“เจ้าเป็นไผ”

5 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 5 October 2008 เวลา 4:01 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, ลานปัญญา, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4420

“เ จ้ า เ ป็ น ไ ผ” คำถามง่ายๆ ของชาวเฮฯ แต่ตอบยากชะมัด

แม้ว่าจะไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่เฉลยได้อย่างการเฉลยข้อสอบ แต่คำตอบที่เป็นการเล่าประวัติตำแหน่งหน้าที่การงานนั้น ผิดอย่างแน่นอน

คำถาม เจ้าเป็นไผ นั้น ถามง่ายๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง คนเราจะเป็นเพื่อนกัน ก็ควรรู้จักกันไว้บ้าง ไม่เพียงแต่พื้นเพ ปูมหลัง นิสัยใจคอ หรือเรื่องพื้นๆ ที่เกี่ยวกับการแนะนำตัวอื่นๆ แต่ผมคิดว่า อย่างน้อยมีอีกสองเรื่องสำคัญคือ

  • เรียนรู้ได้อย่างไร -> เล่าผ่านประสบการณ์ ที่หล่อหลอมมาจนท่านเป็นท่านในปัจจุบัน
  • จุดหมายปลายทางทิศทาง -> ต้องการอะไร และจะทำอะไร

เจ้าเป็นไผ ไม่ใช่การเล่าเรื่องเพื่อให้คนอื่นมาชื่นชมหรอกครับ นั่นมันเรื่องเด็กๆ; มันไม่ใช่ความผิดที่ใครจะมาชื่นชม แต่หากว่าเราทำอะไรโดยหวังให้คนอื่นมาชื่นชม (ซึ่งเมื่อไม่ชมก็เกิดเป็นง่อย หรือว้าเหว่ขึ้นมาอย่างกระทันหัน) แบบนี้เป็นการการของการเสพติดคำชมแล้วล่ะครับ เป็นอาการของคนที่ตั้งตนอยู่ในความประมาท อีกทั้งไม่มี self-esteem ด้วย หลงอยู่กับคำป้อยอที่ไม่จริง

เพราะการชมบ่อย-ชมมาก-ชมโดยไม่มีเหตุผล ก็เป็นการเสแสร้งประจบประแจง — สังคมไทยจึงเป็นอยู่อย่างในปัจจุบัน คือจะต้องมีการหล่อลื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ยอมทำในสิ่งที่ต้องทำหากไม่ได้อะไรตอบแทน ไม่มี self-esteem

ความชื่นชมนั้น ต้อง earn มา กล่าวคือหามาได้แบบที่สมควรจะได้รับด้วย ซึ่งหมายความว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างที่มีผลต่อผู้อื่น ไม่ใช่การกระทำเพื่อตนเอง


Geotagging ของเล่นใหม่

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 4 October 2008 เวลา 21:14 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4240

ตามที่เล่าให้ฟังในลานเจ๊าะแจ๊ะว่าได้โทรศัพท์มาใหม่ โทรศัพท์เครื่องนี้ มีกล้อง 3.2 megapixels และมี GPS (ซึ่งไม่ใช่ A-GPS) อยู่ภายในด้วย

คงจะดีไม่น้อยหากรูปถ่ายมีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่ง เพื่อที่จะรู้ว่ารูปนั้น ถ่ายที่ไหน

โทรศัพท์ที่ผมได้มา ไม่เขียนตำแหน่ง GPS ลงไปใน EXIF ซึ่งเป็นข้อมูลเสริมของรูป JPEG แต่ก็มีวิธีการที่ช่วยให้ทำได้ดังนี้

  1. โหลดโปรแกรมฟรีจาก locr.com จะสมัครเป็นสมาชิกก็ได้ครับ เค้าให้โควต้าอัพโหลดรูปขึ้นได้เดือนละ 100 MB
  2. โปรแกรมนี้ ใช้ได้บน 3 platform คือ Windows, Windows Mobile และ Symbian ซึ่งสองระบบหลังเป็นระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือ หมายความว่าติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์มือถือ
  3. หลังจากติดตั้งโปรแกรม เมื่อเราถ่ายรูป ก็จะมีทางเลือกให้ระบุพิกัดที่อ่านจาก GPS ลงไปใน EXIF ของรูป
  4. ในกรณีที่จะอัพโหลดรูปขึ้น Flickr ต้องตั้งค่าเพิ่มอีกนิดหนึ่งคือ
            Your Account > Privacy & Permissions >Import EXIF location data: Yes

