แกล้งบ้านให้ร้อน

อ่าน: 5173

ไปเจอการออกแบบแปลกประหลาดอันหนึ่งในเขตหนาว ที่สร้างเรือนกระจกไว้ในบางส่วนของบ้าน บังคับให้ลมร้อนลอยขึ้นข้างบน แล้วนำลมเย็นจากอีกส่วนหนึ่งของบ้านให้พัดเข้ามาแทนที่ อย่างไรก็ตาม แนวคิดก็แปลกดีครับ เค้าเรียกว่า Earthship

เรือนกระจกอยู่ทางด้านใต้ เนื่องจากบ้านเราอยู่ทางซีกโลกเหนือดังนั้นพระอาทิตย์จึงอ้อมทางใต้ เรือนกระจกนั้นก็ปลูกต้นไม้ล้มลุกที่ไม่โตนักเอาไว้บังแสง แต่เรายอมให้แสงตกกระทบพื้นในบริเวณเรือนกระจก

รอบๆ บ้าน ใช้ดินกลบผนังไว้สามด้าน เป็นฉนวนความร้อนและความเย็น โดยเดินท่ออากาศเข้ามาจากด้านเหนือ ท่ออากาศนี้อยู่ใต้ดิน อากาศที่ออกมาก็จะมีความเย็นกว่าอุณหภูมิในบ้าน ในช่วงกลางคืนดินและพื้นของเรือนกระจกจะคายความร้อนออกมา ซึ่งความร้อนลอยขึ้นสูง ดูดเอาความเย็นจากท่อฝังดินเข้ามา ทำให้บ้านนี้มีการพาความร้อนที่ดี และเกิดการถ่ายเทลมตามธรรมชาติโดยไม่ใช้หน้าต่าง

อ่านต่อ »


อวิชชาเป็นมลทินอย่างยิ่ง

อ่าน: 3538

ความไม่รู้เป็นยอดแห่งมลทิน การที่ไม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้ เป็นเหตุแห่งยอดมลทิน สื่อสารเรื่องที่ผิดเป็นการขยายความไม่รู้

มลสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ 23 ข้อ 105

[๑๐๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มลทิน ๘ ประการนี้ ๘ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนต์มีการไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน ๑ เรือนมีความไม่หมั่นเป็นมลทิน ๑ ความเกียจคร้านเป็นมลทินของผิวพรรณ ๑ ความประมาทเป็นมลทินของผู้รักษา ๑ ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของหญิง ๑ ความตระหนี่เป็นมลทินของผู้ให้ ๑ อกุศลธรรมที่ลามกเป็นมลทินแท้ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ๑ เราจะบอกมลทินที่ยิ่งกว่ามลทินนั้น คือ อวิชชาเป็นมลทินอย่างยิ่ง ดูกรภิกษุทั้งหลายมลทิน ๘ ประการนี้แล ฯ

มนต์มีการไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน เรือนมีความไม่หมั่นเป็นมลทิน ความเกียจคร้านเป็นมลทินของผิวพรรณ ความประมาทเป็นมลทินของผู้รักษา ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของหญิง ความตระหนี่เป็นมลทินของผู้ให้ ธรรมอันลามกเป็นมลทินแท้ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เราจะบอกมลทินที่ยิ่งกว่านั้น คือ อวิชชาเป็นมลทินอย่างยิ่ง ฯ

อ่านต่อ »


ถนนสูง เขื่อนยาว

อ่าน: 2778

การเปลี่ยนแปลงใดๆ มีผลกระทบต่อเนื่องต่อสิ่งที่อยู่รอบๆ เสมอ

รัฐบาลมีดำริจะสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมโดยยกถนนขึ้นอีก 1 เมตร และสร้างคันกั้นน้ำรอบเขตเศรษฐกิจสำคัญ เช่นนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างที่เขียนในบันทึกที่แล้วว่าผมคิดว่าเป็นสิทธิที่จะป้องกันชีวิตและทรัพย์สินครับ

แต่ในทำนองกลับกัน ก็อยากให้เรียนรู้จากบทเรียนของเขื่อนป้องกันสึนามิในญี่ปุ่นด้วย แม้ตามสถิติแล้ว ไม่น่าจะมีสินามิสูงเกิน 10 เมตร แต่เมื่อเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงผิดปกติและเกิดสึนามิตามมา คลื่นข้ามเขื่อนเข้ามาทำลายบ้านเมืองได้ เมื่อข้ามเข้ามาแล้ว น้ำกลับออกไปลงทะเลไม่ได้เนื่องจากมีเขื่อนขวางอยู่ ต้องค่อยๆ ระบายน้ำออก ซึ่งก็ยังดีที่ว่าแผ่นดินบนฝั่งอยู่สูงกว่าทะเลเสมอ จึงใช้แรงดึงดูดระบายน้ำได้

