มิจฉาสมาธิ และสัมมาสมาธิ

3 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 July 2009 เวลา 0:15 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 4295

แมวเฝ้ารูหนูก็มีสมาธิ นักย่องเบาก็มีสมาธิ  แต่ไม่ใช่สัมมาสมาธิ เป็นสมาธิของสัตว์เดียรัจฉาน  ไม่ใช่บ่อเกิดของปัญญา พระพุทธองค์ทรงเรียกว่า มิจฉาสมาธิ  หลวงพ่ออธิบายว่า

“สมาธิทั้งหลายเหล่านี้ แบ่งเป็นมิจฉาสมาธิอย่างหนึ่ง  คือเป็นสมาธิในทางที่ผิด เป็นสัมมาสมาธิอย่างหนึ่ง  คือสมาธิในทางที่ถูกต้อง นี่ก็ให้สังเกตให้ดี

มิจฉาสมาธิคือความที่จิตแน่วแน่เข้าสู่สมาธิ เงียบหมด  ไม่รู้อะไรเลย ปราศจากความรู้ นั่งอยู่ ๒ ชั่วโมงได้  กระทั่งทั้งวันก็ได้ แต่จิตไม่รู้ว่ามันไปถึงไหน มันเป็นอย่างไร  ไม่รู้เรื่อง

นี้สมาธิอันนี้เป็นมิจฉาสมาธิ  มันก็เหมือนมีดที่เราลับให้คมดีแล้ว แต่เก็บไว้เฉย ๆ ไม่เอาไปใช้  มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร อย่างนั้นเป็นความสงบที่หลง คือ ไม่ค่อยรู้เนื้อรู้ตัว

เห็นว่าถึงที่สุดแล้วก็ไม่ค้นคว้าอะไรอีกต่อไป  จึงเป็นอันตราย เป็นข้าศึก ในขั้นนั้นเป็นอันตราย  ห้ามปัญญาไม่ให้เกิด ปัญญาเกิดไม่ได้ เพราะขาดความรู้สึกรับผิดชอบ

ส่วนสัมมาสมาธิที่ถูกต้อง ถึงแม้จะมีความสงบไปถึงแค่ไหน  ก็มีความรู้อยู่ตลอดกาล ตลอดเวลา มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ บริบูรณ์  รู้ตลอดกาล นี้เรียกว่า สัมมาสมาธิ

เป็นสมาธิที่ไม่ให้หลงไปในทางอื่นได้  นี้ก็ให้นักปฏิบัติเข้าใจไว้ให้ดี จะทิ้งความรู้นั้นไม่ได้  จะต้องรู้ตั้งแต่ต้นจนปลายทีเดียว ถึงจะเป็นสมาธิที่ถูกต้อง  ขอให้สังเกตให้มาก”

และอีกโอกาสหนึ่งหลวงพ่อพูดถึงสมาธิสองอย่างอีกนัยหนึ่ง

“ความสงบนี้มีสองประการคือ ความสงบอย่างหยาบอย่างหนึ่ง  และความสงบอย่างละเอียดอีกอย่างหนึ่ง อย่างหยาบนั่นคือ เกิดจากสมาธิ  ที่เมื่อสงบแล้วก็มีความสุข แล้วถือเอาความสุขเป็นความสงบ

อีกอย่างหนึ่งคือความสงบที่เกิดจากปัญญา  นี้ไม่ได้ถือเอาความสุขเป็นความสงบ  แต่ถือเอาจิตที่รู้จักพิจารณาสุขทุกข์เป็นความสงบ  ความสงบจึงไม่ใช่ความสุข  ฉะนั้นความสงบที่เกิดจากปัญญานั้นจึงไม่ใช่ความสุข แต่เป็นความสงบ

เพราะว่าความสุขความทุกข์นี้เป็นภพ เป็นชาติ เป็นอุปาทาน  จะไม่พ้นจากวัฏสงสาร เพราะติดสุขติดทุกข์ ความสุขจึงไม่ใช่ความสงบ  ความสงบจึงไม่ใช่ความสุข

ฉะนั้นความสงบที่เกิดจากปัญญานั้น จึงไม่ใช่ความสุข  แต่เป็นความรู้เห็นตามความเป็นจริงของความสุขความทุกข์  แล้วไม่มีอุปาทานมั่นหมายในสุขทุกข์ที่มันเกิดขึ้นมา  ทำจิตให้เหนือสุขเหนือทุกข์นั้น ท่านจึงเรียกว่าเป็นเป้าหมาย  ของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง”

หลวงพ่อชา สุภทฺโท



Main: 0.022650003433228 sec
Sidebar: 0.13090395927429 sec