    จะเห็นรูปมี Geotagging (Latitude/Longtitude) ดังนี้
  5. แต่ถ้าอัพโหลดรูปขึ้น locr จะมีแผนที่ของจุดที่ถ่ายรูปขึ้นมาเองด้วย


อุเบกขา

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 4 October 2008 เวลา 1:11 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3856

พระนิพนธ์เรื่องอุเบกขานี้ สมเด็จพระญาณสังวรทรงแสดงถึงอุบายวีธีในการปฏิบัติตนเพื่อความสงบของจิตใจ ตั้งแต่ระดับต่ำไปถึงระดับสูง ด้วยอุบายวิธีทางธรรม ซึ่งนับว่าเป็นการวางเฉยด้วยปัญญา หรือวางเฉยอย่างถูกวิธี ฉะนั้น การฝึกหัดปฏิบัติตนตามอุบายวิธีดังกล่าวนี้ จึงจำเป็นและมีประโยชน์ต่อทุกคน เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับบรรเทาหรือแก้ไขปัญหาชีวิตในระดับหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะได้ศึกษา และหัดปฏิบัติ

ธรรมปฏิบัติข้อหนึ่งซึ่งผู้ปฏิบัติพึงปฏิบัติให้มีขึ้นก็คืออุเบกขา อุเบกขาที่พึงปฏิบัตินี้เป็นอุเบกขาส่วนเหตุ เพื่อที่จะได้อุเบกขาที่เป็นส่วนผล และคำว่าอุเบกขานี้ ก็เป็นคำที่พูดกันในภาษาไทย และก็มีคำแปลทั่วไปว่า ความวางเฉย เมื่อให้คำแปลและเข้าใจกันดังนี้ จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันก็มี เกิดความเข้าใจถูกก็มี

ส่วนให้เกิดความเข้าใจผิดนั้นก็คือ เข้าใจว่าอุเบกขาเมื่อเป็นความวางเฉยไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ก็หมายความว่าไม่ทำอะไร ไม่เอาใจใส่ในอะไร จึงดูคล้ายๆกับผู้มีใจไม่สมประกอบซึ่งไม่รู้เรื่องราวอะไร กลายเป็นผู้ที่มีใจเลื่อนลอย เป็นปัญญาอ่อนหรืออะไรทำนองนี้ ดังนี้เป็นความเข้าใจผิดในอุเบกขา ส่วนที่เป็นความเข้าใจถูกนั้นก็คือ เข้าใจอุเบกขาที่เป็นธรรมปฏิบัติอันถูกต้อง

ในขั้นนี้พึงมีความเข้าขั้นพื้นฐานไว้ก่อนว่า ความวางเฉยด้วยความไม่รู้ก็มีอยู่ แต่ว่าเป็นความวางเฉยที่ไม่ใช่ธรรมปฏิบัติในพุทธศาสนา แต่อาจเป็นอุเบกขาที่มีเป็นธรรมชาติธรรมดาเหมือนอย่างความยินดี ความยินร้าย และความวางเฉยไม่รู้จักความยินดียินร้ายที่คนทั่วไปมีกันอยู่ คือเมื่อประสบอารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยินดีก็เกิดความยินดี ประสบอารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยินร้าย ก็เกิดความยินร้าย ประสบอารมณ์ที่เป็นกลางๆ มิใช่เป็นที่ตั้งแห่งความยินดีหรือความยินร้าย ก็เกิดความรู้สึกเป็นกลาง ซึ่งก็เป็นอุเบกขา อาการของจิตเหล่านี้ทุกคนย่อมมีอยู่โดยปกติ

ผู้ที่ไม่เคยปฏิบัติธรรมเลยก็มีอุเบกขาเช่นนี้อยู่ ดังนี้เป็นอุเบกขาที่มีอยู่กันเป็นปกติ มิใช่เป็นธรรมปฏิบัติ

แต่ที่เป็นธรรมปฏิบัตินั้น หมายถึงความวางเฉยด้วยความรู้ คือรู้แล้วก็วางเฉย อันความวางเฉยด้วยความรู้นี้ เกี่ยวแก่การที่ต้องปฏิบัติทำจิตใจให้เกิดความวางเฉยขึ้น และความวางเฉยด้วยความรู้นี้ก็เป็นอาการของจิตที่มีความทนทาน รู้แล้วก็วางเฉยได้ กับเป็นอาการของจิตที่ประกอบด้วยปัญญาเพ่งพินิจรู้ จึงหมายถึงรู้เรื่องที่เป็นไป กับรู้ที่เป็นปัญญา ดังจะยกตัวอย่าง

