ผักต้ิว ที่สวนป่ายอดแดงดอกสวย

3534 ความคิดเห็น โดย aram เมื่อ 9 กรกฏาคม 2013 เวลา 23:13 ในหมวดหมู่ ต้นไม้ #
อ่าน: 59831

ยอดสีแดงสด รสฝาดเล็กน้อย ใช้จิ้มน้ำพริก ใช้ยำ เป็นผักยืนต้นยอดสีสดดอกสวยเรียกซากุระสวนป่า ก็เหมาะ

ผักตามท้องตลาดอาจไม่ปลอดภัย อันตรายจากสารเคมี บางทีคนปลูกไม่กล้ากิน คนกินได้ของแถม พ่วงโรคภัยโรคที่ไปได้รับเชิญ

จะปลูกเอาร่มเงา ปลูกประดับชื่นชมดอกก็สวย.

ไม่แน่ใจว่าขยายพันธุ์แบบใด ที่เห็นจะมีไหล มีรากแล้วแตกต้นเล็กๆตามโคนต้น ร้านต้นไม้บางแห่งอาจจะซ่อนอยู่ตามไม้อื่น

มาปลูกต้นติ้วกันไหมครับ @@@@@@@@@@@


กินอิ่ม นอนอุ่น เที่ยวกับละมุนทัวร์

5984 ความคิดเห็น โดย aram เมื่อ 10 ตุลาคม 2012 เวลา 21:47 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 113455

บันทึกแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 6 ตุลาคม 2555

ขึ้นต้นบันทึกหลังจากที่ได้กินอิ่มๆนอนอุ่นๆ เพียงพอแล้วมานั่งนอกระเบียงโดยไม่ต้องบิ๊วอารมณ์ เพราะว่าเล่นเกมได้คะแนนตามเป้าแล้วพอใจละ

คนเราก็มีอยู่แค่นี้เอง ต้องการแค่นี้เอง เพราะฉะนั้นงานที่หนักที่เหนื่อยเป็นเครื่องปรุงให้กับชีวิตอร่อยขึ้น  ชีวิตจะได้ไม่จีีดไม่เบื่อไงครับ

สมองคนเราก็แปลกพอกินอิ่ม นอนอุ่น มันจะมีช่วงเวลาที่จัดเรี่องราวดีๆ เรื่องราวที่บางทีคิดทั้งวันไม่ตก มาปิ๊งเอาอีตอนใกล้สว่างนี่แหละบางทีฝันเป็นตัวเลข

เรียกว่าครึ่งหลับครึ่งตื่นก็ว่าได้ บางครั้งเลยต้องมีกระดาษโน๊ตไว้ใกล้ๆ เผื่อไว้ หรือบางทีก็เป็นkey wordที่จะเอาไปใช้ในเช้าวันใหม่ เรียกว่าขอเป็นวัน ๆไปก็ได้

ช่วงเช้า 5 ตุลาคม ทางโรงพยาบาลกระบี่ได้จัดให้มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันเพื่อนำไปสู่การเขียน โดยมีกลุุ่มเฮฮาศาสตร์เข้ามาแจม พ่อครูบา อาจารย์สร้อย ลุงเปลี่ยน น้าอึ่ง กระผม ร่วมกับบุคลากรที่น่าชื่นชมในความเสียสละ ปิดทองหลังพระ เหนื่อยท้อบางครั้ง แต่ก็มีคนเห็นและรับรู้

สำหรับตัวเองได้มารับรู้ถึงสิ่งที่ทุกคนได้ทำอยู่จากการเล่าในสิ่งที่เป็น สิ่งที่ทำ ความเสียสละทุ่มเท ได้ช่วยชีวิตคนจากมีความทุกข์ ชุบชีวิตคนเฉียดตายได้กลับคืนมาใหม่ ได้ไถ่ชีวิตยื้อชีวิตคน ได้รับรู้ความปลื้มปิติที่เก็บงำไว้มาหล่อเลี้ยงให้คนอื่นๆชื่นใจ ได้บุญอันใหญ่หลวง ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้มีโอกาส เวทีแห่งนี้จึงเปิดให้ทุกคนได้บอกได้เล่าออกมา ไม่ยากเลยถ้าหากสิ่งดีๆเหล่านั้นฝังอยู่ในใจ

