ข้อมูล(ใหม่)ของระบบกระแสน้ำในมหาสมุทร
สภาวะอากาศของโลก ถูกโน้มน้าวโดยกระแสน้ำในมหาสมุทร ซึ่งเป็นข้อมูลในหลักสูตรว่าระบบกระแสน้ำในมหาสมุทร (Ocean Conveyor Belt) มีทั้งกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นให้จำชื่อไปสอบกัน(ทำไม)
กระแสน้ำอุ่น Gulf stream วิ่งจากฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติด นำความชื้นและอบอุ่นไปให้ยุโรปตะวันตก ทำให้อังกฤษฝนตกมาก ให้ให้กลาสโกวในเวลส์ซึ่งอยู่ที่เสร้นรุ้งที่ 55 เหนือ ไม่ได้หนาวทารุณเช่นเดียวกับมอสโควซึ่งอยู่บนเส้นรุ้งเดียวกัน — มอสโควหน้าหนาว อุณภูมิลงต่ำได้ถึง -40°C ถ้าอุณหภูมิ 20°C ผมเคยเห็นคนรัสเซียถอดเสื้อผ้ามาอาบแดดกันริมแม่น้ำแล้ว อุณหภูมิแค่ 32ºC กลับมีคนร้อนตาย แว๊ก
กระแสน้ำอุ่นมักจะวิ่งอยู่ด้านบน ที่จริงเค้าก็ปล่อยความร้อนไปตลอดทางด้วยนะครับ แต่ก็รับความร้อนจากดวงอาทิตย์เข้ามาเช่นกัน จึงรักษาความ “อุ่น” เอาไว้ได้
เมื่อแสงอาทิตย์อ่อนแรงลง กระแสน้ำอุ่นคายความชื้นและความร้อนออกมากกว่าที่รับเข้าไป ความเข้มข้น (ความเค็ม) สูงขึ้น และจมลงเบื้องลึก กลายเป็นกระแสน้ำเย็น วิ่งอยู่ที่ระดับลึกๆ
ในปี 2002 สภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐ (NAS — National Academy of Science) ออกรายงานหนา 244 หน้า เตือนเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศอย่างไม่คาดฝัน เป็นผลของการที่ระบบกระแสน้ำของมหาสมุทรไหลช้าลง
เรื่องเริ่มที่น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือ ที่กรีนแลนด์ และที่แคนาดาละลายออกมามากครับ
- เมื่อน้ำแข็งละลายออกมา น้ำจืดเหล่านี้ก็จะไหลไปตัดกระแสน้ำอุ่น Gulf stream ทำให้อากาศในยุโรปตะวันตกวิปริตมากขึ้น
- เมื่อปริมาณน้ำจืดไหลลงมาในมหาสมุทรมากขึ้น ก็ทำให้ความเค็มลดลง กระแสน้ำเย็นที่ไหลอยู่ด้านล่างๆ เมื่อเย็นน้อยลง ก็จะลอยตัวขึ้น ไม่ไหลไปดังเดิม
- เมื่อมหาสมุทรระดับลึก ไม่มีกระแสน้ำเย็นมาหล่อเลี้ยง อุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้มีเทนไฮเดรตซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก (และเป็นแหล่งพลังงานสำรองของโลกที่มหาอำนาจไม่อยากให้เรารู้) ก็ไม่สามารถจะคงตัวอยู่ในสภาพแช่แข็งได้ ลอยขึ้นมาผ่านมหาสมุทรออกสู่บรรยากาศ กลายเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีความร้ายแรงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์หลายเท่า โลกยิ่งร้อน ก๊าซนี้ก็ยิ่งออกมา
- เนื่องจากระบบกระแสน้ำในมหาสมุทรเชื่อมโยงกันหมด หากเกิดการติดขัดที่จุดใดจุดหนึ่ง ทั้งระบบจะกระทบไปตามๆ กัน
ทั้งหมดนี้ IPCC — Intergovernmental Panel on Climate Change ได้ระบุในรายงานประเมินครั้งที่ 4 สำหรับผู้วางนโยบาย ในปี 2007 ว่า
…based on current model simulations, it is very likely (90-99% confidence) that the meridional overturning circulation (MOC) of the Atlantic Ocean will slow down during the 21st century….
จากแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในปัจจุบัน มั่นใจได้ 90-99% ว่ากระแสน้ำข้ามมหาสมุทรแอตแลนติคจะช้าลงในศตวรรษที่ 21 — ฟังแล้วอาจดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวที่อยู่ห่างออกไปครึ่งโลก แต่ต้องไม่ลืมว่าระบบกระแสน้ำมหาสมุทร เชื่อมโยงกันหมดนะครับ เหมือนน้ำท่วมคราวนี้นั่นแหละ มันจะกระทบไปทุกภาคส่วนของสังคมไทย จะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญ เจอผลกระทบแน่
- The Science of Abrupt Climate Change: Should we be worried?
- Ocean “Conveyor Belt” Sustains Sea Life, Study Says
- Is ocean circulation slowing down?
แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในปัจจุบันนั้น ยังต้องปรับปรุงอีกมาก เพราะว่าข้อมูลมีปริมาณมหึมากว่าจะให้ผลการทำนายที่แม่นยำ
อย่างไรก็ตาม หากว่าสิ่งที่ NAS และ IPCC เตือนไว้ จะเกิดขึ้นจริง สิ่งแรงที่สังเกตได้ ก็คือกระแสน้ำอุ่ม Gulf stream ช้าลง หรือหยุดนิ่ง
ข้อมูลที่เป็นฐานการทำนายของ NAS และ IPCC เป็นข้อมูลเก่าที่ได้มีนักวิทยาศาสตร์ทำไว้ในอดีตในปี 1957, 1981, 1992 และ 1998 ซึ่งใช้วิธีลอยเรือออกไปในมหาสมุทร พยายามบังคับเรื่อให้อยู่นิ่ง (ทอดสมอ) แล้ววัดความเร็วที่ผิวน้ำ ด้วยเทคโนโลยีที่มีในเวลานั้น ผลการวัดก็ถือว่าดีที่สุดแล้วเท่าที่วัดได้ หากแต่การวัดกลายเป็นภาพชั่วขณะ (snapshot) สั้นๆ ซึ่งอาจจะไม่สามารถแสดงภาพแนวโน้มใหญ่ได้อย่างถูกต้อง
ดังนั้นเมื่อปี 2002 NASA ก็ได้เริ่มโปรแกรมการวัดความเร็วกระแสน้ำ Gulf stream ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยแทนที่จะลอยเรือออกไปวัด เค้าใช้วิธีลอยกระทง แล้วติดตามตำแหน่งของกระทงด้วยดาวเทียม
ซึ่งได้ผลออกมาปลายเดือนมีนาคมนี้ ว่ากระแสน้ำอุ่น Gulf stream (ยัง)ไม่ได้ช้าลงครับ
กระแสน้ำจะเร็วหรือช้า ผมก็บอกไม่ได้หรอกครับ จะพึ่ง WikiLeaks ก็อาจจะพิลึกเกินไป แม้กระแสน้ำอุ่น Gulf stream ยังไหลอยู่ โลกนี้ก็เปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงมากอยู่แล้ว
สร้างบ้านบนต้นไม้ เวลาปีนขึ้นอยู่ ก็รู้สึกว่าบ้านมั่นคงดี แต่ถ้าขนตู้เย็น ขนเตียง ขนอ่างอาบน้ำ แล้วกระโดดโลดเต้นโครมครามอยู่ในบ้าน เสถียรภาพของบ้านก็จะลดลง เพราะว่าบ้านคงอยู่บนต้นไม้ได้ด้วยสมดุลย์อันเปราะบาง
เปรียบเช่นเดียวกับ มนุษย์เราเป็นเพียงผู้อาศัยชั่วคราวอยู่บนแผ่นดิน ซึ่งตั้งอยู่บนสมดุลย์อันเปราะบาง แต่เราดันไปนึกว่าเป็นเจ้าของ ขนของหนักทั้งขยะ-มลพิษ ตึกรามบ้านเรือน คอนกรีต ถางป่าราบไปหมด ฯลฯ เมื่อสมดุลย์ไม่สามารถรักษาตัวอยู่ได้ เมื่อนั้นก็จะเป็นการล้มลงแบบถล่ม แก้ไขอะไรไม่ทันแล้ว จะบอกว่าเสียใจก็ไม่มีประโยชน์
« « Prev : รถสื่อสารฉุกเฉิน ไม่ได้กู้ภัยแต่จำเป็น!!!
ความคิดเห็นสำหรับ "ข้อมูล(ใหม่)ของระบบกระแสน้ำในมหาสมุทร"