แต่กรณีของที่ราบลุ่มภาคกลางนั้น บางแห่งมีสภาพเป็นแอ่ง ปิดล้อมด้วยความสูงต่ำของภูมิประเทศ บางทีก็ด้วยถนน แม้ปริมาณน้ำส่วนใหญ่ผ่านไปหมดแล้ว แต่ก็ยังมีน้ำค้างทุ่งอยู่ในหลายอำเภอ ปัจจุบันน้ำลดลงแต่ยังไม่แห้ง พื้นที่ยังใช้เพาะปลูกไม่ได้ ทำการฟื้นฟูไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปถึงเมื่อไร ตอนนี้เท่าที่ทราบ รอน้ำระเหยไปตามธรรมชาติหรือไม่ก็ต้องจ่ายค่าพลังงานสำหรับสูบน้ำเองนะครับ

ถ้ายกระดับของ “เขื่อน” ขึ้นอีกหนึ่งเมตร แล้วกั้นน้ำไม่ให้ข้ามสันเขื่อนมาได้ จะมีอานิสงส์ดีคือจะไม่เกิดอาการน้ำค้างทุ่งแบบนี้อีก แต่ในทำนองกลับกัน ถ้าเกิดฝนตกหนัก หรือน้ำหลากข้ามสันเขื่อนเข้ามาได้ จะเกิดอาการน้ำค้างทุ่งสูงขึ้นอีกหนึ่งเมตร ท่วมหนักและยาวนาน พื้นที่หลังแนวถนนเขื่อน จะอยู่อาศัยไม่ได้เลย เพราะน้ำจะท่วมลึกขึ้นอีก 1 เมตร

อ่านต่อ »


แนวคิดเกี่ยวกับป่าต้นน้ำ

อ่าน: 3081

ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ต่างคนต่างพยายามป้องกันทรัพย์สินและท้องถิ่นของตนเอง ในเมื่อปลายปีที่ผ่านมาเกิดมหาอุทกภัยทำให้เสียหายหนัก ปีนี้ทั้งรัฐ ทั้งเอกชนก็เกิดความพยายามต่างๆ มากมายที่จะป้องกันสถานการณ์ในลักษณะดังกล่าว แต่ผมคิดว่ากระบวนการคิดนี้ รีบเร่งจนอาจจะคิดไม่จบนะครับ

การปลูกป่าที่ต้นน้ำนั้น ก็สมควรอยู่แล้วครับ (ที่จริงคือไม่น่าไปถางป่าเลยตั้งแต่ต้น) แต่ลงมือปลูกวันนี้ เมื่อไรจะเป็นป่า

หยดน้ำมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 มม. คิดเป็นปริมาตรของหยดน้ำ 0.03 มิลลิลิตร ถ้าใบไม้หนึ่งใบมีน้ำฝนค้างอยู่หนึ่งหยด ต้นไม้เล็กหนึ่งต้นมีใบไม้พันใบ ต้นไม้เล็กสามหมื่นต้นก็จะมีใบไม้รวมกันสามสิบล้านใบ และสามารถหยุดน้ำไว้บนอากาศได้ 1 ลูกบาศก์เมตร (ไม่เยอะหรอกครับแต่ได้มาฟรี แล้วทำให้บริเวณนั้นเย็นสบายจาก evaporative cooling ดูน้ำหนาวที่โกร๋นไปหมดแล้วสิครับ ตอนนี้ไม่หนาวแล้ว) ต้นไม้เล็กสามหมื่นต้นนี่ เมื่อเทียบกับพื้นที่ภูเขาหนึ่งลูก เล็กมากครับ แต่ถ้าคิดจะ “ปลูก” จะเป็นมหกรรมใหญ่โตเลย

การปลูกป่าต้นน้ำ ควรหาต้นไม้โตเร็ว ใบเยอะ เพื่อปลูกเขื่อนไว้ในอากาศ อย่าเพิ่งไปปลูกไม้เบญจพรรณ ซึ่งโตช้า ใบใหญ่แต่ใบจำนวนน้อยเลยครับ ปลูกไม้พุ่มยังดีกว่า โตเร็ว ปลูกได้ถี่ ร่มไม้คลุมดิน ป้องกันดินจากแสงแดดเผา ลดแรงปะทะของเม็ดฝนซึ่งทำให้เกิดการกัดเซาะได้ด้วย

