เสกสรรค์ ประเสริฐกุล…’แพ้ชนะถึงที่สุดแล้วก็เป็นสุญญตา’

2 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 22 September 2008 เวลา 0:08 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 11881

ในงาน เปิดประตู…สวนโมกข์กรุงเทพฯ นั้น ผมมีโอกาสได้ดูบางตอนจากปาฐกถาของอาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล มีที่สะดุดใจอยู่หลายตอนครับ พยายามหาเรื่องเกี่ยวกับปาฐกถานี้มาสัปดาห์หนึ่งแล้ว เพิ่งเจอที่หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจครับ

ความรักบ้านรักเมืองไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้วยชัยชนะเหนือคู่แข่งอย่างเดียว บางครั้งการยอมแพ้กลับเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่กว่า แสดงความรักบ้านรักเมืองได้มากกว่า

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : พรชัย จันทโสก : รายงาน

คงไม่บ่อยครั้งนักที่ ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสถานการณ์การเมืองขณะนี้ และที่ผ่านมาดูเหมือนจะเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ ความยัดแย้งที่ถาโถมอยู่ทุกวันนี้สักเท่าไร

แต่ล่าสุดในงาน เปิดประตู…สวนโมกข์กรุงเทพฯ ที่จัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2551 ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ อันถือเป็นวันรวมปราชญ์เมธีระดับประเทศและลูกศิษย์ลูกหาท่านพุทธทาส อินทปัญโญ โดยภายในงานมีปาฐกถาเกียรติยศชุด พุทธธรรมนำไทยพ้นวิกฤติ นำโดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี), ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ และดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล พร้อมด้วย ศ.นพ.ประเวศ วะสี, ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย และอานันท์ ปันยารชุน เป็นผู้ปรารภเปิดปาฐกถา

แม้ว่า ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล จะออกตัวก่อนว่าการปาฐกถาหัวข้อเรื่อง อำนาจแห่งความว่าง-ความว่างแห่งอำนาจ นี้ประเด็นหลักมุ่งเรื่องธรรมะ ไม่ยุ่งการเมือง แต่เอาเข้าจริงๆ หลายประเด็นกลับเป็นเรื่องที่นักการเมืองเองต้องนำไปขบคิด เพราะอย่างน้อยก็เกี่ยวโยงกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การพูดถึงหลักธรรมไม่ได้หมายความว่าต้องตัดเรื่องทางโลกทิ้งไป เพราะธรรมะโอบอุ้มโลกทั้งโลกไว้แล้วในฐานะกฎเกณฑ์ที่ดำรงอยู่โดยธรรมชาติ เราจะเข้าใจธรรมะได้ก็โดยผ่านการพิจารณาประสบการณ์ทางโลกเป็นสำคัญ ‘ปรมัตถ์สัจจะ’ กับ ‘สมมุติสัจจะ’ แม้จะเป็นความจริงต่างระดับแต่ก็เกี่ยวโยงกัน ดังนั้น ที่ผมกล่าวว่าจะต้องพูดเรื่องธรรมะเท่านั้น จึงไม่ได้หมายถึงการตัดเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ออกไป หากหมายถึงการพิจารณาเรื่องราวทั้งหลายประดามีโดยผ่านมุมมองของหลักธรรม” ดร.เสกสรรค์ กล่าว

อ่านต่อ »


“หมาผมหาย” (ไม่ใช่ของผมหรอกครับ)

อ่าน: 3783

๑๑ ธันวาคม ๒๕๑๑

หมาผมหาย

หมาไทยสีดำ ตัวผู้ อายุได้ขวบกับหนึ่งเดือน ใครเรียกชื่อว่าสีหมอกก็คงจะเข้ามาหา

ไม่แปลกประหลายอะไร และคงไม่สำคัญสำหรับใคร

แต่ผมทุกข์มากเกินกว่าจะบอกใครได้

นานมาแล้วที่ผมสลัดความมักใหญ่ใฝ่สูงทิ้งไปจากตัว

นานมาแล้วที่ไม่นึกถึงลาภยศสรรเสริญ หรือแม้แต่ความรัก ความเข้าใจจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

นานมาแล้วที่ผมไม่สนใจต่อคำนินทา และไม่กลัวการขู่เข็ญ คุกคาม วันหนึ่ง ๆ ก็คิดแต่ประโยชน์ท่าน ไม่คิดถึงประโยชน์ตน ความว้าเหว่ทางใจมีอยู่ประมาณมิได้…..เพราะยังเป็นปุถุชน

