มหาสมัยสูตร

โดย Logos เมื่อ 1 October 2010 เวลา 16:11 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3773

คิดอยู่นานเหมือนกันครับ ว่าจะหาประเด็นอะไรได้กว้างๆ จากมหาสมัยสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรใหญ่ ที่เหมาะกับผู้อ่านบล็อกนี้ซึ่งมีหลากหลาย

ตัดสินใจปล่อยบันทึกนี้ออกเพราะเพื่อนที่อเมริกาบอกมาว่าเพื่อนคนออกจากงาน การจ้างงานเป็นความพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย ผมเรียนรู้มาว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฝุ่นตลบ อย่าเพิ่งถามเหตุผล เพราะว่าบ่อยมากเลยที่แยกไม่ออกระหว่างความจริงกับความคิดอันบิดเบี้ยว ควรตั้งข้อสังเกตไว้เสมอเมื่อเจอเรื่องที่มีเหตุผลสอดประสานกันมากมายจนผิดปกติ แล้วใครที่อธิบายทุกอย่างได้กระจ่างแจ้ง สอดคล้องสมเหตุผลไปหมด ก็ไม่ธรรมดาหรอกครับ เผอิญไม่เคยเจอมาเลยสักคน

มหาสมัยสูตรเป็นพระสูตรใหญ่ [มีตำนาน] ตั้งแต่พระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพระเจ้าสุทโธทนะ เมื่อพระพุทธบิดานิพพานแล้ว พระญาติวงศ์ศากยะกับวงศ์โกลิยะ เกิดจะเปิดศึกแย่งน้ำในแม่น้ำโรหินี พระพุทธเจ้าเสด็จไปห้าม [เกร็ดพระพุทธรูปปางห้ามญาติ] พระญาติทั้งสองฝ่าย ฝ่ายละ 250 องค์ ขออุปสมบท และบรรลุอรหัตผลทั้ง 500 รูป

ตามอรรถกถา เมื่อพรหมและเทวดารู้ว่ามีพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์อีก 500 รูป ประชุมอยู่ จึงไปเฝ้า”ชม”

ตามอรรถกถา พระพุทธเจ้ารู้ว่ามีพรหมและเทวดามาประชุมเป็นจำนวนมาก ในสมัยของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะมีเหตุการณ์ใหญ่อย่างนี้ครั้งหนึ่งเท่านั้น จึงตรัสแสดงอีก 6 พระสูตร ตามจริตของผู้ฟัง

ต่อมาก็ทรงใคร่ครวญธรรมเทศนาอันเป็นที่สบายแก่พวกจริตเหล่านั้น ทรงกำหนดเทศนาว่า พวกเทวดาราคจริต เราจักแสดงสัมมาปริพพาชนียสูตร (สูตรว่าด้วยเรื่องที่พึงเว้นโดยชอบ)

จักแสดงกลหวิวาทสูตร (สูตรเกี่ยวกับเรื่องทะเลาะวิวาท) แก่พวกโทสจริต

จักแสดงมหาพยูหสูตร (สูตรว่าด้วยพวกใหญ่) แก่พวกโมหจริต

จักแสดงจูฬพยูหสูตร (สูตรว่าด้วยพวกน้อย) แก่พวกวิตกจริต –> [หาที่อ้างอิงไม่เจอครับ มีแต่จูฬวิยูหสูตร]

จักแสดงตุวัฏฏกปฏิปทา (ข้อปฏิบัติของนกคุ่ม) แก่พวกสัทธาจริต

จักแสดงปุราเภทสูตร (สูตรว่าด้วยเรื่องแตกในอนาคต) แก่พวกพุทธิจริต

แล้วก็ทรงใส่พระทัยถึงบริษัทนั้นอีกว่า บริษัทพึงรู้ด้วยอัธยาศัยของตน ด้วยอัธยาศัยของคนอื่น ด้วยการเกิดเรื่องขึ้น หรือด้วยอำนาจการถามหนอแล

แต่นั้นก็ทรงทราบว่า บริษัทพึงรู้ด้วยอำนาจการถามแล้ว

เมื่อจบพระสูตร พรหมและเทวดาหนึ่งแสนโกฏิ จากสิบหมื่นจักรวาล ก็บรรลุอรหัตผล จึงเรียกเป็นพระสูตรใหญ่

พระสูตรนี้มีเรื่องอิทธิปาฏิหารย์อยู่มาก ซึ่งผมไม่คิดว่าเป็นแก่นธรรม ตลอดจนไม่มีความสามารถที่จะยืนยันหรือปฏิเสธได้ (รู้สึกว่าคนที่ไม่รู้เรื่องที่ปฏิเสธด้วยคำว่า”ไม่”นั้น ดูออกจะโง่เขลา ไม่ว่าจะสมเหตุผลขนาดไหนก็ตาม)

« « Prev : NEO ในสัปดาห์โป๊ะเช๊ะ

Next : ฝายชะลอน้ำได้… ขั้นบันไดก็ชะลอน้ำได้ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 Nothing ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 October 2010 เวลา 18:38

    ช่วงนี้ได้ยินอะไรที่เป็น พระสูตรๆ ชักหูผึ่ง ขอนำไปศึกษาก่อนครับ
    ผมเชื่อว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่อายตนะหยาบๆ ของเรารับรู้ไม่ได้ งั้นด่วนสรุป ไม่ได้จริงๆ ครับ

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 October 2010 เวลา 19:08
    สาธุ คาดอยู่แล้วว่าคุณ Nothing จะเข้าใจ บันทึกนี้เขียนไว้ 3 ประเด็นนะครับ
  • #3 Nothing ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 October 2010 เวลา 23:26

    ยังไม่มีเวลาอ่านเลยครับ ขอเปิดค้างไว้ก่อน ว่าแต่ว่า 3 ประเด็นที่ว่ามีอะไรบ้างครับ

  • #4 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 October 2010 เวลา 0:01
    อ้าว ในฐานะลูกค้าเก่า บอกให้ก็ได้ครับ

    เรื่องแรกเพื่อนร่วมงานเก่าออก ผมไม่รู้อะไร อย่าถาม ไม่อยากเดา และไม่สามารถอธิบายเรื่องที่ไม่รู้เรื่องได้ครับ

    เรื่องที่สอง เป็นจริต 6 แบบสองทาง ในเมื่อไม่มีพุทธจักขุ ไม่รู้อัธยาศัยของคนฟัง เมื่อตอบอะไรไปแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าตรงกับจริตของผู้ฟังแล้วเขาเข้าใจ ในทำนองกลับกัน เมื่อฟังอะไรแล้วยังไม่เข้าใจ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่มีคำอธิบายแบบอื่นที่สามารถเข้าใจได้ เมื่อไม่เข้าใจ ก็ถามซิครับ

    เรื่องที่สาม เคล็ดวิชา #3 จปผ๑ หน้า 30

    ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของย่อหน้าสุดท้ายของหน้า 26 จปผ๑ นะครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.11489105224609 sec
Sidebar: 0.12672901153564 sec