ไม่เหยียบหมา
อ่าน: 3794เมื่อกี๊ไปให้อาหารโสรยาและลูกๆ หลานๆ ตามเคยครับ พอเห็นเข้าเท่านั้นแหละ พากันวิ่งหน้าตั้งมาเป็นฝูง โดยปกติใครมาถึงก่อนก็จะมีขนมต้อนรับ เรียกว่าได้กินก่อนตัวอื่นนิดนึง แต่ในที่สุดก็ได้กันทุกตัว
ทีนี้พอพอมารุมขอขนมกัน ก็พันแข้งพันขากันยั๊วเยี้ย ผมจะเดินไปไหนก็ไม่ให้ไป มาถูกางเกง มางับรองเท้าไม่ยอมให้เดิน ผมก็รอดมาได้หลายเดือน
แต่วันนี้ตัวหนึ่งดึงขาหลัง อีกตัวขวางอยู่ข้างหน้า เดินไปจึงสะดุดหมา ล้มพลั้ก… ดีที่ถนนคอนกรีตไม่แตกหักเสียหาย เท่านั้นแหละ แม่หมา ลูกหมา และหลานหมา แตกกระเจิงด้วยความตกใจ เห่ากันเสียงขรม
มาคิดดู ถ้าเหยียบหมาไปเลย ผมคงไม่เจ็บตัว ในเมื่อเลือกไม่เหยียบแล้ว ก็รับผลนั้นไป — ไม่เป็นไรครับ ถลอกนิดหน่อย เดี๋ยวเดียวก็หาย
ขนมหมา ตกกระจายเต็มพื้นไปหมด พวกที่วิ่งหางจุกตูดไปแอบอยู่ข้างบ้าน อดกินไป สี่ห้าตัวที่กลัวๆ กล้าๆ มาเห่าแบบระแวงใกล้ๆ ได้ขนมที่ตกเกลื่อนถนนไป คงพุงกางไปเลยเพราะเตรียมไว้สำหรับ 15 ตัว กินกันไม่พูดไม่จา (และเลิกเห่า แต่ยังคงเหลือบตามามอง ตามประสาหมาขี้ระแวง) หลายคืนมานี้เห่าเสียงดัง บางทีก็กัดกันเองตามประสา หรือว่าฝนตกแล้วเครียดก็ไม่รู้
น้องผม (เจ้าของหมานอกบ้านเหล่านี้) ทำเพิงไว้ให้ก็ไม่ยอมอยู่ บางทีเห่าเรียกจะเข้าบ้าน เลี้ยงในบ้านไม่ได้เพราะว่าในบ้านมีอีกโขยงหนึ่ง
13 ความคิดเห็น
เจ้าของหมามาอ่านบันทึกแล้วให้ความเห็นว่า “ตลกอ้ะ กิ๊กเจอทุกวันพันแข้งพันขา เหยียบบ้างเป็นปกติ บางทีมันเดินนำแล้วก็หยุด รู้สึกว่าพวกมันชอบโดนตัวคนน่ะ ชอบเดินเบียดขา” “ฮาๆๆๆ มันกระเจิงเลยนะ ไม่ค่อยกล้ากลับมากิน แต่มาริลินกลับมาก่อนใคร”
สงสัยล้มเสียงดังมากนะคะ หมาถึงได้ตกใจวิ่งหางจุกตูดขนาดนั้น…อิอิ
ส่วนหมาจะคิดอะไร เกินวิสัยจะคาดเดา เพียงแต่เรามีส่วนเลี้ยงมันมา ก็ไม่อยากให้มันเป็นอะไรไปครับ
