ซูชิจานเวียน

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 18 November 2011 เวลา 1:10 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว, เทคโนโลยีชาวบ้าน #
อ่าน: 2996

เป็นความคิดพิสดารบ้าบอครับ

สำหรับชาวบ้านที่อยู่ในซอยลึกๆ จะเข้าจะออกบ้านกับถนนใหญ่ ต้องรอรถใหญ่หรือจ่ายค่าโดยสารเรือในราคาแพง

ผมคิดว่าทั้งชุมชน ช่วยกันเรี่ยรายหามอเตอร์เล็กๆ สักตัว หาล้อวงจักรยานสองอัน ติดไว้หัวกับท้ายซอย จากนั้นเอาเชือกขึงระหว้างล้อจักรยานเป็นวง เมื่อเอามอเตอร์​ (ที่ทดรอบลงให้ความเร็วต่ำ) หมุนล้อจักรยาน เชือกที่ขึงอยู่ ก็จะหมุนตามล้อไป ทำให้เชือกเคลื่อนที่ทั้งสองทาง ทั้งเข้า และออกจากซอย

ทีนี้ถ้าแต่ละคนเข้าไปนั่งในกาละมังพลาสติก แล้วเอามือไปจับเชือก เชือกก็จะพากาละมังเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ถูกต้อง เป็นการจัดการจราจรไปในตัวว่า ไม่มีชนกัน ไม่มีแซงกัน

เช้าเมื่อไปถึงปากซอย ก็ฝากกาละมังไว้ ตอนเย็นกลับมา ก็มาเอากาละมังเข้าบ้าน น่าจะเร็วและปลอดภัยกว่าเดินลุยน้ำครับ

สว. จะไปไหนมาไหนก็ต้องพึ่งคนพายเรือให้ แต่ถ้าใช้มือจับได้ แค่จับเชือกไหว ก็เดินทางได้แล้ว — ทีแรกจะเสนอเชือกผูกเสาแล้วใช้แรงแขนลาก แต่ดูอาการว่าจะไม่รอดหรอกครับ

ส่วนเรือจ้าง ก็ยังทำอาชีพเดิมต่อไปได้สำหรับคนที่ต้องการความรีบด่วน หรือรับจ้างตามแยกต่างๆ แล้วถ้าจะให้ดี ใช้เรือลากกาละมังไปเป็นพรวน โดยคิดค่าลากให้ถูกลงจากค่าโดยสารรายหัวก็ดีนะครับ เช่นถ้านั่งเรือได้สามคน คิดคนละสิบบาท ได้เงินสามสิบ แต่ถ้าลากกาละมัง ลากได้แปดกาละมัง คิดกาละมังละห้าบาท ได้เงินสี่สิบบาทเป็นต้น


หักลดหย่อนภาษีด้วยการบริจาคช่วยน้ำท่วม

อ่าน: 3649

เรื่องนี้เป็นมหากาพย์ ที่นานมาหลายเดือนแล้ว

เริ่มตั้งแต่ ครม.ที่ผ่านมา มีมติออกกระราชกฤษฎีกาแก้ไขประมวลรัษฎากร เกี่ยวกับการบริจาคเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติหลายอย่าง เรื่องนี้ถ้าจำไม่ผิดก็ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2554 ครับ กว่า พรฎ.นี้จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก็เป็นวันที่ 9 มิถุนายน เรื่องของภาษีเงินได้ ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฏหมาย (ประมวลรัษฎากร) มติ.ครม.ก็ไม่มีผลอะไร จนกว่ากระทรวงการคลังจะไปออก พรฎ.แล้วประกาศในราชกิจจาฯ

