ความคิดบ้าๆ
อ่าน: 3935คุณคิดยังไงถึงมาสมัครทำงานบริษัทเราในตำแหน่งต่ำกว่าเดิม แถมบริษัทเก่าของคุณก็ดังกว่า ให้โบนัสแน่นอนกว่า?
คิดว่าผมจะมีโอกาส ‘คิด’ มากกว่าอยู่บริษัทเก่าครับ!
ที่เก่าตีกรอบความคิดในการทำงานจนคุณอึดอัดงั้นหรือ?
เอาเป็นว่าบริษัทเก่าของผมแข่งขันทางความคิดน้อยไปก็แล้วกัน
ฮ่ะๆ เข้าใจพูดให้ฟังดีนะ แข่งขันทางความคิดน้อยไป พูดตรงๆให้ฟังง่ายคือเจ้านายเก่าชอบให้เลียว่างั้นเถอะ?
ก็อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น อือม์… คิดอีกทีอาจจะเป็นอย่างนั้นเป๊ะเลยก็ได้!
ผมชอบคนพูดเปิดอก มาคุยกันตรงๆแบบเป็นกันเองเถอะ ทำไมถึงมาสมัครบริษัทคู่แข่งที่มีแต่อดีต ไม่ค่อยมีอนาคตอย่างนี้ คุณมีเรื่องแค้นเคืองกับที่เก่าหรือเปล่า?
ความแค้นไม่มี แต่อาจมีความไม่พอใจ พวกเขาไม่ชอบคนคิดบ้าๆแบบผม!
อ้อ! นี่แปลว่าบริษัทเรานิยมคนมีความคิดบ้าๆแบบคุณล่ะสิ?
ใช่!
ดูจากตรงไหนไม่ทราบ?
ผลงานที่ผ่านมา และผมก็เคยติดตามศึกษารายละเอียดของบริษัทคุณมานาน!
เอาล่ะ! ผมยอมรับว่าบริษัทเราเต็มไปด้วยคนมีความคิดบ้าๆก็แล้วกัน และการที่คุณเลือกมาอยู่กับบริษัทที่ด้อยกว่าอย่างเรา ก็จัดเป็นความคิดบ้าๆชนิดหนึ่ง น่าจะไปกันได้!
แปลว่าผมได้งานใหม่แล้วใช่ไหม?
คุณรู้ตั้งแต่ก่อนเข้าประตูมาแล้วนี่ คุณสมบัติขนาดนี้ไปที่ไหนใครเขาก็รับ ผมอาจคิดบ้าๆเป็นประจำ แต่ก็ไม่บ้าขนาดปฏิเสธบุคคลสำคัญของบริษัทคู่แข่งหรอกน่า!
ขอบคุณ!
เล่าให้ฟังก็ได้ ก่อนคุยกับคุณวันนี้ผมสืบดูแล้วว่าคุณมีเรื่องกับบริษัทเก่าหรือเปล่า ปรากฏว่าเขากำลังจะเลื่อนขั้นให้คุณด้วยซ้ำ เลยแน่ใจว่าการมาขอทำงานที่นี่ไม่ใช่มุขเก็บกดหรือประชดใคร
เปลืองแรงสืบทำไม ถามดีๆก็ตอบได้ สิ่งที่เขาอยากให้ผมทำมันไม่ถูกต้องนัก แต่เขามองว่าทำได้แต่ไม่ทำถือว่าบ้าเท่านั้น และก็มองด้วยว่าถ้าผมไม่รับจะนับว่าบ้าสุดๆเช่นกัน ไหนจะตำแหน่งผู้บริหาร ไหนจะหุ้นบริษัท ไหนจะสิทธิ์ชิงเก้าอี้ประธานในอนาคต
ก็นั่นน่ะซี… ต่อไปนี้ถือเป็นการคุยทำความรู้จักก็แล้วกัน นอกจากคิดบ้าๆมาสมัครบริษัทเราแล้ว คุณยังมีความคิดบ้าๆอะไรในชีวิตอีกบ้างไหม?
อือม์… หลายอย่าง
ยกมาสักอย่างซิ
ผมคิดเป็นฝ่ายให้ คิดยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แล้วก็คิดจะสละอะไรสำคัญๆในชีวิตออกไปให้คนอื่นทีละอย่างสองอย่าง
การเสียสละเป็นเรื่องสูงส่งน่าสรรเสริญ ทำไมคุณถึงจัดเข้าเป็นความคิดบ้าๆล่ะ?
ตอนคุยกันเล่นทุกคนจะบอกว่านี่เป็นความคิดที่น่าสรรเสริญ แต่พอผมลงมือทำจริงๆ คนรอบข้างจะถามว่า ‘คิดอะไรบ้าๆอย่างนั้น?’ อยู่เรื่อย ทำไปทำมาผมเลยจำว่านี่เป็นความคิดบ้าๆอย่างหนึ่ง!
ต้องพูดให้ครบด้วยว่าเป็นความคิดบ้าๆในสายตาชาวโลก ไหน… ยังมีความคิดบ้าๆอะไรอีกไหม?
