การขาดมิติในข่าวสาร
เมื่อเกิดเหตุความไม่สงบเมื่อปีก่อนและอีกครั้งเมื่อกลางปีที่แล้ว ผมบ่นในทวิตเตอร์ว่าข่าวสารไม่มี timestamp ทำให้ไม่รู้ว่าเป็นข่าวเก่าหรือข่าวใหม่ เนื่องจาก Retweet/Share/Forward ส่งต่อกันทางอิเล็กทรอนิกส์ไปเรื่อยๆ
สักพักการรายงานข่าวก็เปลี่ยนไปบ้างครับ มีเวลาแปะข้างหน้ามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้รายงานข่าวต้นทางหรือสำนักข่าวตระหนักได้เองหรือไม่ก็ตาม ในฐานะผู้บริโภค ผมก็ขอขอบคุณที่ให้ความกระจ่างในข่าวสารครับ
ที่เสนอเรื่อง timestamp นี้ เพราะเป็นบทเรียนจากสึนามิปี 2547 ซึ่งมีความอลหม่านมาก ข่าวถูกก็อบปี้ไปมาจนไม่รู้ว่าอะไรเก่าอะไรใหม่ ข้อมูลต้นทางก็ไม่มีให้ตรวจสอบ ทั้งความเห็นผู้เชี่ยวชาญ ความเห็นส่วนตัว ข่าวลือ แซวเล่น รายงานเหตุการณ์ เรื่องเล่า ปนเปกันไปหมด แล้วไม่รู้ด้วยว่า “ข่าว” อันนั้น อยู่บนบริบทอะไร
ช่วงนี้มีการตื่นข่าวโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นเกิดมีปัญหาขึ้นมาจากภัยธรรมชาติ ก็เกิดการอลหม่านขึ้นอีกแล้ว ตื่นรังสีจากข่าวที่ถูกส่งต่อซ้ำๆ กันโดยไม่มีเวลา บริบท ตลอดจนแหล่งข่าว ด้วยความแตกตื่น แล้วก็มีข่าวให้เอาเบตาดีน (น้ำยาใส่แผลสด) ทาคอ นัยว่าการทายาที่มีส่วนผสมของไอโอดีนที่ดูดซึมผ่านเนื้อเยื่ออ่อน จะทำให้ไอโอดีนเข้าสู่ต่อมไทรอยด์ ซึ่งไอโซโทปของไอโอดีนที่มากับฝุ่นกัมมันตภาพรังสี ไม่สามารถเข้าไปในต่อมไทรอยด์ได้เพราะ “เต็มแล้ว” หรือว่าเป็นข่าวลือขายยาก็ไม่รู้ แต่ว่าทั้งยาเม็ดและยาใส่แผล ขาดตลาดไปเรียบร้อยแล้ว
เรื่องนี้ อ.วิบุล วงศ์ภูวรักษ์ ท่านรวบรวมข้อมูลไว้
ผมยังเห็นว่าในการเผยแพร่ข่าวสารนั้น จะเป็นต้องระบุต้นทางของข่าวด้วยลิงก์ ถ้าข่าวต้นทางไม่ใช่ข่าวออนไลน์ ก็ควรจะลงเวลาไว้ด้วย และเป็นเวลาที่เกิดข่าว ไม่ใช่เวลาที่ได้อ่าน/ได้ฟังข่าว เพื่อที่ผู้รับข่าวต่อ จะได้แยกแยะบริบทของข่าวได้
ส่วนการเตือนนั้น ไม่ผิดหรอกครับ เพียงแต่ว่าต้องบอกให้ครบ เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นกลัวและฟุ้งซ่าน — การเตือนก็เตือนล่วงหน้าทั้งนั้นล่ะครับ เตือนเพราะไม่อยากให้พลาดด้วยความไม่รู้ ถึงเหตุการณ์จะไม่เกิดขึ้นตอนนี้ แต่ถ้ามีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต เตือนไว้ก็ไม่เสียหายอะไร ดังนั้นบริบทของข่าวจึงจำเป็นต้องชัดเจน และเป็นเรื่องที่ถูกต้องนะครับ
การเตือนจำเป็นต้องให้คนเข้าใจบริบททั้งหมด เรื่องใดเป็นความรู้ที่ท่านเข้าใจดี ก็ต้องกล้าอธิบาย ชี้แจง ตอบข้อซักถามได้ ถ้าเรื่องใดที่เป็นความรู้มือสอง ซึ่งท่านเห็นว่าน่าสนใจ กรุณาพิจารณาทิ้งลิงก์เอาไว้ให้ผู้ที่สนใจไปศึกษาเพิ่มเติมด้วยครับ
Next : ไปภูเก็ตช่วงดวงจันทร์โคจรใกล้โลก » »
3 ความคิดเห็น
อยู่ต่างจังหวัดยังอาศัยรองน้ำฝนจากหลังคาไว้ดื่ม
เพราะอยู่ห่างไกลจากโรงงานและควันพิษอื่นๆ
หลังจากปล่อยน้ำฝนทิ้งในช่วงแรกๆ
กะว่าหลังคาสะอาดก็รองน้ำฝนใส่ถังเก็บไว้
แต่พอมีข่าวรังสีลอยฟ่องในบรรยากาศ
ก็เป็นกระต่ายตื่นตูม
ไม่แน่ใจว่าจะรองน้ำฝนมาใช้ดื่มได้เหมือนเดิมรึเปล่า
ฝนบ่ตก นะสิครับ อิอิ