มากระบี่เมื่อ 20กว่าปีที่แล้วในฐานะนักศึกษาฝึกงาน เขามีให้เลือกเด็กดอยอย่างผมเลือกทะเล เลือกที่ไกลที่สุด นอนฟังเสียงทะเลเสียงคลื่น ตื่นเช้ากินขนมจีนผักสด ๆ บางวันก็เป็นแกงส้มเผ็ดสลบ รสชาดไปทำที่ไหนกินที่ไหนก็ไม่เหมือนไดมากินจากต้นตำรับ ได้คุยได้พูดสนทนากับแม่ค้า มาฟังภาษาใต้สนุก ได้วิ่งได้เดินเหยียบทรายริมชายทะเลตอนเช้าๆ ตอนเย็นเลิกงานก็เดินได้อีก ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน

กลางวันได้กินขนมจีนรำลึกอดีต ทางโรงบาลกระบี่จัดให้ ใช่เลย สองจาน จานแรกนึกถึงอดีด จานสองรับรสความอร่อยขอบคุณความตั้งใจของทางโรงพยาบาลที่จัดเตรียมใว้ให้เป็นอย่างดี ผักหมุย ผักมันปู ใบบัวบก ช่างเข้ากันกับกลิ่นน้ำแกงของขนมจีนอย่างบอกไม่ถูก ปิดท้ายด้วยปูสุราษฎร์ที่ครูปูจัดให้ ขอบคุณครูปูที่จัดอาหารโอชะ เป็นปูสมใจนึก ละเลียดกินขาปูทุกขา ตามด้วยก้ามปูแล้วก็ตัวปู อิ่มแล้วมีแรง แร๊วงๆๆๆๆ


เตาดิน

5021 ความคิดเห็น โดย aram เมื่อ 31 ธันวาคม 2011 เวลา 23:18 ในหมวดหมู่ การเรียนรู้ #
อ่าน: 97858

หนาวนี้มีของเล่นเกี่ยวกับฟืนกับไฟ ครับ  เตาดิน สามหัวจากแบบของอาจารย์จุลพร นันทพานิช ที่ได้ร่างแบบไว้ให้แบบเตา

อาจารย์ใช้ทำขนมปังจากเตาดินแล้วติดใจในความหอมกรุ่น ของควันไฟ ไอดิน  สบโอกาสจึงได้ขอแบบเตาไว้ใช้ที่โรงเรียน หนึ่งเตา   บางคนเรียก เตาราง ก็มีบ้าง

กรรมวิธีใช้ปั้นดินแบบที่ใช้ก่อสร้างบ้านดินนั่นแหละครับ นวดดินแล้วกดลงพิมพ์ ตากให้แห้งแล้วก็นำไปก่อได้เลย คราวนี้ลองใช้ดินจอมปลวกรอบๆโรงเรียนเสียเลย  เพราะไม่ค่อยมีหิน ทรายปน 

ทดลองใช้เครื่องปั่นย่อยเศษใบไม้ย่อยดินก่อนใหญ่เป็นก้อนเล็ก ได้ผลดีครับ เพราะก่อนที่จะนำไปนวดผสมแกลบ หรือขี้เลี่อยเพื่อไม่ให้ดินก้อนเวลาแห้งแล้วไม่แตกร้าวต้องป่นดินให้ละเอียดแล้วผสมกับแกลบ/ขี้เลื่อย   สูตรดินจอมปลวกนี้ใช้แกลบหรือขี้เลื่อย ดินต่อแกลบหรือขี้เลื่อยอยู่ที่ สัดส่วน ดิน 5 ส่วน  แกลบหรือขี้เลื่อย 1 ส่วน คลุกเคล้าตอนแห้งผสมน้ำทีละน้อย จนเหนียวหนืดพอเข้าแม่พิมพ์ได้เวลาดึงพิมพ์ออกไม่แตก ไม่ย้วย   ดินถ้าจะให้ดีควรหมักไว้ซักหนึ่งคืนเพื่อให้ดินผสมอิ่มตัวเหนียวดีขึ้น

