ความสำเร็จไม่มีทางลัด
สำนักงานใหญ่ของ Facebook ย้ายไปอยู่เมือง Menlo Park ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียน Belle Haven Middle School กลาง Silicon Valley ทางโรงเรียนจึงเชิญ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มากล่าวอะไรสักหน่อยในโอกาสที่เด็กเรียนจบชั้น Grade 8 (ม.2)
ซัคเคอร์เบิร์กเน้นอยู่สามประเด็นสำคัญ
- ชีวิตไม่มีทางลัด
- ความสัมพันธ์ที่ดีเป็นเรื่องที่จำเป็นที่สุด
- ทำในสิ่งที่ตนรักจะทำ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นสิ่งที่มีค่าและคุ้มค่าที่จะทำนั้น เป็นสิ่งที่ยากลำบากเสมอ หากเป็นสิ่งที่ได้มาง่ายๆ ทุกคนก็คงจะได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว สังคมโดยรวมมักจะเข้าใจไขว้เขวไปเพราะหนังและทีวีมักจะให้ภาพ ว่าความสำเร็จเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ได้มาง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่นหนังเรื่อง The Social Network อันเป็นเรื่องดัดแปลงเกี่ยวกับตัวเขาและ Facebook หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งเกิดปิ๊งแว๊บไอเดียบรรเจิดชั่วข้ามคืน จนกลายเป็นธุรกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านเหรียญได้ ซึ่งเรื่องนี้ เขาปฏิเสธว่าไม่จริงเด็ดขาด ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีชั่วขณะปิ๊งแว๊บ แต่ Facebook เกิดจากงานหนัก ความพากเพียร และความอดทนฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนาม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ประเด็นต่อมา ซัคเคอร์เบิร์กเน้นย้ำให้ให้ความสำคัญต่อความเป็นเพื่อน ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่ตนไว้ใจได้ มีหลายคนที่พยายามบอกว่าเรียน เรียน เรียน ทำเกรดให้ได้ดี ห้ามอย่างโน้น ห้ามอย่างนี้ ซึ่งซัคเคอร์เบิร์กคิดว่าทำแค่นั้นไม่พอ เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องมีเพื่อน มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น และใช้ชีวิตให้คุ้มค่า+มีความหมายด้วย
ประเด็นสุดท้าย คือทำสิ่งที่เรารัก จริงอยู่ที่เราสามารถตั้งเป้าหมายจะทำหลายสิ่งหลายอย่างได้ แต่การทำสิ่งที่เรารักนั้น ง่ายกว่าเยอะ หากเราทำในสิ่งที่เรารัก งานนั้นจะมีความหมายมากขึ้นเยอะ จะสร้างกำลังใจจากภายใน ให้ฝ่าฟันอุปสรรคและความยากลำบากไปได้ง่ายกว่า
ซัคเคอร์เบิร์กเป็นเศรษฐีพันล้านเหรียญที่อายุน้อยที่สุดในโลก Facebook มีผู้ใช้ทั่วโลกเกือบ 700 ล้านคน ในเมืองไทยมีผู้ใช้กว่า 10 ล้านคน
ความเห็นก็เป็นความเห็นนะครับ ประสบการณ์ของคนอื่นนั้นเราเรียนได้ แต่เวลาที่จะใช้จริง ต้องนำมาปรับให้เข้ากับบริบทของตัวเราเสียก่อน เพราะว่าทำเหมือนเขาก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จเหมือนเขา
« « Prev : ความจริงที่สังเกตไม่เห็น
Next : อัดอากาศลงท่อ ได้อากาศร้อนและเย็น » »
3 ความคิดเห็น
บำเพ็ญบารมีเพื่อบรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ใช้เวลา 4 อสงไข กับ 1 แสนกัปป์ (ยาววววววววววววว…ส์) แม้บำเพ็ยเป็นพระอรหันต์ธรรมดา ก็นานนับหลายร้อยหลายพันชาติ….
เรื่องนี้ ถ้าคิดว่าจริงไม่จริง ศรีษะก็คงจะแตกเป็น 7 เสี่ยง (หมายถึง บ้า) แต่ถ้านำมาเป็นกำลังใจ ก่อให้เกิดความเพียรพยายาม ก็จะเป็นคุณ สำหรับผู้นั้นๆ
เจริญพร
ชอบบทความนี้มาก แต่ไม่มีที่กด like เลยต้องเขียนบอกตรงๆ และขออนุญาตเอาไปโพสต์ใน FB ให้คณะครูได้อ่านด้วยนะคะ
#2 กด Like ท้ายบันทึก ก่อนส่วนของความคิดเห็น ทั้งหมดจะไปขึ้น Wall ของแม่ใหญ่เองครับ
ปุ่ม Like จะปรากฏเมื่อคลิกที่ชื่อบันทึกจากหน้าบล็อก หรือคลิกที่ชื่อบันทึกจาก Recent Posts คือว่าถ้าอ่านแต่หน้าแรกของบล็อกโดยไม่อ่านเนื้อความของตัวบันทึก จะไม่มีปุ่ม Like แสดงให้คลิกครับ