มนุษย์กับความคิด

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 11 November 2009 เวลา 0:00 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 4316

บันทึกนี้ เป็นบันทึกที่ 555 ของลานซักล้าง ทีแรกจะเขียนเรื่อง 555 แต่เอาเป็นแนะนำแง่คิด/หนังสือดีกว่า อ่านแล้วคิด ก็ 555 ได้เหมือนกัน

หนังสือ As a man thinketh เขียนโดย James Allen ชาวอังกฤษในปี พ.ศ.2445 (1902) เป็นหนังสือน่าอ่าน และควรอ่าน

บท 4 เริ่มต้นด้วยข้อความว่า

Until thought is linked with purpose there is no intelligent accomplishment. With the majority the bark of thought is allowed to “drift” upon the ocean of life. Aimlessness is a vice, and such drifting must not continue for him who would steer clear of catastrophe and destruction.

They who have no central purpose in their life fall an easy prey to worries, fears, troubles, and self-pityings, all of which are indications of weakness, which lead, just as surely as deliberately planned sins (though by a different route), to failure, unhappiness, and loss, for weakness cannot persist in a power-evolving universe.

ตราบใดที่ความคิดมิได้ถูกโยงเข้ากับจุดมุ่งหมาย ตราบนั้นปัญญาหรือความสำเร็จที่แท้จริงก็ยังไม่เกิด คนจำนวนมากปล่อยกระแสความคิดให้ล่องลอยไปในมหาสมุทรแห่งชีวิต การขาดจุดหมายคือความเลวร้ายชนิดหนึ่ง ผู้ที่ไม่ต้องการพบกับหายนะหรืออันตรายต้องไม่ปล่อยให้เรือของชีวิตตน ล่องลอยไปอย่างปราศจากจุดหมาย

ผู้ที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจนในชีวิตย่อมตกเป็นเหยื่ออันง่ายดายของความกังวล ความกลัว เรื่องยุ่งยากใจและความสงสารตนเอง ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องชี้วัดความอ่อนแออันนำไปสู่ความล้มเหลว สูญเสียและเป็นทุกข์ ซึ่งแม้จะเกิดจากสาเหตุที่ต่างกันแต่ก็ให้ผลเช่นเดียวกันกับการทำชั่วที่ วางแผนมาอย่างดี เพราะความทนทานอยู่ได้ในจักรวาลที่ขับเคลื่อนและวิวัฒน์ด้วยพลัง

คำว่า thinketh แปลว่า think เป็นคำโบราณ มาจากคำภีร์ไบเบิ้ล


แผน ICT2020

อ่าน: 4177

เมื่อวานไปร่วมแสดงความคิดเห็นใน ICT2020 : High-level Expert Roundtable เจอ อ.หมอวิจารณ์ อ.แหวว/สสสส.1 และคนคุ้นเคยในวงการไอทีที่ทำเรื่องทางสังคมอีกประมาณครึ่งโหล และที่ไม่รู้จักสองโหล

ด้วยความที่มีเรื่องอึดอัดใจที่เกี่ยวกับการใช้งานไอซีทีในการพัฒนา และในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไป อยู่หลายเรื่อง ผมก็เลยล่อไปหลายดอกครับ อิอิ ที่จริงแล้ว ไม่ใช่ความผิดของคนทำแผนหรอก คนทำแผนกับคนปฏิบัติเป็นคนละหน่วยงานกัน มีข้อจำกัดไม่เหมือนกัน

ประเด็นที่คุยกัน ก็น่าฟังทั้งนั้น จนสงสัยว่าจะใส่เข้าไปหมดได้ยังไง…

ไม่เป็นไร… ผมดีใจที่คนทำแผนเปิดรับฟังความคิดเห็นเป็นการทั่วไป โดยไม่เชื่อแต่ผู้เชี่ยวชาญ หรือคิดเอาเองนะครับ ในเมื่อเปิดโอกาสแล้ว ใครมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาไอซีทีของเมืองไทย ก็ขอให้ช่วยกันออกความเห็นหน่อยนะครับ อย่าเอาแต่บ่นเลย มีโอกาสแล้ว ใช้ให้คุ้มค่านะครับ

ในโอกาสที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) จะจัดทำกรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย พ.ศ. 2554-2563 (ICT 2020) คณะทำงานฯ เห็นความสำคัญของการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมให้ความเห็นหรือข้อเสนอแนะในทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดทำ เอกสารดังกล่าว จึงได้เปิดเว็บไซต์นี้ขึ้นเพื่อเป็นช่องทางในการรับฟังความคิดเห็น รวมทั้งการสื่อสารระหว่างคณะทำงานฯ และประชาชนทั่วไปในประเด็นที่เกี่ยวกับการจัดทำ ICT2020 นี้…

