สึนามิกับเกาะพีพี
มีคนกล่าวไว้ว่าพออายุมากเข้า ก็จะชอบนึกถึงอดีต…ที่จริงมันผ่านไปแล้วทั้งนั้นครับ ชอบหรือไม่ชอบ ก็เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้ ทำได้เพียงใช้ประสบการณ์ในอดีตมาเป็นบทเรียนเท่านั้น แต่ต้องแยกแยกให้ออกว่ามันบริบทเดียวกันหรือเปล่า ไม่ใช่ตะบี้ตะบันทำให้เหมือนเก่าเพื่อที่จะประสบความสำเร็จเหมือนเก่า
ผมไปเที่ยวพีพีครั้งแรกกับเพื่อนๆ ที่เรียนศศินทร์รุ่นดึกดำบรรพ์ตอนเรียนจบครับ ซึ่งนั่นก็ยี่สิบกว่าปีมาแล้ว ยังไม่พลุกพล่าน(เท่าไหร่)
ต่อมาไม่นาน ได้กลับไปอีกครอบครัวของน้องเขยผมมีรีสอร์ตบนเกาะพีพี น้องสาวกับน้องเขยเจอกันที่นี่ จะว่าไปดูตัวว่าที่น้องเขยก็ได้
เมื่อยี่สิบปีที่แล้วก็ยังไม่ใช่รีสอร์ตหรู มีหาดส่วนตัวอยู่หน้ารีสอร์ตซึ่งหันหน้าไปทางตะวันออก คลื่นลมสงบเพราะมีภูเขาบังอยู่ข้างหลัง น้องเขยบอกว่าที่นี่เป็นฮวงจุ้ยมังกร (อาจจะใช่ก็ได้ครับ เดี๋ยวเล่าต่อ)… เพราะไม่ใช่บริเวณที่นักท่องเที่ยวพลุกพล่าน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง รับแขกกระเป๋าหนักจากต่างประเทศ ถึงจะเป็นในช่วงเวลาที่การท่องเที่ยวไม่ค่อยดี โรงแรมก็ยังพออยู่ได้
เมื่อสักสิบปีก่อน ตอนนั้นผมทำงานจนรู้สึกไม่ไหวแล้ว จึงลาพักร้อนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีลงไปเที่ยวเกาะพีพีอีก และไปป่วยหนักที่นั่น ความจริงมีอาการตั้งแต่อยู่ที่ภูเก็ตแล้ว คลื่นไส้มาก แต่ด้วยความไม่รู้ ด้วยความประมาทว่าตัวเองเป็นคนแข็งแรง ไม่เคยป่วยหนัก คิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย ไม่ได้ตระหนักเลยว่าเป็นอาการของหลอดเลือดสมอง… เพราะห่วงเที่ยว ก็ลงเรือไปเกาะต่อ ไปดำน้ำ จนน้องเห็นว่าอาการน่าเป็นห่วง โทรกลับมาที่บ้านคุยกับพ่อ (วิศวกรสองสาขา) วินิจฉัยอาการผ่านโทรศัพท์มือถือจากอาการที่น้องสาวเล่าให้ฟัง แล้วเห็นว่าอาจจะเป็นอาการทางสมอง ให้ส่งตัวกลับทันทีในเที่ยวบินแรก ผมจึงได้นอนโรงพยาบาลเป็นครั้งแรกในชีวิต แม้หลังจากนั้นก็ยังไม่เคยนอนโรงพยาบาลอีก