หมาไทยสีดำตัวเดียวเท่านั้น ที่ทำให้อดทนต่อความว้าเหว่นั้น เพราะเวลาออกจากบ้านมันก็คอยส่ง กลับถึงบ้านมันก็คอยรับ เวลาอยู่บ้านมันก็อยู่ใกล้ตัว เป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่รู้สึกว่าอยู่ใกล้ เวลาไม่อยู่บ้านก็มีความรู้สึกว่า มีอะไรที่รักผม ไว้ใจผมโดยไม่มีเงื่อนไข คอยอยู่ทางบ้าน

อ่านต่อ »


ไม่ทำ ไม่มีผลสำเร็จ

อ่าน: 3308

ไม่มีการกระทำ ไม่มีริเริ่ม

ไม่มีริเริ่ม ไม่มีเปลี่ยนแปลง

ไม่มีเปลี่ยนแปลง ไม่มีปรับปรุง

ไม่มีปรับปรุง ไม่มีดีขึ้น

ไม่มีดีขึ้น ไม่มีสำเร็จ

ไม่ทำ ไม่มีผลสำเร็จ

เฮียเหลียงว่า -> ไม่หารือ แก้ปัญหาไม่ได้


ผู้รู้เท่าถึงเหตุการณ์เอาตัวรอดได้

5 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 September 2008 เวลา 14:53 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 4044

[๖๖๘] ผู้ใด ไม่รู้เท่าถึงเหตุการณ์ อันบังเกิดขึ้นแล้วโดยฉับพลัน ผู้นั้น จะต้อง
ตกอยู่ในอำนาจของศัตรู และต้องเดือดร้อนใจในภายหลัง.

[๖๖๙] ส่วนผู้ใด รู้เท่าถึงเหตุการณ์ ที่บังเกิดขึ้นโดยฉับพลัน ผู้นั้น ย่อมพ้น
จากความคับขันอันเกิดแต่ศัตรู และไม่ต้องเดือดร้อนใจในภายหลัง.

วานรชาดก ขุ. ชา. ๒๗/๖๖๖-๖๖๙/๑๕๔
อรรถกถา

ชาดกนี้ เตือนสติผู้คนว่าให้พิจารณาสิ่งต่างๆ จนกระจ่างก่อนตัดสินใจ อย่าปล่อยไปเพราะมันดูว่าสมเหตุสมผล เป็นไปตามระบบ ตามค่านิยม ฯลฯ เรื่องที่อธิบายความโดยละเอียด (ในลักษณะนิทาน) อยู่ในอรรถกถาครับ


ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด เกิดขึ้นจากการไม่ทำอะไร

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 14 September 2008 เวลา 0:20 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3533

พระบรมราโชวาท เรียบเรียงขึ้นตามที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
พระราชทานแก่คณะกรรมการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันจันทร์ ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๑๘

ตามที่ได้ฟังมาเมื่อตะกี้นี้ จะขอยกแต่ข้อที่ได้ตกลงในการประชุมนั้น จะขอยกลงไปเป็น ๓ ข้อแรกก็คือการพัฒนาเจ้าหน้าที่เป็นข้อแรก ให้มีความสามารถที่จะเข้าใจปัญหานั่นเป็นข้อที่ ๒ การปฏิบัติต่างๆ ที่ตั้งใจจะปฏิบัติรวมเป็นข้อ ๒ และข้อ ๓ ก็คือ การหาทุนสำหรับมาดำเนินงาน ข้อแรกการเตรียมตัวและพัฒนาตัวเองให้สามารถที่จะกระทำงานให้ลุล่วงไป เข้าใจว่ากรรมการทุกคน และผู้ที่ทำงานในด้านสังคมสงเคราะห์ตระหนักดีอยู่แล้วว่าจะต้องมีความเสียสละ มีความรู้ ความรู้ทางวิชาการ และมีความเมตตาจิตประจำตัว แต่ก็พูดง่าย ทำยาก เพราะว่าแต่ละคนย่อมต้องการได้หน้าบ้าง อย่าเพิ่งโกรธ ไอ้การได้หน้านั่นเป็นสิ่งธรรมดาที่สุดในโลก ที่จะอยากให้คนเขาเห็นใจว่าทำ และเป็นสิ่งที่ต้องมีเพราะว่าถ้าไม่มี ถ้าเราทำแล้วไม่มีใครเห็นด้วย เราทำไม่ได้ เพราะไม่มีใครเลื่อมใส ไม่มีใครที่จะมาช่วยศรัทธานั่นเอง แต่วิสัยของปุถุชนเราย่อมต้องมีความอิจฉา ไม่เข้าใจโง่เขลาเบาปัญญาอยู่ ฉะนั้นการที่ตั้งใจที่จะพัฒนาตนเองให้มีความดีเต็มเปี่ยมนั้นก็เป็นสิ่งจำเป็น ขอให้ละทิ้งความอิจฉา ริษยา ขอให้ละทิ้งความที่มีอคติต่างๆ จะทำให้งานของแต่ละคนง่ายขึ้นเอง เพราะว่าบางทีเสียเวลาเป็น….ไม่ใช่เป็นชั่วโมง….เป็นแรมวัน แรมเดือน แรมปีกว่าจะเข้าใจกันได้ เพราะอคติ และระหว่างนั้น เงินก็ร่อยหรอไป ในข้อที่สามก็ร่อยหรอไป และกำลังใจต่างๆ ก็ร่อยหรอไป อ่านต่อ »