ขอความคิดเห็นเพื่อกำหนดภาพ ICT ของไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า


ขับรถประหยัดน้ำมัน

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 9 November 2009 เวลา 0:03 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3041

น้ำมันแพง!!! อย่าเพิ่งบ่นเลยครับ มันคงแพงกว่านี้อีก ประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าถึง 75% ราคาก๊าซผูกกับราคาน้ำมัน เมื่อน้ำมันขึ้น ราคาก๊าซก็ขึ้นด้วย และในที่สุดไฟฟ้าก็จะตามไปดูแห่

แล้วเราทำอะไรได้บ้างล่ะ

คงไม่มาก แต่ไม่ใช่ว่าทำอะไรไม่ได้เลย แต่ว่าเราจะทำอะไร ต้องอยู่รอดให้ได้ก่อนในวันนี้ก่อน ไม่อย่างนั้นจะคิดทำอะไรในอนาคต ก็เป็นเพียงเรื่องเพ้อเจ้อครับ ไม่ใช่เรื่องผิดที่คิดหรือเรียนไปเรื่อยๆ แต่ความคิดเหล่านี้ ไม่ได้มีผลอะไรหากไม่ลงมือกระทำ เป็นอาการเดียวกับการรักชาติจนน้ำลายฟูมปากนั่นแหละ

ทำไมเทศบาลนอกกรุงเทพจึงไม่มีรถประจำทาง

ทุกเมืองมีการขนส่งมวลชนในบางรูปแบบ (สามล้อ สองแถว รถตู้ มอเตอร์ไซค์ เรือ ฯลฯ) เพียงแต่ “คนนอก” ไม่รู้ ไม่มีแผนที่การเดินทาง ไม่รู้ตำแหน่งท่ารถ ไม่รู้ว่าไปไหน เวลาเท่าไหร่

เคล็ดไม่ลับกับการประหยัดน้ำมัน

ถ้าประหยัดที่สุด คือไม่สตาร์ทรถ — อาเคยบ่นกับพ่อว่ารถเสียบ่อย พ่อบอกอาว่าถ้าจะไม่ต้องซ่อม ก็จอดไว้เฉยๆ ซิ

แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้รถยนต์ มีคำแนะนำดังนี้

  1. ค่อยๆ เร่งรถ อย่าเหยียบพรวดพราดยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน เช่นแซง ถ้าจะทำความเร็ว หลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องจนเกินขนาดขณะที่ขับขึ้นเขา/ขึ้นเนิน
  2. ทิ้งระยะห่างจากคันหน้าให้มากหน่อย แบบที่ไม่โดนคันข้างหลังบีบแตรไล่ เวลาคันหน้าแตะเบรค ท่านยังมีเวลาคิดอีกสักพัก
  3. ช่วงความเร็วที่เครื่องยนต์เผาผลาญเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่นน้ำหนักบรรทุก ขนาดเครื่องยนต์ ความสึกหรอของเครื่องยนต์ อายุรถ ฯลฯ แต่มักจะอยู่ในช่วง 70-85% ของ “ความเร็วธรรมชาติ” ซึ่งความเร็วธรรมชาตินั้นคือครึ่งหนึ่งของความเร็วสูงสุดที่หน้าปัด เช่นรถผมหน้าปัดมีเลข 260 กม/ชม เป็นเลขสูดสุด ความเร็วธรรมชาติเป็น 130 (ครึ่งหนึ่ง คือเข็มชี้ขึ้นข้างบนตรงๆ) แล้วความเร็วที่ใช้เดินทางคือ 70-85% ของ 130 คือ 90-110

ด้วยวิธีการอย่างนี้ เวลาเดินทางต่างจังหวัด ผมขับได้ 5.6 ลิตร/100 กม (17.9 กม/ลิตร) แต่ถ้ารีบร้อนขับ จะเหลือ 6.5 ลิตร/100 กม (15.4 กม/ลิตร) เคยขับจากพัทยากลับบ้านได้ 4.5 ลิตร/100 กม แต่ได้ครั้งเดียว — ขับบนทางด่วนในกรุงเทพ ถ้ารถไม่ติดมาก อยู่ประมาณ 7.6 ลิตร/100 กม (13.2 กม/ลิตร) ถ้าลงจากทางด่วนแล้ว เอามาคิดได้ลำบากเพราะสภาพการจราจรเป็นองค์ประกอบที่ควบคุมไม่ได้