“ปลูกป่าแบบไม่ต้องปลูก” พระราชทานแนวคิดไว้ จำได้ไหมครับ

อ่านต่อ »


เตาเผาถ่านไร้ควัน

อ่าน: 13795

เรื่องนี้ ที่จริงควรจะอยู่ในชุด ผลิต Biochar อย่างจริงจัง แต่เนื่องจากกรณีนี้ เป็นกรณีของสวนป่า จึงแยกออกมาเขียนนะครับ

เรื่องนี้ได้ยินมาจากครูบาซึ่งเพิ่งเล่าให้ฟังเมื่อตอนผมถามเรื่องเตาเผาถ่าน สวนป่ามีเตาเผาถ่านขนาดใหญ่อยู่ 5 เตา เตาเล็กอีกต่างหาก ก็ตามประสาคนไม่รู้เรื่องละครับ ผมถามว่าเวลาเผาถ่านในเตาใหญ่ใช้เวลากี่วัน ถ้าผมจำไม่ผิด ครูบาว่า 14 วันกว่าจะมอดสนิท แต่ครูบายังเล่าเพิ่มเติมว่าพอจุดเตาไปได้สักพัก ก็จะมีควันที่เหม็นมาก เรียกว่าควันบ้า มีอยู่คราวหนึ่ง จุดทั้ง 5 เตา แล้วควันบ้าเกิดออกมาพร้อมกัน เหม็นตลบอบอวลไปทั้งป่า ขนาดที่อยู่สวนป่าไม่ได้ ต้องชวนแม่หวีหนีเข้าไปในอำเภอ

เรื่องนี้ซีเรียสครับ ควันบ้า ที่มีสี มีกลิ่น แสดงถึงการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ดูจากลักษณะของเตาก็คาดว่าเป็นอย่างนั้น ก๊าซที่ออกมานี้น่าจะเป็นก๊าซพิษด้วยซ้ำไปนะครับ ร่างกายจึงบอกว่าเหม็นเพื่อที่จะไปให้พ้น แต่ไม่ร้ายเท่าน้ำมันดิน (tar) ที่ออกมาพร้อมกันควัน จะยิ่งทำให้ไอ

ดังนั้น น่าจะดีกว่าที่จะสร้างเตาเผาถ่านอีกสักเตาหนึ่ง แต่ดูให้เป็นการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ คือไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ซึ่งในบันทึก [ทริปสวนป่า 6-8 ม.ค.] มีการทดลองเผ่าถ่าน Biochar เป็นที่สนุกสนาน เป็นถ่านคุณภาพดี แล้วใช้เวลาไม่นาน เราใช้ความร้อนเผาถังซึ่งบรรจุเศษไม้เอาไว้ เมื่อเศษไม้ในถังได้รับความร้อน ก็จะคายควันออกมา แล้วควันนี้ติดไฟได้ ก็ให้ความร้อนเผาถังอีกเป็นลูกโซ่ ดังนั้นการเผาถ่านในลักษณะนี้ ใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าการเผาถ่านปกติ

แต่ว่าการเผาถัง ก็จะได้มากได้น้อยก็แล้วแต่ขนาดของถัง (ซึ่งอย่างเก่ง ที่หาได้มักเป็นถัง 200 ลิตร) แล้วจะได้ถ่านประมาณหนึ่งในสามของปริมาตรถัง ถ้ามีไม้จะเผาเยอะ ก็ต้องเผาหลายครั้ง แต่ทีนี้ถ้าหากเราสามารถเผาไม้ได้ทีละตันหรือตันครึ่ง สัดส่วนของไม้ที่เป็นเชื้อเพลิงก็จะน้อยลงมา ซึ่งเมื่อเผาถ่านแล้ว จะได้ถ่าน 300-500 กก.ภายในเวลา 8-10 ชั่วโมง (แทนที่จะเป็นสองอาทิตย์) สัปดาห์หนึ่งเผาสามครั้ง — เผาวันหนึ่งตอนกลางวัน ส่วนคืนนั้นก็ปล่อยให้เย็น เช้าขึ้นเอาถ่านออก เย็นๆก็ขนไม้ลงไปในเตา รุ่งเช้าเผาอีก รอบละสองวัน สัปดาห์หนึ่งเผาไม้สามตัน ได้ถ่านหนึ่งตัน จ้างคนงานหกวันต่อสัปดาห์ จ้างผู้ใหญ่วันเว้นวันในวันที่ขนถ่านขนไม้เข้าออกจากเตา และจ้างเด็กวันเว้นวันสำหรับเอาถ่านใส่กระสอบ

อ่านต่อ »


เวทีเสวนาสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เรื่องการรับมือภัยพิบัติในอนาคต

อ่าน: 3502

คุยกันเช้านี้ เม้งบอกว่าว่าขึ้นมากรุงเทพ มาบรรยายในเวทีเสวนาสมัชชาสุขภาพ สนุกมาก (คนพูดสนุก!)