ตาม พรฎ.ที่ประกาศนั้น มีลักษณะพิเศษหลายอย่าง เช่น

  1. เป็นหลักการที่ใช้ย้อนหลัง ตั้งแต่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป
  2. ยอมให้ภาคประชาชนได้ช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยบ้าง เรียกว่าตัวแทนรับบริจาค ทั้งนี้มีกฏเกณฑ์ความโปร่งใสกำกับอยู่ ตามประกาศของอธิบดีกรมสรรพากร และต้องแยกการรับบริจาคออกจากกิจการปกติโดยเด็ดขาด — บัญชีรับบริจาคโดยบุคคลไม่เข้าเกณฑ์ เนื่องจากออกใบเสร็จไม่ได้ ถึงจะไปเอาใบเสร็จของนิติบุคคลอื่นมา ก็จะมีปัญหายุ่งยากตามมาเหมือนเป็นการอำพรางเนื่องจากเงินไม่เข้าที่นิติบุคคลผู้ออกใบเสร็จนั้น
  3. ประกาศของอธิบดีกรมสรรพากรในเรื่องนี้ ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2554 แต่ประกาศบนเว็บของกรมช่วยปลายเดือนตุลาคม จึงเกิดความชัดเจนขึ้นเป็นครั้งแรก
  4. ก่อนออก พรฎ.นี้ เคยมี พรฏ.ในลักษณะเดียวกันออกมาก่อนหน้า แต่กำหนดขอบเขตของการบริจาคไว้เพียง 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2553 เท่านั้น แต่ในครั้งนั้น อธิบดีกรมสรรพากรออกประกาศให้ความชัดเจนไว้บนเว็บไซต์ของกรมตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2553 จึงปฏิบัติไปได้อย่างถูกต้อง

อนึ่ง นิติบุคคลใด ที่ “เงินบริจาค” สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ด้วยตัวของตัวเองนั้น จะต้องมีชื่อซึ่งค้นได้บนเว็บของกรมสรรพากร ดังนั้นไม่ใช่ว่าบริจาคให้มูลนิธิหรือสมาคมแล้วจะลดหย่อนภาษีได้ ถ้าบริจาคให้องค์กรใดที่ไม่มีชื่ออยู่ในนั้น แล้วเอาใบเสร็จรับเงินไปหักค่าใช้จ่ายตอนยื่นภาษี หากตรวจไม่พบในตอนที่ยื่นแบบแสดงรายการ ก็จะโดนปรับฐานที่ยื่นเท็จในภายหลัง แล้วถ้าผู้บริจาคเป็นนิติบุคคล เงินบริจาคจัดเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้ามอีกด้วย (แบบเดียวกับเงินสินบน) ดังนั้นโปรดตรวจสอบก่อนจะผิดพลาด

อ่านต่อ »


แผงตัดยอดคลื่น

อ่าน: 2684

ที่จริง วันนี้ค้นข้อมูลจะหาวิธีลดผลกระทบจากเรือหรือรถที่วิ่งด้วยความเร็วไปในน้ำแล้วก่อให้เกิดคลื่นเข้ากระแทกบ้านเรือนจนพัง

น้ำท่วมอาจทำให้บ้านพังได้ แต่คลื่นที่มาจากพาหนะที่เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้บ้านพังนี่ มันปวดใจครับ

ค้นไปค้นมา ก็เจอการออกแบบง่ายๆ ใช้พลาสติก LDPE หล่อเป็นรูปสามเหลี่ยม (ลอยน้ำ) โยงกันไว้ด้วยเชือก ผูกโยงกันเป็นแนว สามารถใช้กันคลื่นได้

ระหว่าง LDPE รูปสามเหลี่ยม มีช่องว่างอยู่ ช่องนี้ดักคลื่นที่พยายามวิ่งข้ามแนวกั้น ส่วน LDPE ที่ตั้ง ก็ปะทะคลื่นโดยตรง น่าจะลดพลังงานจากคลื่นไปได้ครึ่งหนึ่ง

ฝรั่งใช้ LDPE แต่ในยามจำเป็น ไม่ต้องไปทำโมลเพื่อจะมาหล่อบล็อกก็ได้นะครับ ใช้กระดาษ ใช้โฟม หรือวัสดุเหลือใช้อื่นๆ ก็น่าจะไหว พอน้ำลดแล้ว เราก็ไม่ใช้อีก… ผมเชียร์ถุงพลาสติกเป่าลมห่อด้วยกระดาษแข็ง ซึ่งสามัญสำนึกจะบอกเราว่าเดี๋ยวกระดาษก็เปื่อย แต่เปื่อยก็เปื่อยไปสิครับ ดีกว่าบ้านพังเป็นไหนๆ


กระบวนทัศน์ใหม่: ประชาชนดูแลตนเอง

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 November 2011 เวลา 0:28 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 2965

ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ตั้งแต่พายุและน้ำท่วมทางใต้สุดของประเทศปี น้ำท่วมครึ่งประเทศ ต่อด้วยภัยหนาวเมื่อปีที่แล้ว ตามด้วยอุทกภัยจากลานินญา น้ำท่วมตลอดแนวเหนือ-ใต้ และตะวันตก-ตะวันออก ไม่นับภัยจากกิจกรรมของมนุษย์เช่นภัยจากการสู้รบตามชายแดน และภัยจากแม่น้ำเน่าเสียด้วยเหตุเรือบรรทุกน้ำตาลล่ม

เฉพาะหนึ่งปีกว่าๆ ที่ผ่านมา กระบวนการอาสาสมัครเข้มแข็งขึ้นมาก แต่กระบวนการแอ็บอาสาก็เช่นกัน

คำว่าอาสาสมัครนั้น อย่าได้เข้าใจว่าจะมาสั่งเค้าเลยครับ ควรจะต้องเคารพเขาต่างหาก พูดคุยและพยายามชี้เป้าที่ชัดเจน เพื่อที่จะมีทั้งการรวมพลัง (ให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน คือบรรเทาความทุกข์ยากของผู้ประสบภัย) และแบ่งสรรกำลังกันออกไปช่วยเพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกระจุกตัว

ตามกฏหมายแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้มีอำนาจ ผู้ว่าฯ ควรจะเป็นผู้ที่รู้ความเป็นไปของพื้นที่มากที่สุด แต่เครื่องมือของระบบราชการนั้น แทบไม่มีเลยนอกจากระบบรายงานของราชการ ซึ่งหนักไปทางตัวเลขเพื่อตั้งงบประมาณ แทนที่จะเป็นสถานการณ์จริงเกี่ยวกับชีวิตของชาวบ้าน

เครื่องมือที่รัฐน่าจะมี อยู่บน thaiflood.com นะครับ แต่เครื่องมือในลักษณะนี้ เกิดขึ้นมาได้เพราะคนที่ทำงานหน้างาน รู้เห็นความเป็นไป (และพบเจอความไม่ได้เรื่องทั้งหลาย) ทำขึ้นมาเพื่อช่วยให้การบริหารสถานการณ์ในยามวิกฤต เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด หากรัฐจะเอาไปทำ ก็กรุณาปรึกษาคนทำงานสักหน่อย จะได้ไม่ประมูลของเล่นมาใช้เหมือนที่ผ่านๆ มา

เครื่องมือในลักษณะนี้ ไม่มีการรวมศูนย์สั่งการหรอกครับ แผนที่แสดงสถานการณ์ขึ้นมา ใครช่วยตรงไหนได้ จองพื้นที่นั้นเอาไว้ก่อนเข้าไปช่วย เมื่อเข้าไปช่วยแล้ว กลับมาอัพเดตข้อมูลด้วย เผื่อว่ามีอะไรขาดไป หรือจะต้องเข้าไปอีกเมื่อไร — กระบวนการอย่างนี้ ไม่ใช่หาถุง หารถ หาเรือลุยไปแจกของ ซึ่งจะเกิดสถานการณ์ที่ไปซ้ำกัน คนที่ได้ ได้มากเกินไป คนที่ไม่ได้ ก็อดอยู่นั่นแหละ หรือว่าลงพื้นที่ซะลึกเชียว แต่เอาของไปไม่พอ จนเกิดความไม่เท่าเทียมกันหรือแตกแยกในชุมชน

อ่านต่อ »


ระดับความสูง

อ่าน: 3267

งงกันมานาน ว่าระดับความสูงของบ้านนั้น เท่าไรกันแน่

เมื่อสิบกว่าปีก่อน สหรัฐเริ่มวัดความสูงของพื้นที่และเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาความหนาของน้ำแข็งในสภาวะโลกร้อยครับ โปรแกรมนั้นเรียกว่า STRM (Shuttle Radar Topography Mission) คือสำรวจความสูงของผิวโลกด้วยการจับสัญญาณสะท้อนจากเรดาร์ที่ยิงจากกระสวยอวกาศ ข้อมูลความสูงนั้น มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เหมือนกัน เมื่อทำการสำรวจเสร็จ เขาก็ปล่อยข้อมูลที่ได้จากการใช้เรดาร์ความถี่ C-band ออกมาเป็นข้อมูลสาธารณะ เรียกว่า ETOPO1 (ใช้เรดาร์แบบ C-band ความละเอียด 92.5m)