ลูกเต่าทอง

10 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 8 November 2009 เวลา 1:08 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 6284

ปีนี้ ผมไปสวนป่าจนแม่สงสัย ไม่ได้ทำพิรุธอะไรหรอกครับ แต่ไปบ่อยมาก ที่นับดูได้ ปีนี้ก็ 8 ครั้งแล้ว คงมีที่ลืมนับไปบ้าง

ไปบรรยายให้ อ.ต้อม ที่ วศ.มข. ขากลับแวะสวนป่า, เฮเจ็ด, นศ.ป.โท อ.แป๋ว, นศ.ป.เอก มรฎ.สารคาม, SCG Paper, เฮห่วงใย, เฮระลึกชาติ/แม่ลำไย, เฮอยู่ดีๆไป

พี่หลินเพิ่มให้: ส่งตัวนกยูงเจ้าบ่าว, ไปเยี่ยมคุณปิ๋ว — มิน่า แม่สงสัย ฮาๆๆๆๆ

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว อยู่ดีๆ ก็ไปสวนป่า ไปกินผัก ไปหาความคิดใหม่ๆ ไปถึงตอนเย็น ค้างคืนเดียว ตื่นเช้าก่อนหกโมง แล้วกลับบ้านตอนสิบเอ็ดโมงครับ ก่อนออกมา ไปเจอลูกประหลาด จำชื่อไม่ได้ แต่ผมเรียกว่าลูกเต่าทอง ครูบา/แม่หวีบอกชื่อมาแล้วแต่จำไม่ได้ จำได้แต่ว่ากินไม่ได้ กินแล้วเมา เห็นสวยดี ป้าจุ๋ม แม่หวี ครูปู ต่างช่วยกันเก็บ

ทิ้งไว้ในรถอาทิตย์หนึ่ง เพิ่งเอามาถ่ายรูปเมื่อตอนหัวค่ำนี้เองครับ


เปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน

อ่าน: 4442

ตามประกาศของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ค่า Adder (อัตราส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า) ซึ่งผลิตจากชีวมวลอาจจะดูมีค่าต่ำ แต่ผมคิดว่าน่าสนใจอยู่ดี

ประเด็นคืออย่างนี้ครับ ยางพาราตอนนี้ราคาประมาณ 75 บาท (ราคาจาก AFET) แต่ว่าทั้งจีนและเวียดนาม ได้มีการส่งเสริมการปลูกยางพาราอย่างเป็นระบบ ดังนั้นในอนาคต เมื่อจีนและเวียดนามเริ่มกรีดยางได้ ราคาจะไม่อยู่ในระดับนี้ เราจึงควรรีบหาวิธีการที่นำยางมาเพิ่มมูลค่า… ซึ่งในบันทึกนี้ ใช้วิธีเลียนแบบธรรมชาติ เปลี่ยนไฮโดรคาร์บอนเป็นน้ำมัน

การบวนการนี้ เรียกว่า thermal depolymerization ซึ่งเพิ่มความร้อนและความกดดันให้กับ polymer จนสลายออกเป็น monomer ในกระบวนการนี้ ได้ “ของ” สามอย่าง คือของแข็ง (activated carbon) ของเหลว และก๊าซ​ (ซึ่งเอาไปเผาให้ความร้อน)

ในส่วนของของเหลว ก็เป็นน้ำมันในเกรดของดีเซล กับน้ำซึ่งแม้ไม่บริสุทธิ์ แต่รีไซเคิ้ลกลับไปใช้ในกระบวนการผลิตได้ เทคโนโลยีนี้ (ของ CWT เรียกว่าเทคโนโลยีแบบ TCP) ได้รับการคุ้มครองโดยสิทธิบัตรสหรัฐในปี 1996 ซึ่งจะคุ้มครองจนถึงปี 2011 ดังนั้นเริ่มคิดตั้งแต่ตอนนี้ยังทันครับ

“เศษ” จากโรงงานแปรรูปไก่วันละ 200 ตัน สามารถแปรเป็นดีเซลได้วันละแปดหมื่นลิตรได้ทุกวัน


ความล้มเหลวของการใช้เว็บเพื่อการค้าของไทย

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 6 November 2009 เวลา 1:00 ในหมวดหมู่ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม #
อ่าน: 3810