ผมก็เลยหาวิดีโอคลิป ปรากฏว่าเจอครับ ดูเลยก็แล้วกัน ยาวหน่อย แต่สนุกดี

ดร.สมพร ช่วยอารีย์
ดร.ธรณ์​ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ดร.เสรี ศุภาราทิตย์
ดร.สมิทธ ธรรมสโรช

embed code ของเว็บ ไม่มีให้ปิด autoplay ซะด้วย (อย่าทำเว็บอย่างนี้) ดังนั้นพอเปิดหน้านี้แล้ว ปิดคลิปที่ 2 เอาไว้ก่อนนะครับ

อ่านต่อ »


มุมมองผู้บริโภคและพลเมืองต่อแผนแม่บทฯ กสทช.

อ่าน: 3936

สำนักงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (สำนักงาน กสทช.) จะจัดเวทีสัมนาและรับฟังความคิดเห็นในวันพฤหัสบดีที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. เป็นเรื่อง (ร่าง) แผนแม่บทฯ 3 ฉบับ มีเวลารับฟังความคิดเห็น 35 45 และ 30 นาที ตามลำดับสำหรับร่างแผนแม่บททั้งสามฉบับ ซึ่งคงมีผู้เชี่ยวชาญไปปล่อยของเยอะแยะ คงไม่เหลือเวลาสำหรับผู้บริโภคและพลเมืองคนหนึ่งซึ่งไม่ได้ทำธุรกิจนี้อีกแล้วมั๊งครับ (รู้ว่าคิดไปเอง…แต่ก็คิดอยู่ดี)

อย่างไรก็ตาม ทั้งในฐานะของผู้บริโภคและพลเมือง ผมก็มีความคิดเห็นต่อบางส่วนของแผนแม่บทดังกล่าวบ้างเหมือนกัน อยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้เขียนเอาไว้ โดยมองจากบางประเด็นซึ่งสำนักงาน กสทช.ได้เผยแพร่เอกสารไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง (ร่าง) แผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และบริการเพื่อสังคม (พ.ศ. 2555-2559)

อ่านต่อ »


กระจายน้ำสำหรับการเกษตร

อ่าน: 3345

พืชต้องการน้ำไปละลายสารอาหารในดินและทำให้ปลายรากดูดซึมสารอาหารในดินด้วยวิธีการออสโมซิส

แต่พื้นที่ภายใต้โครงการชลประทานของเมืองไทยมีอยู่กระจ้อยร่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอีสานและภาคเหนือ ดังนั้นเกษตรกรก็ต้องพึ่งแหล่งน้ำธรรมชาติ อันได้แก่แม่น้ำลำคลองหนองบ่อและน้ำบาดาล การชักน้ำเข้าแปลงเกษตรก็ต้องใช้พลังงานซึ่งคือต้นทุนของเกษตรกร ยิ่งจ่ายค่าพลังงานมาก ต้นทุนก็จะสูงขึ้น กำไรหด เหนื่อยไปแล้วไม่เหลืออะไร ต้นทุนพลังงานในการสูบน้ำเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มองกันไม่ค่อยออกเพราะจับต้องไม่ได้และแยกแยะไม่ออกนะครับ

ถ้าถามว่าพืชจะร่าเริงกับน้ำที่ฉีดมาอย่างแรงเป็นฝอยฟู่หรือไม่ อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เท่าที่จำได้ก็ไม่เคยเป็นพืชเสียด้วย เราสามารถให้น้ำให้ปุ๋ยทางใบได้เหมือนกัน โดยเพิ่มแรงดันน้ำเข้าไปซึ่งหมายความว่าจะต้องจ่ายค่าพลังงานมากขึ้น บางทีเราก็ไม่คิดว่าจะต้องจ่ายค่าพลังงานเรื่องนี้โดยเอาแรงดันน้ำมาจากถังเก็บน้ำสูงๆ จริงอยู่ที่ถังยิ่งสูง ก็ยิ่งมีแรงดันน้ำมาก จะส่งน้ำ(ตามสายยางหรือฉีดน้ำ)ไปได้ไกล แต่ต้นทุนซึ่งเรามักจะไม่คิดกันนั้นมีสองส่วนครับ คือ