ETOPO1 นี้ เป็นข้อมูลสาธารณะที่บรรดาผุ้ให้บริการแผนที่นำไปใช้ (เพราะฟรี) แต่ไม่ละเอียดเลย การคำนวณอัตราการไหลของน้ำด้วย ETOPO1 จึงไม่แม่นยำ และมีปัญหาคาใจ 3 คำถามที่ตอบไม่มีใครตอบได้: น้ำจะท่วมเมื่อไร จะท่วมสูงเท่าใด และจะท่วมอยู่นานแค่ไหน ที่ตอบไม่ได้ก็เพราะแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ ETOPO1 นี้ ไม่แม่นยำพอ

ดูระดับในแผนที่ออนไลน์ บ้านผมสูง 7-8 เมตร แต่ดูแผนที่ทหารแล้ว เหลือนิดเดียว (แผนที่ทหารแม่นกว่าครับ แต่แผนที่ทหารไม่มีความสูงทุกจุดที่ต้องการรู้ ซึ่งคงต้องใช้วิธีเดิม คือประมาณเอาด้วยวิธี interpolation)

อ่านต่อ »


เรื่องของการสูบน้ำ รีบสูบเถอะ

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 12 November 2011 เวลา 2:28 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 2771

งาน w ที่ใช้ในการยกน้ำมวล m ขึ้นสูง h จะเท่ากับ mgh ในสภาพที่น้ำขังเป็นแอ่ง จึงต้อง “ทำงาน” จึงจะระบายน้ำออกไปได้ครับ

การทำงานนั้นมีสองอย่าง คือลงมือทำ จะตัก จะวิด จะผลัก จะสูบ ฯลฯ ก็เป็นการทำงาน; งานอีกอย่างหนึ่ง คือพูด บ่น ด่า กระแทก ฯลฯ และรอให้คนอื่นมาทำให้ โดยตัวเองก็ไม่ทำอะไร ฝากความหวังไว้กับคนอื่นซึ่งไม่มีปัญญาไปควบคุมเขา — จะทำอย่างไหน ก็แล้วแต่ครับ

ทีนี้ทำไมต้องสูบน้ำออก วิญญูชนก็คงตอบได้อย่างมีเหตุมีผลนะครับ ส่วนพวกตรรกะผิดเพี้ยนนั้น ตอบอะไรมา ส่วนใหญ่พิจารณาแล้ว ไม่เข้าท่าอยู่ดี

แต่ได้ยินเรื่องราวที่พิลึกพิลั่นมาเรื่องหนึ่ง

ตึกรามบ้านช่อง มีเสาเข็ม คำนวณตามมาตรฐานความปลอดภัย ตึกสูงตอกเสาเข็มลึกลงไปถึงชั้นหิน อย่างบ้านผม เสาเข็ม 24 เมตรเหมือนกัน น้ำหนักของบ้า่นก็ถ่ายผ่านเสาเข็มลงไปสู่ชั้นหิน แต่จะมีสักกี่บ้านที่ใช้เสาเข็มยาวเฟื้อยอย่างนั้น

บ้านจัดสรร อาคารพาณิชย์ ใช้เสาเข็มสั้น เสาเข็มสั้นรับน้ำหนนักอยู่ได้ด้วยแรงเสียดทานระหว่างเสาเข็มกับดิน ซึ่งในสภาวะปกติ มันก็รับน้ำหนักอยู่ครับ

แต่พอน้ำท่วมนานๆ เข้า ดินก็เปียก แรงเสียดทานระหว่างเสากับดินน้อยลง แล้วเสาเข็มจะรับน้ำหนักอยู่หรือ?

อ่านต่อ »


ความมหัศจรรย์ของคลองลัดโพธิ์

อ่าน: 4677

สองสัปดาห์ก่อน (วันที่ 29 เดือนที่แล้ว) รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ และคุณดาริน คล่องอักขระ ทำรายการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำทางสถานีไทยพีบีเอส

ตอนนั้นเป็นตอนที่ อ.เสรี วิเคราะห์ถึงความมหัศจรรย์ของคลองลัดโพธิ์ ซึ่งบานประตูน้ำ ยังเปิดอยู่แม้เป็นช่วงน้ำทะเลหนุน คลองลัดโพธิ์ยาวไม่กี่ร้อยเมตร เป็นทางลัดของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แทนที่จะต้องไปวิ่งอ้อมท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) อ้อมไป 17 กม. พอพระราชทานพระราชดำริขุดคลองลัดโพธิ์เท่านั้น น้ำจำนวนมากไหลผ่านทางลัดคลองลัดโพธิ์ไปลงปากอ่าวในเวลาอันรวดเร็ว

แต่ที่เหนือความคาดหมาย(ของผม) คือคลองลัดโพธิ์มีความแตกต่างระหว่างระดับน้ำที่ปากคลองทางเหนือและปากคลองทางใต้ ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลผ่านคลองลัดโพธิ์ทางเดียว แม้ในเวลาที่น้ำทะเลหนุน!

