เครือข่ายอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติภาคประชาชน

อ่าน: 4291

เย็นนี้ที่ สสท. (ทีวีไทย หรือ ThaiPBS) มีการประชุมเครือข่ายอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติภาคประชาชน ซึ่งเดิมใช้ชื่อเล่นว่า คชอ.ภาคประชาชน มีองค์กรพัฒนาเอกชน กลุ่มอาสาสมัครต่างๆ เข้าร่วมประชุม 60 ท่าน — การประชุมที่มีผู้เข้าร่วมเยอะๆ แบบนี้ มักไม่ค่อยมีประสิทธิผลหรอกครับ แต่ว่าในครั้งนี้ ผมคิดว่าต่างคนต่างมีเป้าหมายเดียวกัน ผ่านประสบการณ์ทำนองเดียวกันมา ถึงตื้นลึกยาวนานไม่เท่ากัน ก็ยังมองไปในทิศเดียวกัน

น่าจะกล่าวได้ว่าที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า การรวมตัวกันเช่นนี้ ไม่ควรหยุดแค่อุทกภัยใหญ่ในครั้งนี้เท่านั้น แต่ควรจะรวมตัวกันต่อไปเนื่องจากการฟื้นฟู ยังจะใช้แรงใจและแรงงานอีกยาวนาน ใช้ประสบการณ์การทำงานร่วมกันให้เป็นประโยชน์ยิ่งขึ้นในภันครั้งหน้า(หากเกิดขึ้น)

กิจกรรม CSR แบบยกป้ายถ่ายรูป น่าจะเลิกกันได้แล้วครับ บริษัทห้่างร้านต่างๆ ที่ต้องการจะฝึกจิตสาธารณะของพนักงานจริงๆ ควรพิจารณาให้พนักงานสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อผู้อื่นบ้าง ให้ไปช่วยเหลือและเรียนรู้ความจริงจากพื้นที่ เช่นพนักงานขอลาพักร้อนไปทำกิจกรรมเพื่อสังคม 5 วัน บริษัทยอมให้พักต่อโดยไม่ต้องเข้าทำงานอีก 5 วันโดยจ่ายค่าจ้างตามปกติ — รวมเสาร์อาทิตย์อีก 3 รอบเป็น 16 วัน อบรมสองวัน พักตอนกลับมาสองวัน  เหลือเป็นเวลาลงพื้นที่ 12 วัน — เวลา 12 วันนี้ เหลือเฟือสำหรับสร้างบ้านที่เสียหายขึ้นมาใหม่นะครับ มีเวลาที่จะนำความรู้ที่ต่างคนต่างคิดว่ามีไปช่วยชาวบ้าน (หรือเรียนรู้ว่าที่จริงนั้น ตนไม่รู้อะไร) นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าให้โอกาสพนักงานได้เห็นสังคมไทยตามความเป็นจริง สร้างแรงบันดาลใจขึ้นมาใหม่ เข้าใจความสำคัญของความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติ

กลับมาเรื่องการประชุมเครือข่ายอาสาฯ อาจารย์ยักษ์ (วิวัฒน์​ ศัลยกำธร) ก็ช่วยเสนอโครงของการจัดกลุ่มงาน แบ่งเป็น 5 สายคือ

  1. ข่าว-ข้อมูล
  2. คน
  3. ศูนย์ประสานความร่วมมือ
  4. กำลังบำรุง-support
  5. มวลชนพื้นที่

ไม่มีการจัดแบ่งใดจะเป็นคำตอบสมบูรณ์สำหรับทุกเรื่องหรอกครับ แต่ที่เห็นนี้ สามารถเป็นแนวทางกว้างๆ ช่วยให้เริ่มรวมตัวกันตามความรู้ความชำนาญของแต่ละองค์กร/แต่ละคนได้ก่อน จากนั้นค่อยปรับเปลี่ยนไปตามความจำเป็น

NGO ผู้มีประสบการณ์ คงมีคำตอบเดียวกัน คือหากพื้นที่จะฟื้นขึ้นมาได้ ก็ต้องเป็นชาวบ้านผู้ประสบภัย ตัดสินใจยืนหยัดบนขาของตัวเองให้ได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี ยิ่งพร้อมสำหรับการฟื้นฟูสร้างชีวิตใหม่; ความช่วยเหลือต่างๆ นั้น ไม่ว่าจะจากภาครัฐหรือจากภาคเอกชน เป็นเพียงการบรรเทา “ชั่วคราว” เท่านั้น

« « Prev : อย่ารอ: เครื่องอบแห้งข้าวเปลือกอนาถาเพื่อช่วยชาวนาที่น้ำท่วม

Next : บุก Crisis Camp » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

1 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.23455095291138 sec
Sidebar: 0.19865584373474 sec