ย่อยดินด้วยเครื่องย่อยใบไม้อัดลงพิมพ์  

แบบหัวเตาที่ 1 และ2 วางกระทะ หรือหม้อดิน หัวเตาที่ 3 พิเศษเพิ่มมาเป็นที่อบขนมปัง โดยทำรางเสียบพิมพ์ขนมปังมีฝาปิด   ช่องที่ 4 เป็นท่อระบายความร้อน และเก็บน้ำส้มควันไม้ก็ได้

ทดลองจุดไฟ เตาติดไฟได้ง่ายเพราะอากาศไหลจากด้านหน้าเตาดี แต่หัวที่1 ร้อนช้าสุด เตาที่2 ร้อนช้ารองลงมา ส่วนเตาหัวที่ 3 เตาอบขนมปังร้อนเร็วสุด   ตอนนี้ทดลองแต่ต้มไข่ยังไม่ได้ทดลองทำขนมปัง ดังว่า  กำลังหาคนมาช่วยทำสูตรแป้งขนมปังอยู่อ่ะครับ>>>>>


ดอกมะดัน

5357 ความคิดเห็น โดย aram เมื่อ 25 กรกฏาคม 2011 เวลา 21:46 ในหมวดหมู่ ต้นไม้ #
อ่าน: 80678

เคยรู้จักตลก เด๋อ ดอกสะเดา ดู๋ ดอกกระโดน และดี๋ ดอกมะดัน มาตั้งแต่เด็กๆ ตลกคุณภาพ ไม่หยาบคาย

ดอกอื่นๆก็พอเคยเห็นมาบ่อยแล้วครับ แต่ว่าดอกมะดันเพิ่งเคยเห็นของจริง โยงเข้าหา ดอกมะดันได้แล้วอิอิ..

พูดถึงมะดัน คนเรามักจะน้ำลายสอ เพราะเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด http://www.vcharkarn.com/varticle/40472

ว่ากันว่าเป็นตระกูลเดียวกับมังคุดเสียอีกแน่ะ ชอบขึ้นในที่น้ำขังท่วมได้เป็นเวลานาน เรียกว่าทนทาน

แต่ว่าดอกมะดันนี้สิเครเคยเห็นบ้าง มาดูกันครับ มุมมองสวยแปลกตา เพิ่งจะออกดอกปีแรก หลังจากที่ปลูกมาเกือบสิบปี  ต้นไม่โตสักทีแต่ว่าก็คุ้มค่ากับการรอคอย

ดอกมะดัน ดอกมะดัน1


หลงลำพูน

6435 ความคิดเห็น โดย aram เมื่อ 16 กรกฏาคม 2011 เวลา 1:32 ในหมวดหมู่ Uncategorized, ต้นไม้ #
อ่าน: 51062

จากหลงลับแล เป็นหลงลำพูน เนื่องจากวันก่อนพาคณะท่านครูบา คุณชลิต ลุงเปลี่ยน อ. ไพลิน และคุณพรพรรณทัวร์ลำพูน ตามหาไผ่ซางนวล แต่พาหลงในหมู่บ้านหลายรอบ

วันนี้เลยนัดกันไปดูตามข้อมูลที่พบเจอเพิ่มเติมในเวบไซต์

http://www.inthanonbambooresort.com/ibr2/

อินทนนท์สวนไผ่รีสอร์ท เพิ่มเติม น่าสนใจมาก เพราะใช้ไผ่ซางนวล ปลูกประดับตกแต่ง ตามแนวทางเดิน ร่มรื่น สถานที่ใช้เป็นที่พัก ที่อบรมชาวบ้าน ใช้เป็นสถานที่เข้าค่ายศึกษาสำหรับนักเรียน และที่เพาะพันธุ์กล้าไผ่ สอบถามเจ้าของ คุณภานุมาศ ที่บังเอิญไม่ได้อยู่ที่สวน แต่ได้ให้รายละเอียดและให้หลานออกมาต้อนรับ แนะนำ พาชมห้องพัก สวนไผ่ และสถานที่ต่างๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ

ที่ตั้งของรีสอร์ทแห่งนี้อยู่บ้านป่ารกฟ้า อำเภอป่าซาง ลำพูน เขตติดต่อชียงใหม่ ด้านหลังวัดป่ารกฟ้า ลำพูน