ความคิดบ้าๆ

9 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 13 September 2008 เวลา 0:04 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3922

คุณคิดยังไงถึงมาสมัครทำงานบริษัทเราในตำแหน่งต่ำกว่าเดิม แถมบริษัทเก่าของคุณก็ดังกว่า ให้โบนัสแน่นอนกว่า?

คิดว่าผมจะมีโอกาส ‘คิด’ มากกว่าอยู่บริษัทเก่าครับ!

ที่เก่าตีกรอบความคิดในการทำงานจนคุณอึดอัดงั้นหรือ?

เอาเป็นว่าบริษัทเก่าของผมแข่งขันทางความคิดน้อยไปก็แล้วกัน

ฮ่ะๆ เข้าใจพูดให้ฟังดีนะ แข่งขันทางความคิดน้อยไป พูดตรงๆให้ฟังง่ายคือเจ้านายเก่าชอบให้เลียว่างั้นเถอะ?

ก็อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น อือม์… คิดอีกทีอาจจะเป็นอย่างนั้นเป๊ะเลยก็ได้!

อ่านต่อ »


ศีล ๕ และคุณธรรม ๑๒ ประการ ของนักเรียนวิถีพุทธ

อ่าน: 5179

อายเด็กไหมครับ นำมาจากโรงเรียนทอสี โรงเรียนวิถีพุทธ แต่อยากให้อ่านลิงก์แรกสุด และเชิญชวนอ่านตรงนี้ด้วยครับ

อ่านต่อ »


ความกล้าหาญ อิสระ และการกระทำเหนือหน้าที่

ไม่มีความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 9 September 2008 เวลา 3:30 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 4427

พระบรมราโชวาท เรียบเรียงขึ้นตามที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
พระราชทานแก่ คณะกรรมการจัดงาน “ฉัตรมงคลรำลึก” ปี ๒๕๑๔
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันจันทร์ ที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๑๕

ขอขอบใจที่สมาชิกสโมสรไลออนส์ทั่วประเทศที่ได้จัดงานฉัตรมงคลรำลึก เพื่อที่จะช่วยในการกุศลและตามจุดประสงค์ต่างๆ ที่ได้กล่าวมานี้ โดยเฉพาะเรื่องของการจัดงานฉัตรมงคลรำลึกในปีนี้ ก็ขอขอบใจที่ได้ให้พร และได้สนับสนุนมาเป็นครั้งที่ ๕ แล้ว นับว่าเป็นกำลังใจอย่างยิ่งในการปฏิบัติงานต่างๆ ที่จะต้องขอบใจก็คือที่สโมสรไลออนส์ได้ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือให้ส่วนรวมมีความก้าวหน้า และได้สอดส่องให้ได้เห็นการงานของสมาชิกไลออนส์เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ในเรื่องสารานุกรมสำหร้บเยาวชนไลออนส์ได้สนับสนุนมาตั้งแต่ต้น ก็นับว่าเป็นกำลังใจที่จะทำ แต่ก็ต้องแจ้งว่างานในการสร้างสารานุกรมนี้ค่อนข้างจะยุ่งยากและละเอียดมาก จึงยังไม่มีผลที่ประจักษ์มาให้เห็น แต่จุดประสงค์ก็ยังคงเดิม คือสร้างเป็นสารานุกรมเพื่อที่จะให้เยาวชนและผู้ใหญ่ด้วยได้ มีโอกาสที่จะหาความรู้ ซึ่งทำเป็นขั้นๆ สำหรับทุกขั้น ตั้งแต่เด็กถึงผู้ที่มีอายุมากขึ้นไปก็จะได้ประโยชน์จากสารานุกรมนี้ เหตุที่มุ่งในจุดประสงค์นี้ จึงทำให้งานยากและจะต้องทำด้วยความละเอียด แต่ก็จะต้องเร่งให้ทำให้สำเร็จเพื่อประโยชน์ดังที่เคยได้แจ้งไว้แล้ว ในส่วนที่สมาชิกไลออนส์ทั่วประเทศได้ปฏิบัติมา ก็นับว่าได้ทำด้วยเจตนาที่จะช่วยให้ส่วนรวมของเรามีความก้าวหน้าและมีความผาสุก ซึ่งก็นับว่าเป็นงานที่น่าชมอย่างยิ่ง