อันเรื่องที่เป็นไปนั้น ดังเช่น นินทา สรรเสริญ กล่าวได้ว่าบุคคลทุกๆคนจะต้องมีผู้นินทาบ้าง มีผู้สรรเสริญบ้างอยู่ด้วยกันทั้งนั้น และแต่ละคนก็ต้องมีผู้นินทา มีผู้สรรเสริญไม่ใช่น้อย แต่ว่าไม่ได้ยิน จึงไม่รู้ว่าเขานินทาอย่างไรบ้าง เขาสรรเสริญอย่างไรบ้าง จิตจึงเป็นกลางๆไม่ยินดียินร้าย เพราะไม่รู้คือไม่ได้ยินเขาพูด ไม่ทราบว่าเขาพูดอย่างนั้นอย่างนี้ ดั่งนี้เป็นลักษณะที่วางเฉยด้วยความไม่รู้จริงๆ แต่อันที่จริงนั้นเขานินทาอยู่แล้ว เขาสรรเสริญอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนก็จะเป็นอย่างนี้ด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับคนเป็นอันมาก ก็จะต้องมีผู้สรรเสริญมาก มีผู้นินทามาก แต่ว่าเขาพูดลับหลังไม่รู้ เมื่อไม่รู้ก็เฉยๆ ดั่งนี้เรียกว่าเฉยด้วยความไม่รู้จริงๆ

คราวนี้เมื่อได้ยินเขาพูด ได้ทราบว่าเขาพูดนินทาบ้าง สรรเสริญบ้าง ก็วางเฉยได้ ดั่งนี้เรียกว่ามีความทนทาน เป็นการวางเฉยด้วยความรู้ คือรู้เรื่องที่เป็นไป ซึ่งน่าจะยินดีก็ไม่ยินดี น่าจะยินร้ายก็ไม่ยินร้าย วางเฉยได้ รู้ว่าเขาว่าก็วางเฉยได้ เขานินทา เขาสรรเสริญก็วางเฉยได้

อีกอย่างหนึ่งวางเฉยด้วยปัญญา คือว่าโดยปกตินั้นก็จะมีชอบใจไม่ชอบใจขึ้นมาก่อน แต่แล้วก็พิจารณาให้เกิดความรู้ที่เป็นปัญญาขึ้นมา เมื่อเกิดปัญญาขึ้นมาก็เกิดความวางเฉยได้ อันความวางเฉยได้ด้วยความรู้ที่เป็นปัญญานี้ต้องอาศัยการปฏิบัติอันเรียกว่า “โยนิโสมนสิการ” ทำไว้ในใจโดยแยบคาย พิจารณาให้เห็นเหตุเห็นผล เห็นสัจจะคือความจริง อันนี้แหละเป็นข้อปฏิบัติให้เกิดอุเบกขาซึ่งเป็นที่มุ่งหมายในทางปฏิบัติธรรม


เขื่อนใต้ดิน

อ่าน: 7052

เป็นเรื่องยากที่คนเราจะเอาชนะธรรมชาติ แต่ก็ยังพอบรรเทาได้บ้าง

เมืองไทยบ้านเรา มีทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม สลับกันไปมา ไม่ค่อยมีความพอดี ตั้งแต่ผมเกิดมา พอมีน้ำท่วมก็ร้องเพลงทางทีวี ขอรับบริจาค พอมีภัยแล้ง ก็ร้องเพลงเช่นกัน

บรรเทาทุกข์ก็ดีแล้ว แต่ป้องกันทุกข์ดีกว่าบรรเทา

โครงการแก้มลิง และพื้นที่รับน้ำชั่วคราวช่วยได้ครับ แต่ถ้าจะใช้เป็นการแก้ปัญหา ก็คงจะต้องเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่และแพงมาก ปล่อยน้ำท่วมพื้นที่แก้มลิงสูงหนึ่งเมตร ในพื้นที่หนึ่งไร่รับน้ำได้ 1600 ลบ.ม. เขื่อนปล่อยน้ำในระดับสิบหรือร้อยล้าน ลบ.ม. ต่อวัน แม่น้ำส่งผ่านน้ำไปลงทะเลไม่ทันครับ เพราะความลาดเอียงต่ำ จึงเกินน้ำเอ่อขึ้นท่วมตลิ่ง แต่ถ้ามีเขื่อนใต้ดินขึ้นเสริมพื้นที่แก้มลิง ก็น่าจะบรรเทาไปได้บ้างนะครับ ทำไมเราถึงจะคิดแบบสามมิติไม่ได้ น่าจะดีกว่าเมกะโปรเจคหลายๆ อัน