(อำเภอป่าซาง ฟังจากชื่อน่าจะมีที่มาที่ไปว่า อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไผ่ซางมาก่อน )

ด้วยความใจดีของเจ้าของสวนจึงได้เดินทาง ไปยังที่พักอีกแห่งนึง ที่เชียงใหม่ เพื่อตามไปหากล้าพันธุ์ไผ่ที่พอมีอยู่ที่บ้าน ต้อนรับอย่างดี พาแนะนำสถานที่ต่างๆ ที่ออกแบบได้ลงตัว อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้ประดับนานาชนิด เป็นคนรักต้นไม้ มีพันธุ์กล้าไผ่ซางนวลกลับมาปลูกที่โรงเรียน 50 ต้น

ทางเข้าสวนไผ่ อินทนนท์สวนไผ่


ลาบที่มีมากกว่าความอร่อย

5501 ความคิดเห็น โดย aram เมื่อ 25 พฤษภาคม 2011 เวลา 0:37 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 81738

             อาหารทางเหนือเวลามีแขกแก้วมาเยือน มักจะต้อนรับชิมอาหารอร่อยๆครับ ท่านอาจารย์ทวิชได้มาเยือนลำพูน ดีใจจ้าดนัก  ลาบ คือหนึ่งในนั้น อาจจะพ้องเสียงคือลาภ มีโชคมีลาภด้วย  แถมถ้าทำให้สุก ก็จะพ้องกับคำว่าสุขอีกดอกแฮ่ๆ  

 การทำลาบมักนิยมทำกัน ช่วงเทศกาลสำคัญๆเช่นสงกรานต์ ขึ้นบ้านใหม่ งานบุญมงคล งานแต่ง  ต่างๆ

การจัดอันดับลาบทางเหนือ ผมลองจัดอันดับยอดนิยมคร่าวๆดังนี้

# ลาบควาย(ลาบขม ) 

 #ลาบหมู

#ลาบไก่

# ลาบปลาเพี้ย

# ลาบปลาสร้อย (ในเพลงจรัล  มโนเพชรก็มีโตยเน้อ)

#ลาบปลาตะเพียน

#ลาบปลานิล

#ลาบปลาดุก  ฯ ……

ยี่ห้อลาบเท่าที่เห็นเอาแค่ลำพูน - เชียงใหม่ก็นับไม่ไหวแล้วครับ แต่ละเจ้ารสชาติไม่ซ้ำแบบกัน    ลาบลุงนิล  ลาบลุงเพชร ลาบสันเหมือง ลาบต้นยาง ลาบไก่บ้านโฮ่ง ลาบลุงวี(ป่าซาง)  ลาบลุงอิน(อันนี้มีชื่อทำเครื่องลาบจำหน่ายด้วย)   ลาบป้าแก้ว(หนองหอยเชียงใหม่)   ลาบอ้ายดม(เมืองลำพูน)  ลาบอ้ายนพ  อ้ายแก้วลาบขม  ลาบดาวคะนองฯลฯ  

 นอกจากนี้เซียนลาบหลายคนที่มีฝีมือ จะแฝงตัวอยู่ตามหมู่บ้านอีกเยอะ จะแสดงฝีมือก็ต่อเมื่อมีงานเทศกาลที่ชาวบ้านมาร่วมแรงร่วมใจกันทำอาหารเลี้ยงกัน เรียกได้ว่า มีฝีมือทางลาบอยู่ในสายเลือดกันเสียแล้ว

ผู้ชายไทยทางเหนือจะมีเคล็ดลับด้านการทำลาบ น่าสนใจครับ(ถ้ามีโอกาสแนะนำให้ไปดูหลังครัว )  บรรยากาศ สุดยอด ทำงานเป็นทีมกันอย่างลงตัว ทั้งแสงสีเสียง กลิ่น อบอวล

- เป็นต้นว่าในการลาบเริ่มต้นตั้งแต่ลาบต้องใส่เกลือลงไปในเนื้อที่ลาบด้วย ใส่เลือดเมื่อเนื้อใกล้ละเอียด เพื่อให้เนื้อเนียน เหนียวเพิ่มขึ้น เคล็ดลับอันนี้จะใช้สำหรับลาบหมู