วันนี้เอาไผ่กิมซุ่งกับกระป๋องน้ำอัดลมไปบ้านป้าจุ๋มนะครับ ไผ่ยังไม่แตกใบ แต่ไหนๆ จะไปแล้ว ก็เลยยกไปซะเลย ส่วนกระป๋องสำหรับเอาไปทำ solar collector เพื่อเก็บความร้อนมาอบสมุนไพรนะครับ กระป๋องสีดำดีแล้ว ถ้าจะขัดก็ได้เหมือนกันครับ แต่ควรพ่นสีดำ — ทองม้วนวิ่งมารับเช่นเคย แต่ผมบอกเอหยีว่าให้ผมขับรถออกไปก่อนค่อยเปิดประตูมาเอากระถาง+กระป๋อง ไม่อย่างนั้นทองม้วนลุยน้ำแล้วมากระโจน เสื้อเลอะแน่เลย
ที่บ้านเจ้ากุ๊งกิ๊งไม่มีปัญหาค่ะ สั่งด้วยโหมดเสียงได้อยู่แล้ว แต่เจ้าบิ๊กก้า (ลูกชายกุ๊งกิ๊ง) เค้าจะพันแข้งพันขาตลอดค่ะ ตะเกียกตะกายจะให้อุ้มให้ได้ เดือนนี้น้ำหนักแตะ 10 กิโลแล้ว จึงเลิกอุ้ม! เปลี่ยนเป็นนั่งเล่นด้วยแทน พี่แกก็ไม่พอใจจะต้องปีนขึ้นตักแล้วตะกายจะให้อุ้มให้ได้ ออกไปให้ข้าวแต่ละที ต้องจับขาหน้าทั้งสองแล้วเดินไปพร้อมกันจนถึงตำแหน่งที่วางจานนั่นแหล่ะ ถึงจะสงบสติอารมณ์ได้
แกงค์ของป๋าหลายตัวจัด สงสัยต้องวางอาหารไว้เป็นระยะ ๆ หรือเปล่าคะ จะได้ตัดกำัลังและความแออัดลง อ้อ แต่ประเด็นอยู่ที่ชิ้นต้อนรับชิ้นแรกนี่เนอะ ใคร ๆ ก็ต่างจะต้องชิงดำให้ได้ อิอิอิ
ขออนุโมทนากับจิตอันเป็นกุศลของป๋าด้วยนะคะ
(^___^)
ผมคิดว่าคนเลี้ยงหมา ก็เข้าใจนิสัยใจคอของหมาแต่ละตัวเป็นอย่างดี — แต่ว่าต่อให้เลี้ยงตั้งแต่เกิดจนจากกันไป ก็ไม่สามารถจะทำให้เขาเป็นแบบที่เราต้องการได้ทุกอย่าง ตลอดเวลา หรอกนะครับ เลี้ยงเพื่อให้เข้าใจชีวิตดีกว่า
โสรยาเป็นจ่าฝูง เวลาแม่แหวขึ้นมา กระเจิงกันหมด แต่ว่าโดยปกติจะเรียบร้อยมากครับ ยกเว้นเวลามีหมาแก๊งค์อื่นมาบุกรุกอาณาเขต ก็จะพาลูกหลานไปไล่จนกระเจิงไป — ลูกโสรยา หงอทุกตัว ตัวผู้สามตัว ไม่ได้เรื่องสักตัว ฮาๆๆๆ ตัวเมีย (มาริลิน) ตะกละอีกต่างหาก แต่ว่าหลานๆ ตัวเมีย ท่าทางได้เรื่องครับ ส่วนหลานตัวผู้ โดมพอใช้ได้ มาริโอ้ไม่ได้เรื่องครับ ฮาๆๆๆๆ
สงสัยว่าหมาในวัดจะไม่ค่อยรัก จึงไม่ค่อยเข้าใกล้สมภาร (……………)
เพราะเป็นสมภารก็แสดงอำนาจให้หมามันรู้ มิฉะนั้นก็คุมคนไม่ได้ เพราะคุมหมายากกว่าคุมคนเยอะ (……………..)