เวลาปล่อยน้ำลงเขื่อนใต้ดิน ก็ปั่นไฟไปด้วยเลย เอาไฟฟ้าขายการไฟฟ้า ภาษีต่างๆ ตกอยู่กับท้องที่ เอาไปช่วยเหลือน้ำท่วม แต่มีข้อเสียคือเวลาจะเอาน้ำขึ้นมาก็ต้องใช้ไฟ (แก้ได้ด้วยลักษณะ TOU กล่าวคือปั่นไฟขายในช่วงกลางวัน+หัวค่ำที่มีความต้องการไฟฟ้าสูงและมีราคาแพง แล้วสูบออกกลางดึกที่ราคาค่าไฟถูก) แต่ถ้าสร้างเขื่อนใต้ดินบริเวณเทือกเขาอย่างแถวเพชรบูรณ์ อาจจะไม่ต้องสูบน้ำขึ้นมาใช้เลย เพียงแต่หาทางทำทางออกของน้ำให้ดี และอาจปั่นไฟฟ้าได้อีก

เพราะเขื่อนใต้ดินอยู่ใต้ดิน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอาจจะน้อยกว่าสร้างเขื่อนธรรมดามากครับ


ฟอร์เวิร์ดเมล

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 2 October 2008 เวลา 12:27 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3398
AraiGordaiImage by AraiGordai via Flickr

อีเมลเป็นเครื่องมือสื่อสารที่แห้งมาก แต่ก็ได้รับความนิยมตลอดมา ตั้งแต่เริ่มมีอินเทอร์เน็ตสี่สิบปีก่อน

มาจนยุคปัจจุบัน อีเมลกลายเป็นเครื่องมือกระจายข่าวสารชนิดหนึ่ง จนมีคนนำไปใช้เป็นเครื่องมือโฆษณา (สแปม)

คอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันอยู่ มีโอกาสติดไวรัส และมีไวรัสบางแบบที่สามารถอ่าน contact จาก IM (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง MSN/Windows Live) เพื่อนำอีเมลไปใช้ส่งสแปมทั้งที่เป็นสแปมทางอีเมลหรือส่งเป็นไฟล์ผ่าน IM ไวรัสหลายตัวสามารถปลอมตัวโดยเลือกชื่อจาก contact ที่อ่านได้ซึ่งไม่ใช่เครื่องที่ติดไวรัส

สำหรับฟอร์เวิร์ดอีเมลที่ส่งกันระหว่างเพื่อนฝูงกัลยาณมิตรนั้น มีข้อแนะนำดังนี้

  1. ให้พิจารณาก่อนว่าควรส่งไปถึงคนที่เราอยากส่งหรือไม่ ส่งไปแล้วผู้รับได้อะไร
  2. ตัดเฉพาะข้อความที่อยากให้เขาได้รับรู้ ตัดทางที่ส่งต่อผ่านๆกันมาออกไป เช่นถ้าส่งกันมายี่สิบทอดแล้ว ส่งเฉพาะข้อความต้นทาง ไม่ต้องส่งเส้นทางของเมลที่ผ่านมาอีกสิบเก้าคน (edit ข้อความก่อนส่ง)
  3. ตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐ การส่งสแปมเป็นความผิด ดังนั้นเราจะต้องเก็บจดหมายต้นทางเอาไว้ หากมีผู้ร้องเรียนว่าได้รับสแปมแล้วสืบสาวมาถึงเรา เราจะต้องชี้แจง และมอบหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ได้ว่าได้รับมาจากใคร — แต่ถ้าเราไม่ส่งต่อ ก็จะพ้นจากความเสี่ยงที่จะละเมิดกฏหมายนี้ทันที
  4. เพื่อไม่ให้ขยายผลจากไวรัสมากไปกว่านี้ แทนที่จะเอาชื่อคนอีกสามสิบที่เราส่งไปถึงใส่ไว้ในช่อง To: ตามตรรกะ ควรเอาไปใส่ในช่อง Bcc: แทน ผู้รับจะเห็นว่าส่งมาจากเราคนเดียว โดยไม่เห็นว่าเราส่งไปถึงอีเมลอื่นๆอีก หากผู้รับติดไวรัส ไวรัสนั้นจะไม่ได้อีเมลอื่นๆ ไปใช้
  5. ข้อความขนาดใหญ่ ไม่ควรส่งทางอีเมล ใช้วิธีอัพโหลดขึ้นเว็บ แล้วส่ง URL ไปแทนน่าจะดีกว่าครับ


