เข้าใจน้ำท่วม
เวลาน้ำท่วม อย่าไปโทษฝนโทษฟ้าเลยครับ หันมองกลับลงมาที่พื้นดินดีกว่า เราไม่เข้าใจพื้นดินเพียงพอทั้งที่ยืนอยู่กับพื้นทุกวัน
มีการทดลองง่ายๆ ที่คณะธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยแห่งมลรัฐเทกซัส เรื่องลักษณะของดินกับน้ำฝนครับ
มีถังพลาสติกสี่ถัง ซึ่งบรรจุสภาพพื้นดินไว้สี่อย่าง: แผ่นคอนกรีตปูบนดิน ดินอัดแน่น ดินมีวัชพืชปกคลุม ดินที่ปลูกพืช(มีรากเจาะลงลึก); ตัวถังพลาสติก เจาะรูไว้สองแบบ รูด้านบนเอาไว้เก็บน้ำที่ไหลไปบนพื้นผิว (เรียกว่า runoff water) ส่วนรูด้านล่าง เอาไว้เก็บน้ำที่ซึมลงในพื้นผิว
เมื่อเทน้ำปริมาณเท่าๆ กันลงด้านบนของแต่ละถัง น้ำที่ไหลอยู่บนผิวพื้น (runoff/น้ำหลาก/น้ำท่วม) จะไหลผ่านท่อบน หลังจากเก็บน้ำมาหมดแล้ว ค่อยเติมสีผสมอาหารสีเขียวลงไปเพื่อความชัดเจน แต่น้ำที่เก็บมาจากท่อล่างซึ่งต้องซึมผ่านดินมาก่อน เติมสีน้ำเงินลงไป
- รูปซ้ายสุด (คอนกรีต) ฝนตกลงมา ก็ไหลไปบนผิวของคอนกรีต ไม่สามารถซึมลงดินได้เลย แล้วมาบ่นทำไมว่าเมืองน้ำท่วม! อันนี้เหมือนเหตุบ่อน้ำโบราณแห้งที่วัดร้องเม็ง ซึ่งบริเวณวัดเปลี่ยนเป็นถนน+ลานคอนกรีตไปหมด ทำให้ฝนไม่สามารถเติมระดับน้ำใต้ดินได้
- รูปถัดมา (ดินอัดแน่น) มีผลคล้ายกับคอนกรีต! เพราะว่าบนผิวของดินอัดแน่น น้ำจะใช้เวลานานกว่าจะซึมลงไปในดินได้ ทำให้ไหลไปตามแรงดึงดูดก่อน ทำให้ท่วมแหลก — บางทีเกิดดินดานเพราะการปล่อยปละละเลยไม่เอาใจใส่ดิน หรือเกิดไม่ก็บดทับจากการไถแหลกซ้ำซาก ทำให้ดินถูกบดอัดและถูกแดดเผาทำให้แห้งแข็ง [ดินดาน ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม]
- ถังที่สามเป็นดินที่มีวัชพืชขึ้นอยู่ เมื่อฝนเทลงมา ตัวต้นวัชพืชเอง ชะลอให้น้ำไหลได้ช้าลง น้ำจึงซึมลงไปในดินได้มากขึ้น แต่พอซึมลงไปได้สักพัก ก็ซึมต่อไปไม่ได้ ทั้งนี้เพราะรากของวัชพืชเป็นระบบรากฝอย กระจายอยู่แถวผิวดินเท่านั้น เมื่อน้ำซึมลงไป ผิวดินอุ้มน้ำจนเต็มแล้ว ก็จะไม่สามารถรับน้ำได้อีก จึงเห็นเป็นน้ำสีน้ำเงิน(ผ่านดิน)กับสีเขียว(ไหลบนผิวดิน)อย่างละเท่าๆ กัน