อ่านต่อ »


ระดมเครื่องสูบน้ำ

อ่าน: 2538

เมื่อน้ำเหนือบ่ามาล้นกำแพงกั้นน้ำที่หลักหก ปทุมธานี เหมือนกรุงเทพมีรูรั่วอันใหญ่ เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ ก็ยังเปิดบ้านรับให้น้ำเข้าไปสู่ตัวเมืองชั้นใน

เมื่อคราวประตูน้ำบางโฉมศรีแตก ใช้เวลาเกือบสามสัปดาห์จนน้ำทะลักเข้ามาเต็มทุ่งทางตะวันออกของแม่น้ำ เจ้าพระยา ทุกวินาทีที่ล่าช้าไป หมายถึงน้ำปริมาณมหาศาลทะลักเข้ามาเรื่อยๆ ประสบการณ์เลวร้ายผ่านไป ก็ยังไม่เข็ด พอน้ำลงมากรุงเทพ การติดตั้งบิ๊กแบ็ก ก็เถียงกันอยู่นั่นแหละว่าใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ ข้อเท็จจริงก็คือน้ำยังเข้ามาเรื่อยๆ สูบยังไงก็ไม่หมดหรอกครับ

แต่ถึงสูบไม่หมด ก็ยังต้องสูบอยู่ดี เพื่อไม่ให้ระดับน้ำสูงเกินกว่ารถยนต์จะวิ่งไม่ได้ หากการคมนาคมขนส่งหยุดลง แล้วทุกคนเดินทางไม่ได้ การที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจ จะไม่ง่ายเหมือนมั่นใจแบบคิดเอาเอง

เมื่อวานนี้ ศปภ.ระดมความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชน ขอเครื่องสูบน้ำที่มีขนาดไม่ต่ำกว่า 6 นิ้ว ใครจะค่อนแคะอย่างไร ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ คิดเสียวันนี้ ก็ยังดีกว่าไม่พยายามหาทางออกอะไรเลย

บ้านผมไม่มีปั๊มขนาด 6 นิ้ว และไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีบ้านใครที่มีปั๊มขนาดใหญ่ตั้งไว้ที่บ้านเหมือนกัน

ปั๊มน้ำซึ่งอยู่ในเขตที่น้ำไม่ท่วม ศปภ.คงระดมมาหมดแล้ว (ถ้ายังก็ควรทำซะ) ศึกน้ำของจังหวัดในที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่างยังอีกไกลครับ ไม่จบลงง่ายๆ อย่าหลอกตัวเองเลย

อ่านต่อ »


เตรียมการกู้ชาติ

1 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 9 November 2011 เวลา 1:27 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว, เทคโนโลยีชาวบ้าน #
อ่าน: 2835

ยังหรอกครับ น้ำเหนือยังมีอีกเยอะ ทั้งที่ท่วมพื้นที่ต่างๆ อยู่เป็นเดือนแล้ว และยังมีน้ำในเขื่อนซึ่งแทบจะล้นความจุอยู่แล้ว

พื้นที่ใดน้ำลด ก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะยังมีน้ำอยู่ทางเหนืออีกมากมาย น้ำเหล่านี้แผ่ลงมาตามความลาดเอียง ส่วนการป้องกันบ้านเรือนนั้น ผมคิดว่าเป็นสิทธิที่มีด้วยกันทุกคน จะเลือกป้องกันหรือไม่ป้องกันก็ได้

การป้องกันพื้นที่เอาไว้ ไม่ได้ทำให้น้ำไหลย้อนไปทางอื่น นอกจากไหลไปตามความลาดเอียง (ยกเว้นว่าสูบน้ำไปทิ้งทางช่องทางอื่น) เมื่อน้ำไหลมาเจอเขื่อน ก็ต้องสู้กันหน่อย ถ้าน้ำชนะ เขื่อนก็แตก แต่ถ้ารักษาเขื่อนไว้ได้ น้ำก็จะหาทางไปทางอื่นโดยไหลไปตามความลาดเอียง จากที่สูงลงที่ต่ำ