การจัดการกับความแตกต่าง

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 2 October 2008 เวลา 5:21 ในหมวดหมู่ การเมือง การปกครอง กฏหมาย #
อ่าน: 3781

พระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร วุฒิบัตร ประกาศนียบัตร และเข็มวิทยฐานะ
แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
วิทยาลัยการทัพบก วิทยาลัยการทัพเรือ วิทยาลัยการทัพอากาศ
โรงเรียนเสนาธิการทหาร โรงเรียนเสนาธิการทหารบก
โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ และโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ
ณ หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
วันพฤหัสบดี ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๕

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้มามอบปริญญาบัตร วุฒิบัตร ประกาศนียบัตร และเข็มวิทยฐานะ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยการทัพบก วิทยาลัยการทัพเรือ วิทยาลัยการทัพอากาศ โรงเรียนเสนาธิการทหาร โรงเรียนเสนาธิการทหารบก โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ และโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ อีกวาระหนึ่ง ขอแสดงความชื่นชมกับทุกๆ ท่านที่ได้รับเกียรติ และได้รับความสำเร็จในการศึกษา

ปฏิบัติการอันเป็นหลักใหญ่ในการป้องกันรักษาความมั่นคงของชาติ ตามที่ทราบกันทั่วไป ได้แก่การสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความเป็นอิสระและความเสมอภาคให้เกิดมีในราษฎรส่วนใหญ่ ทางราชการทุกๆ ฝ่ายจึงถือเป็นหน้าที่อันสำคัญ ที่จะนำเอาระเบียบปฏิบัติต่างๆ ออกเผยแพร่ และหยิบยื่นให้ประชาชนได้ใช้โดยทั่วถึง

อันชุมชนของเราทั่วทั้งประเทศนั้น แท้จริงยังมีสภาพที่แตกต่างเหลื่อมล้ำกันอยู่มาก เนื่องจากมีเหตุมีปัจจัยปรุงแต่งไม่เหมือนกัน ชุมชนที่ตั้งในแหล่งที่ดี ที่อุดมสมบูรณ์ย่อมมีความเจริญ ประชาชนย่อมมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจสังคมและการศึกษาแข็งแรงมั่นคงพร้อมที่จะรับเอาระเบียบปฏิบัติของทางราชการไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ แต่ชุมชนที่อยู่ในที่ซ่อนเร้นและแร้นแค้น จะตกอยู่ในสภาพที่ล้าหลัง พื้นฐานทางเศรษฐกิจสังคมและการศึกษาของประชาชนจะไม่มั่นคงพอที่จะรับเอาวิธีการและระเบียบแบบแผนต่างๆ มาใช้ประโยชน์ได้ เมื่อทางราชการพยายามนำไปให้ใช้ ก็จะเกิดเป็นภาระหนักขึ้นแก่ชุมชนนั้น เขาจะมีความรู้สึกว่าถูกบังคับ และต้องการดิ้นรนเพื่ออิสรภาพ และผลที่เกิดตามมาจะมีอย่างไร ก็ไม่จำเป็นต้องกล่าว เพราะฉะนั้น ในการที่ท่านทั้งหลายจะทำงานป้องกันประเทศต่อไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ดุลยพินิจ พิจารณาสถานการณ์และสภาพการณ์ในท้องถิ่นและในตัวประชาชนให้เข้าใจโดยถ่องแท้ เพื่อตัดสินได้ถูกต้องว่าที่ใดควรต้องใช้มาตรการอย่างไร ราษฎรในที่บางแห่งนั้นท่านจะต้องช่วยเหลือเขา เริ่มตั้งแต่การเลี้ยงชีวิต การครองชีวิต การอยู่ร่วมกันเป็นต้นขึ้นมา เมื่อเขาสามารถยกฐานะความเป็นอยู่ขึ้นมาได้ มีความรู้จักรับผิดชอบ รู้จักหน้าที่ในตนเองในส่วนรวมแล้วจึงนำเอาระเบียบเอากฎเกณฑ์ของการปกครองมาใช้แก่เขาได้ ข้าพเจ้าใคร่ขอให้ท่านทั้งปวงได้ใช้ความรู้ความสามารถ ความฉลาดรอบคอบ ความเสียสละ และความกล้าหาญอดทน ปฏิบัติงานซึ่งมีความสำคัญยิ่งของท่านให้ได้ผลสมบูรณ์เต็มที่เพื่อความวัฒนาถาวรและความผาสุกของชาติไทยของเราสืบไป

ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จความเจริญทุกๆ ประการ ทั้งมีความสุขความสวัสดีตลอดกาลทุกเมื่อโดยทั่วกัน.


ความเจริญผาสุกเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 1 October 2008 เวลา 3:55 ในหมวดหมู่ การเมือง การปกครอง กฏหมาย #
อ่าน: 3918

พระราชดำรัส
ในการเสด็จออกมหาสมาคม
ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช ๒๕๓๘
ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
วันอังคาร ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๘

ข้าพเจ้ามีความปีติชื่นชมอย่างยิ่ง ที่ท่านทั้งหลายพรั่งพร้อมกันมาอวยพรวันเกิดด้วยไมตรีจิต. ขอขอบพระทัยและขอบใจในคำอวยพรอันไพเราะ เปี่ยมด้วยความปรารถนาดีโดยประการต่างๆ. ขอทุกท่านจงได้รับพรและไมตรีของข้าพเจ้าจากใจจริงเช่นเดียวกัน.

ความเจริญผาสุกและความตั้งมั่นของบ้านเมือง เป็นสิ่งสำคัญสูงสุดที่บุคคลพึงรำลึกถึงและพึงประสงค์. และความเจริญมั่นคงนั้นจะเกิดมีขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อประชาชนในชาติมีความอยู่ดีเป็นปรกติสุข ปราศจากทุกข์ยากเข็ญ. ในระยะนี้ สภาวการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา โดยเฉพาะสภาวะน้ำท่วม ได้ก่อให้เกิดความทุกข์เดือดร้อนแก่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วหน้า. จำเป็นที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันปัดเป่าแก้ไขให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และเมื่อผ่านพ้นภาวะวิกฤตไปแล้ว ก็จะต้องคิดค้นหาวิธีทำการป้องกันแบบถาวรยั่งยืน. ข้าพเจ้าจึงใคร่จะปรารภกับทุกท่านว่า ความทุกข์เดือดร้อนของประชาชนนั้น มิใช่เป็นความรับผิดชอบของผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ที่จะต้องช่วยกันแก้ไขป้องกันโดยเต็มกำลัง และโครงการใหญ่ๆ ที่จัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนนั้น มิใช่จะเสร็จสิ้นในเร็ววันได้ จะต้องมีผู้รับช่วงกระทำต่อให้แล้วเสร็จ. ท่านทั้งหลายในที่นี้ล้วนแต่มีตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญอยู่ในแผ่นดิน จึงควรจะได้ตระหนักในข้อนี้ให้มากและชอบที่กระทำความคิดจิตใจให้กระจ่างแจ่มใส เพื่อลดละอคติและสร้างเสริมความเมตตาสามัคคีในกันและกัน แล้วร่วมกันเร่งรัดปฏิบัติสรรพกิจการงาน ให้ประสานสอดคล้องและปรองดองเกื้อกูลกัน โดยยึดเอาความมั่นคงของประเทศชาติและประโยชน์สุขของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด.

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยทั้งมวลเคารพเลื่อมใส จงอภิบาลรักษาท่านให้มีความสุข ปราศจากทุกข์ปราศจากภัยทุกเมื่อ เพื่อให้มีกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญา ที่จะคิดอ่านปฏิบัติงานของแผ่นดิน นำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นอุปสรรค และบรรลุถึงความผาสุกสวัสดีได้ดังที่ตั้งใจปรารถนาจงทุกประการ.

อ่านต่อ »



Main: 0.16953802108765 sec
Sidebar: 0.27822685241699 sec