-ส่วน ลีลาการลาบ บางคนลาบด้วยมีดคู่  มีดเดี่ยวเสียงมีดรัวกระทบเขียง น่าอร่อย

-การคั่วเครื่องเทศหอมฉุย  ประกอบด้วย มะแหลบ มะแข่วน ดีปลี ข่า ตะไคร้ กระเทียม หัวหอม  พริก ทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะการทำลาบ อีกทั้งสมุนไพรหอมฉุยดับกลิ่นคาวเป็นเลิศ แก้ท้องอืดเป็นยอด

-แผนกต้มหนังหมู เครื่องใน ซอยหั่นไว้รอคลุกเคล้า

-ผักชีต้นหอม ผักแพว สะระแหน่ ก็ซอยไว้รอ

-การจัดผักกินกับลาบก็เก๋ไก๋กับชื่อผักต่าง ๆที่ รสชาติ เปรี้ยว ฝาด ขม ซ่า หอม หวาน  เผ็ด จืดที่จะเน้นไปทางผักสด จะมีลวกบ้างบางชนิด  จะเน้นทัวร์ไปตามขอบรั้วตัวเองและเพื่อนบ้าน

ได้แก่ยอดมะกอก ยอดมะยม  มะเขือเทศฝานบางๆแล้วแช่น้ำปลา    ยอดผักจิก ยอดต้นพิลังกาสา(ผักจ้ำ)  ยอดส้มสุก …

ยอดดีกระทิง ยอดดีเหยี่ยน ยอดเพี้ยฟาน  ฝักเพกา(ลิดไม้)เผาไฟแล้วหั่น    ผักแปม(คล้ายใบกุหลาบ)  …..  อ้มกบ  เก้าโกศ  ผักซาอุ  ใบโปร่งฟ้า   ยอดต้นเล็บครุฑ  ยอดมันปู  .. สะระแหน่ ผักแพว  คาวตอง  ….. ยอดกระถิน  มะเขือ ผักกาด  พริกขี้หนู   …..

ที่สำคัญ เมนูลาบ  ได้รับการรับรองจาก  อ.ย. แล้ว  (อาหย่อย)   


ยางแตก

6223 ความคิดเห็น โดย aram เมื่อ 15 เมษายน 2011 เวลา 1:48 ในหมวดหมู่ การเรียนรู้ #
อ่าน: 109533

               เดินทางไกล ไปต่างจังหวัดช่วงก่อนสงกรานต์เยี่ยมญาติป่วยที่จังหวัดตาก  ใช้เส้นทางลำพูน-ลำปาง-เถิน-ตาก ช่วงอำเภอเถิน  ไปจนเกือบถึงปากทางเข้าเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก  หนทางเป็นหลุมเป็นบ่อมาก กำลังปรับปรุงกันเป็นระยะ   อยากให้ผู้ที่เดินทางผ่านช่วงนั้นใช้ระมัดระวังกันพอสมควร เพราะบางช่วงรถอาจจะกระแทกหลุมบ่อจากถนนชำรุดได้

                พาหนะเดินทางด้วยรถตู้ ผู้โดยสาร 8 คน  ก่อนเดินทางก็เพียงแต่สังเกตยางด้วยตาดูว่าแก้มยางผิดปกติ เท่าไม่เท่ากันหรือไม่เท่านั้นเอง (ถือว่าประมาท) คราวหน้าเดินทางไกลจำเป็นต้องหาที่วัดลมยางไว้ก่อนออกเดินทางก็ตรวจลมยางให้ได้ตามกำหนด

             อาการยางแตกตอนที่ขับเสียงดังคล้ายกับก้อนหินกระเด็นติดข้างรถ ดังแป๊ก ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจขับไปได้อีกเกีอบ 2 กิโลเมตร  บังเอิญผ่านเส้นชะลอก่อนถึงสะพานจะดังครืดๆ ผิดปกติ จากนั้นอาการรถเหมือนเร่งไม่ขึ้น รถส่าย พวงมาลัยควบคุมลำบาก  นึกถึงว่าจะต้องทำอย่างไรดี พ่อแก้วแม่แก้วช่วยด้วย  ลดเกียร์ต่ำลงมาแล้วค่อยๆเหยียบเบรก ชลอเข้าข้างทางด้วยอาการลุ้นพอสมควร  ผลงานยางเยินมาก  เป็นยางด้านหลังขวา แก้มยางด้านนอกล่อนออกจากล้อ 