สองสามวันมานี้ ผมไปหมกมุ่นอยู่กับความคิดเรื่องพลังงานจากธรรมชาติ ค้นเว็บต่างๆ มากมาย แต่ไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการครับ

ผมไม่ได้คิดว่าของที่ต้องการใช้จะไม่มีขายในเมืองไทยหรอก แต่คิดว่าทัศนคติของการทำเว็บนั้น ยังทำเหมือนเป็นการขายของที่หน้าร้าน กล่าวคือ

  1. ไม่ให้ข้อมูลที่จำเป็นในเว็บ ไม่มีสเป็คอย่างละเอียด ไม่มีราคา แต่ไปให้ความสำคัญกับรูปภาพ
  2. การไม่บอกราคา น่ารำคาญมาก ทำเหมือนขายสินค้าที่ไม่มีมาตรฐาน ต่อรองราคาได้ (หรือกะจะฟันลูกค้า)
  3. เว็บต่างๆ ของผู้ขาย พยายามจะให้ติดต่อทางโทรศัพท์ แต่การให้ข้อมูลทางโทรศัพท์นั้น ยิ่งมีโอกาสจะผิดพลาดมาก
  4. ในเมื่อเว็บไม่สามารถจะให้ข้อมูลที่จำเป็น จึงไม่มีการทดลองใช้ แล้วอย่างนี้จะหวังให้มีการซื้อของล็อตใหญ่ได้อย่างไร
  5. การขายของผ่านเว็บด้วยทัศนคติแบบนี้ อาจใช้ได้กับของมูลค่าต่ำ และมีโอกาสที่หมู(ลูกค้าใหม่)วิ่งชนปังตอน้อยมาก ซึ่งไม่ดีกับผู้ขายเอง
  6. ไม่มีระบบชำระเงิน
  7. ไม่มีการคำนวณค่าขนส่ง
  8. น่าเสียดายที่แบบสำรวจเกี่ยวกับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทย ไม่เคยมีคำตอบว่า “ผู้ขาย ขายไม่เป็น” ให้เลือกบ้าง

สำหรับเจ้าของ/ผู้บริหารของกิจการทางการค้าต่างๆ ท่านเคยดูเว็บของกิจการของท่านบ้างหรือเปล่าครับ


คุณธรรมสี่ประการ

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 5 November 2009 เวลา 13:43 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต #
อ่าน: 3274

“ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาอยู่ในท่ามกลางมหาสมาคม พร้อมพรั่งด้วยบุคคลจากทุกสถาบันในชาติ ตลอดจนประชาชนชาวไทย ขอขอบใจในคำอำนวยพรและการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ ที่ทุกคนตั้งใจจัดให้ข้าพเจ้าเป็นพิเศษ ทั้งรัฐบาลได้จัดงานครั้งนี้ ได้เรียบร้อยและงดงาม น้ำใจไมตรีของประชาชนชาวไทยที่ร่วมกัน แสดงออกทั่วประเทศ รวมทั้งที่พร้อมเพรียงกันมาในวันนี้

น่าปลาบปลื้มใจมาก เพราะแต่ละคนได้แสดงออกและตั้งใจมาด้วยความหวังดีจากใจจริง จึงขอขอบใจทุกๆ คน จิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดี และ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทุกคนทุกฝ่าย ทำให้ข้าพเจ้าเห็นแล้วมีกำลังใจมากขึ้น นึกถึงคุณธรรมซึ่งเป็นที่ตั้งของความรัก ความสามัคคี ที่ทำให้คนไทยเราสามารถร่วมมือร่วมใจกันรักษา และพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญ รุ่งเรืองสืบต่อกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง

ประการแรก คือ การที่ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน

ประการที่สอง คือ การที่แต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงาน ประสานประโยชน์กัน ให้งานที่ทำสำเร็จผล ทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่นและกับประเทศชาติ

ประการที่สาม คือ การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกา และในระเบียบแบบแผน โดยเท่าเทียมเสมอกัน

ประการที่สี่ คือ การที่ต่างคนต่างพยายามทำความคิด ความเห็นของตนให้ถูกต้อง เที่ยงตรง และมั่นคงอยู่ในเหตุในผล หากความคิด จิตใจ และการประพฤติปฏิบัติที่ลงรอยเดียวกันในทางที่ดี ที่เจริญนี้ยังมีพร้อมมูลในกายในใจของคนไทยก็มั่นใจได้ว่า ประเทศชาติไทยจะดำรงมั่นคงอยู่ตลอดไปได้