ก็… คิดจะซื่อ คิดจะไม่โกหก แล้วก็คิดจะไม่ทำร้ายใครตอบ
อ๊ะ! แต่ว่านั่น… อ้อๆ เข้าใจล่ะ ตอนคุยกันเล่นทุกคนจะบอกว่าเป็นความคิดที่น่าสรรเสริญ แต่พอทำจริงๆคนรอบข้างจะถามคุณว่า ‘คิดอะไรบ้าๆอย่างนั้น’ ใช่ไหม?
ถูกต้อง!
โอเค! แล้วสรุปคือชีวิตคุณได้อะไรจากความคิดบ้าๆบ้าง?
มันทำให้ตัวตนของผมเบาบางลง และผมก็สบายใจกว่าแต่ก่อน!
อือม์… ความสุขคือยอดปรารถนาของคุณสินะ
สมัยก่อนผมนึกไม่ออกหรอกว่ายอดปรารถนาคืออะไร กระทั่งวันหนึ่งเมียผมทักว่า ‘รู้ตัวไหมเธอกำลังจะเป็นบ้า?’ นั่นแหละผมถึงได้สติ ย้อนดูใจแล้วตระหนักและตระหนกว่าที่ผ่านมาตัวเองเป็นทุกข์ขนาดไหน วันนั้นผมได้เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต โจทย์ง่ายๆคือ ‘ทำยังไงจะเป็นทุกข์น้อยลง?’
ไม่ใช่ ‘ทำยังไงจะเป็นสุขมากขึ้น’ หรอกหรือ?
นั่นเป็นความคิดบ้าๆ เป็นโจทย์ที่ทำให้ผู้คนคว้าน้ำเหลวกันทั้งชีวิตต่างหากล่ะ! คนเรานะ แค่เป็นสุขสมหวังวันเดียวก็พร้อมจะกระวนกระวายในรุ่งขึ้นแล้ว กระวนกระวายว่าจะรักษาสิ่งที่ได้มาไว้อย่างไร กระวนกระวายว่าจะเอาใหม่ให้ยิ่งกว่าเดิมด้วยท่าไหน อาการอิ่มเอมเปรมปรีดิ์น่ะของปลอม ส่วนอาการตะกายไม่เลิกนั่นแหละของจริง
คุณจะบอกว่าความสมใจไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง?
เราจะเป็นสุขได้ยังไงถ้าต้องอยู่กับต้นเหตุทุกข์ไม่รู้จบ คนทั้งโลกติดกับกันหมด ทุกคนมีความทะยานอยากเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ และทุกคนก็เห็นดีเห็นงามว่าควรเพิ่มความทะยานอยากให้ยิ่งขึ้นไป!
เอ้อ… สรุปแล้วคนเราคิดบ้าๆกันหมด เสร็จแล้วพอเจอใครเริ่มทำตัวให้หายบ้า ชักเริ่มไม่เหมือนตัวเอง ก็ไปหาว่าเขาบ้ากัน งั้นใช่ไหม?
ความจริงแบอยู่ตรงหน้า ถ้าเปิดตาดูก็จะรู้ว่าเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า!
ไม่มีใครบ้ามาแต่เกิด
แต่แค่วันแรกที่เกิดมา
ทุกคนก็เริ่มคิดบ้าๆแล้ว
คัดลอกจากบทที่ ๒๔ ของ คิดจากความว่าง ๔
ดังตฤณ
« « Prev : โลกกลียุค - โลกรอดเพราะกตัญญู
Next : ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด เกิดขึ้นจากการไม่ทำอะไร » »
9 ความคิดเห็น
แวะมาอ่านครับ ^^
น่าคิดแฮะ โดนๆๆๆ
เข้าสถานการณ์ปัจจุบันเป๊ะ
สรุปว่าตัวฉันบ้า.. อิอิอิ
สรุปว่าคุณนะบ้า
สรุปว่าผมก็บ้า
สรุปว่าสังคมมันบ้า
ไม่รู้ว่าใครบ้ากว่าใคร
ขอบคุณค่ะ
ได้อะไรเยอะเลยจากการอ่านเรื่องนี้
กำลังจะบ้าอยู่พอดี
คนข้างบนน่ะคงเริ่มบ้ามานานแล้วครับ …….ไม่ใช่กำลังจะบ้าอยู่พอดี….. 55555555
บ้าก็บ้าวะ…..
บันทึกนี้มาช่วยหยุดความคิดพี่ได้พอดี ความคิดที่ว่าจะเลิกเป็นคนบ้าๆ คิดบ้าๆซะที
จริงๆด้วยนะที่เวลามีความคิดจะทำอะไรมันไปติดอยู่ที่เรื่องความทะยานอยากอยู่เรื่อย พอไม่ได้ดังที่อยากมันก็เลยมีทุกข์เนาะ แม้กระทั่งคิดที่จะทำตัวให้เบาบางก็มีความทะยานอยากแฝงอยู่ไม่เบา เลยทำให้ยิ่งจมอยู่ในวังวนแห่งทุกข์ที่เพิ่มขึ้น
ได้ข้อคิดแล้วว่า จะเป็นคนบ้าต่อไป และให้ความทะยานอยากที่ยังมีมันเป็นไปเพื่อลดทุกข์ดีกว่า
ขอบคุณมากค่ะ ตอบโจทย์ที่สงสัย คิดมาตั้งนาน ว่าตัวเองท่าจะบ้า อิอิ
ตามมาอ่านหัวเราะเอิ๊กอ๊าก…
บ้าก้บ้าวะ…!!!!
;P