สัญญาณโลกาวินาศ !?
อ่าน: 4159เมื่อสองวันก่อน นี้มีข่าวใหญ่ทางดาราศาสตร์ ที่บอกว่าโลกมีโอกาสที่จะถูกอุกกาบาตขนาดยักษ์พุ่งชน มากขึ้นกว่าที่เคยคิดสิบเท่า (an order of magnitude) พอดูละเอียดแล้ว ก็ยังน่าสงสัยสมมุติฐานนี้
เมื่อเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว นักดาราศาสตร์สมัครเล่น ได้ตั้งกล้องส่องไปยังดาวพฤหัส แล้วพบ”รอยช้ำ”ในบรรยากาศของดาวพฤหัส มีขนาดใหญ่เท่าโลก เมื่อข่าวกระจายออกไป ทั้งนักดาราศาสตร์สมัครเล่นและมืออาชีพ ต่างก็หันกล้องไปดูดาวพฤหัสเพื่อพยายามอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น
แล้วก็มีฉันทามติว่าดาวพฤหัสถูกพุ่งชนโดยดาวหางหรืออุกกาบาต แต่เรื่องที่นักดาราศาสตร์ประหลาดใจอย่างใหญ่หลวงก็คือ การพุ่งชนนี้เกิดขึ้นเพียง 15 ปีหลังจากที่ดาวหาง Shoemaker-Levy พุ่งขนดาวพฤหัสในปี 2537
Agustin Sánchez-Lavega และคณะจาก University of the Basque Country ในเมือง Bilbao ทางตอนเหนือของสเปน ได้ตีพิมพ์การวิเคราะห์ถึงผลกระทบของการพุ่งชน ตลอดจนโอกาสที่จะเกิดขึ้นที่นำมาซึ่งความกังวล
การประมาณการโอกาสของการชน ทำได้ยากมาบนดาวพฤหัสเพราะมีก๊าซหุ้มอยู่ เมื่อชนแล้ว “รอยช้ำ” ก็จะหายไปในเวลาไม่นาน ดังนั้นนักดาราศาสตร์ จึงพึ่งการสังเกตในประวัติศาสตร์ ซึ่งก็มีเพียงสองครั้งเท่านั้น คือ Shoemaker-Levy 9 ในปี 2537 และการสังเกตของ Giovanni Cassini ในปี 2183 (ห่างกัน 354 ปี) ตลอดจนอาศัยตัวช่วยเช่นการนับจำนวนหลุมอุกกาบาตบนผิวดวงจันทร์ต่างๆ ของดาวพฤหัสดวงที่ไม่มีบรรยากาศ
อย่างไรก็ตาม การพุ่งชนเมื่อปีที่แล้วเปลี่ยนแปลง “โอกาส” นี้อย่างใหญ่หลวง เพราะมันห่างจากการพุ่งชนใหญ่ครั้งก่อนเพียง 15 ปีเท่านั้น อาจจะแสดงว่าดาวพฤหัสถูกพุ่งชนด้วยเทหวัตถุขนาดใหญ่มาก บ่อยกว่าที่เราเคยคิดไว้เยอะ หมายความว่าดาวพฤหัสถูกชนโดยเราไม่รู้เลย — เหตุที่เราไม่รู้เรื่องนี้เพราะความก้าวหน้าเรื่องกล้องดิจิตอล และซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพ เพิ่งจะมาถึงมือนักดาราศาสตร์สมัครเล่นเมื่อสิบปีที่ผ่านมานี้เอง นักดาราศาสตร์อาชีพที่เข้าถึงกล้องดูดาวกำลังสูง ก็มองไกลออกไปในจักรวาล ไม่ค่อยได้สนใจ “เรื่องใกล้ตัว” อย่างดาวพฤหัสเท่าใดนัก
ดาวพฤหัสมีโอกาสถูกพุ่งชนมากกว่าโลกมากนัก เพราะมันใหญ่กว่า และมีมวลมากกว่าโลกมาก ดังนั้นจึงดึงดูดเทหวัตถุเข้าสู่ตัวมันได้มากกว่าโลก
ในปัจจุบัน วงการดาราศาสตร์เชื่อว่าโลกถูกชนโดยเทหวัตถุขนาด 1 กม. ทุกๆห้าแสนปี ซึ่งอุกกาบาตขนาดนี้ สามารถล้างอารยธรรมของโลกได้ในแบบที่เราคาดไม่ถึงทีเดียว
การค้นพบการพุ่งชนดาวพฤหัสเมื่อปีที่แล้ว (แม้ว่าเร็วไปที่จะด่วนสรุป) อาจหมายถึงการเปลี่ยนความถี่ของการที่ดาวเคราะห์ถูกวัตถุขนาดใหญ่ชน จาก 354 ปี เหลือ 15 ปี ด้วยสัดส่วนเดียวกัน การประมาณการว่าโลกถูกวัตถุขนาดใหญ่ชนทุก 500,000 ปี ควรจะเปลี่ยนเป็น 21,000 ปีหรือไม่ เมื่อสองหมื่นปีก่อน มนุษย์ยัง “ไม่มีอารยธรรม” เลย (บางทีผมก็สงสัยว่าวันนี้ มีหรือไม่)
อย่างไรก็ตาม คณะผู้วิจัยก็ยังพยายามค้นคว้าต่อไปโดยด่วน เพราะว่าการตั้งสมมุติฐานโดยใช้ “ตัวอย่าง” อันเดียว ดูจะเลื่อนลอยไป
« « Prev : เส้นทางของพระแก้วมรกต
3 ความคิดเห็น
ในวันที่เมืองไทยกำลังวินาศ มองไปไกลๆอย่างนี้ก็ดีครับ
เพราะเหตุการณ์วันนี้จะเป็นแค่เสี้ยวเล็กๆในประวัติศาสตร์ของไทย
คิดเรื่องโลกแตกก็ดีครับ ได้ตั้งสติว่ามีอะไรที่ควรต้องรีบทำหรือเปล่า
แต่ถึงเวลาจริงๆคงไม่รู้สึกอะไรหรือแม้แต่เสียดายอารยธรรมมนุษย์(ที่ไม่แน่ใจว่ามีจริงหรือเปล่า)
เพราะโลกจะเป็นแค่เสี้ยวเล็กๆในประวัติศาสตร์ของจักรวาลเท่านั้นเอง
ถ้าดาวที่ว่ากำลังพุ่งมา คงจะกลบข่าวผีบ้าเผาบ้านเมืองอย่างแน่นอน
ผมเชื่อเรื่องกรรมครับ ถ้าไม่อยากเจออีก ก็อย่าก่อกรรมต่อกันอีกเลย — การไม่ก่อกรรมต่อกันนี้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้ผิดชอบชั่วดี จะให้รักกัน สมานฉันท์ปรองดอง เจรจาลูกเดียว — ถ้าไม่รู้อะไรผิดอะไรถูก ก็เรียกว่าไม่รู้ผิดชอบชั่วดีครับ ต่อให้ได้ ปญอ.(ปริญญาเอก) ก็มีความหมายเพียง ปญอ.(ปัญญาอ่อน)