  1. ต้นทุนการก่อสร้างเพื่อนำน้ำไปเก็บไว้ที่สูง น้ำหนึ่งคิวหนักหนึ่งตัน ถ้าจะนำน้ำแปดคิวไปไว้สูงสิบเมตร ก็ต้องสร้างโครงสร้างเพื่อรับน้ำหนังแปดตันที่ลอยอยู่เหนือพื้นดินสิบเมตร สร้างได้ครับ วิศวกรทำได้หมด (แต่แพง!)
  2. ต้นทุนการสูบน้ำ อย่างที่รู้กัน น้ำแปดคิวหนักแปดตัน ถ้าจะยกจากผิวดินขึ้นไปสูงสิบเมตร ก็จะใช้กำลังแปดกิโลวัตต์ตามทฤษฎี (จริงๆ แล้วมากกว่านั้นเพราะปั๊มน้ำไม่ได้มีประสิทธิภาพ 100% กล่าวคือมีการสูญเสีย) หมายความว่าถ้าใช้น้ำมาก ก็ต้องจ่ายค่าพลังงานมากขึ้นตามไปด้วย

อ่านต่อ »


บัญชีรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 25 January 2012 เวลา 16:30 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 2357

มูลนิธิโอเพ่นแคร์ เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ตามความในมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2546

มูลนิธิเปิดบัญชีมูลนิธิโอเพ่นแคร์เพื่องานอาสาฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติ SCB 402-177853-3 ใช้วิธีการถ่ายรูปสมุดคู่ฝากทุกหน้ามาแสดงไว้บนเว็บ ซึ่งผู้บริจาคและผู้สนใจสามารถจะเห็นความเคลื่อนไหวของยอดเงินบริจาค ตลอดจนค่าใช้จ่ายทุกรายการเช่นกัน

มูลนิธิฯ แยกเงินบริจาคในบัญชีนี้ออกจากกิจการของมูลนิธิฯ และไม่ได้ถือว่าเงินบริจาคเป็นกำไรหรือทุน หากแต่ใช้เงินบริจาคเพื่อประโยชน์ของผู้ประสบภัยทั้งสิ้น ทั้งเงินบริจาคและเงินที่ใช้จ่าย ทำผ่านธนาคารทั้งหมดเพื่อให้ทุกรายการปรากฏอยู่ในสมุดคู่ฝาก ให้ผู้บริจาคได้เห็นความเคลื่อนไหวทั้งหมด โดยปกติมูลนิธิฯ จะบริจาคเงินบริจาคต่อให้กับผู้ประสบภัยหรือตัวแทนของกลุ่มผู้ประสบภัย โดยตรง หากแต่ว่ามีหลายกรณีที่การเบิกจ่ายผ่านธนาคารในพื้นที่ประสบภัยเป็นเรื่อง ลำบากมาก ในกรณีอย่างนี้ มูลนิธิฯ บริจาคเงินบริจาคต่อตามความจำเป็น ให้กับกลุ่มอาสาสมัครหลายกลุ่มที่ทำงานจริงในพื้นที่ ที่มีความโปร่งใสตรงไปตรงมา สามารถแสดงรายการค่าใช้จ่ายและได้ผลงานได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้เพื่อความถูกต้อง และความสบายใจของผู้บริจาคว่าเงินบริจาคนั้น ไม่ตกหล่นสูญหายไปที่ใด

ใบเสร็จรับเงินที่บริจาคเข้าบัญชีนี้ ไม่เข้าตามเกณฑ์มาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่สามารถใช้หักภาษีได้; อนึ่งเงินบริจาค ไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

อ่านต่อ »


ผ่าฟืนโดยใช้ยางรถยนต์

อ่าน: 3526

ไม่ได้เอายางรถยนต์ไปผ่าฟืนหรอกครับ

แต่ในการผ่าฟืนที่ใช้ขวานผ่านั้น ฟืนมักจะกระเด็นออกทั้งสองด้าน… จะเป็นหนุ่มแน่น หรือ ส.ว.ผ่า ถ้าหากผ่าแล้วจะต้องเดินไปเก็บฟืนที่กระเด็นไปทุกครั้ง หลังคงแย่ แล้วจะเสียเวลามาก

แทนที่จะผ่าแบบโครมคราม หรือนั่งผ่าแบบแรงน้อยค่อยเป็นค่อยไปก็ตาม เราก็เอาฟืนไปใส่ไว้ในยางรถยนต์เก่า แล้วก็เอาขวานสับสุดแรงเลย เศษฟืนจะไม่กระเด็นไปไหน เพราะว่ายางกันอยู่ครับ



Main: 0.14394593238831 sec
Sidebar: 0.12797999382019 sec