คณะกรรมการพนักงานสัมพันธ์
อ่าน: 4607เมื่อครั้งที่บริษัทผมยังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ เคยมีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ (หรือจะเป็นผู้แทนจากสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจก็ไม่รู้ จำไม่ได้แน่เพราะหลายปีมาแล้ว) มาชวนพนักงานให้ตั้งสหภาพแรงงาน
ในฐานะผู้บริหาร ผมคิดว่าเป็นสิทธิ์ของพนักงานครับ จึงเปิดโอกาสให้คุยกันเอง ห้ามผู้บริหารของบริษัทเข้าฟัง แล้วผมก็ไม่ได้สนใจอีก; ต่อมาพนักงานมาบอกว่าตกลงไม่ตั้งสหภาพฯ ผมแปลกใจ ถามว่าทำไม เค้าบอกว่าก็ทุกอย่างเป็นไปอย่างเป็นธรรมอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องตั้งสหภาพฯ เพื่อมาต่อรองกับบริษัท เผชิญหน้ากับผู้บริหาร พนักงานเป็นส่วนของบริษัท บริษัทให้ในสิ่งที่สมเหตุผล เต็มตามกำลังอยู่แล้ว
แต่ผมขออาสาสมัครเพื่อมาเป็นตัวแทนของพนักงาน ให้จัดการดูแลกันเองเสริมจากส่วนที่บริษัทดูแลครับ ในที่สุดตั้งเป็น Employee Relations Committee (ERC) ภายหลังใช้ชื่อไทยว่าคณะกรรมการพนักงานสัมพันธ์
มี ERC มาหลายชุดแล้วงานหลักก็เป็นศูนย์กลายกิจกรรมของพนักงาน มีชมรมต่างๆ อยู่ใต้ umbrella ของ ERC เช่นชมรมฟิตเนส ชมรมโยคะ ชมรมสบายใจ ชมรมกอล์ฟ ฯลฯ บริษัทจัดสวัสดิการส่วนหนึ่งให้พนักงานผ่าน ERC เพื่อให้หัดจัดการและดูแลกันเอง
สำหรับ ERC คณะก่อนๆ ได้มีโอกาสคุยกัน เพราะเป็นการแต่งตั้งจากการที่พนักงานเลือกกันมาก่อน (ส่งชื่ออะไรมา ก็ตั้งไปตามนั้นครับ) ส่วนชุดปัจจุบันนี้ ไม่ได้มีโอกาสได้คุยกัน เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งโดยตรง แต่เรื่องหลักๆ ก็เป็นอย่างนี้
- การทำงานใน ERC เป็นโอกาสของชีวิตที่จะได้เรียนรู้เรื่องการตัดสินใจเพื่อคนหมู่มาก อยากให้เข้าใจประเด็นต่างๆ ก่อนที่จะต้องตัดสินใจ
- เมื่อตัดสินใจไปแล้ว จะมีทั้งคนที่พอใจ และไม่พอใจ หลักการตัดสินใจควรจะเป็นอย่างไร จะชี้แจงอย่างไร
- เรื่องเบื้องหน้า และเบื้องหลังนั้น บางทีก็ไม่เหมือนกัน; มีเรื่องที่อยากทำให้แต่ทำไม่ได้ แถมไม่เหมาะที่จะชี้แจงซะอีก โดนบ่นลูกเดียว — แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้คนอื่นโดยไม่ได้เคลม ทำแล้วมีคนเห็น+ชื่นชมก็ขอบคุณ ถ้าไม่มีคนสังเกตเห็น บางทีมันอาจจะยังดีไม่พอ
- การเป็นกรรมการ ERC เป็นทางลัดที่จะฝึกเป็นผู้บริหาร ทั้งความคิดและการกระทำ ไม่ขึ้นกับตำแหน่ง อาวุโส อายุงาน ฯลฯ
- เมื่อทำเพื่อผู้อื่น อย่าสัญญาอะไรชุ่ยๆเหมือนนักการเมืองหาเสียง ใช้จ่ายอย่างมีความรับผิดชอบ อย่าเอาเงินของส่วนรวม ไปผลาญอย่างไม่คุ้ม หรือเอาเงินไปฟาดหัวคนซื้อความนิยม
ดูโหงวเฮ้งคณะกรรมการ ERC ชุดปัจจุบันแล้ว ไม่น่าจะมีใครอยู่หลักสี่เลย
Next : ใจง่าย » »
2 ความคิดเห็น
วันข้างหน้า ขอเวลาให้ลูกน้องพี่ไปพบปะพูดจาแลกเปลี่ยนเรียนรู้บ้างดิ ว่ากระบวนการเป็นยังไง
กระบวนการนั้นสำคัญ แต่คงต้องปรับเปลี่ยนสำหรับแต่ละองค์กรครับ ผมคิดว่าความเชื่อใจสำคัญกว่าครับ คิดดูดีๆ จะเห็นประโยชน์ร่วมกัน