เจริญพร
ขอบคุณมากค่ะสำหรับกระป๋องและต้นไผ่ค่ะ…เมื่อวานป้าจุ๋มออกไปธุระข้างนอกช่วงบ่ายค่ะ 2-3 แห่งกลับบ้านก็เกือบมืดเลย
เจ้าทองม้วนยังควบคุมพฤติกรรมความตื่นเต้นเวลามีแขกมาบ้านไม่ได้ เขาจะไปทักไปกอดทุกคนเลย(สงสัยเลียนแบบชาวลานฯ…อิอิ
แต่พฤติกรรมห้ามเข้าห้องครัวและอื่นๆอีกหลายอย่างเขารู้เรื่องมากแล้วค่ะ อย่างบางทีเขาเผลอเดินเข้าห้องครัว(ซึ่งเราห้ามไว้) เราก็บอกว่าทองม้วนเข้าครัวไม่ได้นะ เขาหันมามองหน้าแบบเศร้านิดๆแต่ก็เดินออกไปด้วยดีค่ะ
ส่วนน้องตาลกับน้องหมีจะรู้เรื่องดีค่ะ
อ่านเรื่องของคุณยายโสรยา มาริลิน และหลาน ๆ แล้ว… ยิ้มอารมณ์ดี
หมาหรือแมวก็คล้าย ๆ กันนะคะ ชอบเดินพันแข้งพันขา คงเหมือนที่เจ้าของว่าไว้ สัตว์เลี้ยงจะแสดงความรักด้วยการคลอเคลีย แต่…ถึงขั้นพันแข้งพันขาจนสะดุดล้มนี่…ฮ่า ๆ ๆ ไม่อยากคิด
รักษาตัวด้วยค่ะ
สิเหน่แรง…อิอิ
ก็คล้ายๆ เดิม พอเห็นเข้าเท่านั้น วิ่งกรูกันมาอย่างรวดเร็ว กินกันจ๊วบจ๊าบเสียดังผิดปกติ
เดนมาร์กปลอกคอม่วง วันนี้แต่งตัวแปลกโดยมีลำโพงครอบหัวด้วยครับ คือไปตอนมา ก็เลยต้องใส่ลำโพงไม่ให้ไปยุ่งกับแผล ผมนึกว่าเค้าจะกินไม่ได้ (คิดแทนหมา) ที่ไหนได้ ลำโพงเป็นเครื่องมือกันตัวอื่นออกไป ไม่ให้มายุ่ง กินทีหนึ่งเสียงดังโครกคราก คือลำโพงครอบและครูดพื้นซีเมนต์
พอกินขนมหมดถัง ธรรมดาเขาก็จะเดินมาส่งผมถึงหัวมุมบ้าน แล้วผมก็จะมาเลี้ยงแก๊งค์เจ้าถิ่นที่หน้าบ้านผม มีหลานหมาสามสี่ตัวรู้แกว คราวนี้ไม่หยุดแค่อาณาเขตของยายโสรยา แต่เดินเลยมาเกือบร้อยเมตร มาส่งผมถึงหน้าบ้าน (บ้านน้องอยู่ติดกันแต่ใช้คนละประตู เวลาจะไปเลี้ยงหมาก็เดินอ้อมบ้านไป)
พวกหลานหมารู้ว่ามีบุฟเฟ่ต์อีกรอบหนึ่ง ประกอบกับแห่กันมาหลายตัว จึงไม่กลัวเจ้าถิ่น และแย่งแก๊งค์เจ้าถิ่นกินอีกรอบหนึ่ง
ช่วงที่ผ่านมา คุณคอฟฟี่และคุณซูซี่เธอมีหนุ่มมารุมรัก ต้องจับขังกรงไว้ด้านหลังโรงเรียน ไม่อย่างนั้นคุณๆ เกือบยี่สิบตัวจะมานอนกันเป็นหย่อมๆ กลางสนามฟุตบอล เวลาคุณเธอวิ่งตามจักรยานอาราม ก็จะมีหนุ่มวิ่งตามเป็นพรวน เฮ้อ..ดูม่ายจืดเลยค่า
บันทึกนี้ นินทาหมา