อ่านต่อ »


คิดสั้น

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 7 September 2008 เวลา 15:58 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 3114

วันนี้ ค้นพระไตรปิฎกเรื่องสัจจะไปเรื่อยๆ ไม่รู้ไปพบ “มสกชาดก” ได้อย่างไร เรื่องราวในพระไตรปิฎก มีอยู่สั้นนิดเดียว คือ

[๔๔] ศัตรูผู้ประกอบด้วยปัญญายังดีกว่า มิตรผู้ไม่มีปัญญาจะดีอะไร เหมือนบุตรของช่างไม้ผู้โง่เขลา คิดว่าจะตียุง ได้ตีศีรษะของบิดาแตกสองเสี่ยงฉะนั้น.

ขุ.ชา. ๒๗/๑๗/๔๔

มีอรรถกถาอธิบายความไว้มนุษย์อันธพาลโกรธขึ้งฝูงยุง จึงพากันถือธนูและอาวุธพากันเข้าป่าหมายมั่นจะไปรบกับฝูงยุง แต่กลับไปทิ่มแทงประหารกันเอง - ช่างไม้ให้ลูกชายไล่ยุงที่มาเกาะที่ศรีษะ ลูกชายเอาขวานฟันยุง ช่างไม้หัวแบะ ถึงแก่ความตาย

ส่วนข้อถัดไป เป็นโรหิณีชาดก ความว่า

[๔๕] ศัตรูผู้เป็นนักปราชญ์ยังดีกว่า คนโง่เขลาถึงเป็นผู้อนุเคราะห์จะดีอะไร ท่านจงดูนางโรหิณีผู้โง่เขลา ฆ่ามารดาแล้วเศร้าโศกอยู่.

ขุ.ชา. ๒๗/๑๗/๔๕

อ่านต่อ »


ประภาส เขียนถึงขงจื๊อ

4 ความคิดเห็น โดย Logos เมื่อ 7 September 2008 เวลา 0:22 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 4748

ตีพิมพ์ในคอลัมน์​ “คุยกับประภาส” โดยประภาส ชลศรานนท์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2545 และตีพิมพ์ใหม่ในหนังสือ “เชือกกล้วย มัดต้นกล้วย” ซึ่งได้มาเป็นของขวัญปีใหม่ปีนี้ครับ

ช่วงห้าร้อยปีก่อนคริสต์กาลนั้น ต้องถือว่าเป็นช่วงเวลาอันสำคัญที่สุดชองมนุษยชาติ เพราะโลกกลมๆ ใบนี้ได้มีมนุษย์วิเศษถือกำเนิดขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน

ที่ผมเรียกว่ามนุษย์วิเศษ เพราะเราต้องยอมรับว่ามหาบุรุษเหล่านี้ไม่ใช่คนธรรมดา วิธีคิดและการปฏิบัติตัวของพวกเขาล้วนเป็นการยกระดับจิตใจมนุษย์

แล้วทำไมจิตใจมนุษย์ต้องถูกยกระดับด้วย

ทันทีที่อ่านจดหมายของคุณแฟนมะเฟืองจบ ผมก็พยายามจินตนาการไปถึงตอนที่มนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใหม่ๆ

ในตอนแรกๆ มนุษย์คงมีจำนวนไม่มากนัก เรื่องใหญ่ที่พวกเขาต้องคิดต้องทำก็น่าจะไม่ต่างอะไรกับกิจกรรมที่เราเห็นสัตว์ทำอยู่ในทุกวันนี้ นั่นคือ กิน นอน ถ่าย และผสมพันธุ์ แล้วผมจึงนึกต่อไปอีกว่า เมื่อจำนวนเพิ่มมากขึ้น มนุษย์คงไม่ได้อยู่เพียงลำพังเพียงคนสองคน หรือเพียงครอบครัวเดียว

เมื่อมนุษย์เริ่มก่อตั้งสังคมขึ้น มีการแลกเปลี่ยนปัจจัย ๔ กัน ปัญหาอันหลากหลายก็เริ่มก่อตัวตามมา นอกจากปัญหาเรื่องกิน นอน ถ่าย และผสมพันธุ์แล้ว ปัญหาใหม่อันเกิดจากการก่อสังคมก็เริ่มกลายเป็นปัญหาที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน นั่นคือปัญหาอันเกิดจากจิตใจ

ลองไล่เรียงดูดีๆ สิครับ ปัญหาจิตใจของพวกเราทุกคนนี่มีรากเหง้ามาจากเรื่องสังคมแทบทั้งสิ้น

พอมาถึงตรงนี้มนุษย์ก็คงเริ่มหาทางแก้ไขปัญหาจิตใจกัน

อ่านต่อ »



Main: 0.1999728679657 sec
Sidebar: 0.46289420127869 sec