ยางแตก

               แม่แรง ประแจถอดล้อ ยางอะไหล่ แผนกนำกิ่งไม้กั้นรถ กางร่ม ถอดล้อเริ่มทำงานเพื่อให้การเดินทางไปทันเวลาเข้าเยี่ยมผู้ป่วย   แต่ ยางอะไหล่ไม่ได้เติมลมไว้ครับ พอขับไปหาร้านเติมลมไปเกือบ 3 กิโลเมตร

                 ประเมินสาเหตุยางแตกจากที่พอจะวิเคราะห์ได้

  1. ยางรถกระแทกหลุมรั่วก่อนแตก เพราะก่อนหน้านั้นตกหลุมแรงพอสมควร
  2. ยางรถอาจจะเจอของแข็งประเภทตะปูทิ่มยางก่อนจนลมอ่อนแล้วระเบิดโป๊ะ
  3. ยางรถไม่ได้คุณภาพเอง
  4. ลมยางอ่อนตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง ฯ

 นำประสบการณ์การเดินทางฝากทุกท่านที่กำลังเดินทาง หมั่นตรวจสอบพาหนะก่อนเดินทางกันนะครับ  จะได้ป้องกันอุบัติเหตุได้ หรือผ่อนหนักเป็นเบา  เดินทางโดยสวัสดิภาพถึงจุดหมายปลายทางทุกๆท่านทุกๆคน

 


ครกกระเดื่อง

5697 ความคิดเห็น โดย aram เมื่อ 16 มกราคม 2011 เวลา 0:01 ในหมวดหมู่ วิถีชีวิต #
อ่าน: 62039

          ตัวครกกระเดื่องสมัยก่อนทำจากไม้เนื้อแข็งทั้งต้น ขุดทำเป็นหลุมโดยการเผาหรือขวานเฉาะ  พอไม้หายากผุพังไปบ้างตามกาลเวลา  ก็ไม่ค่อยจะมีให้เห็นกันแล้ว  จะเห็นก็ตามที่เขานำที่ผุๆไปตกแต่งสวนหย่อม

 วันนี้มีครกกระเดื่องรุ่นพิมพ์นิยม ใช้งานตำ โขลก เช่นตำข้าว  ข้าวที่ได้ก็ไม่ถูกขัดสีเอาวิตามินทิ้งไปเหมือนโรงสี   ตำอะไรได้อีกแล้วแต่จะประยุกต์ดัดแปลง อาจจะใช้ไปตำส้มตำ ร้านส้มตำไหนสนใจก็โปรโมทเป็นจุดขายประจำร้านก็เป็นได้  จะตำไทย ตำปู ตำปลาร้า ตำซั่ว ตำ ฯลฯก็อร่อย   ตำอะไรได้อีกเยอะเลยล่ะครับ

 ทำไม่ยากหาพิมพ์ที่เป็นถังพลาสติคเส้นผ่านศูนย์กลางสัก 40 - 50เซนติเมตร เสริมด้วยใส้เหล็กเส้นให้แข็งแรง  จุดสำคัญการทำหลุมครกใช้ต้นกล้วยเหลาให้มน  แล้วมัดเชือกเจาะรูร้อย หย่อนลงไปให้เป็นหลุมทิ้งไว้

 ครกกระเดื่อง

ผสมปูน ทราย หิน ตามสัดส่วนข้างถุง  เทลงไปในถังพลาสติคทิ้งไว้ 1 วัน ก็แกะแบบได้   ก่อนจะนำไปใช้งานตำ   ก็แช่น้ำและดูดความเป็นด่างออกเสียบ้างด้วยต้นกล้วยสับ 2 - 3 วัน 

 

ตัวครกสำเร็จแล้ว จากนั้นก็เป็นตัวไม้คานเหยียบ   ตัวสาก  เสาคู่  และแกนหมุน   หาที่เหมาะๆขุดเสา เจาะ ยึดประกอบหาจุดหมุนให้ผ่อนแรงเหยียบเสียหน่อย  เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ

 การตำครกเป็นการสร้างจังหวะความเข้าใจระหว่างคนตำ ต้องประสานงานกันให้ดี ถ้าไม่ดี มีหวังมือเดี้ยง  คนอยู่หน้าครก มองตาก็รู้ใจกัน เกิดวัฒนธรรม เกิดสังคม เกิดความใกล้ชิดกันขึ้น   มาลองตำกันไหมครับ อิอิ


บราวนี่จอมซน

6238 ความคิดเห็น โดย aram เมื่อ 12 มกราคม 2011 เวลา 21:53 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 223110

สุนัขจอมซน    

       เจ้าตัวนี้ เกิดเมื่อค่ำวันที่ 9 มีนาคม 2553  ด้วย คุณแม่มือใหม่คาบวิ่งหาที่หลบภัย รอบโรงเรียน ตัวลูกก็ร้องเหมือนแมว  เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยดิน และทรายที่คุณแม่พาไปคลุกหาที่ปลอดภัยจากผู้คนจากที่นึงไปอีกที่นึง ไม่ยอมอยู่กับที่ซักที      ร้อนตัวผู้ช่วยต้องวิ่งไล่ตามไปอุ้มลูกมาใส่กล่องกระดาษหาที่นอนที่คลอดให้  พร้อมทั้งปลอบประโลมเสียยกใหญ่จึงยอมอยู่กับที่   ไม่ยังงั้นคงเลี้ยงไม่โตแน่ๆ

 

สีสันแปลกตา จึงได้ชื่อว่า บราวนี่   ไม่รู้ว่าเป็นพันธุ์อะไรครับ  ตอนเล็กๆเอาแต่กินกับนอน  โตมาตอนนี้ไม่ค่อยไม่ค่อยออกแขกสักเท่าไร เวลาวิ่งทำหางตก ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุผจญภัยมาตั้งแต่เกิดหรือเปล่า   แต่เวลาวิ่งไล่แมว ไล่หนู เนี่ย สู้ไม่ถอย  เคยโดนหนูงับจมูกร้องจ๊ากมาทีนึง   

ตอนนี้เป็นสมาชิกหนึ่งในห้า ลูกทีมตรวจโรงเรียน ไปทุกที่ (หมายเหตุ ซนมาก ชอบคาบกระถางต้นไม้ กาบมะพร้าว กระดาษ ถุงพลาสติก มาแทะแบบละเอียดประจำ ตอนเช้าต้องเก็บกวาดบ่อยมาก)

 


เตา(gasification)แก้หนาว

5024 ความคิดเห็น โดย aram เมื่อ 4 มกราคม 2011 เวลา 0:42 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 50947

ได้อ่านลานซักล้าง เรื่องเกี่ยวกับไต้ไม่มีควัน http://lanpanya.com/wash/archives/2063  เห็นภาพชัดขึ้น  จึงได้ลองมองหาวัสดุเหลือใช้ใกล้ตัวลองทำดู  ส่วนเรื่องระบบGasification  อ่านอยู่หลายตอนมาก่อนหน้านึกภาพไม่ค่อยออกครับ

ที่ว่าน่าสนใจเพราะเป็นระบบที่ใช้เศษไม้เศษฟืนใกล้ตัวที่มีอยู่เยอะมาใช้    อีกทั้งหน้าหนาวก็หาอะไรเกี่ยวกับไฟเล่นแก้หนาวได้ด้วย  อันดับแรกก็คือจะเริ่มออกแบบระบบอย่างไรภายใต้วัสดุอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว หาง่ายๆ   ไม่ลองไม่รู้นะสิครับ