จึงขอให้ท่านทั้งหลายในมหาสมาคมนี้ ทั้งประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ได้รักษาจิตใจและคุณธรรมนี้ไว้ให้เหนียวแน่น และถ่ายทอดความคิดจิตใจนี้กันต่อไปอย่าให้ขาดสาย เพื่อให้ประเทศชาติของเรา ดำรงยืนยงอยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ทั้งในปัจจุบันและในภายหน้า

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล จงคุ้มครองรักษาประเทศชาติไทย ให้ปลอดพ้นจากภัยอันตรายทุกสิ่ง และอำนวยความสุข ความเจริญ สวัสดีให้เกิดมีแก่ประชาชนชาวไทยทั่วกัน”


หนาวแล้ว ลองสร้างเตาหอคอย

อ่าน: 4367

ในวิดีโอเค้าเรียก Rocket Stove ครับ แต่ขืนเรียกว่าเตาจรวด คงฟังดูพิลึกเกินไป

หลักการเป็นเข่นเดียวกับหลุมไฟดาโกต้า เพียงแต่แทนที่จะขุดดินสองหลุม ก็ยกเอาขึ้นมาบนดิน โดยเอาอิฐมอญก่อขึ้นมา ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติแบบเดียวกับหลุมไฟดาโกต้า คือให้ความร้อนสูง มีการเผาใหม้สมบูรณ์ ประหยัดเชื้อเพลิง ควันน้อยหรือไม่มีควัน (แล้วแต่เชื้อเพลิง)

สามารถใช้เป็นเตาทำกับข้าวได้ เมื่อทำกับข้าวเสร็จ อิฐที่ถูกเผามา ยังเก็บความร้อนอยู่ จึงผิงไฟได้อีกต่อหนึ่ง

อ่านต่อ »


อีตอแหล!

17 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 2 November 2009 เวลา 6:19 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 6027

เมื่อตรวจปรับปรุงแก้ไขบันทึกที่เพิ่งเขียนเสร็จ แล้วนึกไปถึงเรื่องเล่าของพระอาจารย์รูปหนึ่งทางอีสาน

เรื่องนี้ผมไม่อาจยืนยันได้ว่าจริงเพราะไม่ได้ยินมาเอง แต่ยืนยันได้ว่าฮาจริงๆ นำมาจากตรงนี้ครับ เป็นเรื่องของหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม วัดอรัญญวิเวก บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

อ่านต่อ »


กฐินวัดป่าสันติพุทธาราม อ.โพธาราม ราชบุรี

อ่าน: 11384

ปีนี้เป็นปีที่ห้าที่บริษัทจัดให้มีการทอดกฐิน ตอนที่ผมบริหารอยู่ ก็มักจะไปทอดตามวัดที่ห่างไกล ขาดแคลน ถ้าจำไม่ผิด มีสองครั้งที่(เกือบจะ)เป็นกฐินตกค้าง (กล่าวคือไม่มีผู้ใดจองกฐิน) แต่เนื่องจากปีนี้ ผมไม่ได้ทำงานบริหารแล้ว จึงไม่รู้รายละเอียดมากนัก เห็นว่าไปทอดที่วัดห่างไกลที่ อ.โพธาราม ราชบุรี หลังจากหาตำแหน่งโดยเปรียบเทียบเส้นทางในแผนที่ กับพิกัดใน Google Maps แล้วกำหนดจุดลงไปใน GPS แล้ว ก็วางใจ

เมื่อวานเพิ่งกลับมาจากบุรีรัมย์ เช้านั้นตื่นตีห้ากว่าๆ ก่อนหน้านั้นเพิ่งหายป่วย แถมเมื่อคืนกว่าจะนอนได้ก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่ง เรียกว่าเหนื่อยและนอนน้อยติดกันมาหลายวัน จึงเลิกความตั้งใจที่จะออกจากบ้านตีห้าเพื่อไปใส่บาตรที่วัดตอน 7 โมงเช้า เอาเดินทางปลอดภัยดีกว่า ไหนๆ ก็ตั้งใจไปทอดกฐินแล้ว ให้ได้ร่วมทอดกฐินจริงๆ ดีกว่าครับ ตั้งนาฬิกาปลุกหกโมงครึ่ง เดินทางไปถึงวัดเกือบเก้าโมง ทันการทอดกฐินพอดี

แต่เพราะความไม่รู้รายละเอียด จึงเจอความประหลาดใจหลายอย่างครับ

อ่านต่อ »



Main: 0.08930492401123 sec
Sidebar: 0.20907187461853 sec