- ถังที่อยู่ขวาสุด เป็นถังที่มีพืชที่มีระบบรากแก้ว ทำให้รากเจาะลงได้ลึกกว่า เมื่อรากเจาะลงลึก ทำให้น้ำที่ลำต้นชะลอการไหลไว้ สามารถซึมลงไปใต้ดินได้ลึกกว่า และดินดูดซับน้ำไปได้มาก [หญ้าแฝก]
ดังนั้น หากพื้นที่เป็นเนิน เซาะร่องขวางทางน้ำไหลเอาไว้ แล้วเอาท่อน้ำเหล็กขนาดสักหนึ่งนิ้ว (หรือใกล้เคียง ตามแต่จะมี) ทำให้ปลายแหลม ตอกลงไปในดินสักเมตรหนึ่ง (หรือเท่าที่ตอกไหว) จากนั้นก็ถอนเหล็กออกมา ขยับไปสองก้าวตอกอีก ไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นการส่งน้ำลงไปในดิน ทำให้ดินชุ่มชื้นครับ
รูที่ตอกเจาะเอาไว้นี้ ไม่กลัวว่าดิน-โคลนจะลงไปอุด เพราะว่าความหนาแน่นต่างกัน น้ำจะลงไปได้เอง การตอกท่อเหล็กลงไปเมตรหนึ่ง ช่วยให้ bypass ดินอุ้มน้ำที่พื้นผิว ให้น้ำไหลลงลึกขึ้นได้ (เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีอะไรทำ)
« « Prev : คืนแม่
6 ความคิดเห็น
สนามฟุตบอลที่โรงเรียน หญ้าไม่ค่อยขึ้นครับ ฝนตกน้ำก็ไหลลงร่องหมดครับดินคงจะไม่ดูดซึมน้ำหรือแน่นเกินไป จะลองใช้เหล็กตอกลงดินดูครับ
อ่านบันทึกนี้และบันทึกก่อนเรื่องการบริหารจัดการดินและน้ำ.. ก็ไม่ยากนัก
เก็บความรู้ไว้ก่อนนำไปเผยแพร่ต่อให้พี่สาวและหลาน ๆ ซึ่งอยู่บ้านที่มีที่ดินเยอะ ๆ แต่ไม่เคยบริหารเรื่องน้ำเลย
ขอยคุณค่ะ
ควรเข้าใจดินด้วยค่ะ … แถบเมืองเหนือโดยเฉพาะที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายหลายๆปีหลังมานี้ ภูเขาเริ่มหัวโล้นมากขึ้น ต้นไม้ใหญ่หายไปหมด น้ำฝนตกมาก็ไม่มีอะไรดูดซับ ปีนี้น้ำท่วมอำเภอแม่จันมากเป็นประวัติการณ์ เรียกว่าตั้งแต่หนิงเกิดมาก็ 48 ปีนี้ก็ไม่เคยเจอน้ำท่วมมากขนาดนี้
ธรรมชาติลงโทษของแท้ค่ะ
เขาหัวโล้น ไม่ใช่ว่าจะโกร๋นหมด มันมีวัชพืชขึ้นอยู่ แม้วัชพืชจะชะลอน้ำไว้ได้ แต่รากไม่ลงลึก ต้านน้ำไว้ได้สักพัก พอผิวดินอิ่มน้ำ ก็ไม่สามารถดูดน้ำไว้ได้อีก แม้จะชะลอไว้ได้บ้าง ในที่สุดก็จะไหลลงไปท่วมข้างล่างเช่นกัน
ดังนั้นพื้นที่ลาดชัน ควรปลูกพืชที่มีรากแก้ว รากที่ไชดินจนร่วนซุยครับ (ไอ้ที่โค่นไปหมดแล้วนั่นแหละ) ถ้าหากว่าโตช้าไม่ทันใจ ใช้หญ้าแฝกก็ได้
[...] น้ำจะผ่านลงไปได้ยาก ควรช่วยเหลือโดยการนำน้ำลงไปยังชั้