อุปกรณ์ทำเตา

  1. เริ่มที่เก็บท่อเหล็กกลม 6 นิ้วที่มี  ตัดมากะเอาสูง 50 เซนติเมตร   ทำเป็นปลอกนอก เชื่อมปิดท้าย
  2. เก็บท่อเหลี่ยม 4*4นิ้ว ตัด 40 เซนติเมตร ทำบ่ารับใช้เป็นห้องเผาไหม้เชื่อม ปิดก้น เจาะรู 4 หุนให้อากาศเข้าด้านข้างและข้างใต้ เว้นระยะห่างข้างบนและล่างไว้อย่างละ 5 เซนติเมตร  (พื้นที่ห้องเผาไหม้ 40ตารางเซนติเมตร)
  3. ทำฝาปิดบน  (แต่เปิดช่องไว้ ด้วยท่อกลม 2นิ้ว) ให้เปลวไฟขึ้น
  4. เชื่อมปิดก้นท่อเหล็กกลม ที่เป็นปลอกนอก ทำบ่าในรับท่อเหลี่ยมให้ลอยขึ้น
  5. ต่อท่อ 4หุนเพื่อเป็นท่อ Gas Out
  6. เจาะท่อกลางและต่อท่อขนาด 2 นิ้วไว้เป็นช่อง  Air In

 จุดเตาโดยใช้ลมเป่าช่วย       จุดจากด้านบน

เมื่อประกอบเสร็จแล้วทดลองจุดดูโดยใช้น้ำมันกรอกไปในห้องเผาไหม้ ตามด้วยปั๊มลมเป่าให้ไฟลุกจนติดเชื้อเพลิงด้านใน เมื่อไม่เป่าลมไฟจะค่อยๆดับ พบว่าติดยากพอสมควรต้องอาศัยลมเป่าให้ไฟติดตลอด ควันเยอะมากยุงหนีหมด  รอบนี้เลยเป็นเตาไล่ยุงไปก่อน แต่ก็มีการระอุอยู่ข้างใน  เมื่อเตาเย็นลองเทเชื้อเพลิงออกพบว่าได้ผลผลิตเป็นถ่านประมาณ 1 ใน 4ของเตา

โจทย์ต่อไปเจาะรูอากาศเพิ่มอีก 1 ช่อง เป็นท่อช่องสี่เหลี่ยม 2*2 นิ้วใต้ฐานห้องเผาไหม้   รอบนี้ไม่ใช้น้ำมันกรอก แต่ใช้เศษไม้จุดจากข้างบน  ตอนแรกก็ใช้พัดช่วยให้ลุกไหม้ เมื่อพบว่าลุกไหม้แล้วก็ปิดฝาครอบ ครับ เปลวไฟเริ่มระอุขึ้นด้านบน ส่วนด้านในก็จะมีเปลวลอดเข้ามาในช่องของห้องเผาไหม้   พุ่งสูงประมาณ 4 - 5 นิ้วจากปากท่อบน

จับเวลา15 นาทีแรกในการเริ่มจุดติดแล้ว ลุกไหม้ต่อไปอีก 1 ชั่วโมงจากนั้นก็จะค่อยๆมอดเหลือถ่าน Biochar เทออกดูเมื่อเตาเย็นได้ถ่านประมาณ 1 ใน 5 ของเตา  รอบนี้คิดว่าอากาศเข้าน่าจะพอดีกว่ารอบแรกครับ(เผาไหม้ได้ดีขึ้น)

 ข้อสังเกตที่พบ

 - สามารถนำไปใช้ประกอบอาหารประเภทที่ใช้ไฟอ่อนๆได้ ยังไม่ได้ทดลองจับเวลาต้มน้ำดูเพราะมัวแต่ลุ้นไฟให้ติดครับ

  • - ถ้าไฟติดแล้วถ้าเขย่าหรือกระเทือนเชื้อเพลิงจะยุบตัวลงและเกิดควันโขมง
  • - ท่อ 4 หุนที่อยู่ด้านล่างกลายเป็นท่อดูดอากาศเข้าเพราะท่อเย็นและดูดเปลวไฟจากไฟแช็คเข้าไปในเตาแทน (ตอนแรกจะใช้เป็นท่อ Gas out แต่กลายเป็น Air In แทน)
  • - มีช่อง Air In เพิ่มเป็น 2 ช่องใหญ่กับอีก 1 ช่อง 4 หุนเล็กจุดติดได้ง่ายขึ้น
  • น่าจะพัฒนาสู่ระดับในครัวเรือน  ใช้หุงข้าว ต้มแกง อุ่นอาหาร ผิงไฟเพื่อให้ใช้ได้ง่ายขึ้นได้ครับ รวมทั้งลดการใช้ไฟฟ้า ใช้แก็สลง

 



Main: 1.0798358917236 sec
Sidebar: 2.4985270500183 sec