อมูลไว้

อ่านต่อ »


ควรสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือไม่

อ่าน: 5094

จากเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เกิดปัญหาที่ญี่ปุ่น หลังจากที่แผ่นดินไหวและสึนามิ ทำให้ระบบหล่อเย็นมีปัญหา เตาปฏิกรณ์ร้อนเกินไป ระเบิด รังสีรั่วไหล ฯลฯ ก็เป็นเหตุให้เกิดคำถามขึ้นมาว่าควรสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือไม่

แฟนบล็อกที่จับแนวทางการเขียนของผมได้ คงรู้อยู่แล้วว่าคำถามถูก-ผิดแบบนี้ ผมไม่ค่อยตอบหรอกนะครับ ผมไม่ได้กำลังทำข้อสอบอยู่นะ

แต่จะตั้งคำถามกลับ

ในปัจจุบัน การผลิตพลังงานไฟฟ้า ยังจำเป็นที่จะต้องใช้รัฐวิสาหกิจทำอยู่หรือไม่

เรามีการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ) ทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้า มีโรงไฟฟ้าเอกชนขายไฟฟ้าให้ กฟผ โดย กฟผ ขายไฟฟ้าต่อให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ) เราซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านโดย กฟผ ลงทุนร่วม แล้วนำมาขายต่อเช่นกัน

ก็ไม่รู้ว่าควรจะเรียกเป็นการส่งเสริมดีหรือไม่ แต่ว่าการไฟฟ้าซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานทดแทนด้วย “ค่าเพิ่ม” หมายความว่าไม่ว่าค่าไฟฟ้าจะเป็นเท่าไร ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ก็จะสามารถขายไฟฟ้าในราคาที่สูงกว่าราคาขายปลีกของการไฟฟ้า เป็นระยะเวลาเท่ากับที่ได้รับการส่งเสริม (ซึ่งขึ้นกับกำลังการผลิตและชนิดของเชื้อเพลิงที่ใช้)

อ่านต่อ »



Main: 0.057082891464233 sec
Sidebar: 0.039132118225098 sec