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม น้ำในที่ราบลุ่มภาคกลางนี้ ก็จะต้องไหลลงอ่าวไทยครับ จะขวางกางกั้นอะไรเอาไว้ ก็ต้องมีช่องให้น้ำไหลลงอ่าว โดยปกติก็เป็นแม่น้ำครับ คลองก็ใช้ได้เหมือนกันเพียงแต่คลองส่งน้ำลงทะเลได้น้อยกว่าแม่น้ำเท่านั้นเอง เพราะมีขนาดเล็กกว่า

รัฐบาลไม่ยอมประกาศวันหยุดยาวเพื่อให้ข้าราชการได้เตรียมตัวรับสถานการณ์ ก็เป็นเรื่องของรัฐบาล… ขอเพียงอย่างเดียว ว่าอย่าคิดและสื่อสารกับประชาชนว่าน้ำลดแล้ว ปัญหาผ่านไปแล้ว คนเราควรจะเรียนรู้เป็นนะครับ ผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกมาเพราะไม่รู้จักพิจารณาความเป็นจริง

เมื่อเห็นระดับน้ำลดลง ก็เป็นจังหวะที่จะต้องเสริมความแข็งแรงของคันดิน กระสอบทรายต่างๆ ที่จมน้ำมานาน ถ้าบิ๊กแบ็กทางน้ำเหนือไว้ไม่ไหว ย้ายบิ๊กแบ็กมายันตามเขื่อนริมแม่น้ำลำคลองยังดีเสียกว่าปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ

แต่เรื่องที่ผ่านไปแล้ว ก็ผ่านไปแล้วครับ พูดไปก็เปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้

อ่านต่อ »


เบนน้ำได้ ง่ายนิดเดียว

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 8 November 2011 เวลา 0:47 ในหมวดหมู่ สังคม ชุมชน ครอบครัว #
อ่าน: 4941

บ้านผมอยู่ อ.ปากเกร็ด ตอนนี้น้ำยังไม่ท่วม แต่ความเสี่ยงยังมีอยู่

ก็บ้านเรานี่ครับ ต้องสนใจหน่อย ความเสี่ยงอันใหญ่คือคลอดรังสิตประยูรศักดิ์​ (คลองรังสิตนั่นแหละครับ) ซึ่งมีประตูน้ำจุฬาลงกรณ์กั้นอยู่ ประตูน้ำนี้ สูบน้ำปริมาณมากมายที่ลงมาจาก อ.บางหลวงไปลงคลองรังสิต ก่อนจะไหลบ่าเข้ากรุงเทพตอนเหนือ ระดับน้ำในคลองรังสิตต่ำกว่าระดับน้ำส่วนที่ไหลออกแม่น้ำเจ้าพระยา จึงต้องสูบน้ำออกเพื่อลดภาระแก่แนวป้องกันกรุงเทพตอนเหนือ แม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ปทุมธานี มีความกว้างไม่ต่ำกว่า 200 เมตร สม่ำเสมอไปจนใกล้ปากน้ำ เรียกว่ามีขนาดกว้างกว่าคลองต่างๆ ที่ใช้ระบายน้ำมาก

จุดบรรจบของคลองรังสิตประยูรศักดิ์กับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นดังรูปข้างล่าง คลองรังสิตมาจากทางขวา และแม่น้ำก็ไหลจากมุมบนซ้ายลงมาข้างล่าง

อิทธิพลของน้ำทะเลหนุน ทำให้ระดับน้ำในคลองรังสิตหลังประตูน้ำยังสูงอยู่ แต่นั่นเป็นเหตุเดียวหรือเปล่า???

คิดไปคิดมา ผมคิดว่าอาจจะไม่ใช่ เพราะเมื่อของไหลจากคนละแนวมาเจอกัน ก็จะเกิดความปั่นป่วน เกิดแรงต้านทาน ทำให้น้ำไม่ไหลออกดีเท่าที่ควร จึงเสนอวิธีง่ายๆ ดังนี้ครับ

อ่านต่อ »



Main: 0.18521499633789 sec
Sidebar: 0.44255781173706 sec